Feature

เล่นไม่ดี ... ผีจบ : ภาระ "เดอะแบก" ที่ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส | Main Stand

เกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกเสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 ในพรีเมียร์ลีกเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2025 ต้องบอกว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในยุคการคุมทีมของ รูเบน อโมริม อย่างแท้จริง 

 


และมันเป็นเช่นนี้มาเสมอ ... เมื่อ บรูโน่ เล่นดี แมนฯ ยูไนเต็ด ก็จะเป็นทีมที่ดี มีโอกาสขึ้นเกมรุกสวย ๆ แบบต้องขยี้ตาดูอีก 

และวันไหนที่เขาเล่นไม่ดีสติหลุด เมื่อนั้น ปีศาจแดง ก็พร้อมจะดำดิ่งสู่หายนะเช่นกัน

ทำไมถึงเป็นเช่นนี้เสมอมา ? ติดตามที่ Main Stand 

 

คนที่เคยไว้ใจได้ที่สุด

ไม่ต้องสืบเลยว่านับตั้งแต่หมดยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน การซื้อขายแต่ละดีลของ แมนฯ ยูไนเต็ด ล้มเหลวมากกว่าประสบความสำเร็จหลายเท่า และถ้าจะบอกว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส คือคนที่ซื้อมาและคุ้มค่าที่สุดก็คงไม่ใช่อะไรที่เกินเลยไปนัก หากคุณเอาไปเทียบกับเหล่าสตาร์ค่าตัวแพงอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ, ปอล ป็อกบา, โรเมลู ลูกากู, อังเคล ดิ มาเรีย, ราดาเมล ฟัลเกา และอื่น ๆ อีกมากหมายหลายคน

แมนฯ ยูไนเต็ด ตกอยู่ในเงามืดมานาน และถ้าหากยังไม่ลืมกัน พวกเขาเจ็บช้ำกับกุนซือต่าง ๆ มากมายหลายคน จนกระทั่งได้เจอช่วงเวลาที่ได้ดูฟุตบอลสนุกที่สุด ... แม้จะเป็นความสุขประเดี๋ยวประด๋าวที่ไม่มีโทรฟี่การันตี ก็ตอนที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คุมทีม และไปคว้าตัว บรูโน่ มาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ด้วยราคาราว ๆ 40 ล้านปอนด์ หลังจากวันนั้นมา ทีมที่ไร้ทิศทาง ไร้ผู้นำในเกมการแข่งขัน และขาดความดุดันก็เปลี่ยนไป โดยมี บรูโน่ เป็นศูนย์กลางของทีมแทบจะในทันที

หน้าที่การสร้างสรรค์เกม ลูกเซ็ตพีซ จุดโทษ แอสซิสต์ ยิงประตู และมากไปจนถึงการไล่ตัดบอลด้วยตัวเองทั้ง ๆ ที่เป็นนักเตะที่เล่นเกมรุกเป็นหลัก คือสิ่งที่ บรูโน่ ทำในช่วงเวลานั้น ... จนเกิดวลีอย่าง "ตัวเดียวเสียวทั้งลีก" "คิดไม่ออกบอก บรูโน่" หรือ "บรูโน่ มา" ในเวลานั้น 

สิ่งที่เราเห็นคือ บรูโน่ เข้ามาและใช้เวลาปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าในช่วง 8 เกมแรก มีเพียงเกมเดียวเท่านั้นที่เขาไม่ได้มีส่วนร่วมกับการยิงประตูของทีม นั่นคือเกมแรกในสีเสื้อปีศาจแดง ที่ ยูไนเต็ด เสมอกับ วูล์ฟส์ 0-0 ที่เหลือจากนั้นไม่ยิงก็แอสซิสต์ ชื่อของเขาปรากฏบนสกอร์บอร์ดเสมอมา 

สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้เราสามารถพอจะบอกได้ว่าเขาเป็นนักเตะที่ดี ... แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมกว่านั้น คือการเป็นนักเตะที่เปลี่ยนบรรยากาศของทีมไปอย่างสิ้นเชิง จากทีมที่กลัวแม้กระทั่งการเจอกับ วูล์ฟส์ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นมาไม่กี่ปี ยูไนเต็ด กลับเป็นคนละทีมในเกมดวลกับแชมป์เก่าอย่าง แมนฯ ซิตี้ เขาทำมันได้อย่างไร? แค่คน ๆ เดียวเปลี่ยนทีมได้จริงหรือ ?

สิ่งที่เกิดขึ้นในการซ้อมครั้งแรกของ บรูโน่ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เว็บไซต์ของสโมสรสรุปความคร่าว ๆ ไว้ก็คือ

"เรื่องแมตช์ฟิต ไม่ใช่ปัญหาของเขาเลย เขาลงซ้อมทันทีในวันศุกร์ และหมายเลข 18 ของเราทำให้ทุกอย่างราบรื่น เขายิ้มและหัวเราะกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ของเขา ดูเหมือนว่านักเตะในทีมจะประทับใจกับฝีเท้าของ บรูโน่ เป็นอย่างมาก"

สิ่งที่แตกต่างจากดีลอื่น ๆ คือ การที่ ยูไนเต็ด ได้นักเตะอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส คือพวกเขาได้นักเตะที่อยากจะเล่นให้กับทีม ๆ นี้จริง ๆ แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องเงินนั้นก็เป็นปัจจัยสำคัญ แต่การได้นักเตะที่ "มีความกระหายที่จะลงเล่นให้สโมสร" คือสิ่งที่ ยูไนเต็ด สามารถใช้คำว่า "วิน" ได้มากที่สุดกับดีลนี้ นับตั้งแต่การเซ็นสัญญากับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เมื่อปี 2016 

การจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของทีมในระยะเวลาอันสั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน เขาซื้อใจเพื่อนร่วมทีมได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งทุกอย่างมันสะท้อนออกมาในแต่ละเกม นักเตะของ ยูไนเต็ด เมื่อไม่รู้จะเอาบอลไปไว้ที่ไหน พวกเขามักจะมองหา บรูโน่ เป็นทางเลือกแรก และจากนั้นเพลย์เมคเกอร์ที่พวกเขาไว้ใจจะเป็นคนเลือกเองว่า "ควรจะทำอะไรต่อจากนี้"  

อย่างไรเสีย ความมหัศจรรย์ของ บรูโน่ ก็กลายเป็นดาบสองคมในเวลาต่อมา เพราะคนที่แบกทุกอย่างไว้แบบเขา ไม่เคยรู้เลยว่าสักวันหนึ่งตัวของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปโดยภาระที่ตนแบกไว้ 

 

ความสุนทรีย์ที่หายไป

ความเพลิดเพลินในการดูการเล่นของ บรูโน่ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด หากนับจากวันแรกปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ณ ตอนนี้มันค่อย ๆ เริ่มถดถอยลงเรื่อย ๆ 

คน ๆ เดียวที่เคยบันดาลทุกอย่าง กลายเป็นกัปตันทีมของสโมสร เป็นแทบทุกอย่างในเกมรุก ทว่าหากมองในมุมกลับ การที่ให้ภาระมากมายกับเขา ก็กลายเป็นว่าเกมไหนที่เขาเล่นไม่ออกทีมก็จะเล่นแย่ไปด้วย ... นั่นอาจเป็นเพราะทุกคนได้หลงลืมไปว่า ในทีมระดับท็อปไม่สามารถพึ่งพานักเตะคนเดียวได้ 

บรูโน่ เป็นนักเตะที่เล่นด้วยแพชชั่นและความหลงใหลในเกมสูงมาก หรือถ้าจะให้เรียกตามภาษาบ้าน ๆ ก็จะต้องบอกว่าเล่นตามฟีลตามอารมณ์ของตัวเอง ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งให้กับทีม เพราะวันไหนที่ทีมเล่นดี ช่วยกันขยับ ช่วยกันแย่งบอล และเล่นด้วยความมุ่งมั่นในระดับเดียวกัน บรูโน่ ก็จะเป็นคนที่เล่นแล้วดูสนุกกับทุกจังหวะไปด้วย

ด้วยความที่เป็นคนเล่นตามฟีลและอารมณ์ร่วมของทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมทีม ทำให้ บรูโน่ กลายเป็นนักเตะที่ไม่มีความสม่ำเสมอ ขาดความคงเส้นคงวา และเมื่อนานวันเข้า ทีมที่มีแต่ทรุดลงจากปัญหาทั้งในและนอกสนามก็ทำให้สุนทรีย์ และอิสระในการเล่นของ บรูโน่ ลดน้อยลงไปมาก เขายังได้รับสิทธิ์ในการสร้างสรรค์เกมรุกเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างออกไปก็คือ เขาไม่สามารถทำให้มันแม่นยำ แน่นอน เหมือนกับตอนที่เขาย้ายมาใหม่ ๆ ได้ 

แรก ๆ ก็เกิดการถกเถียงกันในกลุ่มแฟนบอลของ ยูไนเต็ด สำหรับเรื่องนี้ บางคนบอกว่าเห็นด้วยที่ บรูโน่ ฟอร์มตก บางคนบอกว่า บรูโน่ ทำดีแล้วแต่ทีมตามเซ้นส์บอลของเขาไม่ทัน การเสียงแตกเกิดขึ้น แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เมื่อนานวันเข้าสถิติมันฟ้องว่า บรูโน่ ฟอร์มดรอปลงอย่างเห็นได้ 

ประตูและแอสซิสต์ของ บรูโน่ ต่อ 90 นาทีในลีกเริ่มต้นได้อย่างน่าทึ่ง โดยอยู่ที่ 0.83 ต่อ 1 เกมในฤดูกาลแรกในลีกที่สโมสร ทว่าในช่วงสี่ฤดูกาลถัดมา ตัวเลขดังกล่าวลดลงอย่างมากเหลือเพียง 0.40 ต่อ 90 นาทีในฤดูกาล 2023-24

สถิติดังกล่าวบ่งชี้ว่าผู้เล่นคนนี้มีส่วนในการยิงประตูและแอสซิสต์ต่อเกมที่ไม่ใช่จุดโทษน้อยลงกว่าครึ่งหนึ่งหากเทียบเมื่อฤดูกาล 2023-24 กับฤดูกาล 2019-20 ซึ่งเมื่อเรามองดูฟอร์มในสนามของเขากับทีมในซีซั่น 2024-25 ต้องบอกว่ายิ่งน่าใจหายเข้าไปอีก เพราะนอกจากสถิติเชิงตัวเลขที่ลดลงแล้ว ภาพของความผิดพลาดในการจ่ายบอล และการยิงประตูในจังหวะแบบจัง ๆ เน้น ๆ ของเขาเกิดขึ้นเป็นประจำ 

และเมื่อสถิติกับภาพที่ฟ้องในสนามเป็นเช่นนั้น เรื่องต่าง ๆ ก็ตกไปเป็นที่วิจารณ์ตามกันมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาวะการเป็นผู้นำ ที่เขาโดนวิจารณ์ว่าเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ไม่เหมาะกับการสวมปลอกแขนกัปตัน เขาเป็นคนที่บ่นเพื่อน บ่นกรรมการ และหลายครั้งต้องโดนใบเหลืองหรือแม้กระทั่งใบแดงโดยใช่เหตุ ... และเมื่อ บรูโน่ ไม่อยู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็กลายเป็นทีมที่ตีบตันในการสร้างสรรค์เกมรุกไปตาม ๆ กัน เหมือนกับผลกระทบลูกโซ่ 

แม้ว่าบรูโน่จะยังเป็นผู้เล่นที่ยิงประตูและแอสซิสต์ได้ดีที่สุดให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด แต่เพลย์เมคเกอร์ รายนี้ก็ต้องพบกับผลงานและฟอร์มการเล่นที่ตกต่ำลงเรื่อยๆ นอกจากเรื่องการแบกทีมมากเกินไป ปีแล้วปีเล่า สิ่งที่เขาอาจจะลืมไปคือตอนนี้เขาผ่านเกมมาเยอะมาก และแทบไม่ได้พัก ซึ่งตอนนี้เขาอายุ 30 ปีแล้ว ความฟิต เรี่ยวแรง และความคล่องแคล่ว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของนักเตะเกมรุกจะดรอปลงไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

สิ่งที่น่าเห็นใจคือความเครียดและภาระที่มากเกิน สวนทางกับอายุที่มากขึ้นและสังขารที่ดรอปลง ทำให้จินตนาการของ บรูโน่ หดหายไปด้วย ยิ่งมาเจอเพื่อนร่วมทีมที่ไม่สามารถยกระดับคุณภาพกันและกันได้ สุนทรียภาพในเกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด จึงหายไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ 

 

ทุกคนเป็นหนึ่งเดียว 

ทางแก้ของเรื่องนี้มีไม่มากนัก และแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายด้วย ... อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น บรูโน่ ในวัย 30 ปี กับแท็คติกของ รูเบน อโมริม ที่ ณ ตอนนี้ก็ยังฟันธงชัด ๆ ไม่ได้ว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดของ บรูโน่ อยู่ตรงไหน ระหว่างบทบาทของ 1 ใน 2 ตัวรุกหลังกองหน้า หรือมิดฟิลด์คู่กลาง 

ดังนั้น ณ ตอนนี้ เขาต้องหาตำแหน่งประจำของตัวเองให้เจอ ซึ่งมันสำคัญมาก เพราะการได้เล่นในตำแหน่งที่ดีที่สุด และลงเล่นอย่างต่อเนื่องในตำแหน่งนั้น จะทำให้เขาคุ้นชินและค่อย ๆ ปรับจนเจอกับวิธีการเล่นที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์กับทีมมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น หากเขาต้องถอยมาเล่นเป็น 2 มิดฟิลด์ตัวกลางและปรับตัวได้ ต่อให้เขายิงประตูน้อยลง แต่ถ้าเขาสามารถสร้างเกมรุก ช่วยเกมรับ เปิดบอลยาว และเป็นตัวสอดมาจากข้างหลัง ก็ถือว่าเป็นการทดแทนที่ดี 

นอกจากนี้สมมุติว่าเขาต้องเล่นกองกลางจริง มันก็อาจจะมีประโยชน์กับทีมตรงที่ตำแหน่งเกมรุกจะเปิดขึ้น 1 ตำแหน่ง เพื่อให้ทีมหาตัวที่เหมาะสม สุดกว่า คล่องกว่า และตรงกับกลยุทธ์แท็คติกมากกว่า และถ้า อโมริม หรือ แมนฯ ยูไนเต็ด เจอคนนั้น หน้าที่และภาระในสนามของบรูโน่ก็จะน้อยลง แต่ในทางกลับกัน จ๊อบของเขาก็ชัดขึ้น และเมื่อมันชัดเจน เขาก็จะได้โฟกัสที่งานของตัวเองย่างเต็มที่ ไม่ต้องจับปูใส่กระด้งเหมือนทุกวันนี้ 

และแน่นอน สิ่งสำคัญที่สุดที่ขาดไม่ได้เลยคือ ทุกคนในทีมต้องเลิกมอง บรูโน่ เป็นคนเดียวที่สร้างสรรค์เกมได้ เพราะฟุตบอลคือกีฬาประเภททีม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโมเดิร์นฟุตบอลนั้น เกมรุกที่ดีที่สุดคือการเล่นเกมรุกพร้อมกันทั้งทีม และทุกคนเข้าใจตำแหน่งหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ รับผิดชอบหน้าที่ตัวเองให้ดีและผิดพลาดน้อยที่สุด จากนั้นทุกคนจะเหลือเวลาและพื้นที่คอยช่วยเหลือเพื่อนที่กำลังเจอสถานการณ์ที่ยากลำบาก 

หากทุกคนในทีมของ แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน เข้าใจแท็คติกอย่างแตกฉาน มีความมุ่งมั่นในการจะเป็นผู้ชนะ และมีหัวจิตหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ พวกเขาก็จะมีเกมดี ๆ ที่ทุกคนจะได้รับคำชมถ้วนหน้า ไม่ใช่แค่ บรูโน่ คนเดียวเหมือนในอดีต ... ตัวอย่างที่ชัดที่สุดก็เกมที่เสมอกับ ลิเวอร์พูล 2-2 ที่ แอนฟิลด์ นั่นแหละ ถ้าใครได้ดูเกมนั้นก็จะเข้าใจเป็นอย่างดีว่า เมื่อทุกคนไม่ผิดพลาด บรูโน่ ก็จะทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากขึ้น 

และเมื่อ บรูโน่ ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี มีโฟกัส มีสมาธิ เขาก็จะสามารถสร้างความแตกต่างได้มากมาย ทั้งจังหวะเอาตัวรอด และการออกบอลที่ได้เปรียบ

คำถามคือหลังจากนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะรักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ได้อย่างคงเส้นคงวาหรือไม่ ... มันไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน เพราะถ้าอยากจะทำได้ หัวใจของทุกคนต้องเท่ากัน ความเข้าใจ ความมุ่งมั่น ทัศนคติ จะต้องไปทิศทางเดียวกันทั้งทีม 

แน่นอนว่าปัญหานี้ รูเบน อโมริม รู้ดีและพูดถึงมาตลอด เขาบอกว่ามันไม่เกี่ยวกับเรื่องของแท็คติก แต่มันเป็นเรื่องของหัวใจต่างหากที่ทำให้ ยูไนเต็ด เก็บผลการแข่งขันที่ดีจากคู่แข่งที่แข็งแกร่งจาก ลิเวอร์พูล ได้ถึงแอนฟิลด์

บรูโน่ เองเป็นคนที่แสดงแพชชั่นแบบที่ อโมริม เรียกร้องมาเสมอ ... ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อนร่วมทีมจะยกระดับจิตใจขึ้นมาทำให้หัวใจใหญ่เท่ากันได้หรือไม่ 

ถ้าไม่ได้ บรูโน่ จะเป็นคนตัดสินทุกอย่างในทีมนี้ไม่เปลี่ยนแปลง และมันจะถดถอยลงเรื่อย ๆ ดังสถิติและเหตุผลที่กล่าวมา

กลับกัน ถ้าทุกคนมีแพชชั่นและมุ่งมั่นได้เหมือนกับ บรูโน่ ... เมื่อนั้นเราจะได้เห็นร่างทองของเขา ซึ่งเป็นร่างที่จะช่วยยกระดับทั้งทีมได้แบบเห็นภาพชัดอย่างแท้จริง 

 

แหล่งอ้างอิง

https://inews.co.uk/sport/football/man-utd-bruno-fernandes-time-drop-3296446?srsltid=AfmBOopzhV1Dl2gbY2RqUXRD0vrJhJHhjK9BfM8cX84DklIyV0ZLkiPL
https://www.eurosport.com/football/premier-league/2024-2025/bruno-fernandes-questions-manchester-united-players-after-liverpool-draw_sto20068347/story.shtml
https://www.football365.com/news/roy-keane-lays-down-non-negotiable-gauntlet-for-bruno-fernandes-to-end-man-united-misery
https://www.transfermarkt.com/77-drop-in-goal-contributions-why-man-utd-cant-rely-on-bruno-fernandes-anymore/view/news/444435
https://www.reddit.com/r/PremierLeague/comments/15w8qzp/bruno_fernandes_might_be_one_of_the_worst_captains/?rdt=33372

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา