“ไทย” จ่อโดนปรับเงินอีก เพราะแฟนบอลจุดพลุ ศึกบอลชายหาดชิงแชมป์เอเชีย

สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์เอเชีย หรือ AFC Beach Soccer Asian Cup 2023” ที่หาดจอมเทียน เมืองพัทยา เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งโดยรวมจัดได้สมบูรณ์แบบแล้ว แต่ไม่วายมีเรื่องให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ต้องชี้แจงกับ เอเอฟซี

รายงานจาก #BallThaiStand ระบุว่า เอเอฟซี ได้ส่งหนังสือถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อให้อธิบายเหตุการณ์ที่มีแฟนบอลกลุ่มหนึ่งจุดพลุแฟลร์ตั้งแต่หน้าสนามก่อนแข่ง, ในสนามระหว่างแข่ง และหลังจบเกม ซึ่งมีหลักฐานจากผู้ควบคุมการแข่งขันทั้งภาพนิ่งและคลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้อย่างชัดเจน

เอเอฟซี ระบุว่ามีการจุดพลุใน 4 เกมที่ ทีมชาติไทย ลงแข่งขัน ประกอบด้วย พบ ซาอุดีอาระเบีย, บาห์เรน, อัฟกานิสถาน และยูเออี ซึ่งมีการจุดพลุมากกว่า 1 ครั้งต่อ 1 เกม ซึ่งพื้นที่จัดการแข่งขันบีช ซอคเกอร์ เป็นพื้นที่โล่งและมีลมพัด ทำให้ควันไฟพัดเข้าหาผู้ชม ก่อให้เกิดเกิดความอันตรายหากสูดดมเข้าไปนานๆ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าระเบียบกำหนดไว้

นอกจากนั้นการจุดพลุแฟลร์เป็นข้อห้ามของ ฟีฟ่า และ เอเอฟซี ที่ไม่อนุญาตให้กระทำในสถานที่จัดการแข่งขันโดยเด็ดขาด เพราะ ฟีฟ่า ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก

ขณะเดียวกันประเทศไทยเป็นหนึ่งในชาติที่อยู่ในลิสต์ของ เอเอฟซี ที่ถูกคาดโทษเพราะเคยถูกลงโทษปรับเงินจากเหตุแฟนบอลจุดพลุแฟลร์ในสนามมาแล้ว จึงถือเป็นความผิดซ้ำซาก ฉะนั้นจะมีบทลงโทษปรับเงินที่สูงกว่าเดิม

อย่างล่าสุด สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน หรือ AFF ก็เพิ่งปรับเงินสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กว่า 20,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 687,770 บาท จากเหตุการณ์แฟนบอลจุดพลุแฟลร์ ในศึกชิงแชมป์อาเซียน ช่วงปลายปีที่แล้ว

แม้ เอเอฟซี จะให้สมาคมฯ ชี้แจงและอธิบายเหตุการณ์เหล่านี้ แต่ถึงอย่างไรก็จะถูกลงโทษปรับเงินแน่นอน ขั้นต่ำคือ 5,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 171,000 บาท แต่คาดว่าจะถูกปรับเงินมากกว่านี้ เพราะมีการจุดพลุแฟลร์ ถึง 4 นัด และมากกว่า 1 ครั้งในแต่ละเกม