เขาไม่เคยอยู่ในอคาเดมีใหญ่ ๆ ไม่เคยมีเส้นสายในวงการ
มีแต่ความเชื่อว่า ถ้าพระเจ้ายังให้ลมหายใจ เขาก็ต้องสู้ต่อ
จากเด็กที่ถูกคัดทิ้ง 20 ครั้ง สู่ว่าที่ปีกค่าตัว 100 ล้านปอนด์ในพรีเมียร์ลีก
เพราะบางทีกว่าที่จะได้เจอกับ "ปาฏิหาริย์" คุณก็ต้องวิ่งให้ทันมันก่อนเสมอ ... นี่คือเรื่องราวของ อองตวน เซเมนโย่
จุดเริ่มต้นของ เซเมนโย่
มีเรื่องหนึ่งที่แฟนบอลของ บอร์นมัธ หลายคนสังเกตเห็นมานาน แต่ไม่รู้เหตุที่เป็นแบบนั้น นั่นคือ อองตวน เซนเมนโย่ จะเป็นนักเตะคนสุดท้ายที่จะเดินเข้าห้องแต่งตัวหลังจากการซ้อมสนามจริงก่อนเกมเริ่มเสมอ โดยเฉพาะเวลาที่ บอร์นมัธ ลงเล่นในบ้านของพวกเขา ไวทัลลิตี้ สเตเดี้ยม
มันไม่ใช่เรื่องการทำให้ตัวเองเป็นจุดเด่นกว่าใคร หรือเรียกร้องให้กล้องถ่ายทอดสดจับภาพเขาได้ง่าย ๆ แต่เหตุผลที่ เซเมนโย่ ทำแบบนั้น ก็เพราะว่าเขาคือคนที่เคร่งศาสนา เป็นชาวคริสต์แบบเข้มข้น และเขามีนัดกับ "บาทหลวงจอห์น" ซึ่งเป็นศาสนาจารย์จากโบสถ์ใกล้ ๆ สนามแห่งนี้ และเป็นแฟนของบอร์นมัธที่ไม่เคยพลาดเกมเหย้าด้วย
ทั้งสองคนสนิทกัน และเมื่อ เซเมนโย่ แยกจากการวอร์มอัพ เขาจะเข้าไปหาบาทหลวงจอห์นเพื่อจะทำการอธิษฐานถึงพระเจ้าร่วมกัน
และสาเหตุที่ เซเมนโย่ ต้องขอบคุณพระเจ้าเสมอ นั่นก็เพราะว่าชีวิตของเขากว่าจะมาถึงจุดที่ได้เป็น 1 ในปีกตัวท็อปของพรีเมียร์ลีก ณ เวลานี้ เป็นเส้นทางที่หลายคนไม่อยากจะเชื่อ จนชวนคิดไปว่ามีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะส่งเขามาอยู่จุดนี้ได้ ... แม้แต่ตัวของ เซเมนโย ยังเคยบอกว่า "ถ้าพระเจ้าไม่มีจริง ผมคงมาไม่ถึงจุดนี้"
อองตวน เซเมนโย่ เกิดที่กรุงลอนดอน โดยพ่อและแม่ที่เป็นชาวกานาอพยพในช่วงปลายยุค 1990s ตัวของ เซเมนโย่ ไม่ต่างอะไรจากเด็กชายชาวอังกฤษที่อยากจะเป็นนักเตะอาชีพ ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก และมีชีวิตดี ๆ ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้ ค่านิยมของวงการฟุตบอลมันบอกว่าเขาควรต้องเริ่มด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของทีมเยาวชนของสโมสรดี ๆ ให้ได้เสียก่อน
พาดหัวข่าวของ Sky Sports เขียนถึงเรื่องราว เซเมนโย่ ด้วยการเริ่มต้นกับคำถามว่า "คุณจะกลายมาเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกและทีมชาติได้อย่างไร โดยที่ไม่ต้องผ่านระบบอะคาเดมีของสโมสร ?"
และใช่ เขาพยายามทำมัน เพียงแต่ว่าถ้ามันทำกันได้ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็คงจะเป็นนักเตะระดับพรีเมียร์ลีกกันได้ทั้งนั้น
เซเมนโย่ เล่าว่าตั้งแต่ 9 ขวบเขาพยายามจะไปทดสอบฝีเท้ากับหลายสโมสรในระดับพรีเมียร์ลีกเพื่อเข้าไปอยู่ในระบบอคาเดมี่ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น เชลซี, อาร์เซน่อล และอีกหลาย ๆ ทีม โดยระหว่างนั้นที่ยังไม่ได้รับสัญญา และเริ่มโตขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าตัวก็ใช้เวลาลงเล่นให้กับทีมฟุตบอลซันเดย์ลีก (ลีกสมัครเล่น) ให้กับทีมท้องถิ่นที่ชื่อว่า คิงฟิชเชอร์
เจ้าตัวเล่าว่าที่ตัดสินใจเล่นให้ในระดับซันเดย์ลีก ก็เพราะว่าอยากจะได้ประสบการณ์จากสนามจริงให้เยอะ ๆ เพื่อจะพัฒนาตัวเองและคัดตัวให้ผ่านในสักวัน แต่ที่สุดแล้วสิ่งที่เขารอก็ไม่เคยมาถึง การเข้าใกล้ที่สุดก็ตอนอายุ 15 ปี ที่เขาไปทดสอบฝีเท้ากับ คริสตัล พาเลซ ที่มันเกือบจะไม่ทำให้เขามีวันนี้
"ผมไปคัดตัวให้กับหลายสโมสร แต่แทบทุกทีมก็ตอบกลับมาเหมือนกันหมด นั่นคือผมยังไม่ดีพอ สำหรับเด็กอายุแค่นั้น คุณคิดว่ามันรับมือกับคำปฏิเสธได้ยากแค่ไหนกันล่ะ ?" เซเมนโย่ เล่าย้อนความ
"เรื่องที่ผมจำแม่นและกระทบจิตใจผมที่สุด ก็คือตอนที่ไปเล่นให้กับ คริสตัล พาเลซ เพราะว่าตอนนั้นทุกอย่างมันดูใกล้มือพอที่ผมจะคว้ามันได้ การทดสอบฝีเท้าของผมเป็นไปได้ดี พวกเขาคิดอยู่นาน ให้ผมอยู่ซ้อมและแข่งขันกับทีมอยู่นานถึง 8 สัปดาห์ (ปกติ 1-2 สัปดาห์ก็รู้ผลแล้ว)"
"ตอนนั้นผมคิดจริง ๆ ว่าจะต้องได้โอกาสเซ็นสัญญาแน่นอน แต่สุดท้ายก็นั่นแหละ มันไม่เกิดขึ้น จากวันนั้นโลกก็เปลี่ยน ผมนั่งอยู่บนรถและร้องไห้กับพ่อทุกวันถามพ่อว่า ทำไมการปฏิเสธมันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ขนาดนี้"
สัญญาที่ไม่มีจริงจาก พาเลซ ทำให้ เซเมนโย่ ในวัยย่าง 16 ปี ถึงกับยอมแพ้ ยกธงขาวบนเส้นทางฟุตบอล ไม่แม้แต่คิดจะเป็นนักกีฬาชนิดอื่น ๆ เขาอยู่ในสภาพปลงตกแบบที่ว่า "ชีวิตผมให้พระเจ้าจัดการเลยแล้วกัน" เพราะเขาจะไม่พยายามเพื่อฟุตบอลอีกแล้ว
"ผมเลิกเล่นฟุตบอลไป 1 ปี ตอนนั้นไม่ได้สนใจกีฬาอะไรสักอย่าง น้ำหนักตัวเริ่มพุ่งขึ้น สภาพเริ่มไม่พร้อมจะเป็นนักฟุตบอลแล้ว" เซเมนโย่ ว่าแบบนั้น
แม้แต่คริสเตียนที่เคร่งครัดยังถึงกับเกือบหมดศรัทธาในพระเจ้า แต่แล้วในช่วงที่เขาลงถึงจุดที่ต่ำที่สุดของสภาวะจิตใจของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง พระเจ้าก็ทำงานอย่างเงียบ ๆ และงานชิ้นนี้ก็ปรากฏขึ้นภายในรูปแบบของงานที่ชื่อว่า "Trial Day" หรืองานคัดตัวแบบเปิด ... นั่นแหละที่ทำให้คนหมดหวังคนหนึ่ง ลุกขึ้นมาใส่รองเท้ากีฬาพร้อมออกวิ่ง เพื่อทำให้ร่างกายของตัวเองกลับมาเหมาะสมในจุดที่จะเป็นนักฟุตบอลอีกครั้ง
Trial Day เปลี่ยนชีวิต
Trial Day คือ "วันคัดตัว" ของนักฟุตบอลในอังกฤษ วันที่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับฟุตบอลร่วมมือกันจัดขึ้นเพื่อทดสอบฝีเท้าผู้เล่นที่ยังไม่มีสโมสร ในวันนั้น นักเตะจะถูกแบ่งทีมลงซ้อมหรือแข่งจริงต่อหน้าแมวมอง โค้ช และตัวแทนของสโมสรต่าง ๆ ที่จะส่งคนมาหาเพชรในตม
พูดง่าย ๆ ก็คือ Trial Day คือเวทีพิสูจน์ตัวเองวันเดียว ที่อาจเปลี่ยนชีวิตนักฟุตบอลจาก "ฟรีเอเยนต์" ไปสู่ "นักเตะอาชีพ" ได้เลย ... อ่านมาถึงตรงนี้คุณคิดว่า เซเมนโย่ จะได้สโมสรเล่นแล้วใช่ไหม ? ถ้าคุณคิดแบบนั้น คุณกำลังคิดผิด เรื่องราวของเขาต้องสู้หนักกว่านั้นอีก
เป็นอีกครั้งที่ เซเมนโย่ คัดตัวไม่ผ่าน แต่ที่เราบอกว่า Trial Day คือวันเปลี่ยนชีวิตของเขา ก็เพราะว่าในวันนั้นเขาได้พบกับ เดฟ ฮ็อคคาเดย์ ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นกุนซือของ ลีดส์ ยูไนเต็ด และ โคเวนทรี ช่วงสั้น ซึ่งเขาคนนี้นี่แหละคือคนที่เปิดเส้นทางใหม่ให้กับ เซเมนโย่
ในช่วงเวลาที่ทั้งคู่เจอกัน ฮ็อคคาเดย์ รับหน้าที่เป็นกุนซือทีมฟุตบอลของวิทยาลัย เซาธ์ กอลสเตอร์เชียร์ ที่เมืองบริสตอล
เขาเห็น เซเมนโย่ เล่นในวันนั้นและตัดสินใจไปบอกกับ เซเมนโย่ ว่า "ศักยภาพนายมีเหลือเฟือ แต่ร่างกายไม่ดี น้ำหนักตัวเยอะเกินไป" จากนั้นก็ตบท้ายด้วยคำเชิญชวน เซเมนโย่ ให้ไปเรียนและเล่นให้กับทีมฟุตบอลวิทยาลัยของเขา
ไม่รู้เพราะอะไร แต่ เซเมนโย่ เลือกเชื่อคนที่เขาเพิ่งรู้จัก เขาตัดสินใจย้ายออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 16 ปี เขาไปเรียนนคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาในโควต้านักฟุตบอล โดยมี ฮ็อคคาเดย์ เคียงข้างเขาเสมอ ไม่นานนัก การได้อยู่กับโค้ชที่ดีและคนที่เชื่อใจ เซเมนโย่ กลับมาทำร่างกายได้แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่เขาเกิดมา ความฟิตเต็มถัง และทักษะด้านฟุตบอลนั้นก็ถูกลับให้คมขึ้น ... ดูเหมือนว่าเวลาของเขาใกล้มาถึงแล้ว
"ฮ็อคคาเดย์ ทำให้ผมรู้จักคำว่ามิตรแท้ และจนถึงทุกวันนี้ผมซาบซึ้งและขอบคุณกับสิ่งที่เขาทำกับผมจริง ๆ" เซเมนโย่ กล่าว
"เขาพาผมไปแข่งในรายการต่าง ๆ บางรายการเราได้เล่นกับทีมเยาวชนระดับพรีเมียร์ลีกด้วย ในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ผมมั่นใจที่สุด ไม่ว่าจะเจอกับทีมเยาวชนจากสโมสรไหน ผมยิงประตูได้ทุกทีม ไม่นานก็มีการติดต่อเข้ามามากมาย บริสตอล, เบอร์มิงแฮม หรือ แม้กระทั่ง พาเลซ ก็กลับมาติดต่อผมอีกครั้ง"
หนนี้ เซเมนโย่ เลือกไม่นาน เขาจิ้มไปที่ บริสตอล ซิตี้ เพราะเป็นทีมที่ใกล้ที่สุดและเขาไม่อยากจะย้ายที่อยู่อีก ซึ่งการคัดตัวใช้เวลาแค่ 2 สัปดาห์ เขาก็ได้สัญญาฉบับแรกกับทีมตอนอายุ 18 ปี และนั่นเท่ากับว่า ฮ็อคคาเดย์ ส่งเขาถึงที่แล้ว ที่เหลือเขาจะต้องเดินหน้าลุยต่อด้วยตัวเอง
เซเมนโย่ เชื่อว่าบางครั้งของขวัญจากพระเจ้าก็มาในรูปแบบของคนธรรมคนหนึ่งที่ดึงบางสิ่งมาอย่างที่ซ่อนอยู่ในตัวของเขาออกมา สำหรับเขา ฮ็อคคาเดย์ คือคนที่พระเจ้าส่งให้มาช่วยเขาให้เริ่มเดินบนถนนสายฟุตบอลก้าวแรกได้สำเร็จหลังพยายามมาหลายปี ... และโชคดีที่เขาไม่ได้คิดว่าสัญญาฉบับนี้คือรางวัลใหญ่ เพราะของจริงจะเริ่มหลังจากนี้ต่างหาก
บริสตอล นอกลีก และ ... พรีเมียร์ลีก
เซเมนโย่ ได้สัญญา 2 ปีจาก บริสตอล ซิตี้ ต่อมาก็ถูกปล่อยยืมตัวไปยัง บาธ ซิตี้ ในเนชั่นแนลลีกใต้ ลีกดิวิชั่น 6 ของอังกฤษ เพื่อเป็นการทดลองส่งไปดวลกับคนที่อายุมากกว่า ซึ่งการไปเล่นที่ บาธ ได้รับผลตอบรับดีมาก แม้จะเป็นนักเตะยืมตัวแต่แฟน ๆ ที่นั่นรักเขาสุด ว้าวสุด ๆ กับฝีเท้าที่เขาแสดงออกมา รวมถึงทัศนคติในการพัฒนาตัวเองของเขาด้วย
"เขาเป็นมืออาชีพเกินกว่าจะมาอยู่ในระดับดิวิชั่น 6 คุณจะเชื่อไหมล่ะว่ามีนักเตะระดับที่เร็วมาก แข็งแรงมาก และยิงบอลได้ทั้งสองเท้าจนพวกเราไม่รู้ว่าเขาถนัดข้างไหนกันแน่ ? เขาจะไปถึงระดับพรีเมียร์ลีกไหมผมไม่แน่ใจ แต่เท่าที่พวกเราเห็นเขาน่าจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดเคยเล่นให้ทีมเราในรอบหลายปีแน่นอน" แฟนบอลคนหนึ่งของ บาธ กล่าวถึงปีกชาวกานา รายนี้
ฟอร์มดังกล่าวทำให้ บริสตอล ดึงตัวกลับสู่สโมสรเพราะมองว่าฝีเท้าของเขาควรได้เล่นในระดับที่สูงกว่า จากนั้นจึงส่งให้ นิวพอร์ท เคาน์ตี้ ในลีกทูยืมตัว และผลงานก็ออกมาโดดเด่นเหมือนเดิม ปีต่อมา บริสตอล ก็ทำมันอีกครั้งด้วยการส่งเขาไปเล่นให้ ซันเดอร์แลนด์ ตอนที่ยังอยู่ในลีกวัน และท้ายที่สุดแล้ว บริสตอล ซิตี้ ก็ต้องยอมรับว่าเขาดีพอที่จะได้ขึ้นชุดใหญ่ของทีมอย่างจริงจัง
"พอได้เข้าสู่ทีมชุดใหญ่ของ บริสตอล ชีวิตของผมก็ไม่เคยถอยหลังกลับอีกเลย ผมบอกตัวเองตั้งแต่วินาทีที่ได้สัญญากับสโมสร ว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้มันยาวนานมาก และผมก็เสียสละหลายสิ่งทั้งการอยู่กับเพื่อนและครอบครัว ดังนั้นเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วมีแต่จะต้องใส่ให้สุดตัวเท่านั้น เพื่อให้บทเรียนในอดีตเป็นเรื่องที่คุ้มค่า" เซเมนโย่ กล่าวอย่างมุ่งมั่น
อย่างที่เราได้เห็นกันว่าจุดเด่นของ เซเมนโย่ คืออะไร การตัดสินใจจังหวะสุดท้ายที่ดี ร่างกายแบบนักกีฬาที่มีความแข็งแรงและรวดเร็ว ความบ้าบิ่นในการไล่ล่าลูกฟุตบอล (เพรสซิ่ง) เหนือสิ่งอื่นใดคือทักษะด้านฟุตบอล โดยเฉพาะเรื่องการเตะบอลด้วยเท้าซ้ายและขวาได้ดีเท่ากัน ทำให้ บริสตอล เล็กเกินไปสำหรับเขา
เดือนมกราคม 2023 บอร์นมัธ ก็ซื้อตัวเขาไปร่วมทีมด้วยราคา 10 ล้านปอนด์ เขาได้ขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก และหลังจากนั้นก็คงไม่มีอะไรจะต้องอธิบายต่อ
ปีต่อปี ... ปีต่อปี อองตวน เซเมนโย่ ดูจะโดดเด่นขึ้นเรื่อย ๆ ปีแรกกับ บอร์นมัธ เขายิงได้ 1 ประตู, ปีที่ 2 เขายิงได้ 8 ประตู ปีที่แล้วเขายิงไป 13 ประตูในทุกรายการ และในปีนี้ผ่านไปแค่ 7 เกม เขายิงไปแล้ว 6 ประตูและทำไปอีก 2 แอสซิสต์ ตัวเลขเหล่านี้กำลังบอกว่าเขาเก่งขึ้นจนถึงระดับที่มายืนเป็นนักเตะแถวหน้าของพรีเมียร์ลีกแล้วจริง ๆ
อันโดนี่ อิราโอล่า กุนซือของ บอร์นมัธ คนปัจจุบัน คือคนที่ เซนเมนโย่ บอกว่าเก่งที่สุดที่เขาเคยร่วมงานด้วย และการได้เล่นกับ อิราโอล่า มันยิ่งทำให้เขาเก่งขึ้นไปอีก เพราะฟุตบอลที่ อิราโอล่า วางไว้ ล้วนต้องการนักเตะเกมรุกที่มีคุณสมบัติแบบเขาทุกประการ
"ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเขา และผมคิดว่าผมยังดีขึ้นได้เรื่อย ๆ ภายใต้การทำงานกับเขา ... อันโดนี่ คือโค้ชที่ชอบสื่อสาร เข้าถึงง่าย และคุยด้วยง่าย มันทำให้เราทุกคนเข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่ออย่างตรงไปตรงมา ตอนนี้ทั้งทีมของเราวิ่งเยอะมากตั้งแต่สนามซ้อมแล้ว ดังนั้นเวลาที่เราลงแข่ง คุณจึงเห็นได้ว่าทุกคนดูฟิตมาก ๆ นั่นก็เพราะว่ามันมาจากการฝึกซ้อมของเขาในทุก ๆ สัปดาห์นี่แหละ"
ตอนนี้มีข่าวว่าอดีตนักเตะผู้เคยโดนคัดทิ้งมากกว่า 20 ครั้งอย่าง เซเมนโย่ จะมีราคาค่าตัวสูงถึง 100 ล้านปอนด์ แต่ทุกวันของเขายังคงเหมือนเดิม เขายังคงอธิษฐานถึงพระเจ้าในทุก ๆ คืนก่อนอน เพื่อขอบคุณที่พระเจ้าวางบททดสอบที่ยากเป็นพิเศษให้แก่เขา เพื่อให้เขาได้เผชิญหน้าทุกอย่างจนทุกวันนี้เขาไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรอีกแล้ว การมาถึงจุดนี้ได้ ทำให้เขาไม่มีอะไรจะเสีย และนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่เขาดูห้าวเป้งและใส่สุดตัวตลอดเวลาที่เราเห็นเขาอยู่ในสนาม
แม้ที่สุดแล้ว เซเมนโย่ จะบอกว่าพระเจ้าบันดาลทุกอย่าง แต่สิ่งที่เราเห็นจากเรื่องนี้ก็คือ นอกจากเขาไมเคยหมดศรัทธาในพระเจ้าแล้ว เขายังคงไม่เคยหมดศรัทธาในตัวเองด้วย แม้กระทั่งในวันที่แย่ที่สุด เขาก็ยังทำให้เราเห็นว่า การใช้ความหวังส่งแรงให้เท้าเดินไปข้างหน้า จะสามารถนำเรามาพบคำตอบของชีวิตที่พยายามดิ้นรนหามันจนได้ในที่สุด
"ถ้าคุณรู้ว่าตัวเองมีของ และเชื่อว่าขึ้นไปถึงจุดสูงสุดได้ ก็จงเชื่อมันไว้เถอะ ... ผมเคยได้ยินหลายคนพูดว่า 'อยากเล่นในพรีเมียร์ลีกจัง' แต่คุณเปลี่ยนคำว่า 'อยาก' ให้กลายเป็นคำว่า 'จะ' ได้เลย"
"ทั้งหมดมันอยู่ที่การผลักดันตัวเอง ทำงานหนัก และอย่าให้ใครมาหยุดคุณได้" หวังว่าคำพูดนี้ของ เซเมนโย่ จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่อ่านมาจนถึงตอนจบนี้
แหล่งอ้างอิง
https://www.nytimes.com/athletic/5852874/2024/10/19/bournemouth-antoine-semenyo-interview/
https://www.skysports.com/football/news/11743/13084394/antoine-semenyo-how-bournemouth-forward-went-from-sunday-league-to-premier-league-after-academy-rejection
https://www.bcfc.co.uk/news/semenyo-goes-pro-and-heads-to-bath/
https://en.wikipedia.org/wiki/Antoine_Semenyo
https://www.transfermarkt.com/nine-goal-contributions-in-first-seven-games-the-rise-of-bournemouths-antoine-semenyo/view/news/461339