ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 บาร์เซโลน่า ได้ทุ่มเงินกว่า 105 ล้านยูโร ยังไม่รวมออปชั่นเสริม เพื่อกระชากตัว อุสมาน เดมเบเล่ ปีกชาวฝรั่งเศส มาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยความหวังที่จะให้เขาเข้ามาเพิ่มมิติในเกมรุก เพราะ อุสมาน เดมเบเล่ มีความเร็วสุดจัดจ้านชนิดที่หาตัวจับยาก
แต่กลับกลายเป็นว่า อุสมาน เดมเบเล่ มีปัญหาทั้งเรื่องในสนามและนอกสนาม ประกอบกับปัจจัยทางการเงินของสโมสรที่ขาดสภาพคล่อง ส่งผลให้ "เจ้าบุญทุ่ม" ต้องตัดสินใจปล่อยตัวเขาไปให้ เปแอสเช ในปี 2023 ด้วยค่าตัวประมาณ 50 ล้านยูโร
อย่างไรก็ตามปรากฏว่านับตั้งแต่ อุสมาน เดมเบเล่ ย้ายมาสวมยูนิฟอร์มเปแอสเช เขาก็เริ่มมีฟอร์มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งในฤดูกาล 2024-25 เดมเบเล่ สามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักให้กับทีมในแนวรุก หลัง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ อุสมาน เดมเบเล่ กลายเป็นหัวใจสำคัญของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ณ เวลานี้ คืออะไร และเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน ... ติดตามพร้อมกันได้ที่ Main Stand
[ข้อดีของการมีลูก]
ก่อนอื่นต้องเท้าความก่อนว่าประวัติของ อุสมาน เดมเบเล่ สมัยช่วงที่สังกัดอยู่กับ บาร์เซโลน่า นั้นไม่ค่อยดีเสียเท่าไร เนื่องจาก อุสมาน เดมเบเล่ เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น เผชิญปัญหาอาการบาดเจ็บกว่า 14 ครั้ง ซึ่งคิดเป็นเวลารวมทั้งสิ้น 784 วันตลอดช่วง 6 ซีซัน (คิดเป็นโอกาสพลาดการลงสนามช่วยทีมถึง 117 เกม ) ที่ค้าแข้งในถิ่นคัมป์ นู
ส่วนเรื่องนอกสนาม อุสมาน เดมเบเล่ ก็มักจะโดนแฉว่ามาซ้อมหรือประชุมทีมสายบ่อยครั้ง ขาดระเบียบวินัยและความเป็นมืออาชีพ ซ้ำยังมีพฤติกรรมติดเกมจนนอนดึก ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายและการฝึกซ้อมในแต่ละวันอย่างมาก ถึงขนาดที่สโมสรต้องส่งคนไปดูแล อุสมาน เดมเบเล่ เป็นกรณีพิเศษ
อย่างไรก็ดีในปี 2021 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของ อุสมาน เดมเบเล่ เพราะนอกจากที่ ชาบี อดีตผู้จัดการทีมบาร์เซโลน่า จะแสดงความมั่นใจในตัวเขาแล้ว อุสมาน เดมเบเล่ ยังใส่ชุดเจ้าบ่าวเข้าพิธีวิวาห์กับ ริมา แฟนสาวชาวมุสลิม ในเดือนธันวาคม ณ ประเทศโมร็อกโก ก่อนจะมีลูกด้วยกันในเวลาต่อมา
ซึ่งการแต่งงานครั้งนี้ของ อุสมาน เดมเบเล่ สร้างความประหลาดใจให้กับเพื่อนร่วมทีมหลายคน เนื่องจากเพื่อนร่วมทีมส่วนใหญ่ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าปีกชาวฝรั่งเศส มีคู่ครอง
หลังจากนั้น อุสมาน เดมเบเล่ ก็เริ่มหันมาให้ความใส่ใจกับการใช้ชีวิตมากขึ้น ทำงานร่วมกับนักกายภาพบำบัดเป็นประจำ มีเชฟส่วนตัวคอยดูแลเรื่องโภชนาการ รวมถึงบินไปฝรั่งเศส บ่อยครั้งเพื่อรับการรักษาป้องกันเฉพาะทาง
นั่นเท่ากับว่าชีวิตของ อุสมาน เดมเบเล่ เริ่มเปลี่ยนแปลงในช่วงสองฤดูกาลสุดท้ายที่บาร์เซโลน่า เมื่อทัศนคติความเป็นผู้ใหญ่และสัญชาติญาณความเป็นพ่อในตัวเขาเริ่มตื่นขึ้นตามอายุรวมถึงประสบการณ์
[ตัวความหวังเปแอสเช]
เมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมา หลุยส์ เอ็นริเก้ ผู้จัดการทีมบอกกับ อุสมาน เดมเบเล่ ว่าเมื่อไม่มี คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ในทีมแล้ว เขาต้องการประตูจาก เดมเบเล่ มากกว่านี้ รวมถึงการแอสซิสต์ด้วย ซึ่งหมายความว่าเขาได้สิทธิ์โดยสมบูรณ์ที่จะแสดงแนวทางการเล่นที่เห็นแก่ตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะทั้งการจ่ายบอลน้อยลง และความปรารถนาที่จะยิงประตู
โดยบรรดาสตาฟฟ์ผู้ฝึกสอนมักจะบอก อุสมาน เดมเบเล่ ว่าหากเขาสามารถแปลงโอกาสที่สร้างขึ้นได้เป็นเปอร์เซ็นต์ประตูที่เหมาะสม มันจะนำไปสู่ความสำเร็จร่วมกันและเกียรติยศส่วนบุคคล รวมไปถึงบัลลงดอร์ด้วย
จึงไม่แปลกเลยที่ฤดูกาล 2024-25 อุสมาน เดมเบเล่ จะมีฟอร์มการเล่นที่โหดขึ้นมาก ๆ ยิงกระจายตั้งแต่เปิดซีซั่น ซัดไปแล้ว 23 ประตู 6 แอสซิสต์จาก 29 เกมรวมทุกรายการ แต่ที่พิเศษเพิ่มขึ้นมาคือเขาสามารถลงเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวหลอก หรือ false 9 รวมถึงกองหน้าตัวต่ำ (Second Striker) ได้ด้วย
ทำเอา หลุยส์ เอ็นริเก้ ต้องเอ่ยปากชื่นชมว่าไปรับประทานอะไรมาในช่วงวันคริสต์มาส 2024 หลังเบิ้ลสองตุงในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ นัดแรก ที่เอาชนะ แบรสต์ 3-0 "คุณคงต้องถาม อุสมาน เดมเบเล่ ว่าเขากินอะไรเข้าไปเมื่อวันคริสต์มาส เพราะ ณ จุดนี้เขาเป็นนักเตะที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม"
"ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ผมเล่นเกมเพลย์สเตชั่นในวัยเด็ก อุสมาน เดมเบเล่ เป็นนักเตะแบบที่คุณจะเลือกเมื่อคุณต้องการใครสักคนเพื่อมาเปลี่ยนเกม"
"อุสมาน เดมเบเล่ ทำหน้าที่ได้ดีอยู่แล้วในฤดูกาลก่อน แต่ในปี 2025 เขาดียิ่งขึ้นไปอีก คุณจะเห็นได้ว่าเพื่อนร่วมทีมพยายามมองหาเขา อุสมาน เดมเบเล่ มีทัศนคติที่สมบูรณ์แบบ"
หากไม่มีอะไรผิดพลาดคาดว่า อุสมาน เดมเบเล่ จะได้ออกสตาร์ทตัวจริงในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ นัดที่สอง พบกับ แบรสต์ คืนนี้ เวลา 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย