
จอห์น ซีน่า นักมวยปล้ำซูเปอร์สตาร์ตลอดกาลของ WWE รูดม่านปิดฉากชีวิตบนสังเวียนของตัวเองในปี 2025 หลังโลดแล่นอยู่ในวงการ สร้างความสุขให้แฟนมวยปล้ำทั่วโลกมาตลอด 26 ปี ตั้งแต่สมัยปล้ำอินดี้ จนประสบความสำเร็จถล่มทลายกับสมาคมมวยปล้ำอันดับ 1 ของโลก
ปีสุดท้ายของ จอห์น ซีน่า ถือเป็นไฮไลท์ที่แฟนมวยปล้ำและสื่อทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะหาก WWE นำเสนอเรื่องราวบทสุดท้ายของเขาออกมาดี ก็จะทำให้การปิดฉากของเขาจบลงอย่างสวยงาม พร้อมกับทำให้มวยปล้ำได้รับความนิยมถล่มทลายยิ่งขึ้นกว่าเดิม
แต่สิ่งที่ WWE กลับทำตรงกันข้ามทุกอย่าง เมื่อพวกเขาให้ จอห์น ซีน่า พระเอกตลอดกาลของสมาคม พลิกบทเป็นอธรรม พร้อมเรื่องราวสุดย่ำแย่ที่ส่งให้ช่วงเวลาปิดท้ายอาชีพของเขาที่ควรจะจบอย่างสวยงาม กลายเป็นรอยด่างแห่งอาชีพ และจบลงแบบไม่สวยงามอย่างที่ควรจะเป็น
Main Stand ขอพาแฟนมวยปล้ำ มาสำรวจเรื่องราวปีสุดท้ายของ จอห์น ซีน่า ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ?
พลิกโอกาส เป็นวิกฤติ
อย่างที่บอกไปว่า ปีสุดท้ายของ จอห์น ซีน่า คือไฮไลท์ที่โลกมวยปล้ำเฝ้าจับตามอง ดังนั้น สิ่งที่แฟนมวยปล้ำคาดหวังก็คือ เรื่องราวของพระเอกตลอดกาลที่เริ่มต้นอย่างประทับใจ และจบลงอย่างสวยงาม ให้คนดูได้จดจำสิ่งที่เขาทำบนเวทีตลอดทั้งปีอย่างมีความสุข
แต่สิ่งที่ WWE ทำก็คือ … ให้พระเอกของสมาคมอย่าง ซีน่า พลิกบทเป็นตัวโกง

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ จอห์น ซีน่า ผู้ผิดหวังจากการพลาดตำแหน่งผู้ชนะ Royal Rumble ต่อ เจย์ อูโซ่ แบบพลิกโผความคาดหวังของแฟน ๆ กลับมาสู้ต่อในศึกกรงเหล็ก Elimination Chamber หาผู้ชนะหนึ่งเดียวไปเป็นผู้ท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลก WWE กับ โคดี้ โรดส์ พระเอกยุคปัจจุบันในศึกใหญ่ WrestleMania 41 ที่ ลาสเวกัส ซึ่ง จอห์น ซีน่า ก็เป็นผู้ชนะตามคาด (ส่วน เจย์ อูโซ่ ไปชิงแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต เข็มขัดแชมป์หลักอีกเส้นจาก กุนเธอร์)
ทว่าท้ายรายการ แชมป์โลกอย่าง โคดี้ โรดส์ ที่ปฏิเสธขายวิญญาณมาเป็นลูกน้องของ เดอะ ร็อก (ในบทบาทตัวโกง Final Boss) โดน จอห์น ซีน่า เตะผ่าหมากแล้วเอาเข็มขัดแชมป์โลกฟาดจนหัวแตกเลือดอาบ เล่นเอาคนดูทั้งเด็กและผู้ใหญ่อ้าปากค้าง ช็อกกันทั้งสนามและดูสดทางทีวี
จอห์น ซีน่า กลายเป็นตัวโกง (ฮีล) โดยสมบูรณ์ เขาขายวิญญาณให้กับ เดอะ ร็อก พลางจับไมโครโฟนด่าคนดูทั่วโลกว่าเป็น "พวกจอมปลอม" เสแสร้งแกล้งทำเป็นเชียร์เขามาตลอดจนรู้สึกขยะแขยง พร้อมกับบอกว่าต่อจากนี้จะไม่ทำอะไรเพื่อคนดูอีกต่อไป ไม่มีการเปิดตัวสุดคึกคักเหมือนที่เคยเป็น มีแต่การเดินขึ้นเวทีด้วยความรู้สึกเย็นชา หยิ่งผยอง ไม่มองหน้าใคร
แน่นอนว่าการพลิกบทเป็นตัวโกงของ จอห์น ซีน่า กลายเป็น Talk of the Town ของวงการมวยปล้ำทั่วโลก จากพระเอกเบบี้เฟซผู้เป็นขวัญใจของคนดู และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ มาตลอด กลายเป็นนักมวยปล้ำฝ่ายอธรรมที่ปรากฏตัวพร้อมกับเสียงโห่จากคนดูถล่มทลายด้วยความผิดหวัง แม้ว่าคนดูในโลกออนไลน์จะฮือฮากลายเป็นไวรัล แต่ของจริงในสนามนั้น แฟน ซีน่า ตัวจริงย่อมรู้ดีว่าน่าผิดหวังเพียงใด
แล้วเมื่อถึงศึก WrestleMania 41 ที่ ลาสเวกัส คู่เอกชิงแชมป์โลก WWE ระหว่าง โคดี้ โรดส์ กับ จอห์น ซีน่า ก็จบลงเมื่อ ซีน่า ฉวยโอกาสที่กรรมการไม่อยู่ เอาเข็มขัดฟาดศีรษะ The American Nightmare แล้วกดนับสามคว้าแชมป์โลกมาครองเป็นสมัยที่ 17 สูงสุดตลอดกาลของสมาคม
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ซีน่า จะคว้าแชมป์โลกในแมตช์นี้ เพราะทุกคนต่างคาดหวังว่าเขาจะได้เป็นแชมป์โลกสถิติสูงสุดของ WWE อยู่แล้ว เพียงแต่แมตช์การปล้ำบนเวทีช่างน่าผิดหวัง ไม่สนุก น่าเบื่อ จนถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ในแมตช์คู่เอกที่ห่วยแตกที่สุดของ WrestleMania ชนิดที่ เดฟ เมลเซอร์ นักข่าวสายมวยปล้ำชื่อดัง ยังให้คะแนนแค่ 1.75 ดาว การันตีคุณภาพความห่วย
ไวรัลประเดี๋ยวประด๋าว
การที่ WWE ให้ จอห์น ซีน่า พลิกบทเป็นตัวโกง สร้างกระแสและการพูดถึงไปทั่วโลก ได้ยอดวิว ยอดไลก์บนโลกโซเชียล มีเดีย ถล่มทลายเป็นล้านในทุกช่องทาง แฟนมวยปล้ำขาจรที่ไม่ได้ดูมวยปล้ำมานาน พอเห็น ซีน่า กลายเป็นอธรรม ก็พากันไฮป์ ตื่นเต้น โพสต์คอมเมนต์ดีใจที่ได้เห็นพระเอกเป็นตัวโกงกันยกใหญ่ แต่หลังจากนั้นล่ะเป็นไง ... คนเหล่านั้นก็ไม่ได้ติดตามดูต่อ ดูแต่คลิปไฮไลท์แล้วก็จากไป มันก็เลยเป็นแค่ความตื่นเต้นเพียงชั่วครู่ชั่วยาม

แต่สำหรับแฟนคลับตัวจริงของ จอห์น ซีน่า หรือคนที่ติดตามดู WWE มวยปล้ำแบบต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ไม่มีความสุขกับสิ่งนี้ เพราะสิ่งที่พวกเขาเห็นตลอดในช่วงครึ่งปีแรกคือ พระเอกที่แสร้งเป็นตัวโกง ปั้นหน้าบึ้งถือไมค์ด่าคนดู แถมยังปล้ำบนเวทีไม่ได้เรื่อง แม้จะเป็นการทำเพื่อให้เข้าถึงบทบาท แต่สิ่งที่ถูกนำเสนอออกมา แฟนตัวยงคนไหนก็ดูออกว่านี่ไม่ใช่เนื้อแท้ของเขาเลย
ตลอดช่วงครึ่งปีแรก ซีน่า ในมาดตัวโกง ได้เจอกับคู่อริในอดีตทั้ง แรนดี้ ออร์ตัน กับ ซีเอ็ม พังค์ ซึ่งแม้ว่า ซีน่า จะเป็นผู้ชนะทั้งหมด แต่แมตช์ที่ดีไซน์ออกมาก็ไม่น่าประทับใจสักแมตช์ แถมยังทำให้ ซีน่า เสียโควตาปรากฏตัวใน WWE ปีสุดท้ายส่วนหนึ่ง จากทั้งหมด 36 วัน ไปอย่างเปล่าประโยชน์
เรียกว่าการพลิกบทของ ซีน่า ก็เป็นแค่เรื่องราวฮือฮาแค่ช่วงประเดี๋ยวประด๋าว คนตื่นเต้นกันแค่ 1-2 เดือน แต่หลังจากนั้น กระแสก็แผ่วลงไป ทิ้งให้แฟนตัวจริงของ ซีน่า เป็นฝ่ายรับกรรม ดูแล้วก็ไม่มีความสุข เพราะมันเป็นแค่แอคติ้งปลอม ๆ ไม่ใช่บทบาทที่เขาเล่นได้อย่างธรรมชาติ
หลายสนามที่ ซีน่า โผล่มาในบทอธรรม แทนที่คนดูจะโห่ด่า กลายเป็นส่งเสียงเชียร์ซะมากกว่า เพราะแฟน ๆ รู้ดีว่านี่คือปีสุดท้ายแล้ว จะโห่ฮีโร่ตัวเองไปทำไมให้เสียเวลา ส่งเสียงเชียร์ให้คุ้มค่าตั๋วกันดีกว่า
สุดท้ายเมื่อ WWE เห็นว่า ซีน่า ในบทตัวโกงชักไม่เวิร์ค ก็เลยทำการเปลี่ยนแผนให้ ซีน่า เสียเข็มขัดแชมป์โลก WWE คืนให้ โคดี้ โรดส์ ในศึก SummerSlam แล้วกลับมาเป็นฝ่ายธรรมะตามเดิม นั่นคือช่วงเวลาที่สาวก Cenation ทั่วโลกได้เห็นรอยยิ้มของเขาอีกครั้ง และแมตช์ก็ออกมาดีถึงขั้นได้คะแนนจาก เดฟ เมลเซอร์ คนเดิมถึง 5 ดาว!
ปีสุดท้ายที่มีแต่แมตช์ห่วย
แม้ว่า จอห์น ซีน่า จะพลิกกลับมารับบทธรรมะอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะดีขึ้นตามไปทั้งหมด เพราะสิ่งที่คนดูเห็นคือ WWE ยังสร้างแมตช์ห่วย ๆ ให้ จอห์น ซีน่า ปล้ำอยู่เหมือนเดิม เช่น การเจอกับ บร็อค เลสเนอร์ ปีศาจแห่งยุค Attitude Adjustment ที่ขึ้นมายำ ซีน่า แบบหมดสภาพในศึก Wrestlepalooza จนทำเด็ก ๆ ที่เป็นแฟน ซีน่า ถึงกับร้องไห้ที่เห็นฮีโร่ของเขาถูกกระทืบแพ้เละเทะ

หรือแมตช์ในศึก Survivor Series ที่ จอห์น ซีน่า ซึ่งเป็นแชมป์ แกรนด์สแลม ของ WWE ไปแล้วหลังซิวเข็มขัดอินเตอร์คอนติเนนทัล ขึ้นป้องกันแชมป์กับ โดมินิค มิสเตริโอ ตัวโกงรุ่นใหม่ เจ้าของเข็มขัดแชมป์คนก่อนหน้า ซึ่งแมตช์ก็จบลงที่เขาโดน ลีฟ มอร์แกน นักมวยปล้ำหญิงซูเปอร์สตาร์ เตะผ่าหมากแล้วช่วยให้ โดมินิค ใส่ท่าไม้ตาย 619 กับ Frog Splash กดนับสามทวงแชมป์คืนกลับมา ซึ่งก็เป็นอีกแมตช์ที่ห่วยแตกในสายตาแฟนมวยปล้ำสายทรู ต่อให้จะเล่าว่าเป็นเรื่อง "กรรมตามทัน" ที่ ซีน่า เคยเตะผ่าหมาก โคดี้ โรดส์ มาก่อนก็ตาม แต่แมตช์ที่ออกมาก็ดูแย่อยู่ดี
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเรียกได้ว่า ปีรีไทร์ของ จอห์น ซีน่า มีแต่แมตช์ที่ค่อนข้างน่าผิดหวังในสายตาคนดูมวยปล้ำสายคุณภาพ หรือแฟนตัวจริงของเขา แม้มันจะไม่แย่ไปเสียทั้งหมด เพราะยังมีแมตช์ที่เขาเจอกับ โคดี้ โรดส์ ในศึกใหญ่ Summerslam ที่ได้คะแนนถึง 5 ดาว และแมตช์ที่เจอกับ เอเจ สไตล์ส ในศึก Crown Jewel ที่ทั้งคู่สู้กันได้อย่างน่าประทับใจทั้งแมตช์
หรือแมตช์ชิงแชมป์ยูเอส ที่ จอห์น ซีน่า ดวลกับ เซมี่ เซน ยอดฝีมืออีกคนในโชว์รายสัปดาห์อย่าง SmackDown ทั้งสองก็โชว์ฟอร์มบนเวทีได้ดีมาก แต่แทนที่จะจบแบบมีคนแพ้-ชนะ ดันจบแบบไม่มีผลการตัดสินเพราะ WWE ให้ บร็อค เลสเนอร์ ขึ้นมาจับ ซีน่า ใส่ F-5 ปิดแมตช์ เพื่อเป็นการต่อบทไปสู่แมตช์ที่ต้องสู้กันใน Wrestlepalooza ซึ่งก็ออกมาห่วยแตกอย่างที่เห็นและบอกไป
ดังนั้น เมื่อมองโดยรวมทั้งหมดก็ถือว่า WWE ให้ ซีน่า มีแมตช์ที่แย่มากกว่าดีในปีสุดท้าย ซึ่งก็นับว่าน่าเสียดาย เพราะมันสวนทางกับความจริงที่ว่า ซีน่า ในวัย 48 ปี ต่อให้สังขารจะโรยราตามกาลเวลา แต่เขาก็สามารถสร้างแมตช์ดี ๆ ให้คนดูประทับใจได้ หาก WWE ตั้งอกตั้งใจดีไซน์แมตช์ของเขาให้ออกมาดีอย่างที่ควรจะทำ
ความจริงจากปากพระเอกตลอดกาล
ก่อนที่ จอห์น ซีน่า จะขึ้นปล้ำในแมตช์สุดท้ายของชีวิตกับ กุนเธอร์ นักมวยปล้ำสายอธรรมฝีมือดีในศึก Saturday Night's Main Event วันที่ 13 ธันวาคม 2025 พระเอกตลอดกาลอย่างเขาก็มีโอกาสเดินสายให้สัมภาษณ์สื่อเจ้าต่าง ๆ
ความน่าสนใจก็คือ เจ้าตัวเอ่ยปากเองว่า เรื่องราวในปีรีไทร์ของเขา มันสามารถเล่าออกมาได้ดีกว่านี้ โดยเฉพาะการพลิกบทจากพระเอกเป็นตัวโกง ซึ่ง ซีน่า บอกว่าน่าเสียดาย เมื่อ เดอะ ร็อก ตำนานของ WWE เสนอไอเดียนี้ในที่ประชุม แต่พอ ซีน่า พลิกบทเป็นตัวร้ายแล้ว อีกฝ่ายกลับทอดทิ้งให้เขาต้องมาทำโปรโม ต่อบทเองเพียงคนเดียวในช่วงเวลาที่เหลือ และถึงแม้ว่า ซีน่า จะเห็นด้วยและยอมเล่นไปตามบทบาท แต่เขาก็คิดว่าถ้าให้เขามีเวลาปูบทมากพอ เขาก็สามารถเป็นนักมวยปล้ำตัวโกงที่คนดูชื่นชอบได้

ซีน่า ให้สัมภาษณ์กับ บิลล์ ซิมมอนส์ นักข่าวกีฬารุ่นเก๋า ถึงการเทิร์นฮีลที่ล้มเหลวว่า "ปกติแล้วมันต้องใช้เวลาถึง 5 ปีในการสร้างนักมวยปล้ำสักคนให้ติดตลาด ไม่ว่าจะบทไหนก็ตาม หากคุณเปลี่ยนบทเขาเป็นตัวร้าย มันต้องใช้เวลาสัก 1-2 ปีกว่าที่คนดูทางบ้านจะเริ่มอิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณอยากจะลงลึกกับบทบาทนั้นจริง ๆ เพื่อที่จะให้ตัวนักแสดงสามารถพลิกกลับมาเป็นธรรมะได้อีกครั้งเมื่อถึงเวลา แต่ผมไม่มีเวลามากพอที่จะเล่าเรื่องราวให้มันออกมาถูกต้อง ทว่านั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะประเด็นคือผมได้รับคำสั่งมาว่า เราจะไปกันด้วยบทสรุปนี้ ซึ่งผมก็ตอบว่า ได้เลย ผมจะทำมันให้ดีที่สุด"
นอกจากนี้ ซีน่า ยังเปิดใจกับแฟน ๆ ที่ชิคาโก้ พร้อมกับยืนยันว่า เขาไม่รู้สึกเสียใจกับการเทิร์นฮีลครั้งประวัติศาสตร์นี้ แม้ว่าผลลัพธ์จะออกมาไม่ดีก็ตาม "ผมรู้แค่ว่ามันล้มเหลว ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่คุณคงเรียนรู้จากความล้มเหลวได้ใช่ไหม? ผมออกไปแล้วแต่ทำได้ไม่ดี เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้น่ะ"
ใครที่ติดตามและเป็นแฟนคลับ จอห์น ซีน่า จะรู้กันดีว่า ซีน่า ให้ความเคารพต่อ WWE ตลอด เขามองว่า WWE คือสมาคมที่ปลุกปั้น ผลักดัน และทำให้เขาประสบความสำเร็จสูงสุดในฐานะนักมวยปล้ำอาชีพ เรียกว่ามีบุญคุณกับเขามาก ดังนั้นไม่ว่า WWE จะกำหนดหรือสั่งให้เขาเป็นอะไร เขายินดีทำให้ทั้งหมดโดยไม่ปริปากบ่น เพื่อเป็นการตอบแทน WWE ที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เขาจนเป็นตำนานของโลกมวยปล้ำตลอดกาล (จนถูกคนแซวว่า จอห์นมีแต่ให้)
ดังนั้น ต่อให้ต้องพลิกบทเป็นตัวโกงแบบฝืนธรรมชาติ ขึ้นปล้ำแบบแสดงฝีมือได้ไม่เต็มที่ หรือยอมเจอกับคู่ต่อสู้ที่ WWE จับยัดมาให้โดยไม่เรียกร้องใด ๆ แถมถูกโยกแมตช์สุดท้ายมาอยู่ในรายการ Saturday Night's Main Event แทนที่จะได้มี พรีเมียม ไลฟ์ อิเวนต์ อำลาของตัวเอง อย่างที่เคยคุยกันไว้ตอนแรก
แต่ จอห์น ซีน่า ก็โอเคกับมันทั้งหมด ด้วย Mindset เดียวคือ ตอบแทนบุญคุณของ WWE อย่างเต็มที่ ทุ่มเททุกสิ่ง ให้หมดจนหยดสุดท้าย แบบไม่เหลืออะไรติดค้างกันอีกต่อไป
ฉากจบที่เสียงแตก
จอห์น ซีน่า ขึ้นปล้ำแมตช์สุดท้ายในชีวิตนักมวยปล้ำอาชีพ ในศึก Saturday Night's Main Event วันที่ 13 ธันวาคม 2025 ต่อหน้าแฟนมวยปล้ำกว่า 19,000 คนที่ซื้อตั๋วเข้ามาดูสดที่สนาม แคปิตอล วัน อารีน่า กรุงวอชิงตัน ดีซี โดยคู่ต่อสู้คนสุดท้ายของเขาคือ กุนเธอร์ นักมวยปล้ำตัวร้ายรุ่นใหม่ ที่ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในคนที่มีเทคนิคการปล้ำดีที่สุดของโลกในยุคนี้ และมีดีกรีเป็นอดีตแชมป์โลกเฮฟวี่เวทของ WWE
ในการต่อสู้ตลอด 23 นาที ซีน่า ดวลกับ กุนเธอร์ อย่างสุดความสามารถ พยายามดิ้นหนีจากท่าล็อค Sleeper Hold อันร้ายกาจของ กุนเธอร์ อยู่หลายครั้ง แต่ด้วยสังขารที่โรยรา สู้ความหนุ่มและความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายในระยะยาวไม่ไหว สุดท้าย จอห์น ซีน่า ที่ถูกล็อคด้วยท่า Sleeper Hold จนหน้าขาวซีด ตัดสินใจ Tap Out ยอมแพ้ไปแบบที่แฟนคลับ ซีน่า ทั่วโลกช็อก จนไม่อยากเชื่อสายตาว่าภาพตรงหน้าคือของจริง
ไม่ต้องบอกเลยว่าคนดูกว่า 19,000 คนในสนาม แคปิตอล วัน อารีน่า ผิดหวังแค่ไหน เพราะเมื่อแมตช์นี้จบลง แฟนมวยปล้ำส่งเสียงโห่ระงมทั่วสนาม มันคือฉากจบที่ทำให้เกิดเสียงแตกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือไม่อยากเห็น จอห์น ซีน่า แพ้ในแมตช์สุดท้าย พวกเขาควรได้รับความทรงจำที่ดีกลับบ้านด้วยการให้พระเอกตลอดกาลคว้าชัยชนะ มากกว่าต้องเห็นฮีโร่ของพวกเขา Tap Out ยอมแพ้ ขณะที่อีกฝั่งซึ่งไม่ติดใจที่ ซีน่า เป็นคนแพ้ ก็ไม่พอใจที่ WWE ให้ ซีน่า แพ้แบบยอม Tap Out
ฝั่งที่ไม่อยากให้ ซีน่า Tap out เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะตลอดชีวิตการเป็นนักมวยปล้ำของ WWE ซีน่า เขาเป็นเจ้าของคำขวัญอันทรงพลังอย่าง "Never Give Up" ซึ่งเป็นคำขวัญที่เขามอบให้แฟนคลับทุกคน และบอกแฟน ๆ ของตัวเองอยู่เสมอว่า "อย่ายอมแพ้กับอุปสรรคที่อยู่ตรงหน้า" ซึ่งที่ผ่านมา ซีน่า แสดงให้ทุกคนเห็นมาตลอดว่า เขาไม่เคยยอมแพ้ใครง่าย ๆ ผ่านการต่อสู้บนเวที WWE
ดังนั้น ฉากจบที่แฟนคลับ ซีน่า ต้องทนเห็นฮีโร่ของเขา Tap Out ให้กับตัวร้ายอย่าง กุนเธอร์ ก็ถือเป็นการทำลาย ซีน่า ชายผู้มีคติประจำใจอย่าง "Never Give Up" เป็น “Give Up” อย่างสิ้นลาย หากเปรียบเทียบเป็นภาพยนตร์ ก็ถือเป็นฉากจบ Bad Ending ธรรมะพ่ายแพ้อธรรม ทำให้หลายคนไม่พอใจและคิดว่าถ้า WWE เขียนบทให้ ซีน่า โดนล็อกคอจนสลบ หรือโดนกดนับสามแพ้ไปยังจะดีซะกว่า
เสียงผิดหวังของคนดู รุนแรงมากพอถึงขั้นที่ เดฟ เมลเซอร์ รายงานว่า ทีมงานหลังฉากของ WWE ไม่ได้เตรียมตัวรับมือกับเสียงต่อต้านแง่ลบกับฉากจบของ จอห์น ซีน่า มากขนาดนั้น แม้แต่ พอล เลอเวก หรือ ทริปเปิล เอช (HHH) ตำนานนักมวยปล้ำที่ปัจจุบันเป็นหัวหน้าทีมเขียนบท ยังโดนคนดูด่ายับตอนที่เดินออกมาที่เวทีในช่วงท้าย แม้ภายนอกจะทำตัวแข็งแกร่งไม่รู้สึกอะไร แต่ข้างในเขาก็รู้สึกช็อกเหมือนกัน
มรดกที่ไม่มีวันถูกทำลาย
แม้ฉากจบในแมตช์สุดท้ายของ จอห์น ซีน่า จะทำให้แฟน Cenation หลายคนผิดหวัง ยิ่งเมื่อย้อนกลับไปดูเรื่องราวตลอดทั้งปี 2025 ก็ยิ่งชัดเจนว่า Retirement Tour ของ จอห์น ซีน่า จบลงแบบไม่สวยงามสมบูรณ์อย่างที่ควรจะเป็น บ้างก็วิจารณ์ว่า WWE ไม่ให้เกียรติแก่พระเอกตลอดกาลของสมาคม ที่สร้างชื่อเสียง เป็นหน้าเป็นตาของสมาคมมานานกว่า 23 ปีเอาเสียเลย
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีใครรับรู้ด้วยว่า จอห์น ซีน่า รู้สึกอย่างไรกับฉากจบแบบนี้ แต่หากพิจารณาดูจากสิ่งที่ จอห์น ซีน่า เป็นมาตลอด และมี Mindset ที่ชัดเจนว่า เขาพร้อมที่จะทุ่มเททำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อตอบแทน WWE ให้ทำอะไรก็ทำ ให้เป็นอะไรก็เป็น ดังนั้น เขาอาจพอใจกับฉากจบของตัวเองที่เกิดขึ้นในแมตช์สุดท้ายแล้วก็ได้

ย้อนกลับไปดูในแมตช์สุดท้ายของเขากับ กุนเธอร์ สิ่งที่ชัดเจนคือ ซีน่า ยิ้มให้กล้องขณะที่ตัวเองถูกรัดคอจนหน้าซีด มันสามารถตีความได้ว่า เขายอมรับว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว ก่อนจะยอม Tap Out แพ้ให้กับชายที่แข็งแกร่งกว่าตัวเขาด้วยความยินดี พร้อมส่งไม้ต่อให้กับอีกฝ่าย ที่ยังมีอนาคตอีกยาวไกลใน WWE
"เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับใช้ทุกคนมาตลอดหลายปี ขอบคุณทุกคนครับ" จอห์น ซีน่า พูดกับคนดูผ่านกล้องเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับยกมือทำวันทยหัตถ์ อันเป็นเอกลักษณ์ แล้วเดินกลับเข้าหลังเวทีไป
ถึงจะน่าเสียดายที่ปีรีไทร์ของ จอห์น ซีน่า จะออกมาเป็น Bad Ending มากกว่า Good Ending แต่มันไม่ได้มีพลังพอที่จะทำลายล้างสิ่งที่ จอห์น ซีน่า ทิ้งไว้ให้กับวงการมวยปล้ำโลกได้ สิ่งที่เขาทำมาตลอด 23 ปี บนสังเวียนของ WWE มันได้สร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับแฟนมวยปล้ำทั่วโลกอย่างเห็นได้ชัดเจน
จากนักมวยปล้ำตัวประกอบที่ดูไร้อนาคต เสี่ยงถูก WWE ไล่ออกรอมร่อ ค้นหาตัวเองจนเจอ แล้วมาแจ้งเกิดในบทแร็ปเปอร์ตัวเกรียน Dr. Thuganomics หล่อหลอมตนเองผ่านเสียงชื่นชมและคำด่าทอจากคนดูมวยปล้ำ ก่อนยกสถานะตัวเองกลายเป็นแชมป์โลก WWE 17 สมัย สูงสุดตลอดกาล และเป็นตำนานเบบี้เฟซของโลกมวยปล้ำที่ไม่อาจมีใครเทียบทานได้
สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด มันยิ่งใหญ่มากพอที่จะไม่ทำปล่อยให้ฉากจบ Bad Ending ในปีสุดท้ายของเขา ไม่สามารถทำลาย Legacy (มรดก) ที่ จอห์น ซีน่า ทิ้งไว้ให้กับหน้าประวัติศาสตร์โลกมวยปล้ำ และมันจะคงอยู่แบบนั้นไปตลอดกาล
แหล่งอ้างอิง
https://www.bbc.com/news/articles/cx2dp15zglxo?
https://www.bbc.co.uk/newsround/articles/cly399z3kvpo
https://www.cbssports.com/wwe/news/john-cena-admits-his-wwe-heel-turn-failed-i-went-out-there-and-bombed/
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1445114747621844&set=a.735928298540496