ทีมชาติเยอรมนีสามารถผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีม ศึกฟุตบอลยูโร 2024 ได้สำเร็จหลังจากชนะทีมชาติเดนมาร์ก ในการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย 2-0 เมื่อคืนที่ผ่านมา
โดยประตูแรกที่ทีมชาติเยอรมนีขึ้นนำทีมชาติเดนมาร์ก 1-0 จากการยิงจุดโทษของ ไค ฮาแวร์ทซ์ ในนาทีที่ 53 จากการทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษของ โยอาคิม แอนเดอร์เซน กองหลังของทีม และประตูที่ 2 จาก จามาล มูเซียล่า ในนาที 68
อย่างไรก็ตามหลังจากจบการแข่งขัน โยอาคิม แอนเดอร์เซน กองหลังทีมชาติเดนมาร์กออกมาพูดถึงจังหวะที่เจ้าตัวถูกจับแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษจากการเปิดบอลของ ดาวิด รอม แบ็กทีมชาติเยอรมนี จนทำให้ทีมโดนขึ้นนำ 1-0 เนื่องจากเขาไม่พอใจคำตัดสินในครั้งนี้สักเท่าไรนัก
"มันบ้ามากและไม่เป็นจุดโทษ ผมวิ่งไปรอบกรอบเขตโทษ ผมใช้แขนไขว้หลังและเล่นฟุตบอลไม่ได้ เขา (ดาวิด รอม) อยู่ห่างจากผมประมาณครึ่งเมตรแล้วเตะบอลมาโดนที่มือของผม แต่จังหวะนั้นผมไม่เห็นว่าผมกำลังทำอะไร"
ซึ่งจังหวะเจ้าปัญหานี้ทำให้ผู้ตัดสินได้เข้าไปเช็ค VAR ก่อนที่จะตัดสินใจเป่าจุดโทษเนื่องจากลูกฟุตบอลสามารถตรวจจับการสัมผัสบอลได้ผ่านเทคโนโลยี Snickometer คอยตรวจจับการแฮนด์บอลและล้ำหน้า
นอกจากนี้ แคสเปอร์ ยูลแมนด์ โค้ชทีมชาติเดนมาร์กยังออกมากล่าวถึงจังหวะแฮนด์บอลนี้อีกด้วยเช่นกัน
"ผมเบื่อกฎแฮนด์บอลมาก โยอาคิม กำลังวิ่งอยู่และลูกบอลถูกเตะมาโดนมือเขาในระยะหนึ่งเมตร นาทีนั้นสำคัญมาก เยอรมนีเล่นได้ดี แต่ผมคิดว่ามันไร้สาระ"
"ผมไม่ชอบเลยถ้ากองหลังทุกคนต้องวิ่งไปทั่วกรอบเขตโทษโดยต้องเอาแขนไขว้ไว้ด้านหลัง มือของพวกเขาไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ไม่เป็นธรรมชาติ คุณวิ่งไม่ได้หรอกถ้าไม่ใช้แแขนและอย่างที่ผมบอกว่ามันไร้สาระ"