หลังจากการโดนไล่ออกของ เยอร์เกน คลินส์มันน์ เหตุพาชาติเกาหลีใต้ พ่าย จอร์แดน ในรอบรองชนะเลิศการแข่งขันเอเชียน คัพ 2023 รวมถึงปัญหาในแคมป์ทีมชาติระหว่างคนอยากตีปิงปองกับคนอยากประชุมทีม อย่างน้อง อี คัง-อิน และกัปตัน ซน ฮึง-มิน ที่ต้องนิ้วซ้นไปชนิดที่ไม่พึงปราถนา
สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ (KFA) จึงตั้ง ฮวาง ซุน-ฮง ดีกรีผู้จัดการทีมชาติเกาหลีใต้ ชุด U-23 เป็นกุนซือทัพใหญ่แทนที่ คลินส์มันน์ เพื่อให้พร้อมสู้ศึกกับ ทีมชาติไทย ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกปลายเดือนมีนาคมที่ใกล้จะมาถึง
ฮวาง ซุน-ฮง คือใคร ทำไมต้องเป็นเขา ร่วมหยั่งลึกไปพร้อมกับพวกเรา Main Stand
อดีตศูนย์หน้าตัวเป้ายุค 90
เบื้องลึกเบื้องหลังของผู้ที่ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้จัดการทีมส่วนใหญ่มักจะมีจุดหนึ่งที่เหมือนกันคือ เป็นนักฟุตบอลมาก่อน เช่นเดียวกับ ฮวาง ซุน-ฮง เด็กหนุ่มจากมณฑลเยซาน ในจังหวัดชุงนัม ประเทศเกาหลีใต้ ที่เริ่มเล่นฟุตบอลให้โรงเรียนในท้องถิ่นและเป็นส่วนหนึ่งของทีมมหาลัยคอนแด ก่อนที่ในวัย 22 ปี เขาจะบินลัดฟ้าไปที่ เยอรมัน โดยค้าแข้งอยู่กับทีมสำรองของ เลเวอร์คูเซ่น เป็นเวลาเกือบ 3 ปี และต่อด้วย วุพเพอร์ทัล ทีมท้องถิ่นของเมืองเบียร์
ปี 1993 เขากลับมาบ้านเกิดเพื่อค้าแข้งในศึก เคลีก กับ โปฮัง สตีเลอร์ส และเริ่มมีชี่อเสียงในฐานะศูนย์หน้าที่ไปเล่าเรียนทักษะการพังประตูจากเยอรมนี ซึ่ง ปี 1998 เขาได้ย้ายไปค้าแข้งภายใต้ยูนิฟอร์ม เซเรโซ่ โอซาก้า ทีมดังแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย พร้อมกับฟอร์มที่โดดเด่นที่สุดในชีวิตลูกหนังของเขาด้วยการกระทุ้งไปถึง 33 ประตู จากการลงเล่นเพียง 38 นัด
ขณะในนามทีมชาติ เขาเป็นตัวหลักเล่นฟุตบอลโลกสามครั้ง ทั้งในฟุตบอลโลก 1990 ที่อิตาลี,1994 สหรัฐอเมริกา และ 2002 ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วม อย่างไรก็ดีผลงานขึ้นหิ้งที่สุดของ ฮวาง ซุน-ฮง เกิดขึ้นในเอเชียน เกมส์ 1994 ที่แม้เกาหลีใต้จะจบทัวร์นาเม้นต์ด้วยตำแหน่งอันดับ 4 แต่เป็นเวทีที่ ฮวาง ซุน-ฮง ระเบิดฟอร์มยิงคนเดียว 11 ประตู จากเพียง 5 เกม คว้าดาวซัลโวของการแข่งขันไปครอง
กระทั่งเวลาที่ดาวยิงเลือดโสมขาวรายนี้มีอายุได้ 35 ปี เขาจึงตัดสินใจแขวนสตั๊ดพร้อมกับฝากผลงาน 50 ประตูให้กับทีมชาติ เป็นรองเพียงแค่ ชา บอน-กึน ยอดแข้งไกเซอร์แห่งเอเชีย ที่ทำไว้ 58 ประตูเท่านั้น ก่อนจะเบนเข็มเข้าสู่เส้นทางผู้จัดการทีมอย่างเต็มตัวในเวลาต่อมา
ศึกษาศาสตร์แห่งการทำทีม
หลังจากแขวนสตั๊ด ฮวาง ซุน-ฮง ผันตัวเองมาสู่หนทางแห่งการเป็นกุนซือกับทีม ชุนนัมดราก้อนส์ ในลีกสูงสุดของประเทศ ด้วยตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีม ซึ่ง ฮวาง เองได้บ่มเพาะความสามารถในการเป็นโค้ชผ่านการเฝ้าสังเกตผู้จัดการทีมอยู่หลายคน โดยเฉพาะ ฮู จุง-มู อดีตแข้งรุ่นพี่ทีมชาติที่ตอนนั้นรับหน้าที่กุมบังเหียนให้ ชุนนัมดราก้อนส์
รูปแบบการเล่นของ ฮู จุง-มู ณ ขณะนั้นคือ 3-5-2 ซึ่งเป็นแผนที่ยึดกองหลังสามคนให้ประจำการแดนหลังของตัวเอง โดยกลางสนามจะต้องใช้แข้งไดนาโมวิ่งขึ้นวิ่งลงถึงสองคนเพื่อสอดประสานแนวรับและแนวรุก ส่วนผู้เล่นริมเส้นและตัวรุกมีหน้าที่ขึ้นเกมและคอยส่งบอลให้กับผู้เล่นกองหน้าได้ทำประตู สำหรับหน้าเป้าทั้งสองจะให้ผู้เล่นหนึ่งคนยืนอยู่กับกองหลังฝั่งตรงข้ามและอีกคนหนึ่งเป็นตัวอิสระทำการหาช่องเพื่อล่อเป้าคู่แข่ง
ซึ่งข้อดีของการวางระบบแบบนี้คือ การควบคุมเกมจะเสถียรเป็นอย่างมาก หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ครองบอลเหนียว เสียบอลได้ยาก เหตุเพราะผู้เล่นกลางสนามเยอะ มีอิสระในเกมบุกในหลายรูปแบบ
แต่เหรียญมักมีสองด้าน เมื่อกลางสนามมีถึงห้าคน แนวรับสามคนจึงเป็นจุดอ่อนเพราะถ้าโดนสวนมาโต้ง ๆ กองหลังคงงานหนักเข้าเป็นแน่ รวมถึงอีกจุดนึงคือการโต้กลับที่แผนนี้อาจจะไม่ใช่แผนการสวนกลับที่เร็วที่สุด มันไม่ใช่ฟุตบอลในยุคปัจจุบันที่สวนเร็ว ต้องส่งขนานเส้น โยนข้ามฟาก ตบเข้ากลาง ยิงประตู อะไรแบบนั้น ผู้เล่นส่วนใหญ่จึงเน้นการครองบอลเพื่อหากลวิธีในการทำประตูอย่างใจเย็น
ซึ่งแผนนี้ก็ผ่านการเกลามาอย่างดีจากทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทุกคน จนเมื่อปลายปี 2006 ชุนนัม คว้าถ้วยเอฟเอคัพ(เกาหลีใต้) ประจำซีซั่น เหนือ ซูวอน 2-0 จากแบบแผน 3-5-2 ที่รัดกุมและรู้ใจของผู้เล่นทั้งทีม เห็นได้จากการโดนยิงไปแค่ลูกเดียวตลอดทัวร์นาเมนต์ ทำให้ ฮวาง ซุน-ฮง ได้ศึกษาวิชาการคุมทีมแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยจาก ฮู จุง-มู ที่ได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์ ยังไม่รวมถึงบรรดาสตาฟฟ์ฝีมือดีในปีดังกล่าว
จำแล้วนำมาใช้
ธันวาคมปี 2007 ฮวาง รับงานคุมทีม ปูซานไอปาร์ค ทีมในศึก เคลีก ต่อจาก ซุน ฮวา-ปาร์ค ท่ามกลางขุมกำลังทีมที่เป็นได้แค่อันดับท้าย ๆ ของลีก โดยปีแรก เขาพาทีมจบอันดับ 12 ของลีก จากทั้งหมด 14 อันดับ แต่อย่างไรเสียแม้ผลงานแย่แค่ไหนก็ไม่ส่งผลกระทบหนักถึงขั้นตกชั้น เพราะ ณ ขณะนั้น เคลีก ยังไม่มีระบบตกชั้น-เลื่อนชั้น เหมือนกับลีกอื่น ๆ
แม้ลีกระยะยาวจะสู้ไม่ได้ แต่กับบอลถ้วยที่เชี่ยวชาญตั้งแต่สมัยเป็นลูกมือโค้ช ฮู จุง มู ทำให้โค้ช ฮวาง ได้รีดแผน 3-5-2 มาใช้ในบอลทัวร์นาเมนต์อีกครั้ง
และในปี 2010 ปูซานไอปาร์ค ก็สามารถทะลุเข้าสู่รอบชิงถ้วยเอฟเอคัพ ซึ่งนับเป็นอีกครั้งที่ ฮวาง ซุน-ฮงได้กลับมายืนจุดที่เขาเคยยืนแม้แตกต่างจากตำแหน่งเดิม แต่เป็นที่น่าเสียดายที่การเข้าชิงครั้งแรกในฐานะผู้จัดการทีมของเขามันไม่เป็นดังที่หวัง ด้วยการพ่ายต่อ ซูวอน ซัมซุง บลูวิงส์ 1-0 พา ปูซาน ไอปาร์ค จบด้วยตำแหน่งรองชนะเลิศ
ปลายปี 2010 จากการลองผิดลองถูกที่ปูซาน ฮวาง ซุน-ฮง ได้ย้ายไปคุม โปฮัง สตีเลอร์ส ที่เปรียบเสมือนบ้านหลังเก่าที่โอบรับเขาตั้งแต่ยังเป็นแข้งหนุ่ม และที่แห่งนี้จะสร้างชื่อให้เขาเป็นที่รู้จักในฐานะกุนซือ ฮวาง ซุน-ฮง อย่างไม่ต้องสงสัย
ฤดูกาล 2013 ลีกสูงสุดได้เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยยกเลิกแชมป์ลีกจากการเล่นเพลย์ออฟของท็อป 6 ในตารางทิ้ง หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือในลีกมี 14 ทีม มีโซนตกชั้น และแชมป์ลีกจะตกเป็นของทีมที่มีคะแนนมากที่สุด แต่ทั้งนี้การแข่งจะแบ่งเป็น 26 นัดแรกทุกทีมจะต้องพบกันหมด(เหมือนลีกทั่วไป) หลังจากนั้นจะทำการแบ่งสองกลุ่มครึ่งบน-ครึ่งล่างของตาราง และทำการแข่งขันกันต่อซึ่งรวมแล้วทุกทีมจะต้องเล่นทั้งหมด 38 นัด
ซึ่งโค้ช ฮวาง ซุน-ฮง ทราบว่า โปฮัง กำลังเผชิญวิกฤตทางการเงิน ทำให้ตอนนี้ทีมไม่มีผู้เล่นต่างชาติเหลืออยู่เลย ซึ่งหันไปมองคู่แข่งในลีกก็มีแต่ทีมที่มีเพรียบพร้อมกว่าด้วยขุมกำลังนักเตะต่างชาติ เช่น บราซิล, เบลเยียม หรือชาติยุโรปอื่นๆ แต่สำหรับในสายตาของโค้ชฮวางเขารู้ดีว่ามีเท่าไหร่ต้องใส่ให้หมด และมันก็จะเป็นหนึ่งซีซั่นที่บ้าบิ่นที่สุดตลอดอาชีพการคุมทีมของเขาเลยก็ว่าได้
อย่างแรกก่อนที่จะต้องดวลกับทีมอื่น ๆ ฮวาง ซุน-ฮง พยายามมองถึงสิ่งที่เขามีอยู่นั่นก็คือผู้เล่นจากเยาวชน โดยเขาได้มอบโอกาสให้แข้งหนุ่มได้เข้ามาหมุนเวียนกับผู้เล่นตัวหลักในทีมเพื่อรองรับการแข่งขันที่ท้าทายในแต่ละนัด
ซึ่งหลังจากการแข่งลีกเริ่มไปสามนัดแรก โปฮัง ก็ทะยานขึ้นสู่ระดับท็อปด้วยการยึดอันดับจ่าฝูง จะมีร่วงมาที่สองบ้างแต่ก็ไม่เคยหลุดไปไกลจากนี้ แต่การจะยืนเหนือทีมอื่นให้ไกลคงจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ อุลซาน ฮุนได ที่มาพร้อมกับ คิม ชิน-วูค กองหน้าชื่อกระฉ่อนในเวลานั้น คือทีมที่จะแข่งชิงชัยกับ โปฮัง ของ ฮวาง ซุน-ฮง
การแข่งขันดำเนินไปอย่างสูสี แต่อย่างไรเสียท้ายฤดูกาล โปฮัง พลาดท่าตกเป็นอันดับ 2 ต่อ อุลซาน ฮุนได ที่ฟอร์มร้อนแรง เบียดทีมของ ฮวาง ซุน-ฮง ขึ้นจ่าฝูงของตาราง
ดั่งโชคชะตาฟ้าลิขิต เพราะฟุตบอล เคลีก นัดที่ 38 เป็น โปฮัง สตีเลอร์ส์ ที่มีอยู่ 71 แต้ม ต้องบุกไปเยือน อุลซาน ฮุนได ท่ามกลางเหล่าแฟนบอลของเจ้าถิ่นกว่าสองหมื่นคนที่ไปรอฉลองแชมป์ อุลซาน ฮุนได ที่มีอยู่ 73 แต้มขอแค่เสมอในเกมนี้พวกเขาก็จะเป็นแชมป์ทันที ขณะที่ทางฝั่ง โปฮัง ต้องชนะสถานเดียวเท่านั้น
เกมเริ่มขึ้นด้วยเสียงเชียร์กระหึ่มของทัพเจ้าบ้านจากทุกทิศทางหวังข่มลูกทีมของโค้ชฮวางให้ตื่นสนามมากที่สุด แต่กลับกันสิ่งที่เกิดขึ้นคือความนิ่งและทักษะการจ่ายบอลที่แม่นยำของแข้ง โปฮัง จากการบ่มเพาะแนวคิดในการครองบอลของ ฮวาง ซุน-ฮง ทำให้พวกเขายังไม่เสียประตูในครึ่งแรก
เริ่มครึ่งหลัง ฮวาง ได้ปรับแผนหวังทำลายเกมรับคู่แข่ง ด้วยการส่งกองหน้า พาร์ค ซุน-โฮ ลงแทน ฮวาง จี ซู กองกลางของทีม และแข้งตัวรุกอื่น ๆ เพิ่มเข้าไปและ นาทีที่ 95 คิม วง-อิล กองหลังของ โปฮัง ขึ้น ไปทำประตูชัย 1-0 พา โปฮัง สตีเลอร์ส เถลิงแชมป์ เคลีก ได้อย่างช็อคแฟนบอลเจ้าถิ่นทั้งสนาม
จบฤดูกาล โปฮัง สตีเลอร์ส ภายใต้การคุมทีมของโค้ช ฮวาง ซุน-ฮง ในวัย 45 ปี กวาดแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศรวมถึงถ้วยเอฟเอ คัพ ภายใต้ทีมที่ใช้แข้งพลังโสมล้วน ๆ ปราศจากซึ่งนักเตะต่างสัญชาติ พร้อมกับสลักชื่อ ฮวาง ซุน-ฮง เป็นโค้ชยอดเยี่ยมประจำเคลีกฤดูกาล 2013 ในที่สุด
เข้าตาสมาคม
ด้วยเหตุที่ชอบปลุกปั้นดาวรุ่ง ทำให้สมาคมเกาหลีใต้เห็นแววที่จะให้โค้ช ฮวาง ซุน-ฮง เป็นผู้จัดการทีมชาติ ชุดรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งมีการประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2021 ฮวาง ซุน-ฮง ประเดิมบทบาทใหม่ของเขาในเวทีชิงแชมป์เอเชีย 2022 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ด้วยดีกรีแชมป์เก่า 2020 ที่เจ้าภาพในครั้งนั้นคือประเทศไทย แต่ถึงกระนั้น รอบนี้ ทีมชาติเกาหลีใต้ ต้องแพ้ต่อ ทีมชาติญี่ปุ่น อย่างน่าเสียดาย
ลูกทีมของ ฮวาง ซุน-ฮง พ่ายขาดลอยถึง 3-0 จนผู้คนในเกาหลีใต้ต่างวิจารณ์การทำทีมในประเด็นการจัดทัพผู้เล่นที่น่างงงวย และเคมีที่ไม่เข้ากันจนเป็นเหตุให้ทีมต้องโดนถลุงหนักถึงเพียงนี้ แม้ผลงานจะไม่เป็นที่น่าพอใจแต่สมาคมเกาหลีใต้ก็ยังให้ความเชื่อมั่นในตัว ฮวาง ซุน-ฮง อย่างหนักแน่น โดยหวังให้เขาพาทีมผ่านเข้าไปสู่โอลิมปิก 2024 ในอนาคต
เมื่อนึกได้ว่า “ต้องมีอะไรผิดพลาดตรงไหน” ฮวาง ซุน-ฮง ก็พาทีมลงสนาม เอเชียน เกมส์ 2022 หางโจว ที่ประเทศจีน ซึ่งทีมของเขาคว้าชัยถึง 6 นัดรวด ก่อนที่จะได้เล่นนัดชิงชนะเลิศกับคู่แค้นเก่าอย่างญี่ปุ่น ซึ่งคราวนี้พวกเขาสามารถทวงแค้นเหนือญี่ปุ่น 2-1 คว้าเหรียญทองสมัยที่ 6 โดยยิงถึง 27 ลูก เสียแค่ 3 ประตู
ฮวาง เป็นโค้ชที่ไม่ยึดติดกับผู้เล่น เห็นได้จาก เอเชียนเกมส์ 2022 ที่ผ่านมา ขนาดดาวเด่นอย่าง อี คัง-อิน หรือ จอง มู-ยอง เหล่านี้เขาก็ดรอปเป็นสำรองมาแล้ว
“ผมต้องการให้แนวรุกขึ้นบีบพื้นที่คู่แข่ง ซึ่งนั่นเองก็เป็นเหตุว่าทำไมไม่มีใครอยู่ครบ 90 นาที ซึ่งทุกคนอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม จึงไม่สำคัญว่าใครจะเป็นตัวจริงหรือสำรอง” โค้ชฮวาง กล่าว
ดังนั้นตอนนี้แนวทางการเล่นของ ฮวาง ซุน-ฮง จึงกลายเป็นการไล่บีบคู่แข่งด้วยพละกำลังที่มีเพื่อนำบอลมาไว้กับตัว และกระหน่ำรุกใส่จากทักษะส่วนตัวและการให้บอลที่แม่นยำ โดยไม่ยึดว่าใครจะต้องเป็นตัวหลัก หากแต่ถ้าเขาต้องคุมทีมชาติชุดใหญ่ คงเลือกวางแข้ง ซีเนียร์มากประสบการณ์ เช่น ซน ฮึง-มิน หรือ คิม มิน-แจร์ ไว้ประจำตำแหน่ง แล้วอาจหมุนเวียนผู้เล่นอื่นๆเข้ามาตามความเหมาะสม
ซึ่งทัวร์นาเมนต์ถัดไปของเขาจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปีอย่างศึกชิงแชมป์เอเชีย 2024 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี โดยโค้ช ฮวาง ต้องโฟกัสไปถึงท็อป 3 อย่างต่ำ เพื่อให้แข้งพลังหนุ่มของเขา คว้าโควต้าไปลุยศึกโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส ในเดือนกรกฎาคม
แต่แล้วมหากาพย์เรื่องราวความวุ่นวายภายในแคมป์ทีมชาติเกาหลีใต้ก็ได้แดงขึ้นมา เมื่อ The sun รายงานว่า กัปตัน ซน ฮึง-มิน ทะเลาะกับ อี คัง-อิน พร้อม ๆ กับที่ คลินส์มันน์ ประกาศแยกทางในเวลาต่อมา ทำให้สมาคมเกาหลีใต้ต้องเร่งหากุนซือใหม่เข้ามากู้วิกฤตนี้ เพราะอีกไม่นานพวกเขาจะต้องเตรียมทัพลุยฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ปลายเดือนมีนาคมที่จะถึง
ไม่เอาลุงพัค
ที่นั่งผู้จัดการทีมชาติเกาหลีใต้กำลังว่าง ท่ามกลางที่ประชุมของสมาคมฟุตบอลที่คิดว่ากุนซือคนต่อไปควรจะเป็นตำแหน่งชั่วคราวหรือถาวร “พวกเราส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าเราต้องเร่งหาผู้จัดการทีมระยะยาวมากกว่าคนที่จะมาชั่วคราว ซึ่งมันก็หาไม่ง่ายนะกับคนที่เต็มใจมาคุมแค่ 2 เกม” จอง แฮ-ซุง หัวหน้าคณะกรรมการด้านเทคนิค
แม้ว่าไม่ปิดโอกาสของโค้ชต่างชาติ แต่ที่ประชุมเล็งเห็นว่าจะดีกว่ามั้ยที่ผู้จัดการทีมจะเป็นคนเกาหลี ซึ่งถ้ามองหาโค้ชจากเคลีกด้วยกันแล้วนั้นก็คงเป็นเรื่องที่กระทันหันเกินไปเพราะเคลีกกำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 มีนาคม นี้แล้ว อย่างไรเสีย จอง แฮ-ซุง ได้วางนโยบายเกี่ยวกับผู้ที่จะมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ให้ทัพโสมขาวไว้ดังนี้ มีแชมป์, มีรูปแบบการเล่นชัดเจน, สามารถพัฒนาแข้งเยาวชนได้, มีประวัติความสำเร็จที่เช็คได้, มีประสบการณ์ในการแข่งทัวร์นาเม้นต์, มีทักษะการสื่อสาร และความเป็นผู้นำ
ซึ่งหลังจากนั้นมีข่าวหลุดมาว่าสมาคมเกาหลีใต้ตัดสินใจจะใช้โค้ชชั่วคราว ด้วยเหตุที่ไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับการเฟ้นหาโค้ชระยะยาว บวกกับจะไปเอาโค้ชจากสโมสรก็จะกลายเป็นปัญหากับแฟนบอลทีมนั้น ๆ ด้วย
แสงทั้งหมดจึงลงมาสู่ พัค ฮัง-ซอ อดีตผู้จัดการทีมชาติเวียดนาม ที่กำลังว่างงานรวมถึงเป็นบุคลากรอาวุโส และ ฮวาง ซุน-ฮง เฮดโค้ช U-23 ที่กำลังเตรียมทีมลุยตั๋วโอลิมปิก 2024 โดยหนังสือพิมพ์ osen สื่อในเกาหลีใต้ ประโคมข่าวว่า พัค ฮัง-ซอ อาจเป็นกุนซือคนใหม่ของทัพเกาหลีใต้ ต่อจาก เยอร์เกน คลินส์มันน์
กลับกันสมาคมทราบดีว่า ฮวาง ซุน-ฮง ไม่มีทางที่จะเป็นโค้ชระยะยาวได้แน่ ๆ ด้วยหน้าที่ที่เขารับอยู่กับ U-23 แต่กระนั้นตำแหน่งชั่วคราวเขาเป็นที่ต้องการของทีมชุดใหญ่โดยไม่ได้ให้น้ำหนักกับ พัค ฮัง-ซอ อย่างที่สื่อประโคมกัน
ทำให้หลังจากประชุมถึง 3 ครั้ง วันที่ 27 กุมภาพันธ์ สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้จึงประกาศให้ ฮวาง ซุน-ฮง เป็นผู้จัดการทีมชาติโสมขาวชุดใหญ่ชั่วคราว พร้อมมอบหมายให้สู้ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย 2 นัดพบกับทีมชาติไทยในเดือนมีนาคม “เขาคือเป้าหมายอันดับ 1 ของเรา ด้วยประสบการณ์ และการคุมทีมชุด ยู-23 เหมาะสมแล้วที่จะต้องเป็นเขา ซึ่งทางเราจะมองหาผู้จัดการทีมระยะยาวคนใหม่ต่อไป” จอง แฮ-ซอง หัวหน้าคณะกรรมการด้านเทคนิค กล่าว
จอง แฮ-ซอง อธิบายว่าทำไม ถึงเลือก ฮวาง ซุน-ฮง เป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวแทน พัค ฮัง-ซอ ที่สื่อจับตามอง “โค้ช ฮวาง ซุน-ฮง เข้าใจถึงบุคลิกและศักยภาพของผู้เล่นในทีมชาติ เขายังมีดีกรีถึงการเป็นแชมป์เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2022 ที่ผ่านมา” พิจารณาแล้วจากนโยบายที่กล่าวไว้ข้างต้น ก็ไม่มีจุดไหนที่โค้ช ฮวาง จะไม่อยู่ในเกณฑ์ ทั้งรูปแบบ ความสำเร็จ และการเข้าใจในผู้เล่นเยาวชน
“โค้ชฮวางคือคนเดียวที่คอยสอดส่องผู้เล่นทีมในทีมชาติ ยิ่งเขายังสนิทกับ อี คัง-อิน ด้วยแล้ว ผมคิดว่าบรรยากาศของห้องแต่งตัวจะถูกแก้ไขให้ดีขี้น” คิม แด-กิล นักวิจารณ์ของ KBSN สื่อกีฬาชื่อดังในเกาหลีใต้
นี่จึงเป็น Showtime ของ ฮวาง ซุน-ฮง ในวัย 55 ปี ที่แม้จะเหมือนแวะมาคุมแค่ 2 นัด แต่สองนัดที่ว่าคือการพาทีมเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่ทัพโสมขาวต้องมุ่งมั่นอย่างถึงที่สุด
ด้วยความช่ำชองกรณีเหล่านี้ เราอาจได้เห็นแข้ง U-23 ถูกเรียกตัวขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ในเกมที่ต้องพบกับทีมชาติไทย และด้วยระบบ ประสบการณ์ที่สั่งสม ถ้วยแชมป์ การปลุกปั้นเยาวชนที่ว่ามานี้ ทีมของ ฮวาง ซุน-ฮง จะเป็นอะไรที่ทีมชาติไทย ของ มาซาทาดะ อิชิอิ จะประมาทไม่ได้แม้แต่พริบตาเดียว
แหล่งอ้างอิง :
https://koreajoongangdaily.joins.com/news/2024-02-27/sports/football/U23-boss-Hwang-Sunhong-replaces-Klinsmann-as-interim-manager/1990295
https://www.newsdirectory3.com/navigating-the-dilemma-coach-hwang-sun-hongs-challenge-with-lee-kang-in/
https://www.reuters.com/sports/soccer/south-korea-picks-hwang-sun-hong-interim-coach-replace-klinsmann-2024-02-27/
https://en.yna.co.kr/view/AEN20231001003800315
https://bnnbreaking.com/sports/south-korea-mens-football-coach-hwang-sun-hong-is-pleased-with-depth-of-talent/
https://www.scmp.com/sport/football/article/3253470/south-korea-boss-hwang-has-zero-managerial-ability-says-afc-champions-league-record-goalscorer
https://koreajoongangdaily.joins.com/news/2024-01-17/sports/football/U23-manager-
Hwang-Sunhong-I-will-focus-solely-on-the-Olympics/1958792
http://www.kleagueunited.com/2022/06/hwang-sun-hongs-failure-and-future-of-u.html
https://koreajoongangdaily.joins.com/2013/12/01/Baseball/Pohang-Steelers-new-champions/2981323.html
https://newsroom.posco.com/en/pohang-steelers-won-fa-cup-two-consecutive-years-making-k-league-history/
https://news.kbs.co.kr/news/pc/view/view.do?ncd=2764373
https://en.wikipedia.org/wiki/Hwang_Sun-hong#cite_note-24
https://sports.news.naver.com/news?oid=144&aid=0000032638
https://www.transfermarkt.com/pohang-steelers/mitarbeiterhistorie/verein/311
https://en.wikipedia.org/wiki/South_Korea_national_under-23_football_team
http://www.kbmaeil.com/news/articleView.html?idxno=301027
https://www.vietnam.vn/en/lo-ly-do-doi-tuyen-han-quoc-chon-hlv-hwang-sun-hong-thay-vi-ong-park-hang-seo/