Feature

ตำนาน "โครสชุดขาว" : ความภักดีราคา 4 ล้านยูโรที่ บาเยิร์น เสียของดีให้ เรอัล มาดริด | Main Stand

"โทนี่ เป็นเพื่อนซี้ผมและผมรู้เรื่องราวทั้งหมด" สเตฟาน ไรนาร์ท อดีตนักเตะของ เลเวอร์คูเซ่น คือผู้ที่จะเล่าเรื่องของ โทนี่ โครส 1 ในกองกลางที่ดีที่สุดแห่งยุค ถึงวันที่เขาเลือกฝากอนาคตของตัวเองไว้ที่ เรอัล มาดริด ไม่ใช่ บาเยิร์น มิวนิค 

 


เราจะขยายความและหาข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งสำคัญที่ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค เสียเด็กอัจฉริยะของพวกเขาในวันนั้นเมื่อ 10 ปีก่อน 

ติดตามการบอกเล่าจากพยานแวดล้อมที่เป็นปากเองในวันนั้น ... ติดตามที่ Main Stand 

 

เด็กอัจฉริยะแห่งแคว้นบาวาเรีย 

บาเยิร์น มิวนิค คือสโมสรที่ลงทุนกับระบบเยาวชนมากที่สุดในเยอรมัน และเริ่มทำอย่างจริงจังมาตั้งแต่ปลายยุค 70s นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาสร้างยอดนักเตะจากอคาเดมี่มามากมาย 

คนที่เติบโตและยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ถือเป็นความภูมิใจของ บาเยิร์น มิวนิค และชาวเยอรมันที่สุดคือ "แดร์ ไกเซอร์"(จักรพรรดิ) อย่าง ฟรานซ์ เบ็คเคนบาว ที่เขย่าโลกลูกหนังในช่วงยุค 60s ... ไม่มีเด็กหนุ่มจากระบบเยาวชนของเสือใต้คนไหนที่ใหญ่เท่า "ไกเซอร์ฟรานซ์" จนกระทั่ง 40 กว่าปีผ่านมา มีนักเตะในตำแหน่งเดียวกัน คือตำแหน่งกองกลางจอมทัพเกิดขึ้น และเด็กคนนั้นชื่อว่า โทนี่ โครส 

โครส คือเด็กนรกที่ถูกพูดถึงในแบบที่แฟนบอลอย่างเรา ๆ พอจะเดาออกว่ามันจะต้องเป็นเรื่องความเก่งกาจเกินอายุ โครส เองก็เป็นแบบนั้น โค้ชทีมเยาวชนของ บาเยิร์น ในฤดูกาล 2006-07 ได้ส่งชื่อของ โครส มายังเทรนเนอร์มทีมชุดใหญ่อย่าง อ็อตมาร์ ฮิลเฟลต์ เพื่อบอกให้รู้ว่า โครส ในวัย 16 ย่าง 17 ปี คือนักเตะที่เขาควรหันมอง และมันจะดีมากหากให้เด็กที่เก่งเกินกว่าจะเล่นรุ่นเดียวกันขึ้นมาซ้อมกับรุ่นพี่ในชุดใหญ่ตามรอย บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ได้แล้ว  ซึ่งเมื่อ ฮิตเฟลต์ เห็นฟอร์มของ โครส เขาไม่ปฎิเสธ และด้วยสายตาฉบับยอดโค้ช เขาสแกนเด็กคนนี้และเห็นทันทีว่าทำไมจึงควรให้โอกาสครั้งสำคัญกับเขา

"เด็กเยาวชนเก่ง ๆ แจ้งเกิดขึ้นมาในวงการทุก ๆ ปี แต่พวกเขาจะค่อย ๆ ถูกคัดออกเมื่อถึงเวลาอันสมควร ไม่ใช่ตอนที่โลกเห็นพวกเขา แต่มันเป็นตอนที่พวกเขาเห็นตัวเองเมื่อไหร่มากกว่า" ฮิตเฟลต์ เปรียบเทียบอย่างคมกริบ

"สำหรับ โทนี่ โครส คือนี่คือนักเตะที่รู้ว่าตัวเองเก่งเรื่องอะไรที่สุด และในทางกลับกันหมอนี่ยังรู้ว่าเขาทำอะไรไม่ได้บ้าง นี่คือสัญชาติญาณที่ดีมาก ๆ ถ้าคุณรู้ว่าคุณทำอะไรได้ คุณจะไม่ตื่นตระหนกและใจเย็นกับสิ่งที่เกิดอยู่ข้างหน้า" 

ฮิตเฟลต์ ยืนยันว่าปี 2007-08 เขาจะให้ โครส มาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าสิ่งเร้ารอบข้างมันอาจจะมากกว่านั้น เพราะในซัมเมอร์ปี 2007 โครส พาทีมชาติเยอรมัน ยู17 คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครอง พร้อมรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม และคว้ารางวัลซัลโวในทัวร์นาเมนต์เดียวกัน แน่นอนว่า ฮิตเฟลต์ จะต้องเร่งให้ไอเดียที่วางไว้เกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนด ในปี 2007-08 ไม่ใช่แคขึ้นมาซ้อม แต่กลายเป็นว่า โครส ได้เล่นให้กับทีมบาเยิร์น มิวนิค ชุดใหญ่เลยทีเดียว 

เขาออกสตาร์ทในเกม บุนเดสลีกา ในเกมที่ชนะ เอเนอร์กี คอตต์บุส 5-0 และในเกมแรกที่ได้ลงสนามเขาแอสซิสต์ให้ มิโลสลาฟ โคลเซ่ ยิง 2 ประตูในเกมนั้น นี่คือปีที่ทุกคนเข้าใจแล้วว่าเด็กอายุ 17 ปี คนหนึ่งเก่งได้มากแค่ไหน เขาลงเล่น 20 เกม เป็นตัวจริง 6 นัด ยิงไป 3 ประตู และทำไปอีก 10 แอสซิสต์ ... นี่คือสถิติที่เกินตัวไปมาก ราวกับไม่ใช่ซีซั่นแรกของเขาเลยด้วยซ้ำ 

"ผมทำได้ดี แต่เป้าหมายของผมคือการเป็นนักเตะตัวหลักในทีมชุดใหญ่ของ บาเยิร์น มิวนิค ผมรู้ดีว่าที่นี่การแข่งขันสูงขนาดไหน แต่นั่นแหละเป้าที่ตั้งไว้ เราจะได้เห็นกันในซีซั่นหน้า" โครส ว่าเช่นนั้นหลังซีซั่นจบ 

จากสถิติดังกล่าวทุกคนฝันไปไกล รวมถึง โครส ด้วย ตัวของเขาเองก็มองว่าฤดูกาล 2008-09 จะต้องเป็นปีของเขา เพราะเป็นช่วงเวลาที่เขาจะมีโอกาสได้เล่นมากกว่าเดิม หรือฝันถึงขั้นจะเป็นตัวหลักเลยด้วยซ้ำ เพราะในฤดูกาลนั้น บาเยิร์น ตัดสินใจถ่ายเลือดใหม่ ด้วยการเปลี่ยนเอา เยอร์เก้น คลินส์มันน์ เข้ามาคุมทีม แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่คิด 

โครส เจ็บช่วงพรีซีซั่น และเมื่อซีซั่นเริ่ม เขาขอโอกาสลงสนามจาก คลินส์มันน์ แต่กลับตอบรับคำขอ โครส ที่กำลังหนุ่มและห้าวเองเกิดความไม่พอใจลึก ๆ แต่ไมได้สร้างคลื่นใต้น้ำ เขาแค่อยากจะย้ายออกจากทีมแบบยืมตัวเพื่อไปอยู่กับทีมที่ให้เขาได้เล่นต่อเนื่อง ดังนั้นในช่วงตลาดฤดูหนาว เขาจึงทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องนักเพื่อให้เขาได้ออกไปเล่นกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

 

คำโกหกเปลี่ยนชีวิต 

"โทนี่ ยังอายุแค่ 19 ปี เป็นนักเตะมีพรสวรรค์ เขาควรจะอยู่ที่ บาเยิร์น มิวนิค และอดทนเพื่อรอโอกาสของเขากับสโมสรที่ดีที่สุด" คลินส์มันน์ ประกาศกับสื่อก่อนช่วงปิดฤดูหนาวจะมาถึง แต่ โครส คิดนำหน้าไปแล้ว 

ในช่วงที่เขาไม่ได้เล่น เขาเครียดและเดินทางไปหาเพื่อที่ รอสตอฟ เขาลงเล่นเกมฟุตบอลกับเพื่อนแบบปกติ แต่ปรากฎว่าการล้มของเขาเสียหายหนักตรงที่เอ็นไขว้หน้าของเขาฉีกขาด และต้องพักราว 3 เดือน นี่คือเรื่องใหญ่แน่นอนถ้าเขาบอกความจริงกับแพทย์สโมสร จะเท่ากับว่าเขาทำผิดกฎสโมสร ที่ห้ามไปเตะบอลเดินสายหรืออะไรราว ๆ นั้น ดังนั้นเขาจึงโกหกแพทย์ประจำทีมอย่าง ฮันส์-วิลเฮล์ม มุลเลอร์-โวลฟาร์ทโครส ว่าอาการบาดเจ็บนี้เกิดขึ้นระหว่างที่เขาไปวิ่งจ๊อกกิ้งตอนเช้าในชายป่าแถวบ้าน    

"ถ้าบาเยิร์น รู้ว่าผมเจ็บเพราะเรื่องนี้ ผมจะโดนลงโทษ และการย้ายไปเลเวอร์คูเซ่นจะไม่เกิดขึ้นแน่ ๆ และต่อให้ผมหายและฟิตเต็มร้อยผมก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะให้ผมลงเล่นหรือไม่ ตอนนั้นใจของผมมันลอยออกไปแล้ว และคิดว่าจะต้องหาเวลาลงสนามให้ได้ไม่ว่าด้วยวิธีไหน ... นี่คือความจริงที่ผมไม่ได้เล่าให้ใครฟังมาหลายปี" โครส มาเล่าเรื่องนี้ตอนอายุ 32 ปี 

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหนก็ช่าง โครส เซ็นสัญญาย้ายทีมแบบยืมตัวมาอยู่ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปีครึ่ง โดย บาเยิร์น ตั้งใจจะแบ่งพีเรียดเป็น 3 ช่วงได้แก่ ครึ่งซีซั่นแรกคือการเคาะสนิมหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บ, พีเรียดที่ 2 ครึ่งซีซั่นแรกฤดูกาล 2009-10 ปรับตัวเข้ากับฟุตบอลระดับสูงในฐานะตัวหลัก และพีเรียดสุดท้ายคือยืนระยะพิสูจน์ความเก่งกาจ .. นั่นคือสิ่งที่เขาวางไว้ 

โชคดีมาก ๆ ที่โค้ชของ เลเวอร์คูเซ่น ในเวลานั้นคือ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส หนึ่งในกุนซือระดับตำนานของ บาเยิร์น ทำให้ดีลนี้สะดวกลุล่วงไปอย่างง่ายดาย โดย ไฮย์เกส พูดในวันเปิดตัวกับ โครสว่า "ไม่มีสโมสรไหนที่ไม่อยากได้นักเตะอย่าง โทนี่ โครส โชคดีมากที่เขาเลือกเรา"  

ที่ เลเวอร์คูเซ่น โครส ลงเล่นทันทีหลังสลัดอาการบาดเจ็บจากคำโกหก ทุกอย่างเดินหน้าไปไวราวก้าวกระโดด ไม่มีการแบ่งพีเรียดใด ๆ ตามที่ บาเยิร์น วางแผนไว้ทั้งสิ้น เพราะมันคือการจุดไฟใส่น้ำมัน เพราะไฟอย่าง โครส มันลุกโชนทันที ในฐานะตำแหน่งเบอร์ 10 ของทีมห้างขายยา ในฤดูกาล 2009-10 โครส ยิงไปถึง 9 ประตู และทำไปอีก 12 แอสซิสต์ 

"ถ้าคุณมีนักเตะที่เข้าใจจังหวะเกมอย่าง โทนี่ โครส ทีมของคุณจะไม่สร้างจังหวะการยิงประตูได้มากมาย นี่คือนักเตะหนุ่มที่มหัศจรรย์มาก" ไซม่อน โรลเฟส นักเตะของ เลเวอร์คูเซ่น ในยุคนั้นที่ปัจจุบันกลายเป็นผู้บริหารของทีมห้างยาเล่าย้อนในเวลานั้น 

เลเวอร์คูเซ่น รู้ดีว่าต่อให้เขาอยากจะได้ตัว โครส แค่ไหนก็คงเป็ไปไม่ได้ บาเยิร์น มิวนิค หวงเด็กสร้างของพวกเขาแบบไข่ในหิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออกไปเก็บเลเวลจนเต็มและกลายเป็นนักเตะพร้อมใช้แบบนี้ เสือใต้ พร้อมแล้วที่จะให้ในสิ่งที่โครส ต้องการนั่นคือสถานะ 11 ตัวจริงของทีมชุดใหญ่ สิ่งที่เขาร้องขอมาตั้งแต่อายุ 18 ปี 

"ไม่ว่าโค้ชของคุณจะเป็นใคร เล่นฟุตบอลแบบไหน แต่เมื่อทีมของคุณมีนักเตะอย่าง โทนี่ โครส คุณจะไม่สามารถปฎิเสธเขาได้ นี่คือนักเตะที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็แข็งแกร่งทุกมิติ เขากลับไปที่ บาเยิร์น และอยู่ในจุดที่สามารถพูดกับทุกคนได้ว่า คุณกำลังสงสัยตรงไหนในตัวผมหรือเปล่า ถ้าใช่ เดี๋ยวผมจะแสดงให้ดู"สเตฟาน ไรนาร์ท เพื่อนซี้ของ โครส กล่าวก่อนที่ โครส จะกลับไปเล่นที่บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่ ไรนาร์ท ว่าไว้ทุกประการ 

 

4 ล้านยูโร ที่ทำให้ บาเยิร์น เสีย โทนี่ โครส 

โทนี่ โครส กลับไปที่ บาเยิร์น และเล่นที่นั่นอยู่ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล, คลาสเทน ยังเคอร์, จุ๊ปป์ ไฮย์เกส, เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คว้าแชมป์มากมายในฐานะผู้เล่นตัวหลัก จนกระทั่งในฤดูกาล 2013-14  สัญญาของเขาเหลืออีก 2 ปี โดยในตอนแรก โครส ยังคงมีความฝันเดิมคือการเป็นตำนานของ บาเยิร์น มิวนิค ดังนั้นการต่อสัญญา จะไม่ใช่เรื่องวุ่นวาย สโมสรเสนอ เขาสนอง เรื่องมันควรจะง่าย ๆ แค่นั้น 

เพียงแต่ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวมีดาวจรัสแสงแห่งวงการฟุตบอลเยอรมันเกิดขึ้นมาอีก 1 คน นั่นคือ มาริโอ เกิตเซ่ นักเตะตัวรุกจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ บาเยิร์น มิวนิค ใช้จังหวะที่ เกิตเซ่ หมดสัญญากับทีมเสือเหลือง และดึง เกิตเซ่ เข้ามาด้วยการเสนอสัญญาก้อนโตตกอยู่ที่ปีละ 10 ล้านยูโร 

โครส ไม่ใช่คนที่สนใจเรื่องของตัวเงินนักนั่นคือสิ่งที่เขาและเอเย่นต์ยืนยันมาตลอด เพียงแต่ว่าในฐานะนักเตะที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่อายุ 15 ปี เขาเองก็รู้สึกว่าตัวเองทุ่มเทเพื่อทีมมาตลอด พิสูจน์ผลงานทั้งในแง่ประสิทธิภาพและถ้วยแชมป์ จนถึงจุดนี้เขาคือคนสำคัญของทีม ดังนั้นศักดิ์และศรีของเขาควรได้รับการตอบแทนจากสัญญาฉบับใหม่ของสโมสร  

โครส และเอเย่นต์ถูกนัดพูดคุยกับบอร์ดบริหารสำหรับสัญญาฉบับใหม่ทันทีที่ ฤดูกาล 2013-14 เริ่มขึ้น พวกเขาเข้าไปในห้องประชุมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แต่กลับออกมาด้วยสีหน้าที่บูดบึ้ง ... เพราะไม่ชอบใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องนั้นอย่างแรง

“ในเดือนกันยายน 2013 บาเยิร์น ต้องการต่อสัญญา แต่ โทนี่ ไม่ต้องการ พวกเขาเสนอเงินให้เขา 6 ล้านยูโรต่อฤดูกาล” โวลเกอร์ สตรัธ เอเยนต์ของ โครส เผยเบื้องหลังในตอนนั้น

“พวกเขาลืมไปหรือเปล่าว่าผมรู้ว่าทีมจ่ายเงินให้ เกิตเซ่ ปีละ 10 ล้านยูโร ซึ่งเราก็ได้ขอเงิน 10 ล้านยูโร และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็อยากเก็บเขาไว้ ผมเชื่อว่าคงมีการสื่อสารกับ คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ในแบบเดียวกัน”

บาเยิร์น เห็นอาการไม่พอใจ และอีก 3 เดือน พวกเขากลับไปเคาะลูกคิดกันใหม่และเรียก โครส มาฟังข้อเสนอ .... สิ่งที่ โครส ต้องการคือ "เทียบเท่า เกิตเซ่" แต่บอร์ดบริหารของบาเยิร์น นำโดย คาร์ล ไฮน์ รุมเมนิกเก้ ตอบกลับมาว่า 6.5 ล้านยูโรต่อปี คือตัวเลขสุดท้ายที่สโมสรจะให้เขาได้ 

“ในเดือนพฤศจิกายน ผมไปมิวนิค และ รุมเมนิกเก้ บอกผมว่าทีมชื่นชม โทนี่ มาก และจะเสนอเงิน 6.5 ล้านยูโรต่อปีให้” เอเย่นต์ เล่าย้อน ก่อนที่ประโยคต่อไปจะออกมาจากคำของ โทนี่ โครสเอง 

"เรายืนกรานว่าจะไม่รับเงินน้อยกว่า 10 ล้านยูโร" โครส บอกแบบนั้น และนั่นคือคำขาดที่สโมสรต้องกลับไปคิดว่าจะเสียลูกหม้อที่ดีที่สุดในรอบหลายปีอย่างเขาหรือไม่ ... ไม่นานนักโครสก็ได้คำตอบ 

ในเกมที่ บาเยิร์น ชนะ แฟร้งก์เฟิร์ต 5-0 ในห้องแต่ตัวนักเตะหลายคนกำลังฉลองชัยชนะ พูดคุยกันสนุกสนาน แต่ไม่นานนักเสียงเปิดประตูดังปั้ง! ก็ดังขึ้น คนที่เข้ามาคือ อูลี เฮอร์เนส หนึ่งในบอร์ดของ บาเยิร์น เฮอร์เนส ตรงมา โครส และพูดด้วยความโกรธว่า "โทรหาเอเย่นต์ของแกซะ แกไม่มีทางได้รับ 10 ล้านยูโรที่นี่" นี่คือคำบอกเล่าจาก สตรัธ 

บาเยิร์น มิวนิค ไม่เคยง้อนักเตะคนไหน พวกเขามีระบบการบริหารที่โด่งดัง มีองค์กรที่แข็งแกร่งไม่ผ่อนปรน ดังนั้นรายของ โครส จึงจบลงแบบนั้น พวกเขาอาจจะมองว่า โครส กระด้างกระเดื่องต่อทีมที่สร้างเขามา จากนี้การคุยสัญญาจะไม่เกิดขึ้นอีก มีเพียงการคุยรายละเอียดเรื่องการย้ายทีมเท่านั้น 

ตอนนี้ทั้ง โครส และ บาเยิร์น มิวนิค เห็นตรงกันแล้วนั่นคือเขาจะต้องย้ายออกหลังจากจบซีซั่นนี้ หน้าที่ของ สตรัธ คือเร่ไปทั้งยุโรปและบอกทีมดังทีมอื่น ๆ ว่า โทนี่ โครส กำลังจะย้ายออกจาก บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งตัวของ สตรัธ มาเล่าภายหลังว่า ทุกครั้งที่เขาติดต่อกับทีมใหญ่ ๆ เพื่อบอกเรื่องนี้ ทุกทีมไม่เชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริง และมองว่านี่คือแผนการขอเพิ่มค่าเหนื่อยของโครสอยู่เลยด้วยซ้ำ 

บาเยิร์น มิวนิค เสีย โทนี่ โครส ในวัยที่กำลังพีกใช้งานได้อีกเป็นสิบออกไปให้กับ เรอัล มาดริด ด้วยราคาเพียง 25 ล้านยูโรเท่านั้น ในตลาดรอบเดียวกันนักเตะอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ย้ายไป บาร์เซโลน่า ด้วยราคาเฉียด ๆ 100 ล้านยูโร ฮาเมส โรดิรเกส ที่ดังจากฟุตบอลโลกถูกซื้อในราคา 80 ล้านยูโร แม้กระทั่งกองหลังอย่าง เอเลียควิม มองกาล่า ยังย้ายไป แมนฯ ซิตี้ ด้วยราคา 40 ล้านยูโร ... คุณพอจะเห็นภาพไหมว่าราคาของ โครส นั้นถูกแค่ไหน ? 

เรื่องราวถูกสื่อสารออกไปแบบนั้น เหมือนกับบอกว่า โครส เรียกร้องค่าเหนื่อยและกดดันสโมสรจนทำให้ทีมต้องเสียเขาไปในราคาถูกแสนถูกขนาดนี้ ... เงินแค่ 4 ล้านยูโร ถึงกับต้องทำกันขนาดนี้เลยหรือ ซึ่งเรื่องนี้โครส ไม่เคยตอบด้วยตัวเองว่ามันเป็นแบบไหน แต่เพื่อนซี้ของเขาอย่าง ไรนาร์ต รับทราบเป็นอย่างดี ว่าเงินมันเรื่องเล็ก แต่การตอบแทนความภักดีคือสิ่งที่เขาอยากจะได้มากที่สุด เขาผิดหวังที่สโมสรมองว่าเขาเป็นคน "ยังไงก็ได้" และถูกจัดเรียงความสำคัญเป็นคนท้ายแถว ถึงขั้นที่ รุมเมนิกเก้ ถึงกับบอกกับสื่อว่า "โทนี่ โครส ไม่ใช่นักเตะระดับโลกอย่าง เกิตเซ่ และ ร็อบเบน" 

"โทนี่ เป็นเพื่อนของผม ผมรู้เรื่องราวทั้งหมด" ไรนาร์ต เปิดเผยตอนปี 2020 

"ถ้าคุณจะคุยเกี่ยวกับเรื่องตัวเลข คุณก็จะมองเห็นว่ามันเป็นเรื่องของเงิน แต่จริง ๆ แล้ว โครส ต้องการแค่ความไว้วางใจจากผู้คนที่เขาทำงานด้วย .. เขารับรู้ว่า มาริโอ เกิตเซ่ ได้อะไรจากบาเยิร์น บ้าง  โครส และ เกิตเซ่ อายุห่างกันไม่มาก แต่ บาเยิร์น กลับบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการจ่ายให้ โทนี่ ถึง 10 ล้านเหมือนที่ให้กับ เกิตเซ่" 

“ใครก็ตามที่รู้จักโทนี่รู้ดีว่ามันไม่เกี่ยวกับเงินจริงๆ แต่เขาต้องการความไว้วางใจจากคนอื่น ... เมื่อเขารู้ว่าสโมสรกับตัวเองมองกันคนละแบบ นั่นแหละฟางเส้นสุดท้ายจึงขาดลง" ไรนาร์ต กล่าวทิ้งท้าย

สุดท้ายการย้ายในราคา 25 ล้านยูโร ก็ตอบโจทย์มากมาย เรอัล มาดริด คือทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคของ โทนี่ โครส และตัวของเขาก็ทำสถิติเป็นนักเตะเยอรมันที่คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 6 สมัย  และสร้างตำนานมากมายไว้ให้โลกจดจำ ..นี่คือนักเตะที่ บาเยิร์น เสียไปเพราะเงินเพียง 4 ล้านยูโรเท่านั้น 

หากจะตอบว่าไม่เสียดายก็คงไม่ใช่... แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างต้องไปต่อไม่ว่าจะคิดอย่างไรกับดีลนี้ก็ตาม โครส ยิ่งใหญ่บนเส้นทางของเขา และ บาเยิร์น มิวนิค ก็เดินหน้าตามปรัชญาสโมสรต่อไป 

 

แหล่งอ้างอิง : 

https://www.welt.de/sport/fussball/article168791108/So-kam-es-zum-Bruch-zwischen-Bayern-und-Toni-Kroos.html
https://www.spiegel.de/sport/fussball/transfercoup-leverkusen-leiht-supertalent-kroos-von-bayern-aus-a-604778.html
https://www.antenneunna.de/artikel/koeniglicher-kroos-hoert-nach-em-auf-happy-und-traurig-1990672.html
https://www.tz.de/sport/fussball/toni-kroos-hansa-rostock-bayern-muenchen-bayer-leverkusen-real-madrid-90211436.html
https://fcbayern.com/en/news/2008/07/%E2%80%98i%E2%80%99m-aiming-to-become-a-first-team-regular%E2%80%99
https://www.goal.com/en/news/kroos-lie-bayern-munich-injury-loan-move/7xh0lajz1qp71cb0izhu3e9c4

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อภิสิทธิ์ โชติพิบูลย์ทรัพย์

Art Director ผู้รับเหมางานภาพกราฟิกหน้าปกบทความทุกชิ้น