Feature

แอนดรอส ทาวน์เซนด์ : อดีตจอมเลื้อยทีมชาติอังกฤษ สู่การผจญภัยครั้งใหม่ที่ไทยลีก | Main Stand

พลังกาญจน์ เอฟซี ทีมน้องใหม่ในฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2025-26 สร้างเรื่องฮือฮา ด้วยการปิดดีลอดีตดาวเตะทีมชาติอังกฤษอย่าง แอนดรอส ทาวน์เซนด์ มาร่วมทีม

 


เชื่อว่าแฟนบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ รู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเขาเคยค้าแข้งกับสโมสรยักษ์ใหญ่มากมายทั้ง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, คริสตัล พาเลซ และ เอฟเวอร์ตัน

เรื่องราวของปีกจอมลากเลื้อยผู้นี้เป็นอย่างไร ทำไมจู่ ๆ ถึงมาลงเอยกับการมาเล่นที่ประเทศไทย ไปร่วมติดตามกันได้ที่ Main Stand

 

เด็กสร้างไก่เดือยทอง

แอนดรอส ทาวน์เซนด์ เกิดและเติบโตที่ประเทศอังกฤษ ในครอบครัวที่มีเชื้อสายจาไมกาและกรีก ก่อนที่ชีวิตในวัยเด็กของเขาจะพบกับโอกาสสำคัญในชีวิต หลังจากได้รับโอกาสได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทีมอะคาเดมี่ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ในช่วงปี 2000 ตอนที่เขาอายุเพียง 8 ขวบ

ทาวน์เซนด์ ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของสเปอร์สเป็นครั้งแรกในปี 2009 แต่ก็ต้องเก็บกระเป๋าออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมายกับหลายสโมสรลีกล่างของประเทศอังกฤษอย่างเช่น โยวิล ทาวน์, อิปสวิช ทาวน์, วัตฟอร์ด, มิลส์วอลล์, ลีดส์ ยูไนเต็ด, เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ และ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส

เมื่อฝีเท้าเริ่มสุดงอม ชั่วโมงบินเริ่มถึง ท้ายที่สุดโอกาสการลงสนามให้กับต้นสังกัดที่แท้จริงของเขาอย่างเต็มตัวก็มาถึงในฤดูกาล 2013-14 ภายใต้การทำทีมของ “AVB” อังเดร วิลลาส-โบอาส ที่ให้โอกาส ทาวน์เซนด์ ลงสนามให้ทีมไก่เดือยทองไปมากถึง 33 นัดรวมทุกรายการ และขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในแนวรุกประจำฤดูกาลดังกล่าว

“เขาเป็นเด็กที่กล้าหาญ เขาไม่เคยหวั่นเกรงต่อคู่แข่ง เขาพร้อมโชว์ศักยภาพเพื่อยึดตำแหน่ง 11 ตัวจริงของทีม การมีเขาขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ กลายเป็นอีกทางเลือกให้พวกเราหลายอย่าง และผมคิดว่าเขาทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ผมคิดไม่ผิดเลยที่เลือกเขาไว้ในทีม”

“ควรให้เครดิตกับตัวเขา การถูกปล่อยออกไปยืมตัวเป็นผลดีต่อ ทาวน์เซนด์ และเมื่อเขากลับมา เขาแสดงถึงความมุ่งมั่น พร้อมกับเต็มไปด้วยแรงจูงใจที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อ สเปอร์ส ผมยินดีกับตัวเขามากนะ”

“แม้ว่านี่จะเพิ่งเป็นจุดเริ่มต้น แต่การเริ่มที่ดีย่อมเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบ และผมเชื่อว่าเด็กคนนี้พร้อมแล้วสำหรับการก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของพวกเรา” AVB กล่าวชื่นชม ทาวน์เซนด์ ในช่วงปี 2013

อย่างไรก็ตาม 33 นัดที่ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ได้ลงเล่นกับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ประจำฤดูกาล 2013-14 ดูเหมือนจะเป็นปีเดียวเท่านั้นที่เขาได้ลงสนามให้ทัพไก่เดือยทองอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เนื่องจากผลงานของทีมภายใต้ยุคสมัย อังเดร วิลลาส-โบอาส ไม่ดีนัก สเปอร์สหล่นมาอยู่ในอันดับกลางตาราง ส่งผลให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งเฮดโค้ชไปในช่วงธันวาคม 2013

แม้ว่าคนที่เข้ามาทำหน้าที่แทน อังเดร วิลลาส-โบอาส อย่าง ทิม เชอร์วู้ด ที่ขึ้นมารักษาการจนจบฤดูกาลจะให้โอกาส แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ลงสนามเป็นกำลังหลักของทีมเช่นเดิม แต่เมื่อ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เข้ามาคุมทีมในฤดูกาล 2014-15 สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป 

“พอช” เลือกที่จะใช้ 3 ผู้เล่นในแนวรุกที่ยืนหลังศูนย์หน้าตัวเป้าเป็น นาสเซอร์ ชาดลี่, คริสเตียน เอริกเซ่น และ เอริค ลาเมร่า โดยมี มุสซ่า เดมเบเล่ เป็นตัวสอดแทรก ซึ่งทุกคนที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ไม่ใช่ผู้เล่นที่อยู่ในสไตล์ริมเส้นแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เหมือนกับ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ แต่เป็นผู้เล่นในเชิงริมเส้นเข้ามาด้านในแบบฉบับ “Advance Playmaker” 

เหตุนี้เองส่งผลให้จำนวนนัดการลงสนามของ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ลดลงมาเหลือเพียง 17 นัด และยิ่งไปมากกว่านั้น ฤดูกาล 2015-16 การเข้ามาของ ซน ฮึง-มิน และ เดเล่ อัลลี ยิ่งทำให้โอกาสของเขาลดน้อยลงไปมากกว่าเดิม 

ก่อนที่สุดท้ายแล้ว แอนดรอส ทาวน์เซนด์ จะถูกปล่อยตัวขายขาดไปให้กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ด้วยราคา 15 ล้านปอนด์ ช่วงตลาดนักเตะฤดูหนาวปี 2016

 

รางวัลประตูยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก

การย้ายออกจากสโมสรที่ตัวเขาอยู่มามากกว่า 15 ปี ย่อมเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่มากพอสมควร เพราะดูจากในวันที่ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ กล่าวประกาศอำลาสโมสรอย่างเป็นทางการ ตัวเขาถึงกลับมีน้ำตาออกมาให้เห็นเลยเช่นกัน

“ผมจะไม่โกหกเลยว่าในวันที่ผมรู้ว่าต้องออกจาก สเปอร์ส น้ำตาของผมไหลออกมา ผมอยู่กับสโมสรแห่งนี้มาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ผมผ่านอะไรมาเยอะมากจนกว่าจะขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ”

“เมื่อคุณรักสโมสรแห่งนี้มาก การจากไปเป็นเรื่องที่ผ่านไปยากเสมอ แต่ด้วยโอกาสของผมที่น้อยลงไปกว่าเดิม มันจึงทำให้ผมต้องตัดสินใจถึงอาชีพการเล่นของตัวเอง แม้ว่าตัวผมจะจากไป แต่หัวใจของผมจะไม่มีทางเปลี่ยนไปแน่นอน COYS” แอนดรอส ทาวน์เซนด์ กล่าวอำลากับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 

แม้จะเข้ามาร่วมทีมกลางฤดูกาล 2015-16 แต่ ทาวน์เซนด์ ก็เข้ามาช่วยยกระดับเกมรุกของทีมได้เป็นอย่างดีในช่วงท้ายซีซั่น และยังสามารถพาทัพสาลิกาดงรอดตกชั้นได้สำเร็จ และมีส่วนร่วมในการทำประตูไปได้มากถึง 6 ประตูจากทั้งหมด 13 นัดที่ลงสนาม

แต่ด้วยช่วงเวลาดังกล่าว นิวคาสเซิ่ล มีปัญหาด้านสภาพการเงิน ทำให้ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ได้อยู่กับสโมสรแห่งนี้เป็นเวลาแค่ 6 เดือน ก่อนที่เขาจะถูกทาง คริสตัล พาเลซ ซื้อตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ ช่วงตลาดนักเตะฤดูร้อนปี 2016

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า หากพูดถึงทีมที่ผลงานของ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ผลิดอกออกผลมากที่สุด สำหรับการเล่นบนลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ ต้องยอมรับเลยว่า คือช่วงที่อยู่กับ คริสตัล พาเลซ นี่แหละ

“ผู้คนส่วนใหญ่ต่างมองว่า วิลฟรีด ซาฮา คือนักเตะที่น่ากลัวมากที่สุดของพวกเรา แต่ในมุมของผม แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ก็เป็นอีกคนสำคัญเช่นกันในแนวรุก เขาเป็นนักเตะที่ซื่อสัตย์ และเชื่อฟังทุกคำที่ผมสั่งให้ลงไปทำหน้าที่อยู่ตลอด และเขาทำมันออกมาได้อย่างดีเกินคาด”

“เขาพร้อมเล่นตามที่ผมสั่งการลงไป เขาเปรียบเสมือนเด็กอัจฉริยะ ผมดีใจที่มีเขาอยู่ในทีม เพราะเขาเต็มที่ตลอดทุกเวลา ซึ่งผมชอบนักเตะคุณสมบัติแบบนี้” รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีม คริสตัล พาเลซ ในเวลานั้นกล่าวถึง แอนดรอส ทาวน์เซนด์

ทาวน์เซนด์ ลงเล่นกับ คริสตัล พาเลซ เป็นเวลาทั้งหมด 5 ปี ฝากผลงานไว้ทั้งสิ้น 16 ประตู 23 แอสซิสต์ จากการลงสนามไปทั้งหมด 187 นัด และยังเคยคว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมของ พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2018-19 หลังจากที่เขาซัดวอลเลย์ไกลร่วม 40 หลาใส่ทางทีมแชมป์ลีกของปีนั้นอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกด้วย

 

เจ็บหนักจนเกือบเลิกเล่น

แอนดรอส ทาวน์เซนด์ เลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับทาง คริสตัล พาเลซ หลังจบฤดูกาล 2020-21 ก่อนที่ตัวเขาจะเลือกย้ายไปซบ เอฟเวอร์ตัน ในยุคของ ราฟาเอล เบนิเตซ

ในช่วงแรกของการย้ายไปร่วมทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงิน ทาวน์เซนด์ กลายเป็นหัวใจหลักในแผนการเล่นของ เบนิเตซ มิหนำซ้ำเขายังเคยคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนกันยายน 2021 ของทางสโมสรอีกด้วย

แต่ทว่าช่วงเวลาสุดแสนแฮปปี้เอนดิ้งของ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ กับ เอฟเวอร์ตัน กลับมีอยู่ไม่นานเท่านั้น เนื่องจากในช่วงเดือนมีนาคม 2022 ทาวน์เซนด์ ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงบริเวณเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าที่ฉีกขาด ส่งผลให้เขาต้องทำการผ่าตัด และใช้เวลาพักฟื้นแบบไร้กำหนดในทันที

มากไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บของเขาจะดูสาหัสไปมากกว่าเดิม เพราะนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ไม่เคยได้กลับมาลงสนามภายใต้สีเสื้อของ เอฟเวอร์ตัน อีกเลย ยิ่งไปกว่านั้น อาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าของเขาในครั้งนี้ยังรุนแรงถึงขั้นที่ ทาวน์เซนด์ เกือบต้องหันหลังให้กับวงการฟุตบอลเช่นกัน

“ปี 2021-2023 เปรียบเสมือนเป็นฝันร้ายในชีวิตของผม ผมพลาดการเล่นตลอดช่วง 3 เดือนหลังของฤดูกาล 2021-22 และตลอดซีซั่น 2022-23 ผมยังไม่ได้เล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ เอฟเวอร์ตัน แม้แต่แมตช์เดียว”

“ผมนอนร้องไห้แทบทุกคืน เพราะมันเจ็บทั้งหัวเข่าและสภาพจิตใจ มันถือเป็นช่วงชีวิตที่ยากลำบากมากที่สุดในชีวิต หมอส่วนตัวที่ดูแลผมเคยแจ้งว่า ผมอาจต้องพิจารณาถึงการเลิกเล่น หากอาการบาดเจ็บยังไม่หายดีขึ้น ตอนที่ผมได้ยิน ผมคิดแค่ว่าความฝันการเป็นนักฟุตบอลมันใกล้ถึงจุดจบแล้ว”

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอาการบาดเจ็บของ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ จะหนักหน่วงหรือสาหัสมากขนาดไหน แต่หนึ่งสิ่งที่ต้องยอมรับเลยว่าเจ้าตัวแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ก็คือสภาพจิตใจของเขา ที่สุดท้ายแล้ว ทาวน์เซนด์ สลัดอาการบาดเจ็บหายเป็นปลิดทิ้ง กลับมาสวมรองเท้าสตั๊ดและโชว์ลวดลายบนสนามให้แฟนบอลได้เห็นอีกครั้ง

 

สถานีต่อไป “ไทยลีก” 

มิหนำซ้ำ ยังเป็นการกลับมาลงเล่นให้กับทีมฟุตบอลระดับสูงอย่าง ลูตัน ทาวน์ ทีมน้องใหม่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2023-24 แม้ว่าสุดท้ายแล้ว แอนดรอส ทาวน์เซนด์ จะไม่สามารถพาทีมรอดพ้นจากการตกชั้นได้สำเร็จ แต่ต้องยอมรับเช่นกันว่าตลอด 1 ฤดูกาลที่เขาลงเล่นให้กับ ทาวน์เซนด์ เปรียบเป็นหนึ่งในอาวุธคนสำคัญของทีมที่ยังเต็มไปด้วยพิษสงร้ายเหมือนกับในอดีต

“แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความอันตราย เขาคือนักเตะเกรดระดับสูงของพรีเมียร์ลีก แน่นอนว่าเขาต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บหนัก และหมดสิทธิ์ลงเล่นมากถึง 18 เดือน แต่สุดท้ายเขาก็ได้โชว์ให้เห็นแล้วว่า พวกเราคิดไม่ผิดที่เซ็นเขาเข้าสู่ทีม”

“ทาวน์เซนด์ มีผลงานที่ยอดเยี่ยมกับเรา และทัศนคติความเป็นผู้ชนะของเขายังเต็มเปี่ยม เขาทำงานหนักทั้งในและนอกสนาม เด็กในทีมของ ลูตัน ทาวน์ รวมถึงผม ยังได้ประโยชน์จากเขาในตอนอยู่กับทีม ผมเสียใจที่ทีมเจอเขาช้าเกินไป” ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ เฮดโค้ช ลูตัน ทาวน์ กล่าวถึง แอนดรอส ทาวน์เซนด์

หลังจาก แอนดรอส ทาวน์เซนด์ หมดสัญญากับทาง ลูตัน ทาวน์ เขาได้ออกไปหาประสบการณ์นอกประเทศบ้านเกิดเป็นครั้งแรกในชีวิตกับ อันตัลยาสปอร์ ทีมในประเทศตุรกี เป็นเวลา 1 ฤดูกาล 

และ ทาวน์เซนด์ เลือกที่จะเผชิญสู่โลกกว้างอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่น่าจับตาพอสมควร เพราะเขาเลือกย้ายออกมาหาความท้าทายกับลีกของประเทศไทย อย่างสโมสร พลังกาญจน์ เอฟซี ทีมน้องใหม่ศึกไทยลีกประจำฤดูกาล 2025-26 ที่ทางสโมสรทุ่มเงินอย่างมั่งคั่ง เพราะทีมมีเป้าหมายอย่างเดียวเท่านั้นในฤดูกาลที่จะถึงคือการ “จบใน TOP3 ”

การเซ็นสัญญากับทาง แอนดรอส ทาวน์เซนด์ อดีตปีกชื่อดังของทีมชาติอังกฤษ ย่อมเป็นสปอตไลท์ส่องลงมาถึงทั้งตัวสโมสร พลังกาญจน์ เอฟซี และตัวของ ทาวน์เซนด์ เป็นอย่างมาก ซึ่งต้องมารอติดตามรับชมไปพร้อมกันว่าแข้งวัย 34 ปีรายนี้ จะโชว์ผลงานออกมาได้ยอดเยี่ยมเหมือนกับตอนที่เขาค้าแข้งอยู่ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้หรือไม่

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.bbc.com/sport/football/24603020
https://www.bbc.com/sport/articles/c28vn2gmw91o
https://www.skysports.com/football/news/11678/10156768/andros-townsend-admits-he-was-emotional-when-leaving-tottenham
https://www.standard.co.uk/sport/football/crystal-palace-benefitting-from-honest-andros-townsend-says-roy-hodgson-a4302666.html
https://www.grandoldteam.com/2023/09/28/in-tears-andros-townsend-shares-toughest-moment-of-his-career-after-contract-setback/

Author

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ

Graphic

อภิสิทธิ์ โชติพิบูลย์ทรัพย์

Art Director ผู้รับเหมางานภาพกราฟิกหน้าปกบทความทุกชิ้น