Feature

ชีวิตหลัง "ดิอาซ" : ลิเวอร์พูลกับภารกิจจัดแนวรุกใหม่ในยุคเปลี่ยนผ่าน | Main Stand

หลุยซ์ ดิอาซ กำลังจะจากไป ... แต่คำถามใหญ่เพิ่งเริ่มต้น ลิเวอร์พูล จะจัดระเบียบแนวรุกใหม่อย่างไรในยุคของ อาร์เน่อ ชล็อต ? 

 

เมื่อบทบาทของตัวเก๋า เด็กใหม่ และดาวรุ่ง รวมไปถึงตลาดขาเข้าออกของหงส์แดงดูจะยังไม่จบง่าย ๆ และ ชล็อต ก็มีงานต้องผสานกันทั้งหมดนี้เพื่อต่อยอดทีมแชมป์ลีกของพวกเขา 

ทำไมถึงขาย และอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ? ติดตามกับ Main Stand 

 

ทำไมขายคนสำคัญ ? 

ลิเวอร์พูล ซื้อ หลุยซ์ ดิอาซ มาจาก เอฟซี ปอร์โต้ เมื่อปลายเดือนมกราคม 2022 ด้วยราคา 45 ล้านยูโร ในยุคที่มี เยอร์เก้น คล็อปป์ เป็นกุนซือ ซึ่งนับตั้งแต่การย้ายทีมครั้งนั้น เราสามารถพูดได้ว่าเขาเป็นนักเตะตัวหลักของ ลิเวอร์พูล ในกลุ่มตัวรุกที่มีนักเตะในตำแหน่งนี้ 5-6 คน คอยหมุนเวียนกันลงเล่นเป็นประจำ 

สิ่งที่ยืนยันได้คือ เขาฝากผลงานการยิงประตูไว้ที่ 41 ลูกจาก 148 นัด และการเข้าชิงฟุตบอลถ้วย 4 รายการหลังสุดของ ลิเวอร์พูล (คาราบาว คัพ 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีก 1 สมัย) ดิอาซ ก็เป็นนักเตะที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทุกเกมชิงชนะเลิศไม่ว่าจะอยู่ในยุคของ คล็อปป์ หรือ อาร์เน่อ ชล็อต ก็ตาม 

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นตัวหลัก และเป็นนักเตะที่มีความหลากหลายสารพัดตำแหน่ง แต่ในมุมมองของ อาร์เน่อ ชล็อต ทาง ดิอาซ ยังคงขาดความเฉียบคมในจังหวะสุดท้าย ซึ่งทำให้เกิดการปรับตำแหน่งของเขา ด้วยการขยับจากตัวริมเส้นฝั่งซ้าย ขึ้นมาเป็นกองหน้าในแบบ False 9 

การปรับครั้งนี้ทำให้ ดิอาซ ได้เล่นตรงกลางมากขึ้น และมีอิสระในการสลับตำแหน่ง ขยับออกไปเล่นด้านข้าง ซึ่งผลงานในซีซั่น 2024-25 ที่ผ่านมาของเขาก็ดีขึ้นทันทีในแง่ของสถิติ ด้วยการยิงรวม 17 ประตู จาก 50 นัดในทุกรายการ มากที่สุดนับตั้งแต่เขาย้ายมาเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล และมีเพียง โม ซาลาห์ เท่านั้นที่ยิงประตูในลีกให้ทีมได้มากกว่าเขา 

แน่นอนว่าไม่มีทีมไหนอยากจะเสียนักเตะที่ยิงประตูได้ และมีความสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้หลากหลายตำแหน่งอย่าง ดิอาซ แถมยังเป็นคนที่ได้รับคำชมว่ามีความเป็นมืออาชีพ และเป็นคนที่อารมณ์ดีสร้างบรรยากาศดี ๆ ในห้องแต่งตัวของทีมได้ แม้กระทั่งวันที่เขาเตรียมจะย้ายทีมอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดย เจมส์ เพียร์ซ นักข่าวของ The Athletic ซึ่งเป็นนักข่าวสาย ลิเวอร์พูล ได้รายงานว่า "การแยกทางเกิดขึ้นด้วยความเคารพ ดิอาซยังลงซ้อมทุกวันระหว่างทัวร์ปรีซีซั่นที่เอเชีย ก่อนจะได้รับอนุญาตให้เดินทางไปมิวนิคเพื่อจัดการเรื่องย้ายทีม"

นี่คือการย้ายทีมที่เจ้าตัวต้องการ และสโมสรอย่าง ลิเวอร์พูล ก็จำเป็นต้องปล่อยนักเตะคนสำคัญของทีมออกไป เพราะมีการเปิดเผยว่า ตัวนักเตะต้องการย้ายออกจากทีมตั้งแต่ช่วงซีซั่นที่แล้ว และในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ดิอาซ ก็ปฎิเสธการต่อสัญญากับ ลิเวอร์พูล ถึง 2 ครั้ง ดังนั้นเมื่อนักเตะอยากย้าย และข้อเสนอที่ บาเยิร์น มิวนิค ยื่นเข้ามาด้วยราคา 75 ล้านยูโรก็มากพอที่จะทำให้ ลิเวอร์พูล คายดาวเตะวัย 28 ปี รายนี้ ... ซึ่งดูเหมือนว่าสถานการณ์จะส่งให้ อาร์เน่อ ชล็อต ได้ปรับทัพเกมรุกใหม่แบบที่เขาต้องการแบบพอดิบพอดีอีกด้วย 

 

จังหวะเสี่ยงเดิมพัน 

ในมุมมองของแฟนบอล การปล่อยนักเตะคนสำคัญในวัยพีคของอาชีพค้าแข้งแบบ ดิอาซ เช่นนี้อาจดูเป็นการตัดสินใจที่เสี่ยง แต่เมื่อพิจารณาให้ลึกลงไป ก็มีเหตุผลรองรับที่รองรับเช่นกัน 

ในฤดูกาล 2024-25 มี 2 ตำแหน่งที่ อาร์เน่อ ชล็อต สลับเปลี่ยนหมุนเวียนผู้เล่นบ่อย ๆ ได้แก่ ตัวรุกเบอร์ 10 และกองหน้าเบอร์ 9 โดยตำแหน่งตัวรุก เบอร์ 10 นั้นถือว่าแก้ไขไปแล้วด้วยการเล่นของใหญ่อย่าง โฟลเรียน เวียตซ์ มาเสริมทัพด้วยราคากว่า 130 ล้านยูโร ดังนั้นจึงเหลือตำแหน่งเบอร์ 9 ที่ซีซั่นที่แล้ว ชล็อต มักจะใช้นักเตะอย่าง ดิโอโก้ โชต้า, ดาร์วิน นูนเญซ และ ดิอาซ สลับสับเปลี่ยนกันเล่นบ่อย ๆ 

แม้ในซีซั่นนี้พวกเขาจะได้ตัว อูโก้ เอกิติเก้ ไปแล้ว แต่ก็ไม่อาจหนีพ้นการผลัดใบของแนวรุกอยู่ดี เพราะนอกจาก ดิอาซ ที่กำลังจะย้ายออกแล้ว ยังมีแนวรุกอีก 2 คนที่อยู่ในลิสต์ขาออกอย่าง นูนเญซ และ เฟเดริโก้ เคียซ่า นอกจากนี้พวกเขายังเสีย โชต้า ไปแบบไม่มีวันกลับจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ด้วย นี่ยังไม่รวมกับกลุ่มตัวรุกสำรองอย่าง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต และ เบน โด๊ก ที่ก็มีข่าวย้ายตัวแบบทั้งซื้อขาดและยืมตัวเข้ามาบ่อย ๆ 

ว่ากันว่าในฤดูกาลนี้ ชล็อต มีแผนปรับเกมรุกด้วยการใช้ โคดี้ กักโป ที่ยิงไป 18 ประตูในปีที่แล้วขึ้นมาเป็นตัวเลือกแรกและมีความสำคัญของทีมยิ่งขึ้น นอกจากนี้นักเตะใหม่อย่าง เอกิติเก้ ก็มีความหลากหลายคล้าย ๆ กับ ดิอาซ ที่แม้จะเป็นกองหน้าธรรมชาติแต่ก็ขยับไปเล่นริมเส้นทั้ง 2 ฝั่งได้ 

นอกจากนี้ยังรวมถึงนักเตะดาวรุ่งที่ได้รับคำชมมาก ๆ อย่าง ริโอ เอ็นกูโมฮา ที่แม้อายุจะยังไม่ถึง 17 ปี แต่ก็น่าจะได้เป็นตัวสอดแทรกในทีมชุดใหญ่มากขึ้น เพราะ ลิเวอร์พูล ก็วางแผนที่จะพัฒนาเขาขึ้นมาเป็นตัวหลักในอนาคต 

และมันชวนคิดต่อไปว่า หาก ลิเวอร์พูล ได้เงินจำนวน 75 ล้านยูโรจากการขาย ดิอาซ ออกไปแล้ว พวกเขาจะเดินดีลนักเตะที่ฮอตและสร้างความปั่นป่วนในตลาดครั้งนี้ที่สุดอย่าง อเล็กซานเดอร์ อิซัค จาก นิวคาสเซิล ที่ว่ากันว่าค่าตัวอาจจะมากกว่า 120 ล้านปอนด์ 

แม้จะเป็นราคาที่แพงสุด ๆ แต่ อิซัค คือตัวเลือกในฝันอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะ อิซัค เล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมรุก และยังทำได้ดีในทุก ๆ บทบาทที่ได้รับ และสิ่งที่เราหลายคนยอมรับคือการเสีย ดิอาซ และได้ อิซัค เข้ามา นับเป็นการได้มากกว่าเสีย เพราะกองหน้าเบอร์ 9 ระดับพระกาฬที่พิสูจน์ตัวเองในเวทีระดับพรีเมียร์ลีกเป็นสิ่งที่ ลิเวอร์พูล ชุดนี้ยังไม่มี ดังนั้นมันจึงมีโอกาสอย่างมากที่ปัญหาเรื่องกองหน้า ที่ปีที่แล้ว ชล็อต ใช้ ดิอาซ จะถูกแก้ไขให้มีคุณภาพมากขึ้นหากการกระชากตัว อิซัค สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม หากดีลของ อิซัค ไม่สำเร็จ ลิเวอร์พูล เองก็มีความเสี่ยงในการจัดแนวรุกยุคใหม่เช่นกัน 

 

False 9, ความยืดหยุ่น และ "ระบบชล็อต"

การจากไปของ หลุยซ์ ดิอาซ คือทั้งจุดจบและจุดเริ่มต้น ในยุคของ อาร์เน่อ สล็อต แผงแนวรุกของลิเวอร์พูลจะมีความยืดหยุ่น คล่องตัว และหลากหลายมากขึ้น ด้วยส่วนผสมของแข้งตัวเก๋า นักเตะใหม่ และดาวรุ่งพรสวรรค์สูง

โดย ชล็อต นั้นได้เริ่มทดลองใช้ตำแหน่ง "False 9" (หน้าเป้าตัวหลอก) มากขึ้นตั้งแต่ฤดูกาลก่อน ซึ่ง ดิอาซ เองก็เคยทำได้ดีในบทบาทนี้ แต่อย่างไรเสีย การขาดเขาไป ก็มีการมาของโฟลเรียน เวียตซ์ หรือแม้กระทั่ง อิซัค (หากดีลเกิดขึ้น) จะยิ่งเปิดทางให้เกมรุกของลิเวอร์พูลมีมิติที่ลึกและปรับเปลี่ยนได้หลากหลายกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่าง ณ ตอนนี้ตลาดซื้อขายยังเปิดไปอย่างน้อยอีก 1 เดือน และ ลิเวอร์พูล ยังคงเป็นทีมที่สามารถเสริมทัพได้อีกมากกว่า 100 ล้านปอนด์ (ณ ปัจจุบันที่ยังไม่ได้ขาย ดิอาซ) 

จากการรายงานของ อดัม วิลเลี่ยมส์ จาก Liverpool Echo ระบุว่า ณ ตอนนี้ ลิเวอร์พูลมีศักยภาพที่จะสามารถใช้เงินในการซื้อนักเตะเสริมทัพมากกว่า 400 ล้านปอนด์ในตลาดซื้อขายครั้งนี้ เนื่องจากพวกเขามีกำไรในบัญชีมหาศาล ไม่ผิดกฎทางการเงิน (PSR) ที่พรีเมียร์ลีกตั้งไว้ 

ซึ่งการขาย ดิอาซ จะช่วยบวกงบสำหรับการเสริมทัพเข้าไปอีก และนั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมพวกเขาจึงไม่ได้มีข่าวกับแค่ อิซัค คนเดียว แต่ ณ ตอนนี้ก็ยังมีการเชื่อมโยง ลิเวอร์พูล กับ โรดรีโก้ ตัวรุกของ เรอัล มาดริด ซึ่งเป็นนักเตะที่ยืดหยุ่นทันสมัย เล่นได้ทั้ง 3 ตำแหน่งในแนวรุกซึ่งถือเป็นสเปกที่ ชล็อต ต้องการ 

อย่าคิดว่าการซื้อระดับ 400-500 ล้านปอนด์ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หากตลาดยังไม่ปิดลง ณ ตอนนี้ยังมีตัวรุกของ ลิเวอร์พูล ในรายชื่อขาออกอีกหลายคนตามที่กล่าวไปในข้างต้น และสิ่งที่คุณต้องไม่ลืมก็คือ ช่วงหลังปีใหม่ 2026 โม ซาลาห์ "เดอะ แบก" ของทีมก็ต้องไปแข่งขันรายการ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ กับทีมชาติอียิปต์อีกด้วย

จากปัจจัยที่กล่าวมา เป็นไปได้ว่าหลังจากดีลของ ดิอาซ จบลง ... ลิเวอร์พูล มีโอกาสที่จะเดินตลาดแบบดุเดือดอีกครั้งในช่วง 1 เดือนสุดท้าย เพื่อสร้างทีมที่จะต่อยอดความสำเร็จจากซีซั่นที่แล้วให้ได้ 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.nytimes.com/athletic/6519367/2025/07/28/luis-diaz-liverpool-bayern-transfer/
https://www.premierleague.com/en/news/4292537
https://tbrfootball.com/fsg-have-secured-under-the-radar-psr-boost-with-350m-deal-it-easily-covers-alexander-isak/
https://www.premierleague.com/en/news/4298580
https://onefootball.com/en/news/liverpool-fcs-summer-2025-arne-slots-chance-to-build-his-squad-41175279

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ