Feature

โรแบร์ ปิแรส : มือพิฆาตแห่งลอนดอนที่ยิงจนแฟน "สเปอร์ส" ชังเข้าไส้ | Main Stand

พูดถึง "นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้" ระหว่าง สเปอร์ส และ อาร์เซน่อล หนึ่งในคนที่ควรค่าต่อการพูดถึงคือ โรแบร์ ปิแรส นักเตะของ อาร์เซน่อล ที่ถูกแฟน สเปอร์ส โหวตให้เป็นนักเตะที่พวกเขาเกลียดที่สุดในช่วงเวลาหนึ่ง 

 


“ผมรู้ว่าแฟนบอลสเปอร์สเกลียดผม มันเป็นความรู้สึกที่ดี !” ปิแรส ว่าแบบนั้น ... เกลียดมา เกลียดไป ปั่นมา ก็ปั่นกลับ นั่นคือวิธีที่เขาตอบสนองมาโดยตลอด 

และเรื่องนี้มีที่มาอย่างไร ติดตามที่ Main Stand

 

"ปีกขวาถนัดซ้าย" มิติใหม่แห่งพรีเมียร์ลีก

การมาของ อาร์แซน เวนเกอร์ ในปี 1996 ทำให้ อาร์เซน่อล เป็นทีมระดับแนวหน้าของลีกได้อย่างรวดเร็ว พร้อมสร้างความแตกต่างให้วงการฟุตบอลอังกฤษที่ส่งผลกระทบต่อทุกทีม 

เดิมทีฟุตบอลอังกฤษไม่ว่าจะทีมใหญ่หรือเล็ก จะมีวิธีการเล่นที่ตั้งต้นจาก "ฟุตบอลไดเร็กต์" นั่นคือการเล่นบอลเร็ว เอาบอลจากหลังไปหน้าให้ได้ภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด ส่วนจะแม่นยำ และใส่รายละเอียดไหนเพิ่มก็เป็นเรื่องที่แยกย่อยไปในแต่ละทีม 

ทว่า อาร์เซน่อล ของ เวนเกอร์ เหมือนกับโมเดิร์นฟุตบอลในสมัยนี้ นักเตะวิ่งและขยับตัวกันมากกว่าปกติ เน้นการครองบอลที่เหนียวแน่น การจ่ายบอลที่แม่นยำ และที่ขาดไม่ได้คือการเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายอันมีแบบแผนชัดเจน ต่อบอลเร็ว วิ่งสลับตำแหน่ง มีตัวหลอก มีตัววิ่งหนึ่ง-วิ่งสอง และตัววิ่งสอด เข้าไปจบสกอร์ 

วิธีการดังกล่าวทำให้นักเตะแนวรุกของ อาร์เซน่อล มักจะทำประตูได้ 10 ลูกขึ้นไปแทบทุกซีซั่น ไม่ใช่แค่กองหน้าคู่อย่าง เดนิส เบิร์กแคมป์ - นิโกล่าส์ อเนลก้า หรือ เบิร์กแคมป์ - เธียร์รี่ อองรี แม้กระทั่งคุณจะหมุนไปใช้ตัวสำรองอย่าง ซิลแว็ง วิลตอร์ หรือ เอ็นวานโก้ คานู ทุกคนมีหน้าที่ค่อนข้างซับซ้อนและหลากหลายกว่ากองหน้าในทีมพรีเมียร์ลีกคนอื่น ๆ 

และเช่นเดียวกัน ในตำแหน่งปีก 2 ข้างภายใต้ระบบ 4-4-2 ของ อาร์เซน่อล ก็แตกต่างกับทีมอื่น ๆ โดยในยุคปลาย 1990s ต่อ 2000s ต้น ผู้เล่นตำแหน่งปีกส่วนใหญ่จะเน้นการยืนชิดเส้น ครอสบอลเก่ง ๆ หรือไม่ก็กระชากไปสุดเส้นหลังและปาดเข้ากลางให้กองหน้าทั้ง 2 ยิงประตูเป็นหลัก แต่ปีกของ อาร์เซน่อล นั้นแตกต่างออกพอสมควร หน้าที่ของพวกเขาคือการเล่นร่วมกับกองหน้า และนักเตะคนอื่น ๆ รอบตัว ทำให้ฟุตบอลเคลื่อนที่ที่ควรจะไป และสุดท้ายคือเมื่อบอลพ้นตัวแล้ว หน้าที่ของพวกเขายังต้องหาพื้นที่ว่างสอดเข้าไปยิงประตู 

เฟรเดอริก ลุงเบิร์ก และ โรแบร์ ปิแรส คือต้นตำรับปีกในแบบที่เรากล่าวมาในพรีเมียร์ลีกก็คงไม่ผิดนัก โดยเฉพาะ ปิแรส ที่บอกว่าเขากลายเป็นนักเตะระดับท็อปได้ ก็เพราะวิธีที่ เวนเกอร์ ติดตั้งไว้ให้กับ อาร์เซน่อล นั่นแหละ 

สถิติการยิงประตูเฉลี่ยของ ปิแรส กับ อาร์เซน่อล ในแต่ละปีถือว่าสูงมากของปีกยุคเก่า ... 84 ประตูจาการลงเล่น 6 ซีซั่น การยิงประตูเกิน 15 ลูกถือเป็นเรื่องธรรมดามาก สำหรับปีกอย่าง ปิแรส .... ส่วนแอสซิสต์นั้นก็มากพอ ๆ กัน ในฤดูกาล 2001-02 ปิแรส เคยเป็นนักเตะที่แอสซิสต์ได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกมาครองอีกด้วย (15 ลูก) 

"ผมเล่นฟุตบอลได้ดีที่สุดในชีวิตก็ตอนอยู่กับ อาร์เซน่อล นี่แหละ ผมมีนักเตะเก่ง ๆ รอบตัว ผมพบว่าการเล่นร่วมกับ เดนิส (เบิร์กแคมป์), คานู และ ลุงเบิร์ก คือเรื่องที่ลงตัวมาก ๆ ส่วนนักเตะฝรั่งเศสยิ่งไม่ต้องพูดถึง พวกเราทำงานร่วมกันในทีมชาติอยู่แล้ว"

"การจะเล่นกับนักเตะต่างชาติไม่ใช่เรื่องง่ายแบบที่หลายคนคิด เพราะคุณไม่ได้เติบโตมากับสไตล์การเล่นฟุตบอลแบบเดียวกันกับพวกเขา แต่ที่ อาร์เซน่อล ทุกอย่างมาลงล็อกเอามาก ๆ นักเตะในทีมสนิทกันเกือบหมด ขณะที่นักเตะท้องถิ่นก็ไม่ได้แยกตัวออกไป พวกเราเป็นกลุ่มเดียวกันจริง ๆ"

เครดิตตรงนี้คุณจะยกให้ใครไปไม่ได้นอกจาก เวนเกอร์ ที่คิดค้นระบบการเล่นการเข้าทำที่ลงตัวจริง ๆ และเขาคือคนแรกที่จับ ปิแรส ซึ่งถนัดเท้าขวา เล่นปีกขวามาตั้งแต่กับ มาร์กเซย และ ฝรั่งเศส ให้มาเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย เพราะมองว่าทักษะการอ่านเกมและคาดเดาสถานการณ์ล่วงหน้าคือจุดเด่นของ ปิแรส ไม่ใช่ความเร็วแบบติดจรวดเหมือนกับปีกอย่าง ไรอัน กิ๊กส์ ดังนั้นถ้าเอา ปิแรส มาคอยกระชาก คอยมาเปิดบอล จะเสียของเปล่า ๆ 

"โรแบร์ ปิแรส คือนักเตะที่โดดเด่นมากในเรื่องวิสัยทัศน์ที่มีในเกม เอาเป็นว่าเขาใช้ความคิดเยอะมากในการเล่น เขามีสมองและไหวพริบที่เหลือเชื่อ" เวนเกอร์ เริ่มกล่าว

"จากจุดเด่นนี้ถ้าเขาเล่นด้านขวา เป็นปีกที่คอนขึ้นเกมฝั่งนั้น ผมคิดว่าเขาจะกลายเป็นผู้เล่นธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ได้ทำงานไม่ตรงความสามารถ ... กลับกันถ้าเขาได้เล่นด้านซ้าย ปิแรส จะได้ใช้คุณสมบัติในตัวเขาทั้งหมดออกมา และมันจะช่วยปิดจุดอ่อนของเขาด้วย ... เมื่ออยู่ทางซ้าย เขาจะกลายร่างเป็นนักเตะระดับโลก" 

ถ้าคุณดูทัน หรืออย่างน้อยลองไปเปิดไฮไลต์แต่ละประตูของ ปิแรส สมัยเล่นให้กับ อาร์เซน่อล คุณจะไร้ข้อสงสัยถึงสิ่งที่ เวนเกอร์ พูด ซึ่ง ปิแรส ก็บอกด้วยตัวเองว่า นอกจากเขาจะอยู่ถูกที่แล้ว การมีคนที่อยู่ข้างหลังเป็น แอชลี่ย์ โคล และอยู่ข้างหน้าเป็น อองรี คือสิ่งที่ให้ฟอร์มของเรากระฉูดรูดชิ่งได้ขนาดนั้น

"ผมประจำการอยู่ฝั่งซ้าย เรา 3 คน ผม แอชลี่ย์ โคล และ อองรี ทำให้เกมฝั่งซ้ายของ อาร์เซน่อล ติดปีก พวกเราบดขยี้หลายทีมในพรีเมียร์ลีกด้วยการขึ้นเกมฝั่งนั้น" ปิแรส กล่าวย้อนความ

 

Big Game Player

เมื่อคุณเป็นยอดนักเตะของ อาร์เซน่อล คุณจะได้รับการเลื่อนสถานะอัตโนมัติในการเป็นนักเตะที่แฟนบอลของ สเปอร์ส เกลียดที่สุดเสมอ 

ลอนดอน อาจจะกว้างใหญ่ไพศาล แต่ถ้าเป็นตอนเหนือ (นอร์ธ ลอนดอน) ยังไง สเปอร์ส และ อาร์เซน่อล 2 สโมสรที่สนามเหย้า (เดิม) ห่างกันแค่ 4 กิโลเมตร (ไฮบิวรี่ และ ไวท์ ฮาร์ท เลน) ก็ยังเป็นคู่ปรับคู่เกลียดที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดเสมอ และเรื่องนี้มันสั่งสมมาเป็น 100 ปีแล้วด้วยซ้ำ 

มันเป็นเรื่องราวคล้าย ๆ กับเจ้าถิ่นกับผู้มาใหม่ ย้อนกลับไป 100 กว่าปีก่อน อาร์เซน่อล เป็นทีมจากลอนดอนใต้ ที่ก่อตั้งในปี 1909 จนกระทั่ง 4 ปีหลังการก่อตั้งพวกเขาย้ายถิ่นฐานขึ้นมายังตอนเหนือ ซึ่งแน่นอนว่ามีแฟน สเปอร์ส ที่อยู่ที่นี่มาก่อน และมันเป็นธรรมดามากที่คนอยู่ใกล้กันแต่มีเป้าหมายเดียวกันจะต้องห้ำหั่นกันเพื่อไปถึงจุดนั้น 

เหตุการณ์ยกตัวอย่างมีมากมาย เช่นการที่ สเปอร์ส โดน อาร์เซนอล แย่งตั่วขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 ในฤดูกาล 1914-15 ที่ เอฟเอ อยากจะเพิ่มทีมขึ้นมาในลีกสูงสุดอีก 2 ทีม ทำให้ สเปอร์ส ที่จบอันดับสุดท้ายของ ดิวิชั่น 1 ต้องแย่งสิทธิ์กับ อาร์เซน่อล ซึ่งจบอันดับ 5 ในดิวิชั่น 2 สุดท้าย อาร์เซน่อล ได้รับเสียงโหวตจากสโมสรสมาชิกมากกว่า พวกเขาชนะและชิงตั๋วใบนั้นสำเร็จ 

ฝั่ง อาร์เซน่อล ก็เฮฮาล้อเลียนของผู้อ้างสิทธิ์อยู่มาก่อน ขณะที่ฝั่ง สเปอร์ส ก็บอกว่า อาร์เซน่อล ชนะเพราะ เฮนรี่ นอร์ริส เศรษฐี, นักการเมือง และเจ้าของสโมสร อาร์เซน่อล ใช้เงินยัดใต้โต๊ะจนได้สิทธิ์มาครอง นั่นคือจุดเริ่มต้นของที่ทำให้ไฟเดือดของ สเปอร์ส กับ อาร์เซน่อล เดือดขึ้น 

ไม่เพียงเท่านั้น เหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายผ่านช่วงเวลาต่าง ๆ ทำให้ความเป็นอรินับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น เช่นการที่แฟน สเปอร์ส เรียกอาร์เซน่อลในชื่อเล่นว่า "วูลวิช วันเดอร์เรอร์ส" ซึ่งมีที่มาจาก วูลวิช คือที่ตั้งเดิมของ อาร์เซน่อล สมัยอยู่ลอนดอนใต้ ว่าง่าย ๆ ก็เป็นการประกาศตัวว่าตนเองคือ ลอนดอนเหนือ ที่แท้จริงนั่นเอง ขณะที่ อาร์เซน่อล ก็มีวีรกรรมล้อเลียน สเปอร์ส ไม่แพ้กัน นั่นคือการก่อตั้งวันที่ชื่อ St.Tottenham Day ให้เป็นวันเฉลิมฉลองที่เปรียบกับชัยชนะของพวกเขา ทันทีที่คะแนนของ สเปอร์ส แซง อาร์เซน่อล ไม่ได้แล้วในลีกฤดูกาลนั้น ๆ

เรื่องราวเหล่านี้ลากยาวมานานดังที่บอก และ ปิแรส คือหนึ่งในคนที่สุมไฟเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะในยุคของ ปิแรส อาร์เซน่อล เป็นทีมที่เก่งกาจมาก ๆ ชนิดที่เป็นทีมที่ดีที่สุดของอังกฤษในช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แฟน อาร์เซน่อล เบ่งกล้ามใหญ่ล้อเลียนได้ทุกทีม ซึ่งแน่นอนว่า ท็อตแน่ม โดนมากกว่าเขาเพื่อน ก็ต้องเจ็บแต่เก็บอาการกันไป รอคอยวันไหนที่ สเปอร์ส เป็นฝ่ายชนะได้ในลอนดอน ดาร์บี้ บ้าง ค่อยถึงทีของพวกเขา 

เพียงแต่ว่า สเปอร์ส นั้นมักจะผูกปีแพ้กับ อาร์เซน่อล เสมอในยุคที่ ปิแรส อยู่กับทีม และด้วยสไตล์การเล่นแบบที่กล่าวไว้ในข้างต้น ปีกขวาถนัดซ้าย คอยสอดเข้ามายิงประตูเมื่อมีพื้นที่ว่าง ปิแรส จึงเป็นนักเตะที่ถูกเรียกว่า "บิ๊กเกมเพลย์เยอร์" ถึงเกมใหญ่เมื่อไหร่ เกมกดดันที่คู่แข่งปิดตายศูนย์หน้าของทีมเมื่อไหร่ ปีกอย่าง ปิแรส ที่มีพื้นที่ว่างมากขึ้นก็จะโผล่เข้ามาเป็นตัวสกอร์ตลอด  

ปิแรส ยิงประตูใส่มาหมดแล้วทุกทีมที่ว่าตึง ๆ  หรือเป็นอริในลีก แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี, ลิเวอร์พูล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ สเปอร์ส ที่เขาชอบนักชอบหนา ทุกวันนี้ ปิแรส ก็ยังเป็นเจ้าของสถิตินักเตะที่ยิงประตูใน นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ มากที่สุดที่ 8 ประตู 

และถ้าคุณย้อนกลับไปดูทั้ง 8 ประตู  คุณจะพบบว่ามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ หลายประตูที่ ปิแรส ยิง สเปอร์ส ได้ไม่ใช่เรื่องของความมหัศจรรย์เกินมนุษย์มนา หรือโชคลางการถูกโฉลกเลย 

การเคลื่อนที่ของเขา และการเล่นแบบ อาร์เซน่อล สไตล์ นี่แหละ ที่ทำให้เขายิง สเปอร์ส ได้มากมายก่ายของขนาดนั้น เพราะทุก ๆ การขยับ จะเกิดพื้นที่ว่าง และเมื่อคุณเปิดพื้นที่ว่างให้นักเตะที่เล่นได้สองเท้า มีไหวพริบในการยิงประตู และมีทัศนวิสัยในการเห็นเกมล่วงหน้าอย่าง ปิแรส ... ไม่แปลกหรอกที่คุณจะถูกนักเตะอย่างเขาเล่นงานด้วยการส่งบอลกระทบก้นตาข่าย

ยิ่งในเกม นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ ยิ่งเข้าทางกับเขา หลายครั้ง อาร์เซน่อล ออกนำก่อนและบังคับให้ สเปอร์ส ต้องเปิดหน้าแลกแบบบ้าเลือด นั่นยิ่งทำให้อาวุธของปิแรสสามารถเอามาใช้ได้บ่อยกว่าเกมอื่น ๆ ที่โดนอุดในแดนหรือคู่แข่งตั้งใจเล่นเกมรับเป็นพิเศษ ... และแน่นอนอน จุดนี้ทำให้ในปี 2010 ที่ นิตยสาร FourFourTwo ทำสำรวจว่า ใครคือนักเตะที่แฟนบอล สเปอร์ส เกลียดที่สุด คน ๆ นั้นจึงเป็น โรแบร์ ปิแรส ทีได้รับการโหวตเหนือ เธียร์รี่ อองรี ตำนานเบอร์ 1 ของสโมสรอีกด้วยซ้ำ 

 

ไม่ใช่แค่ยิงเข้าแต่กวนต*นจัด

ถ้าแค่ยิงเข้าบ่อย ๆ แล้วจะถูกเกลียดเป็นเบอร์ 1 ก็คงจะเกินไปหน่อย ซึ่งเหตุผลที่ ปิแรส ถูกโหวตแบบนั้นก็เพราะตัวของเขาเองก็เป็นคนที่เล่นกับกระแสเก่งซะด้วย ท่าทาง ลีลา ในสนามของเขามีความเป็นแบดบอยมาดกวนนิด ๆ เขาเป็นคนประเภทที่ว่า "แอ็ค ... แต่ทำได้จริง" ทำให้คนที่ล้อจึงต้องเก็บคำด่าเอาไว้ในใจ สะสมไว้จัดหนักตอนที่เขาพลาด

วีกรรมที่ ปิแรส ฝากไว้กับแฟน สเปอร์ส นั้นมากมายหลายแบบ การยิงเข้าแล้วทำท่าจุ๊ปากใส่ ท่าทางกวนโอ๊ยในแต่ละเกม รวมถึงการทำท่าจะขว้างบอลอัดใส่แฟน สเปอร์ส หลังตนเองโดนขว้างบอลใส่ก่อน 2 รอบ ซึ่งจากเหตุการณ์นี้สีหน้าของเขาโกรธจริง ๆ ยังดีที่เขาควบคุมอารมณ์ได้ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เขาถูกเกลียดมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

คุณลองคิดว่า ถ้า ปิแรส เกิดปาบอลอัดใส่แฟนบอลด้วยอารมณ์ปรอทแตก ไม่แคล้วว่าเขาจะต้องโดนปรับเงิน หรือโดนแบน และเรื่องนี้จะทำให้แฟนบอล สเปอร์ส หัวเราะเยาะเขาได้แน่ ๆ แต่เขากลับคุมสติได้ จบเกมด้วยการเดินออก ไวท์ ฮาร์ท เลน ด้วยรอยยิ้มกระชากใจ ที่เห็นเมื่อไหร่ก็รู้ได้ทันทีว่าตั้งใจกวนประสาทกันชัด ๆ 

นอกจากกิริยาแล้ว สกิลไมค์ของ ปิแรส ก็กวนประสาทไม่แพ้กัน นักเตะหลายคนเลี่ยงที่จะพูดถึงประเด็นที่ทำให้เกิดความแตกแยกและเกลียดชัง แต่สำหรับ ปิแรส นั้นต้องใช้คำว่า "ได้เสมอ" สำหรับแฟน สเปอร์ส เพราะเขาเองก็ให้สัมภาษณ์ถึง สเปอร์ส ทั้งแบบโดยตรงและทางอ้อมจนให้แฟน สเปอร์ส ต้องของขึ้นได้เป็นประจำ 

โดยเฉพาะการฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2003-04 ที่ อาร์เซน่อล ต้องไปเล่นที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน พร้อมเงื่อนไขขอแค่ไม่แพ้ พวกเขาจะเป็นแชมป์ลีกทันที 

เกมนั้น ปิแรส ทำประตูได้ (จบ เสมอ 2-2) ส่ง ปืนใหญ่ เป็นแชมป์ตามเป้า และจบฤดูกาลด้วยการเป็นแชมป์ไร้พ่าย ซึ่งเขาให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า

"จะมีอะไรดีไปกว่าการคว้าแชมป์ในสนามของคู่ปรับระดับกรีดเลือดร่วมสาบานอย่าง สเปอร์ส อีก" เขาว่าแบบนั้น 

นอกจากนี้ยังมีบทสัมภาษณ์อื่น ๆ อีกเพียบ เช่น "การยิงประตูได้มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมเสมอ แต่ถ้าจะดีที่สุดก็ต้องยิงในเกมที่ชนะ สเปอร์ส นี่แหละ ... เกมที่เราบุกชนะพวกเขา 5-4 ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน ตราตรึงผมเสมอ ... บรรยากาศเงียบกริบในวันนั้น เป็นช่วงเวลามหัศจรรย์จริงๆ" 

ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้ นั่นแหละคือเหตุผลที่เรารักมัน ช่วงเวลาที่ทีมไหนขึ้นสูงเหนือทีอริ พวกเขาก็ใส่กันแบบจัดเต็มไม่มีกั๊ก เช่นเดียวกันเมื่อรอบของวัฏจักรมาถึงในวันที่เรากลายเป็นรองคู่ปรับ เราก็จะถูกตอบโต้แบบเจ็บแสบคูณสอง เพราะพวกเขาก็เก็บความแค้นมานานเพื่อรอการระบายเช่นกัน 

เรื่องราวของ ปิแรส กับ สเปอร์ส ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่คลาสสิกประจำ นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ เป็นความทรงจำที่แจ่มชัดแม้เวลาจะผ่านมานานร่วม 20 ปีแล้วก็ตาม ... ทุกวันนี้ก็ได้แต่รอว่าใครจะเป็นนักเตะที่ทำลายสถิติตัวแสบแห่งลอนดอนเหนือได้มากกว่าเขา ถ้าเป็นฝั่ง อาร์เซน่อล ทำให้ แฟน ท็อตแน่ม ก็ต้องเก็บกดความแค้นไว้รอวันระบายต่อไป

แต่ถ้าเกิดมันมาถึงรอบที่นักเตะ สเปอร์ส ทำใส่ อาร์เซน่อล เหมือนที่ ปิแรส ทำใส่ทีมคู่ปรับได้เมื่อไหร่ ... รับรองเวลานั้นเราได้เห็นกันตอบโต้สนุกกว่าเดิมหลายเท่าแน่ โดยเฉพาะในโลกยุคโซเชี่ยลเช่นนี้ 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.statmuse.com/fc/ask?q=most+goals+against+spurs+by+an+arsenal+player+all-time
https://www.premierleague.com/news/623329
https://www.express.co.uk/sport/football/1094074/Arsenal-news-Tottenham-Gareth-Bale-Real-Madrid-Robert-Pires-transfer
https://www.theguardian.com/football/2024/may/01/robert-pires-retirement-arsenal-france-life-after-football-interview
https://www.arsenal.com/news/robert-pires-style-goalscoring-and-teamwork
https://en.wikipedia.org/wiki/North_London_derby
https://www.arsenal.com/news/news-archive/20140724/wenger-on-pires

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา