ย้อนกลับไปในช่วงปี 2004-2005 อาเดรียโน่ กองหน้าชาวแซมบ้า กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลกวงการฟุตบอล ด้วยผลงานยิงถล่มทลายกับ อินเตอร์ มิลาน และทีมชาติบราซิล รวมกันทั้งสิ้น 42 ประตู แถมได้รับเลือกเป็นอันดับที่ 6 ของผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าประจำปี 2004 อีกด้วย
แต่หลังจากที่ อาเดรียโน่ ได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าคุณพ่อของเขาเสียชีวิต ความคิดและแรงจูงใจของกองหน้าชาวบราซิล ก็เปลี่ยนไป อาเดรียโน่ ต้องเผชิญกับสภาวะซึมเศร้า รวมถึงติดแอลกอฮอล์อย่างหนัก ไม่ได้โฟกัสกับฟุตบอลเหมือนอย่างเก่า ก่อนจะย้ายสโมสรไปเรื่อย กระทั่งประกาศแขวนสตั๊ดเมื่อปี 2016 ด้วยวัย 34 ปี
และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้มีภาพ อาเดรียโน่ ปรากฎออกมาบนโลกออนไลน์ ซึ่งเขากำลังถือแก้วเก๊กฮวยด้วยร่างพุงพลุ้ย และคล้ายมีอาการมึนเมาเล็กน้อย ... ชีวิตของ อาเดรียโน่ ตอนนี้เป็นย่างไร? ติดตามได้ที่ Main Stand
ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดของกับ The Players Tribune อาเดรียโน่ ได้ออกมาร่ายถึงชีวิตของตนเองที่ผ่าน ซึ่งเขานิยามตัวเองว่าเป็น 'ความสูญเปล่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอล'
"คุณรู้ไหมว่าการถูกคาดหวังมันรู้สึกอย่างไร? ผมรู้ดีเลยแหละ รวมถึงความคาดหวังที่ไม่ได้รับการเติมเต็ม ความสูญเปล่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอลคือตัวผมเอง"
"ผมชอบคำว่าสูญเปล่านะ ไม่ใช่แค่เพราะว่ามันฟังดูแปลกๆ เท่านั้น แต่เพราะผมหมกมุ่นอยู่กับการใช้ชีวิตอย่างสูญเปล่าของตัวเอง อันที่จริงผมสบายดีในสภาพสิ้นหวังแบบนี้ ผมสามารถสนุกไปกับตราบาปที่ตัวเองก่อ"
"อย่างไรก็ตามผมไม่ใช้ยาเสพติดอย่างที่พวกเขาพยายามพิสูจน์ และผมก็ไม่ได้เป็นคนก่ออาชญากรรม แต่ไม่แน่ว่าสักวันผมอาจจะทำ ผมไม่ชอบเที่ยวคลับ แต่ผมดื่มแทบทุกวัน ใช่ คนอย่างผมมาถึงจุดที่ดื่มเกือบทุกวันได้อย่างไร?"
"เรื่องนี้ผมไม่ชอบอธิบายให้คนอื่นฟัง แต่มีอย่างหนึ่ง ผมดื่มเพราะมันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นคนที่ถูกตั้งความหวังไว้แต่ต้องติดหนี้ และยิ่งแย่ลงเมื่ออายุมากขึ้น"
และ อาเดรียโน่ ยังได้ย้อนถึงช่วงที่ดิ่งที่สุดตอนที่อยู่อิตาลี ว่า "ผมพังทลาย ผมคว้าขวดวอดก้ามา ผมไม่ได้พูดเกินจริงนะเพื่อน ผมดื่มเหล้าจนหมดขวดและร้องไห้ทั้งคืน ผมหมดสติอยู่บนโซฟาเพราะดื่มมากเกินไปและร้องไห้"
"แต่มันก็แค่นั้นเองใช่ไหมเพื่อน ผมจะทำยังไงได้ ผมอยู่ที่มิลานด้วยเหตุผลบางอย่าง มันเป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต ... พระเจ้าประทานโอกาสให้ผมได้เป็นนักฟุตบอลในยุโรป ชีวิตครอบครัวของผมดีขึ้นมาก ต้องขอบคุณพระเจ้า ครอบครัว สำหรับและทุกสิ่งที่ทำเพื่อผม"
"ทั้งนี้ทั้งนั้น นั่นเป็นราคาเล็กน้อยที่ผมต้องจ่ายเมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นและเรื่องที่จะเกิดในอนาคต ผมเข้าใจเรื่องนี้ดี แต่มันไม่ได้หยุดผมจากการเศร้า"
สุดท้ายหวังเป็นอย่างยิ่งว่า อาเดรียโน่ จะหายจากอาการที่เป็นอยู่ในเร็ววัน และคงจะดีไม่น้อยถ้าหากเขาเปลี่ยนความคิด กลับสู่เส้นทางฟุตบอลในฐานะโค้ช คอยถ่ายทอดวิชาให้เด็กบราซิลรุ่นใหม่ ๆ