หากแฟนฟุตบอลอังกฤษยังจำกันได้ เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ มีคดีความระหว่าง WAGs หรือภรรยากับแฟนสาวของนักเตะด้วยกันเอง เมื่อ รีเบคก้า วาร์ดี้ ภรรยาของ เจมี่ วาร์ดี้ ดาวยิงของ เลสเตอร์ ซิตี้ ยื่นฟ้อง คอลลีน รูนี่ย์ ภรรยาของ เวย์น รูนี่ย์ เมื่อช่วงกลางปี 2020 ด้วยข้อหาหมิ่นประมาท หลังคอลลีนโพสต์บน Twitter (X ณ ปัจจุบัน) ในช่วงปลายปี 2019 ว่า รีเบคก้า คือคนนำเรื่องที่เธอโพสต์บนแอคเคาน์ Instagram ส่วนตัว ไปขายกับ The Sun สื่อสายฉาวของอังกฤษ
คดีความใช้เวลาสอบสวนราว 2 ปี ก่อนศาลจะตัดสินเมื่อช่วงกลางปี 2022 ให้คอลลีนเป็นฝ่ายชนะ รีเบคก้าต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในชั้นศาลของทั้งสองฝ่ายราว 3 ล้านปอนด์แต่เพียงผู้เดียว โดยครึ่งหนึ่งในนั้นคือค่าใช้จ่ายของฝ่ายคอลลีน ซึ่งหนึ่งหมัดเด็ดที่ทำให้คอลลีนชนะคดีนี้ คือเฟกนิวส์ที่เจ้าตัวสร้างขึ้นเองว่า คอลลีนเดินทางไปประเทศเม็กซิโกเพื่อปรึกษาเรื่องการเลือกเพศของลูกให้ได้ตามต้องการ และโพสต์ดังกล่าว คอลลีนตั้งใจให้รีเบคก้าเห็นแค่คนเดียวเท่านั้น ซึ่งคู่กรณีก็งับเหยื่อเข้าเต็ม ๆ ด้วยการนำเรื่องนี้ไปขายกับ The Sun จนคอลลีนมั่นใจว่า รีเบคก้าคือหนอนบ่อนไส้อย่างที่สงสัยมาตลอด
คอลลีนเปิดเผยว่า นอกจากแผนการสร้างเฟคนิวส์โดยเจ้าตัวเองแล้ว เวย์น รูนี่ย์ สามีของเธอ ยังเป็นอีกคนที่มีส่วนสำคัญในคดีนี้ เมื่อตำนานดาวยิงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเอฟเวอร์ตัน ที่ปัจจุบันเพิ่งรับงานคุมทีม เบอร์มิงแฮม ซิตี้ แบบสด ๆ ร้อน ๆ ตัดสินใจทำหมันหลังมีลูกชายคนที่ 4 ชื่อ แคส เมื่อปี 2018
"หลังจากที่ลูก ๆ ของฉันทุกคนคลอด สื่อมวลชนก็สนใจอยู่เสมอว่า ฉันจะมีลูกอีกคนไหม และมักจะถามว่า อยากมีลูกผู้หญิงไหม อันที่จริงฉันคิดเสมอว่าฉันจะมีลูกสองสามคน มากที่สุดอาจจะสามคน แต่แล้วลูกคนที่สี่ก็เข้ามา และเรารู้ว่าครอบครัวของเราสมบูรณ์แล้ว"
"ฉันกับเวย์นคุยกันว่าเขาจะทำหมัน เขาพูดหลังจากลูกคนนี้เกิดว่า พอแล้ว เราจะไม่มีลูกเพิ่มอีกต่อไปแล้ว หลังจากนั้นเวย์นก็เข้ารับการผ่าตัด ฉันจึงรู้แน่ว่าเราจะไม่มีลูกไปมากกว่านี้ ถึงตรงนี้ ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับขั้นตอนที่คุณสามารถเลือกเพศของลูกได้ แต่เป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดจะทำ เลยเกิดแนวคิดในการสร้างเรื่องราวขึ้นมา"
เรื่องราวทั้งหมดของคดีที่ถูกเรียกว่า Wagatha Christie (มาจากการผสมของคำว่า WAGs กับ Agatha Christie นักเขียนนิยายเชิงสืบสวนสอบสวนชื่อดัง) ถูกนำมาถ่ายทอดแล้วในซีรี่ส์สารคดี Coleen Rooney: The Real Wagatha Story ทางแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Disney+ ส่วนที่ไทย ต้องรอการยืนยันจาก Disney+ Hotstar อีกครั้ง ว่าจะนำเข้ามาฉายหรือไม่