ลิเวอร์พูล ประกาศผ่านเว็บไซต์ว่า เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป (FSG) เจ้าของสโมสร ได้ทำข้อตกลงกับ Dynasty Equity บริษัทลงทุนด้านกีฬา เข้ามาเป็นหุ้นส่วนรายใหม่ของทีมเป็นที่เรียบร้อย
รายงานเผยว่า Dynasty เข้ามาร่วมหุ้นกับ ลิเวอร์พูล ด้วยตัวเงินราว 82-164 ล้านปอนด์ กระนั้นทาง FSG ของ จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี ก็จะยังรับบทบาทเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่และกำหนดทิศทางการบริหารทีมต่อไปเหมือนเดิม
เค.ดอน คอร์นเวลล์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Dynasty กล่าวว่า "ลิเวอร์พูล คือหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่โดดเด่นที่สุดในโลก ด้วยฐานแฟนบอลที่เต็มไปด้วยแพชชั่น และการเข้าถึงผู้คนทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ Dynasty ได้รับสิทธิในการสนับสนุนและทำงานร่วมกับ FSG เพื่อดำเนินการตามโอกาสในการเติบโตอันยิ่งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า"
BBC คาดการณ์ว่า การเข้ามาของ Dynasty จะมาช่วยปลดหนี้ส่วนหนึ่งของสโมสรที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด เมื่อปี 2019 ซึ่งครานั้นพวกเขาสูญเสียรายได้ไป 100 ล้านปอนด์ ขณะเดียวกันยังจ่ายเงิน 50 ล้านปอนด์ ในการสร้างศูนย์ฝึกซ้อมแห่งใหม่ที่เคิร์กบี รวมถึงการใช้งบอีก 12 ล้านปอนด์ สำหรับศูนย์ฝึกที่เมลวูด ให้กับทีมหญิงใช้งาน
เช่นเดียวกับการปรับปรุงและต่อเติมอัฒจันทร์ที่แอนฟิลด์ โรด ที่ต้องใช้เงินอีก 80 ล้านปอนด์ กับการใช้เงินเสริมทัพนักเตะชุดใหม่ในช่วงซัมเมอร์อีก 145 ล้านปอนด์ ไปกับ โดมินิค โซโบสไล, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, วาตารุ เอนโด และ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ซึ่งทาง Dynasty จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาชำระหนี้การเงินของสโมสรให้ลดน้อยลง และช่วยให้สถานะทางการเงินของทีมแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต