การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2030 ร่วมกันสามชาติของซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ และกรีซ อาจทำให้ฟุตบอลโลกในอีก 8 ปีข้างหน้า ต้องจัดในช่วงกลางฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้ง หลังได้เกิดขึ้นแล้วในฟุตบอลโลก 2022 ที่จะเริ่มคิกออฟกันในเดือนหน้า
ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ และกรีซ เตรียมดำเนินการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2030 ซึ่งจะมี 48 ทีม ที่จะได้เข้าร่วมการแข่งขันในรอบสุดท้าย โดยต้องการที่จะจัดการแข่งขันในช่วงปลายปี 2030 เฉกเช่นเดียวกับในฟุตบอลโลก 2022 ที่จัดขึ้นในวันที่ 20 พฤศจิกายน ถึง 18 ธันวาคม 2022 ที่กาตาร์
การจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในช่วงปลายปีนั้น ส่งผลต่อโปรแกรมการแข่งขันของลีกหลายประเทศทั่วโลก ใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป ต้องพักเบรคใหญ่เพื่อปล่อยให้นักเตะไปเล่นให้กับทีมชาติของพวกเขาในฟุตบอลโลก เจลีกต้องจัดโปรแกรมการแข่งขันในลีกให้แข่งกันถี่ขึ้น เพื่อให้ลีกจบฤดูกาลก่อนเข้าสู่ช่วงฟุตบอลโลก 2022
มีรายงานระบุว่า เหตุผลที่ฟุตบอลโลก 2030 จะต้องจัดในช่วงปลายปี หากซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ และกรีซ ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพร่วมกันนั้น คืออุณหภูมิของประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่สูงไม่ต่างกับกาตาร์ จนต้องมาจัดการแข่งขันในช่วงปลายปี ซึ่งจะเป็นช่วงที่เข้าสู่หน้าหนาวของประเทศพอดี
ส่วนสนามที่จะใช้ในการแข่งขัน ซาอุดีอาระเบีย ได้เลือกมาแล้ว 2 สนาม ได้แก่ สนามกีฬานานาชาติ King Fahd และสนามกีฬา King Abdullah Sports City ด้านกรีซ ได้เสนอมา 1 สนาม คือสนามกีฬาโอลิมปิก ในกรุงเอเธนส์
อียิปต์ ได้เสนอมา 3 สนาม ได้แก่ สนามกีฬาประจำชาติไคโร และสนามกีฬาเอลอาหรับ ซึ่งเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดของอียิปต์ในปัจจุบัน ส่วนอีกสนามยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
นอกจากนี้ ยังมีประเทศอื่น ๆ ที่ได้เสนอตัวเข้ามาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2030 เช่นกัน ได้แก่ โมร็อกโก, สเปน โปรตุเกส และยูเครน เป็นเจ้าภาพร่วมกัน, อุรุกวัย อาร์เจนตินา ปารากวัย และชิลี เป็นเจ้าภาพร่วมกัน ภายใต้คอนเซปต์ครบรอบ 100 ปี ของการแข่งขันฟุตบอลโลก ที่ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1930 ที่อุรุกวัย
ส่วนสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ พวกเขาได้ถอนตัวออกไป หลังตอนแรกพวกเขาให้ความสนใจในการจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2030 โดยพวกเขาได้ให้ความสนใจที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2028 แทน
ที่มา :