Feature

คนเราเปลี่ยนทีมเชียร์ไม่ได้ แล้ว "#เฟรนด์บอลเลสเตอร์" มีเพื่ออะไร ? | Main Stand

"คุณสามารถเปลี่ยนภรรยา คุณสามารถเปลี่ยนพรรคการเมือง, ศาสนา ... แต่คุณเปลี่ยนทีมฟุตบอลที่เชียร์ไม่ได้" เอริค คันโตน่า ได้กล่าวประโยคคลาสสิกนี้เอาไว้เมื่อนานมาแล้ว 

 


ถ้าคุณรักทีมฟุตบอลทีมไหนมาก ๆ คุณย่อมรู้ว่านี่คือเรื่องจริง การเปลี่ยนทีมเชียร์นั้นทำได้ยากยิ่ง ต่อให้ทีมรักของคุณจะแย่หรือเลวร้ายแค่ไหน แต่มันก็เป็นความสัมพันธ์ที่ตัดกันไม่ขาด 

และ เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรที่เริ่มมีชื่อเสียง พร้อมหาฐานกองเชียร์ชาวไทยหลังจากทีมยักษ์ใหญ่อื่น ๆ ก็รู้ความจริงข้อนี้เป็นอย่างดี และนั่นทำให้เกิดแคมเปญที่ชื่อว่า  #เฟรนด์บอลเลสเตอร์ 

เพราะพวกเขาไม่ต้องการเป็นมือที่ 3 ของคุณและทีมที่คุณรัก ... แต่จะทำอย่างไรล่ะให้คุณหันมาเชียร์และให้กำลังใจ เลสเตอร์ ซิตี้ บ้าง ?  

 

ฟุตบอลมันเปลี่ยนกันไม่ได้ 

อย่างที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น ประโยคของ เอริค คันโตน่า สะท้อนความจริงของแฟนฟุตบอลพันธุ์แท้ที่ล้วนแต่อยู่ในอาการ "รักแล้วรักเลย" ไม่ว่าจะเหตุการณ์อะไรจะเกิดขึ้น ก็ยากที่จะเปลี่ยนใจ หรือตัดขาดทีมที่ตัวเอง "ตกลงปลงใจ" ไปได้ 

ฟุตบอลอังกฤษ ก้าวเข้ามาหาชาวไทยก่อนใครเพื่อน ย้อนกลับไปในยุค 40-50 ปีก่อน และต้องยกให้เป็นผลงานของตำนานนักข่าวกีฬาอย่าง เอกชัย นพจินดา หรือ "ย.โย่ง" ที่เปรียบเหมือนคัมภีร์ฟุตบอลในยุคที่คนแทบไม่มีทางได้รับข้อมูลโดยตรงจากสื่อด้านกีฬาของประเทศต้นทางอย่างอังกฤษเลย 

ช่วงเวลานั้น ย.โย่ง รันวงการด้วยการแปลข่าวฟุตบอลอังกฤษจากต้นทางลงในหนังสือพิมพ์รายวันต่าง ๆ จนกระทั่งเริ่มมีความนิยมเกิดขึ้น สู่การถือกำเนิดของนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์เฉพาะทางอย่าง สยามกีฬา และ สตาร์ซ็อคเกอร์รายวัน ซึ่งเป็นสื่อเจ้าแรกที่ส่งนักข่าวไปใช้ชีวิตอยู่กินที่อังกฤษ เพื่อเกาะติดข่าวสารและส่งถึงมือคนไทยอย่างรวดเร็วที่สุด

บวกกับที่ฟุตบอลอังกฤษนั้นมักจะมีการถ่ายทอดสดบ้าง แห้ง (เทปบันทึกการแข่งขัน) บ้างในช่องฟรีทีวีของประเทศไทยเสมอ จึงทำให้ทีมดังในอังกฤษค่อย ๆ เข้าไปอยู่ในหัวใจแฟนฟุตบอลชาวไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ  และมันก็เหมือนกับการส่งต่อกันแบบรุ่นสู่รุ่น พ่อเชียร์ ลูกก็เชียร์ กลายเป็นเชียร์กันทั้งบ้านไปโดยปริยาย ต่อให้ไม่ใช่ทีมเดียวกัน แต่โฟกัสก็ไม่พ้นเหล่าบิ๊กทีมอยู่ดี 

ดังนั้นการที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ถูกเทคโอเวอร์โดยกลุ่มทุน คิง เพาเวอร์ จากประเทศไทยนั้น กว่าจะก้าวลงสู่สนามของการ "ซื้อใจแฟนฟุตบอลไทย" ก็ต้องบอกว่ามาช้ากว่าจุดเริ่มต้นหลายสิบปี (เริ่มเทคโอเวอร์ในปี 2010) การจะชิงหัวใจแฟนฟุตบอลไทยมาจากเหล่ายักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีกนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ 

อย่างไรก็ตาม การถอดใจตั้งแต่ยังไม่ได้ลองลงมือทำ ไม่ใช่ DNA ของ เลสเตอร์ ... อย่างที่เรารู้กัน คิง เพาเวอร์ ไม่ใช่แค่เข้าเทคโอเวอร์และเป็นเจ้าของไปวัน ๆ แต่ เลสเตอร์ ซิตี้ ในยุคของพวกเขาอยู่ในช่วงที่ประสบความสำเร็จมากมาย สร้างเซอร์ไพรส์หลายเหตุการณ์ อีกทั้งยังมีนักเตะที่มีคาแร็คเตอร์เด่น ๆ โดดขึ้นมาหลายคน ซึ่งจุดนี้เป็นเหมือนคะแนนเสียงธรรมชาติที่ทำให้มีแฟนบอลหน้าใหม่เกิดขึ้น 

ไม่ใช่แค่นั้น ในขณะเดียวกัน แฟนบอลทีมอื่น ๆ ที่อาจจะยังไม่ได้ปักใจลงลึกกับทีมนั้น ๆ ก็ได้ตามเข้ามาเพราะผลงานอันเหลือเชื่อของทีมชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2015-16 พร้อมด้วยนักเตะที่มีคาแร็คเตอร์จัด ๆ อย่าง เจมี่ วาร์ดี้, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ริยาด มาห์เรซ, ชินจิ โอกาซากิ และคนอื่น ๆ อีกหลายคนที่ได้พาสโมสรปักหมุดขึ้นมาในฐานะทีมที่น่าสนใจทีมใหม่แห่งยุค 

ตำนานแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2015-16 ทำหน้าที่ของมันอย่างแข็งขัน แต่แค่นั้นยังไม่พอ เพราะ เลสเตอร์ ยังต้องการพลังใจ และแรงเชียร์จากกองเชียร์ชาวไทยอีกมาก  เพราะพวกเขารู้ว่าสโมสรแห่งนี้ยังมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นมาสร้างตำนาน และเวอร์ไพรส์ให้กับโลกฟุตบอลได้อีกครั้ง ภายใต้การบริหารของ “คุณต๊อบ” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ที่ให้ความสำคัญทั้งเรื่องของความสำเร็จ และการเป็นสโมสรที่จะสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยในเวทีระดับโลก   

ดังนั้น แคมเปญที่ชื่อว่า #เฟรนด์บอลเลสเตอร์ จึงได้ถือกำเนิดขึ้น และถือเป็นการประกาศตัวที่ชัดเจน แบบไม่มีหมกเม็ดใด ๆ ทั้งสิ้น 

 

ไม่ได้เป็นที่ 1 ไม่เป็นไร … ขอเป็นที่ 2 ในใจก็ยังดี 

แคมเปญ #เฟรนด์บอลเลสเตอร์ เริ่มขึ้นอย่างจริงจังและเห็นภาพกันชัด ๆ จนถูกพูดถึงเป็นกระแสหมู่มากในช่วงเปิดฤดูกาล 2024-25 ที่ผ่านมา เป้าหมายก็ตรงตามชื่อแคมเปญ เรียบง่ายและตรงไปตรงมาอย่างที่สุด นั่นคือ "ไม่ใช่แฟนแต่ขอเป็นเพื่อนรัก (เฟรนด์) ก็ยังดี"  

"พวกเราต่างรู้กันดีว่า เลสเตอร์ เป็นทีมของคนไทย และเป็นความภูมิใจของคนไทย เราเชื่อว่ายังมีแฟนบอลอีกมากมายหลายคนที่แอบ ๆ เชียร์แอบปันใจให้กับ เลสเตอร์ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ... แต่ ณ ตอนนี้เราอยากปลุกพลังเงียบเหล่านั้นให้ลุกขึ้นและแสดงตัวตนขึ้นมา" 

"เราเข้าใจความรู้สึกของแฟนบอลเป็นอย่างดี เมื่อเขารักทีมไหนไปแล้ว เราไม่สามารถเข้าไปเป็นมือที่ 3 หรือไปแย่งแฟนของเขาได้ แต่เราขอแค่เป็นเฟรนด์ เป็นเพื่อนของเขา เราอยากให้พวกเขาเข้ามาซัพพอร์ทเลสเตอร์ ให้เป็นทีมที่เชียร์เป็นทีมที่สอง”

“ส่วนทาง เลสเตอร์ ก็พร้อมที่จะสร้างความสำเร็จ และความสุขในฐานะทีมของคนไทย พร้อมทั้งสร้างภาพจำที่ชัดเจนของสโมสรฟุตบอลที่ไม่เคยถอดใจและพร้อมสร้างความสนุกให้เกิดขึ้น และทำให้รู้ว่าทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ ในทุก ๆ ครั้งที่แฟนฟุตบอลชาวไทยได้ดูเกมการแข่งขันและให้กำลังใจทีมของเรา" ทีมงานของ คิง เพาเวอร์ ผู้อยู่เบื้องหลังแคมเปญ #เฟรนด์บอลเลสเตอร์ เปิดใจกับ Main Stand อย่างตรงไปตรงมา 

ถ้าหากเราจะพูดตรง ๆ ในฐานะแฟนฟุตบอลคนหนึ่ง เชื่อว่าเราล้วนเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมดเป็นอย่างดี การที่สโมสรเลสเตอร์ จะทำแคมเปญต่าง ๆ เพื่อทำให้แฟนบอล ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และทีมอื่น ๆ บอกว่าตัวเองเชียร์ เลสเตอร์ ซิตี้ แบบทั้งใจและทุ่มสุดตัว มันคงเป็นอะไรที่ฝืนธรรมชาติ และใคร ๆ ก็มองออกในทันที 

แต่การขอเป็นทีมเชียร์ทีมที่สอง ถือว่าเป็นข้อเสนอที่ไม่มากเกินไป และเป็นไปได้สำหรับแฟนบอลทุก ๆ คน เพราะเชื่อว่าใครที่ดูฟุตบอล ก็คงไม่ได้ตามดูแค่ทีมรักของตัวเองทีมเดียวเท่านั้นอยู่แล้ว ยิ่งในยุคสมัยที่ฟุตบอลหาดูง่ายแบบนี้ การมีทีมให้เชียร์อีกสักทีมก็ล้วนมีแต่สิ่งดี ๆ ทั้งนั้น 

เลสเตอร์ ซิตี้ สามารถเป็นที่พักใจในวันที่ทีมรักอันดับ 1 ของคุณฟอร์มไม่ดี หรือแม้กระทั่งในวันที่คุณมีเวลาว่างในสุดสัปดาห์ที่ตรงกับวัน-เวลา ที่เลสเตอร์ ลงแข่งขันพอดี คุณก็จะมีวิธีเพิ่มความสุขในการดูฟุตบอลมากขึ้น ซึ่งการดูฟุตบอลทีมอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ทีมรักอย่างเดียว ยังทำให้คุณมีโลกทัศน์ในการดูฟุตบอลที่กว้างและไกลกว่าเดิมแน่นอน 

คุณจะได้เห็นคู่แข่ง แท็คติก วิธีการ และนักเตะคนที่คุณอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน และนั่นแหละคือเหตุผลที่ว่าการมี เลสเตอร์ เป็นทีมที่เชียร์ทีมที่สอง จะทำให้คุณมีอรรถรสในการดูฟุตบอลมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ดูฟุตบอลเอาสนุก หรือเป็นคนที่ชอบดูฟุตบอลเพื่อวิเคราะห์แท็คติกการเล่นต่าง ๆ ก็ตอบโจทย์ทั้งสิ้น 

 

ศาลาพักใจที่ชื่อ "เฟรนด์บอลเลสเตอร์" 

หลังจากมีการปล่อยแคมเปญ #เฟรนด์บอลเลสเตอร์ ลงโซเชี่ยลมีเดียแล้ว สิ่งที่ตามมาคือการถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เพราะมีอินฟลูเอนเซอร์ในวงการฟุตบอลหลายคนที่เข้ามาช่วยกันรันแคมเปญนี้ 

"ป๋อง" กพล ทองพลับ เรือจ้างแห่งวงการบันเทิง คือแฟนเดนตายของ อาร์เซน่อล ที่เชียร์มานานนม แต่ก็เป็นหนึ่งในคนที่เข้าร่วมกิจกรรมของ เลสเตอร์ ซิตี้ มาโดยตลอด แถมการมาแต่ละครั้งของเขายังเต็มไปด้วยสีหน้าที่มีความสุข และรอยยิ้ม เหมือนได้มาพบปะเพื่อนสนิท 

เพราะถึงแม้ที่สุดแล้วในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมเชียร์ฟุตบอลร่วมกันที่แม้ เลสเตอร์ จะไม่ชนะ แต่นั่นก็เป็นเรื่องของการแข่งขันที่ของเชียร์อย่างเราเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ เพราะทำได้แค่ซึมซับความสุข และความสนุกที่เกิดขึ้นตลอด 90 นาทีก็พอ 

"ผมรู้ครับว่าทุกคนมีทีมรัก ผมเองก็มี แต่ทุกครั้งที่มีกิจกรรมที่ เลสเตอร์ ซิตี้ จัดขึ้นให้มาดูบอลด้วยกันเนี่ย ผมบอกได้เลยว่าผมมาพร้อมความสุข และกลับบ้านพร้อมกับความสุขทุกครั้ง" พ่อป๋อง กล่าวไม่ทันจบประโยคดี "แจ็คเล็ก" สุวินัย อ่อนสะอาด พิธีกรคู่หู ก็เสริมได้อย่างทันทีว่า

"คือคำว่า เฟรนด์บอลเลสเตอร์ นี่มันตรงและตอบโจทย์ทุกอย่างเลย ทุกคนมีทีมที่ 1 ในใจอยู่แล้ว แต่การมาอยู่ด้วยกันมารวมกันแบบนี้มันทำให้เราตัดสินใจไม่ยากว่าทีมที่ 2 ของเราต้องเป็นเลสเตอร์ ซิตี้  ผมพูดจริง ๆ จากใจแบบไม่ได้แกล้งหรือแสดงอะไรเลยนะ ... ถ้ามีการจัดงานแบบนี้ขึ้นมาอีกในเกมอื่น ๆ ผมบอกได้เลยว่าผมจะมาอีกแน่นอนครับ" 

แค่ประโยคข้างต้นนี้ก็บอกทุกอย่างได้อย่างชัดเจนมากที่สุด ทีมรักคุณชนะคุณดีใจ ทีมรักคุณแพ้คุณเสียใจ มันเป็นธรรมดาที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้สึกแบบนั้น แต่เมื่อคุณมี เลสเตอร์ เป็นทีมที่ 2 และเมื่อคุณเป็น เฟรนด์บอลเลสเตอร์ ... ทีม ๆ นี้จะเป็นเหมือนศาลาพักใจ ที่ที่ทำให้คุณได้สนุกกับการดูบอลแบบไม่ต้องหวังผลแพ้ชนะแบบเอาเป็นเอาตาย หรือดูบอลด้วยความเครียดแบบที่เคยเป็น  

90 นาทีในการดูเลสเตอร์จะเป็นช่วงเวลาที่คุณได้เอาทั้งความสุขและความเซ็งจากทีมรักมาพูดคุยแบ่งปันกับเหล่าเฟรนด์บอลที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ... จากที่เชียร์ทีมเดียวในค่ำคืนเหงา ๆ จะดีกว่าไหมถ้าคุณเปิดใจให้กับทีมอีกทีมหนึ่งที่เป็นเหมือนความภูมิใจของคนไทยทีมนี้ 

และเรามั่นใจว่าคุณจะรู้สึกเหมือนกับ "เรือจ้างแห่งวงการบันเทิง" นั่นคือเมื่อจบเกมคุณจะกลับบ้านและเข้านอนพร้อมกับความสุขของช่วงเวลาใช้ไปอย่างคุ้มค่าแน่นอน 

 

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ