Feature

เอ็มบัปเป้ vs เอ็นดริค : คู่วัดที่สื่อจับใส่หัวโขนให้เป็น "คนไม่ถูกกัน" | Main Stand

ก่อนที่ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ จะย้ายมาอยู่กับ เรอัล มาดริด มีคำถามหนึ่งที่อยู่บนหน้าสื่อตลอดคือ "เอ็มบัปเป้ กับ วินิซิอุส จูเนียร์ ใครจะได้เล่นตรงไหนในแนวรุก ?" หรือไม่ก็ออกแนวว่า "ใครจะเป็นผู้นำเกมรุกของทีม ?" กันแน่

 

ทว่าหลังจากที่ฤดูกาล 2024-25 เริ่มขึ้น ... ดูเหมือนว่าประเด็นการเปรียบเทียบระหว่าง เอ็มบัปเป้ กับ วินิซิอุส หายไปแล้ว เพราะคู่เปรียบของ เอ็มบัปเป้ กลับกลายเป็นดาวรุ่งบราซิลวัย 18 ปีอย่าง เอ็นดริค ซะอย่างนั้น 

ทำไปอยู่ดี ๆ มวยถึงเปลี่ยนคู่ แถมนักเตะที่เพิ่งเคยค้าแข้งในลีกยุโรปปีแรก กลับขึ้นมาท้าทายนักเตะระดับแบกทีมเป็นแชมป์โลกอย่าง เอ็มบัปเป้ ได้อย่างที่แฟนบอลเห็นคล้อยตามกันไปด้วยได้ขนาดนี้อย่างไร ?

ติดตามเรื่องราวที่ Main Stand 

 

เด็กมันห้าว 

อย่างที่ได้กล่าวไปในเกริ่นนำ เอ็มบัปเป้ กับ วินิซิอุส เป็นคู่แข่งกันในครั้งแรกที่สื่อคาด เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันยาก ในอดีตมันเป็นแบบนั้นเสมอ ไม่มีทีมไหนที่มีนักเตะที่สำคัญที่สุดพร้อมกัน 2 คน ไม่ว่าจะในแง่ผลงานในสนามและความโดดเด่นที่สื่อและแฟนบอลมอบให้ 

สำหรับชื่อเสียงส่วนตัว เอ็มบัปเป้ อาจจะโด่งดังมาก่อน แต่ที่ มาดริด วินิซิอุส คือขวัญใจคนเดิมและนักเตะที่อยู่เบื้องหลังแชมป์ถ้วยใหญ่มากมายในช่วงหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา และเมื่อฤดูกาล 2024-25 เริ่มขึ้น ฟอร์มของ วินิซิอุส ก็ยังโดดเด่นเหมือนที่ผ่าน ๆ มา แต่กลายเป็นว่า เอ็มบัปเป้ ต้องใช้เวลาสักพัก กว่าจะยิงประตูแรกในลีก และจนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังดูเก้ ๆ กัง ๆ และยังปรับตัวเข้ากับทีมไม่เนียบกริบไร้รอยต่อแต่อย่างใด 

ดังนั้นมันก็ชัดเจนดังที่ทุกคนเห็น วินิซิอุส ยังคงเป็น "เอซ" ของทีมแบบไม่สั่นคลอนในช่วงเวลานี้ ... และเมื่อเป็นเช่นนี้มันจึงทำให้สื่อจะต้องพยายามหาเรื่องราวที่น่าสนใจ หรือว่าง่าย ๆ คือ "ขุดประเด็น" จึงละทิ้งการเปรียบเทียบระหว่าง เอ็มบัปเป้ กับ วินิซิอุส และหาคู่เปรียบใหม่ที่ได้เอนเกจเมนต์ในโซเชี่ยลมากกว่า 

คุณปฏิเสธความจริงข้อนี้ไม่ได้เลย สื่อฟุตบอลทุกเจ้า มั่นใจได้เลยว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องเอนเกจเมนท์เป็นอันดับ 1 ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการทำอะไรสักอย่างให้มันดูน่าสนใจ น่าตื่นเต้น หรือทำให้มันมีอะไรขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วมันอาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่เลยด้วยซ้ำ  

จากจุดนี้เองจึงทำให้เป้าของสื่อเปลี่ยนไป วินิซิอุส รอดตัวด้วยฟอร์มที่เป็นพระเอกเบอร์ 1 แบบภาพชัด ๆ ไปแล้ว พวกเขาจึงจำเป็นต้องหาเป้าใหม่ จะเปรียบเทียบกับใครได้อีกล่ะ ? โรดรีโก้ ไม่ใช่ชื่อที่เรียกคลิกหรือความสนใจโซเชี่ยลได้มากนัก, ตัวรุกคนอื่น ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทั้ง บราฮิม ดิอาซ, อาร์ด้า กือแลร์ พวกนี้ก็เป็นเบอร์เล็กเกินไป 

เดชะบุญของสื่อที่ในช่วงเวลาเดียวกันที่ เอ็มบัปเป้ ย้ายมา มีนักเตะดาวรุ่งที่น่าสนใจอย่าง เอ็นดริค ย้ายมาในเวลาไล่เลี่ยกัน และตัวของ เอ็นดริค ก็ถือว่าเป็นวันเดอร์คิดที่คนรู้จักเยอะ จากฟอร์มกับทีมชาติบราซิลที่ติดธงตั้งแต่อายุ 17 ปี ไหนจะจะเรื่องฉายาของเขาที่ถูกตั้งว่า "นิว เปล่" บ้างก็ไปเปรียบเทียบกับ "โรนัลโด้ R9" บ้าง   

นอกจากนี้ เอ็นดริค ยังโดดเด่นเวลาอยู่หน้ากล้องด้วย ทั้งการออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องการพยายามต่อสู้เพื่อครอบครัว ดูแลน้องชายที่อายุห่างกันมาก และที่สำคัญที่สุด ดันเคยมีการเอ่ยปากว่า "นักเตะที่ผมชอบที่สุดคือ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน" ที่กลายเป็นไวรัลและทำให้เขาโดนแซวจนทุกวันนี้ ... การเริ่มหยิบ เอ็นดริค มาเปรียบเทียบจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น 

 

ในสนามดันเล่นดี 

การเปรียบเทียบมันจะไม่แปลกอะไรเลยถ้า เอ็มบัปเป้ ยิงกระฉูดรูดชิ่ง เล่นเข้ากันกับเพื่อนทุกอย่าง และโดดเด่นเกินหน้าเกินตา เอ็นดริค ที่สื่อจับมาเทียบกันแบบจับแพะชนแกะ ทั้ง ๆ ที่ชื่อเสียงความสำเร็จ เอ็นดริค เป็นรอง เอ็มบัปเป ทุกอย่าง

แต่บังเอิญว่าเมื่อ เอ็นดริค ในวัย 18 ปี ได้ลงสนามให้กับ เรอัล มาดริด ความแตกต่างและเรื่องที่ทำให้สื่อหยิบมาเปรียบเทียบก็มากขึ้นเรื่อย ๆ และการเป็นกองหน้า สิ่งที่จะเทียบกันง่ายที่สุดก็คือการยิงประตู

เอ็มบัปเป้ กว่าจะยิงประตูในเกมลีกลูกแรกให้ เรอัล มาดริด ได้ต้องใช้เวลารอถึง 3 เกม และในแต่ละเกม เขาเป็นนักเตะที่มีสถิติการลุ้นยิงประตูมากที่สุดในลา ลีกา อีกด้วย ... ในขณะที่ เอ็มบัปเป้ กำลังโดนสื่อเล่น เอ็นดริค กลับโผล่ขึ้นมาและยิงประตูแรกของตัวเองได้ตั้งแต่นัดแรกที่ลงสนาม โดยเจ้าตัวโดนปลี่ยนมาในช่วงท้ายเกม และยิงประตูทันทีในเกมที่ มาดริด ชนะ เรอัล บายาโดลิด 3-0

"ขณะที่ เอ็มบัปเป้ กระเสือกกระสนในการหาประตูแรก เอ็นดริค กลับใช้เวลาแค่ 3 นาทีท่านั้น" ESPN พาดหัวแบบนี้ แถมยังแนบท้ายว่า เอ็นดริค ทำลายสถิตินักเตะต่างชาติที่อายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูให้กับ เรอัล มาดริด ได้ ด้วยวัย 18 ปี 35 วัน เรียกได้ว่านอกจากจะเอามาเปรียบเทียบกันบนพาดหัวแล้ว ยังขยี้ข่าวซ้ำในแง่ที่ว่า เอ็นดริค จะเป็นความหวังใหม่ของทีมอีกด้วย 

จากการเปรียบเทียบที่เริ่มจากประตูแรก ซึ่ง เอ็นดริค ยิงได้ก่อน ก็กลายเป็นว่ามันจุดติดได้จริง ๆ เพราะกระแสในโลกโซเชี่ยลดูจะสนุกกับเรื่องนี้ และสื่อก็ไม่ปล่อยให้มันหลุดมือ หลังจากนั้นไม่นาน มีการหยิบประเด็นที่ เนย์มาร์ ออกโรงเตือนน้อง ๆ ทีมชาติบราซิลใน เรอัล มาดริด ว่าจะต้องเจอกับฝันร้ายในการเล่นกับนักเตะอย่าง เอ็มบัปเป้ เพราะเอ็มบัปเป้ เป็นนักเตะที่ขี้เกียจเล่นเกมรับและต้องรอคนเอาบอลมาให้ 

ข่าวหลายสำนักลงเรื่องราวนี้ แต่มันจริงไหมไม่มีใครรู้ เพราะไม่มีคำสัมภาษณ์ที่ออกจากปาก เนย์มาร์ เลยแม้แต่คำเดียว  มีเพียงการกล่าวอ้างวงในเท่านั้น ซึ่งเราก็รู้กันดีว่าของแบบนี้ แม้จะมีบางครั้งที่เป็นเรื่องจริง แต่ส่วนใหญ่บ่อยครั้งมันจะเป็นการเต้าข่าวเอากระแสมากกว่า

ดูเหมือนสื่อจะบอกว่าตอนนี้ เอ็นดริค เป็นนักเตะที่ดูจะต่อกันติดกับเพื่อน ๆ บราซิล อย่าง วินิซิอุส และ โรดรีโก้ มากกว่า แม้ฟอร์มในสนามอาจจะไม่ชัดขนาดนั้น แต่ถ้าเทียบเอ็นดริคกับ เอ็มบัปเป้ แน่นอว่า เอ็นดริค เป็นมวยรอง และมวยรองมักจะถูกสื่อยกหางเสมอเพื่อให้ไฟต์นี้น่าสนใจ ทั้ง ๆ ที่ตัวนักเตะทั้ง 2 คนอาจจะไม่ได้คิดอะไรด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่ามันหยุดไม่ได้แล้ว เพราะอะไรที่ขายได้ สื่อไม่เคยทิ้งมันง่าย ๆ อยู่แล้ว

 

คู่แข่งที่สื่อปั้น อาจเป็นคู่แข่งจริง ๆ 

ประเด็นระหว่าง เอ็มบัปเป้ กับ เอ็นดริค เริ่มกลายเป็นเรื่องที่พูดถึงกันมากขึ้นในเวลานี้ มีบทวิเคราะห์ของ ONE Football บอกว่า เอ็นดริค เริ่มโดดเด่นขึ้นมาบนหน้าสื่อเป็นอย่างมาก เพราะเป็นนักเตะที่มีคาแร็คเตอร์ในสนามที่ดี มีความมุทะลุดุดัน ขณะที่นอกสนามก็ยังชอบให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงหลาย ๆ เรื่องที่น่าสนใจ ไม่แปลกที่เขาจะถูกพูดถึงและเป็นที่รู้จักมากขึ้นในทุก ๆ วัน

ยิ่งล่าสุดมีประเด็ดเรื่องจังหวะลูกยิงของ เอ็นดริค ในเกมที่ มาดริด เปิดบ้านชนะ สตุ๊ตการ์ท 3-1 โดยเป็นจังหวะที่เขาเลี้ยงบอลมาจากจังหวะสวนกลับ โดยมี วินิซิอุส วิ่งอยู่ด้านขวา และมีเอ็มบัปเป้ วิ่งรออยู่ฝั่งซ้าย ซึ่งทั้งคู่อยู่ในตำแหน่งที่รับบอลและเข้าไปดวลเดี่ยวกับประตูได้เลย 

แต่สุดท้าย เอ็นดริค กลับเลือกยิงในจังหวะนั้น ซึ่งมีการวิเคราะห์ภายหลังว่ามีค่า xG อยู่ 0.05 หรือถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพคือโอกาสยิง 20 ครั้งจะเข้าสักครั้ง กลับจบลงด้วยการยิงที่เข้าประตูไป เป็นประตูแรกของ เอ็นดริค พร้อมทำสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดของ เรอัล มาดริด ที่ยิงในแชมเปี้ยนส์ลีกได้อีกด้วย

จุดนี้ไม่เท่าไหร่ โฟกัสมันดันไปอยู่ที่ภาพถ่ายหลังจากประตูนี้ที่ เอ็นดริค กำลังฉลองกับนักเตะมาดริดคนอื่น ๆ ขณะที่ภาพด้านไกลดันมี เอ็มบัปเป้ ที่กำลังมองค้อนด้วยสีหน้าไม่พอใจ (สิ่งที่สื่อกำกับไว้) 

แม้ในความจริง เอ็มบัปเป้ อาจจะไม่ได้คิดอะไร หรืออาจจะเป็นแค่จังหวะถ่ายภาพที่เป๊ะพอดี และถ้าคิดให้มันดูร้ายที่สุดก็คือการที่นักข่าวตั้งกล้องรอจังหวะนี้พอดิบพอดีเพื่อให้ได้ภาพที่เป็นประเด็นนี้มา และผลตอบรับของภาพมันก็เป็นไวรัลจริง ๆ 

ณ ตอนนี้ เอ็นดริค ดูจะเป็นมวยรองที่หลายคนเชียร์มากขึ้นแล้ว แม้เขาจะยังอยู่ห่างไกลจากระดับของ เอ็มบัปเป้ แต่ใครจะรู้ จากสิ่งที่เขาแสดงออกมาตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขากำลังเข้าใกล้ระดับการเล่นของกลุ่มแนวรุกของ มาดริด คนอื่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่ เอ็มบัปเป้ แต่มันรวมถึง วินิซิอุส, โรดรีโก้ และคนอื่นด้วย 

ส่วนเรื่องของ เอ็มบัปเป้ และ เอ็นดริค ในการเปรียบเทียบนั้นก็คงเป็นประเด็นคลาสสิกที่สื่อจะเล่นกันต่อไปจนกว่าที่ประเด็นนี้จะไม่กลายเป็นที่สนใจของแฟน ๆ อีกต่อไปแล้ว

 

แหล่งอ้างอิง

https://medium.com/@stirlingj1982/in-defence-of-endrick-f947f2f2edda
https://www.chinadaily.com.cn/a/202408/27/WS66cd3d36a31060630b925234.html
https://hypebeast.com/2024/9/endrick-gen-ea-sports-ambassador-program-interview
https://tribuna.com/en/news/realmadrid-2024-09-18-some-fans-believe-mbappe-was-angry-with-endrick-for-his-goal-explained/

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ