หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม จนบาร์เซโลน่าต้องต่อสัญญายาวถึงปี 2031 เป็นที่เรียบร้อย ก็มีรายงานออกมาว่า "เจ้าบุญทุ่ม" เตรียมมอบ "เบอร์ 10" ให้แก่ ลามีน ยามาล
เบอร์นี้มีความหมายต่อสโมสรอย่างยิ่ง เพราะเป็นการสืบทอดเบอร์เสื้อต่อจากผู้ยิ่งใหญ่ เช่น ดิเอโก้ มาราโดน่า รวมถึง ลิโอเนล เมสซี่
ในขณะเดียวกัน นั่นเท่ากับว่า อันซู ฟาติ ผู้ที่ใช้เบอร์ 10 อยู่ในปัจจุบัน อาจจะต้องเปลี่ยนเบอร์เสื้อหรือไม่ก็ต้องย้ายออกจากทีมไป ซึ่งความเป็นไปได้ในข้อหลังนั้นมีมากกว่า เนื่องจาก โมนาโก แห่งศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส ได้ติดต่อหาอดีตทายาทเบอร์ 10 ของบาร์เซโลน่า และเจรจาให้มาร่วมทีมเรียบร้อย ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปีพ่วงเงื่อนไขเซ็นถาวรมูลค่า 20 ล้านยูโร
อันซู ฟาติ ผิดพลาดตรงไหน? ทำไมอนาคตที่เคยถูกวางไว้ให้เป็นผู้สืบทอดเบอร์ 10 ต่อจาก เมสซี่ ถึงพังทลายเพราะวิธีรักษาอาการบาดเจ็บ ? ติดตามได้ที่ Main Stand
เดบิวต์อย่างแจ่ม
ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่า อันซู ฟาติ เป็นส่วนสำคัญของทีมเยาวชนบาร์ซ่ามาโดยตลอด และได้รับความไว้วางใจจากสโมสรว่าจะเป็นแข้งที่มีอนาคตสดใส โดยแผนคือในฤดูกาล 2019-20 อันซู ฟาติ จะถูกส่งไปเก็บประสบการณ์กับบาร์ซ่า ทีมบี ในลีกระดับสามของสเปน ก่อนที่จะได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลถัดไป
แต่เหมือนโอกาสจะเป็นฝ่ายพุ่งเข้าหา อันซู ฟาติ ก่อน เพราะในเดือนสิงหาคม 2019 แนวรุกตัวเก่งของทีมทั้งสองคนอย่าง หลุยส์ ซัวเรส และ ลิโอเนล เมสซี่ ได้รับบาดเจ็บ บาร์เซโลน่า จึงตัดสินใจเรียก อันซู ฟาติ ขึ้นสู่ชุดใหญ่
ก่อนจะได้เดบิวต์ในเกมกับ เรอัล เบติส ด้วยวัยเพียง 16 ปี 298 วัน โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนที่ อ็องตวน กรีซมันน์ ในนาทีที่ 78 ทำให้ อันซู ฟาติ กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสองที่ประเดิมสนามให้กับสโมสรบาร์เซโลน่าในขณะนั้น แถมอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาก็ยังโชว์ฟอร์มโหดไม่หยุด ยิงประตูใส่ โอซาซูน่า กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้ในประวัติศาสตร์ของสโมสรต่ออีกทอด
และหลังจากนั้น อันซู ฟาติ ก็เดินหน้าทำลายสถิติต่าง ๆ อย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าจะเป็น ผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ลาลีกาที่ทำประตูและแอสซิสต์ในนัดเดียวกัน, เป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้กับบาร์เซโลน่าในรายการแชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยวัย 16 ปี 321 วัน
รวมถึงเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยวัย 17 ปีและ 40 วัน เมื่อเขายิงประตูชัยในเกมที่บาร์เซโลน่า บุกชนะอินเตอร์ มิลาน 2-1
นรกอาการบาดเจ็บ
"วันเวลาดี ๆ มักผ่านไปอย่างรวดเร็ว" คำกล่าวนี้คงไม่เกิดจริงถ้าหากจะใช้กับ อันซู ฟาติ เพราะในเดือนพฤศจิกายน 2020 อันซู ฟาติ ได้รับบาดเจ็บหัวเข่าข้างซ้ายบิด ในเกมกับ เรอัล เบติส จนต้องออกมานั่งพักตั้งแต่จบ 45 นาทีแรก ซึ่งในตอนแรก บาร์เซโลน่า ไม่กังวลกับอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นมากนัก แต่ในอีกไม่กี่วันต่อมาเห็นได้ชัดว่าปีกรายนี้ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า ถึงขั้นหมอนรองกระดูกฉีกขาด
ในความเป็นจริง หากเกิดอาการบาดเจ็บลักษณะนี้ วิธีปฏิบัติมาตรฐานคือต้องผ่าตัดรักษาเปลี่ยนหมอนรองกระดูกใหม่ทั้งหมดให้เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม The Athletic ระบุว่ามีการโต้เถียงกันว่าจะรักษา ฟาติ ด้วยวิธีการใดดี ซึ่งไม่รู้อีท่าไหน ศัลยแพทย์กลับเลือกที่จะเย็บซ่อมหมอนรองกระดูกแทน หรือก็คือเย็บส่วนที่ฉีกขาดกลับเข้าด้วยกัน
ซ้ำทาง บาร์เซโลน่า ก็เร่งกระบวนการฟื้นฟูร่างกายแบบคูณสอง จนทำให้หัวเข่าของ อันซู ฟาติ เกิดการอักเสบซ้ำ และการฟื้นตัวต้องหยุดชะงักลง ... สองเดือนผ่านไป ปรากฏว่าหัวเข่าของ อันซู ฟาติ ยังไม่แสดงสัญญาณของการฟื้นตัวมากนัก ซึ่งสันนิษฐานว่าการเย็บซ่อมหมอนรองกระดูกไม่ได้ช่วยให้หายขาด ดังนั้น อันซู ฟาติ ต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้ง
ในการผ่าตัดรอบที่สอง อันซู ฟาติ มีตัวเลือกที่จะตัดเอาหมอนรองกระดูกออกทั้งหมด แต่ด้วยความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบระยะยาว ฟาติ จึงปฏิเสธคำแนะนำของสโมสร และลงเอยที่ บาร์เซโลน่า ใช้วิธีการผ่าตัดที่เรียกว่า "การรักษาทางชีวภาพแบบฟื้นฟู" (regenerative biological treatment) คล้ายลักษณะเดิม แต่จะใช้ความระมัดระวังในการทำกายภาพเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังไร้วี่แววที่หัวเข่าของ ฟาติ จะกลับมาเป็นปกติ
กระทั่งเดือนมีนาคม 2021 หัวเข่าของ ฟาติ ยังคงบาดเจ็บและมีอาการปวดอยู่ เขาเลยตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดครั้งที่สาม ซึ่งแทบจะเหมือนเป็นการผ่าตัดแบบเดิมซ้ำจากสองครั้งก่อนหน้า และผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือไม่ต่างจากเดิม ส่งผลให้ อันซู ฟาติ เลือกยุติการรักษากับแพทย์ที่ดูแลเขาตลอดการผ่าตัดทั้งสามครั้ง และประกาศว่าจะไม่กลับมาลงสนามจนกว่าจะจบฤดูกาล 2020-21
ในที่สุด อันซู ฟาติ ก็เลิกดื้อ ยอมทำตามคำแนะนำของคนรอบข้าง เอาหมอนรองกระดูกออกไปทั้งหมดในการผ่าตัดครั้งที่สี่ และจำเป็นต้องดูแลหัวเข่าข้างที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงกล้ามเนื้อรอบ ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี อันซู ฟาติ ผ่าตัดสี่ครั้งภายในระยะเวลาหกเดือน ซึ่งถือเป็นความความเสี่ยงต่อทุกฝ่ายโดยเฉพาะตัวเขาเองในอนาคต ... บทสรุปคือ อันซู ฟาติ ต้องรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บครั้งนี้ยาวนานกว่า 10 เดือน
ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
แม้จะร้างสนามไปเกือบปี แต่ในฤดูกาล 2021-22 บาร์เซโลน่า ก็ยังมั่นใจในตัว อันซู ฟาติ พร้อมมอบเสื้อเบอร์ 10 ของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่จำต้องย้ายไปเปแอสเชหลังสัญญาหมดให้เขา (กฎของลาลีกา ผู้เล่นชุดใหญ่ต้องสวมเบอร์ 1-25 หากเว้นเบอร์ไหนว่างจะเสียโควต้าไปฟรี ๆ) และปรากฏว่า ฟาติ ตอบแทนความเชื่อมั่นที่สโมสรมอบให้อย่างดี คัมแบ็กลงสนามในเกมลาลีกา ที่บาร์ซ่า พบกับเลบานเต้ เดือนกันยายน 2021 และยิงประตูได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง พาทีมเอาชนะ 3-0
นอกจากนี้ในเดือนถัดมา บาร์เซโลน่า ยังขยายสัญญาของ อันซู ฟาติ ออกไปจนถึงปี 2027 และใส่ค่าฉีกสัญญาสูงถึง 1,000 ล้านยูโรเพื่อกันท่าทีมอื่นอีกด้วย
"แม้จะอายุเพียง 18 ปีและยังฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ แต่ อันซู ฟาติ ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์บาร์ซ่าในฐานะผู้ทำลายสถิติ รวมถึงกับทีมชาติสเปนด้วย" เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่า ระบุเมื่อกันยายน 2021
ทว่าเพียงเดือนเดียว อันซู ฟาติ ก็ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง แต่ในครั้งในเกิดขึ้นที่บริเวณกล้ามเนื้อต้นขาซ้ายอย่างรุนแรง และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อันซู ฟาติ ก็มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เรื่อย ๆ จนส่งผลต่อความต่อเนื่องในการพัฒนาและลงสนาม
ฤดูกาล 2022-23 อันซู ฟาติ ค่อย ๆ ถูกลดบทบาทลงไปจากการเข้ามาของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และ ราฟินญ่า โดยส่วนใหญ่จะได้ลงสนามในฐานะตัวสำรองภายใต้การคุมทีมของ ชาบี เอร์นานเดซ
สิ่งที่เกิดขึ้นทำเอา บอรี ผู้ป็นพ่อของ ฟาติ และเคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาก่อน ไม่พอใจถึงขนาดพูดออกอากาศผ่านวิทยุของสเปน ว่าสนับสนุนให้ลูกชายออกจากสโมสร และควรพิจรณาข้อเสนอจากทีมต่าง ๆ แม้กระทั่งคู่ปรับตลอดกาลอย่าง เรอัล มาดริด
อย่างไรก็ดีดูเหมือน ชาบี เอร์นานเดซ ไม่ได้สนใจ อันซู ฟาติ อีกแล้ว เพราะเขาเริ่มดันดาวรุ่งที่ชื่อ ลามีน ยามาล ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ก่อนจะส่งลงสนามชิมลางในลาลีกา ช่วงปลายฤดูกาล 2022-23 ซึ่งทำให้ ยามาล เป็นนักเตะอายุน้อยสุดของบาร์ซ่าคนปัจจุบันที่ได้เดบิวต์ให้ทีมชุดใหญ่ ด้วยวัย 15 ปี 9 เดือน 16 วัน
จนมาในฤดูกาล 2023-24 อันซู ฟาติ วัย 21 ปี ย้ายมาร่วมทีมไบรท์ตัน ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษเพื่อหวังเรียกความมั่นใจกลับคืนมา แต่กลายเป็นว่าเขาพลาดการลงสนามไปถึงสองเดือนช่วงกลางฤดูกาล เนื่องจากโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอีกครั้ง และจบซีซั่นด้วยตัวเลขลงสนามเพียง 27 นัดรวมทุกรายการ มีผลงาน 4 ประตู 1 แอสซิสต์ ก่อนจะโดนปล่อยตัวกลับต้นสังกัดแบบเหงา ๆ
โดย โรแบร์โต้ เดอ แซร์บี้ อดีตกุนซือไบรท์ตัน เคยพูดถึง อันซู ฟาติ ก่อนแยกจากกันว่า "อันซู ฟาติ เป็นคนอ่อนไหว เขาเป็นนักเตะที่ดี ผู้คนคาดหวังจากเขาสูงมากเสมอ และเขาจำเป็นต้องเข้าใจและยอมรับกับความคาดหวังเหล่านั้นให้ได้ ช่วงแรก ๆ ในอาชีพค้าแข้งของ ฟาติ นั้นยากมากด้วยอาการบาดเจ็บที่เล่นงานเขา"
"แต่นักเตะระดับท็อป สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการปรับตัวให้เข้ากับความคาดหวัง เรากำลังช่วยเขาอยู่ และเขาเองก็ต้องแสดงบางอย่างออกมาให้มากกว่านี้ เพราะสิ่งที่ อันซู ฟาติ ทำอยู่ตอนนี้มันยังไม่เพียงพอ แต่เขาเป็นเด็กดีนะ เวลาที่คุณได้ทำงานกับคนที่นิสัยดี คุณจะรู้สึกดีเมื่อได้ช่วยเหลือพวกเขา"
บาร์เซโลน่า ไม่ใช่เซฟโซนอีกแล้ว
ผลพวงจากฟอร์มอันสุดยอดของบรรดาแนวรุกบาร์เซโลน่า ในฤดูกาล 2023-24 โดยเฉพาะ ลามีน ยามาล ทำให้การกลับมาของ อันซู ฟาติ ในฤดูกาล 2024-25 เหมือนไร้ตัวตนไปโดยปริยาย สถิติต่าง ๆ จากที่เคยเป็นของเขา ถูก ลามีน ยามาล ทำลายลงแบบง่ายดาย
แถมอาการบาดเจ็บก็ยังเล่นงาน อันซู ฟาติ ไม่หยุดหย่อน กล้ามเนื้อแฮมตริงได้รับบาดเจ็บอีกครั้งในช่วงกลางฤดูกาล ซึ่งครั้งนี้ รามอน คูกัต ศัลยแพทย์ของอันซู ฟาติ พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับกองหน้าบาร์เซโลน่า ตั้งแต่ผ่าตัดครั้งแรก ๆ ว่า
"ผมเป็นคนผ่าตัดหัวเข่าให้กับ อันซู ฟาติ แต่ผมไม่ได้เป็นคนดูแลการฟื้นฟูร่างกายของเขา คุณพ่อของ อันซู ฟาติ บอกกับผมว่า ตอนนี้หัวเข่าของลูกชายฟื้นตัวสมบูรณ์แล้ว ปัญหาที่เขามีอยู่ในตอนนี้คืออาการบาดเจ็บตรงแฮมสตริง (กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง) ไม่ใช่หัวเข่า" เขากล่าวกับ Cadena SER
"และปัญหาไม่ได้อยู่ที่การผ่าตัด แต่เป็นที่กระบวนการฟื้นฟูต่างหาก สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้นก็คือแผลผ่าตัดเกิดเปิดออก เพราะนักเตะฝึกซ้อมหนักเกินไป เขาซ้อมวันละสองครั้งทั้งที่ควรจะเป็นหนึ่งครั้ง ทำให้หัวเข่าบวมขึ้น”
"อีกครั้งนะ ผมยืนยันว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การผ่าตัด แต่อยู่ที่กระบวนการฟื้นฟูร่างกาย ผมเชื่อว่า แพทย์ที่ทำการผ่าตัดควรเป็นคนประสานงานโดยตรงกับผู้ที่ดูแลการฟื้นฟู เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ อันซู ฟาติ สามารถกลับไปสู่ระดับเดิมได้ เพราะหัวเข่าของเขาอยู่ในสภาพสมบูรณ์แล้ว"
ถึงจะเป็นคำพูดจากปากหมอ แต่ทางบาร์เซโลน่า ไม่ได้สนใจอีกแล้ว พร้อมมีข่าวว่าจะยึดเบอร์ 10 ของ อันซู ฟาติ ไปให้ ลามีน ยามาล ในฤดูกาล 2025-26 แม้ตัว ยามาล เองจะออกมาประกาศว่าจะไม่เทคแอ็คชั่นใด ๆ จนกว่า อันซู ฟาติ จะย้ายออกจากทีม เพื่อเป็นการให้เกียรติรุ่นพี่
ทั้งนี้หากไม่นับอาการบาดเจ็บ ชาบี มาร์ติน ผู้อำนวยการลา มาเซีย ระหว่างปี 2019 ถึง 2021 ได้ออกมาพูดถึงเรื่องเบอร์ 10 ที่ อันซู ฟาติ ได้รับสืบทอดต่อจาก ลิโอเนล เมสซี่ ว่าเป็นความคิดที่แย่มาก ๆ
"ผมรู้สึกไม่ดีเลยกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ อันซู เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม ผมเชื่ออย่างจริงใจว่า เขาไม่ควรสืบทอดเสื้อเบอร์ 10 มาใส่"
"ถ้าผมอยู่ที่ ลา มาเซีย ตอนนั้น ผมคงจะบอกกับเขาว่า 'อันซู ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาของนาย ถ้ามันจะมา มันก็จะมาเอง' เพราะว่าเขาเป็นเด็กที่คาดหวังในตัวเองสูงมาก และผมคิดว่าเขาได้กดดันตัวเองมากเกินไป"
สุดท้ายจุดจบของผู้สืบทอดเบอร์ 10 ก่อน ลามีน ยามาล คือการที่เขาถูกสโมสรเตรียมขายทิ้ง ... ทำให้ชวนคิดเป็นอย่างยิ่งว่าถ้าในวันที่เขาได้รับบาดเจ็บครั้งแรกที่หัวเข่า และผ่าตัดตามคำแนะนำของคนรอบข้าง จะลงเอยเช่นนี้หรือไม่
แหล่งอ้างอิง
https://www.espn.com.au/football/story/_/id/39865079/brighton-ansu-fati-not-doing-enough-team-de-zerbi
https://www.barcablaugranes.com/2025/4/14/24407952/ansu-fati-told-why-he-should-never-have-accepted-the-no-10-shirt-at-barcelona#:~:text=10%20shirt%20at%20Barcelona,-Reddit%20(opens%20in&text=Ansu%20Fati%20has%20been%20told,in%20the%20last%20few%20years.
https://www.forbes.com/sites/tomsanderson/2022/01/22/was-giving-messis-number-10-to-ansu-fati-a-mistake-by-fc-barcelona/
https://www.goal.com/en/lists/fall-ansu-fati-next-lionel-messi-barcelona-outcast/blt16a2c37fa75f943d#csa18d49de598f4ec4
https://www.bbc.com/sport/football/67002132
https://www.nytimes.com/athletic/5929962/2024/11/19/ansu-fati-injury-barcelona-flick/