ความพ่ายแพ้แบบย่อยยับ 0-3 ต่อ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ที่บ้านตัวเอง แถมยังโชว์ฟอร์มน่าผิดหวังอย่างรุนแรงทำให้สาวก "เรด เดวิลส์" จำนวนมาก หมดความอดทนกับกุนซือของพวกเขา และต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง
การที่ เทน ฮาก เดินทางมาถึงจุดนี้ได้เป็นเพราะการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ส่งผลให้บอร์ดบริหาร "ปีศาจแดง" ไว้เนื้อเชื่อใจ ต่อสัญญาใหม่ให้เจ้าตัวคุมทีมอีก 1 ปี ซึ่งสัญญาของเขาจะหมดลงในวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2026
แม้กุนซือชาวดัตช์จะยืนยันว่าบอร์ดบริหารยังไว้วางใจให้เขาคุมทีมต่อไป และต้องการเวลาเพื่อสร้างทีมให้แข็งแกร่งกว่าเดิม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรแน่นอน เขามีสิทธิ์ตกเก้าอี้หากผลงานหลังจากนี้ไม่ดีขึ้น หรือพุ่งชนความปราชัยแบบซ้ำซาก และเมื่อถึงวันนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ต้องฉีกสัญญาแยกทางกับเจ้าตัว
ริชาร์ด มาร์ติน ผู้สื่อข่าวของ Goal และรายงานข่าวเกี่ยวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เผยว่าหากบอร์ดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจปลด เทน ฮาก ก่อนหมดสัญญา พวกเขาจะต้องจ่ายค่าฉีกสัญญาให้อีกฝ่ายที่จำนวน 17.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 753 ล้านบาท)
แต่หากย้อนกลับไปถ้า เทน ฮาก โดนยกเลิกสัญญาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด จะจ่ายค่าฉีกสัญญาเพียง 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 430 ล้านบาท) เท่านั้น ซึ่งการที่พวกเขาเลือกขยายสัญญากับ เทน ฮาก ทำให้ค่าฉีกสัญญาที่ต้องจ่ายมันเลยมากขึ้นกว่าเดิม
และตัวเลข 17 ล้านปอนด์ ก็คือเงินจำนวนครึ่งหนึ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้กลับมาจากการปลดพนักงาน 250 คน หลังกลุ่ม Ineos เข้ามาบริหารในซัมเมอร์นี้
เกมนัดต่อไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีคิวทำศึก ยูโรป้า ลีก ไปเยือน ปอร์โต้ ทีมแกร่งจากฝั่งโปรตุเกส วันที่ 3 ตุลาคม และจะกลับมาเล่น พรีเมียร์ ลีก ไปเยือน แอสตัน วิลล่า วันที่ 6 ตุลาคม นี้ ซึ่งทีมของ อูไน เอเมอรี่ ทำผลงานได้แข็งแกร่งและอยู่อันดับ 5 ในตาราง ถือเป็นสองเกมที่ เทน ฮาก ต้องทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาโชว์ฟอร์มให้ดีขึ้นอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นหน้าที่การงานของเขาจะตกอยู่ในที่นั่งลำบากกว่าเดิม
