เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คือกุนซือที่ยึดมั่นเรื่องการสร้างระบบและวิธีการเล่นของทีมเป็นอันดับแรก เขาไม่ง้อใคร และไม่มีใครเป็นลูกรักชนิดที่ว่าเขาต้องรั้งเอาไว้ด้วยตัวเองเพราะไม่อยากให้ออกจากทีม
ทว่า ฟิล โฟเด้น คือ 1 ข้อแม้นั้น ... นี่คือนักเตะที่ เป๊ป ไม่ขายไม่ว่าจะได้ราคา 500 ล้านปอนด์, ไม่ยอมปล่อยยืมแม้จะยังไม่พร้อมลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ซิตี้ เพราะเขาอยากจะให้ โฟเด้น อยู่ใกล้สายตาเขามากที่สุด
ว่าก็ว่าเถอะ โฟเด้น คือนักเตะที่ เป๊ป ชมออกสื่อจนหลายคนบอกว่าเขาเป็นลูกรักคนแรกของ เป๊ป นับตั้งแต่เป็นเฮ้ดโค้ช ... โฟเด้น พิเศษกว่าคนอื่นตรงไหน ? ติดตามที่นี่
เป๊ปสไตล์ ... ไม่ง้อใคร
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นกุนซือที่ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดอัจฉริยะที่คิดค้นระบบการเล่นใหม่ ๆ มาให้กับวงการฟุตบอลมากมาย หนึ่งในศิลปะที่ยอดเยี่ยมของเขาคือการมองเห็นนักเตะคนหนึ่งในแบบที่หลายคนอาจจะคิดไม่ถึง
เราได้เห็นการซื้อนักเตะที่ชวนประหลาดใจในอาชีพกุนซือของเขามากมาย อย่างน้อย ๆ ก็กับ แมนฯ ซิตี้ ที่เขาไปซื้อนักเตะอย่าง นาธาน อาเก้ หรือ มานูเอล อาคานจี ก่อนจะปรับมาใช้แท็คติกที่ 2 คนนี้รีดศักยภาพที่ดีที่สุดออกมาในแบบที่ไม่มีโค้ชคนไหนทำได้
ไหนจะนักเตะอย่าง จอห์น สโตนส์, ไคล์ วอล์คเกอร์, แบร์นาโด้ ซิลวา หรือแม้กระทั่ง เควิน เดอ บรอยน์ ที่เป็นจัดการเปลี่ยนตำแหน่งนักเตะเหล่านี้ในยุคของเขา และทำให้ แมนฯ ซิตี้ เดินหน้ากวาดความสำเร็จมากมาย
นอกจากเรื่องของการปรับใช้นักเตะให้ตอบโจทย์กับแผนที่วางไว้แล้ว สิ่งหนึ่งที่ เป๊ป ทำได้ดีมาก ๆ คือการที่เขาไม่เคยรั้งนักเตะตัวเก่ง หรือนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดีคนไหนไว้กับทีม ถ้าถึงเวลาที่ต้องขาย หรือวันที่นักเตะอยากย้าย เขายินดีที่จะปล่อยออกไปแบบไม่ลังเล เพราะเชื่อมั่นในระบบมากกว่า ยกตัวอย่างล่าสุดคือ โคล พาลเมอร์ นักเตะที่เป็น "เดอะ แบก" ของ เชลซี ในเวลานี้ ที่ เป๊ป ก็ยอมปล่อยนักเตะแต่โดยดี ขอเพียงนักเตะเอ่ยมา ทุกอย่างก็จบง่าย ๆ แบบนั้น
"ผมพูดกับเขาว่า -ริยาด มาห์เรซ ย้ายออกไปแล้ว นายจะได้โอกาสลงเล่นที่นี่-" เป๊ป เล่าถึงวันที่คุยกับ พาลเมอร์ ก่อนการซื้อขายกับ เชลซี จะเริ่มขึ้น
"แต่เขาบอกว่า -ไม่ล่ะครับ ผมจะไม่เล่นที่นี่ ผมอยากย้ายออก- แล้วผมก็บอกกลับไป -โอเค ย้ายก็ย้าย!-"
เป๊ป พูดถึงกรณีที่บางสโมสรไม่อยากขายนักเตะของตัวเองไปยังทีมคู่แข่งที่มีศักยภาพสูง ทว่า แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะเขาเชื่อว่าหากเป็นทีมที่ใหญ่จริง การขาดนักเตะคนเดียวไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ไม่ว่าจะเป็นดาวรุ่งที่รอวันเป็อนาคตของสโมสร หรือนักเตะตัวหลักของทีม
"เราไม่หยุดทำข้อตกลงด้วยเหตุผลแบบนั้นหรอกนะ(ไม่ขายนักเตะให้ทีมคู่แข่ง) ทำไมล่ะ ถ้าการย้ายทีมมันเหมาะสมกับทั้งสโมสรและนักเตะ? นั่นจะหมายถึงว่าคุณเป็นสโมสรเล็ก ๆ" เขาบอกแบบนั้น
ไม่ใช่แค่ พาลเมอร์ มีนักเตะหลายคนที่ เมื่อเอ่ยปากอยากย้าย เป๊ป ก็ปล่อยไป เจดอน ซานโช่ ที่ตอนนั้นถูกมองว่า "มีพรสวรรค์สูงที่สุดในอคาเดมี่" ออกอย่างไม่คิดเสียดาย
อย่างไรก็ตามทุกอย่างมีข้อยกเว้น มีนักเตะ 1 เดียวที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พร้อมจะรั้งสุดชีวิตและออกตัวว่า "นักเตะคนนี้ไม่ได้มีไว้ขาย" หรือแม้กระทั่งปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวเพื่อหาโอกาสลงเล่น ... คนนั้นคือ ฟิล โฟเด้น ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?
ฝีเท้า พรสวรรค์ แนวคิด
ฟิล โฟเดน คือลูกหม้อของ แมนฯ ซิตี้ แท้ ๆ ที่มีครอบครัวเป็น "ซิติเซ่นส์"(แฟนบอลสโมสร) เกิดที่สต็อคพอร์ท(แมนเชสเตอร์) โดยเขาเข้ามาอยู่อคาเดมี่ของ แมนฯ ซิตี้ ตั้งแต่ 4 ขวบ แน่นอนว่าตอนนั้น แมนฯ ซิตี้ ยังไม่ได้สร้างศูนย์ฝึกใหม่ หรือยกระดับทีมเยาวชนให้เป็น 1 ในทีมที่มีโครงสร้างเยาวชนดีที่สุดในอังกฤษด้วยซ้ำ ดังนั้นเรื่องความรัก และความฝันที่มีร่วมกับสโมร โฟเด้น มีไม่น้่อยกว่าใครแน่นอน
จิม แคสเซลล์ อดีตผู้จัดการทีมอคาเดมี่ของซิตี้ เล่าว่า โฟเด้น เป็นเด็กที่มาจากโครงการของโรงเรียนในท้องถิ่น ตอนที่ทีมงานสต๊าฟฟ์ของ ซิตี้ ได้เห็นวันที่ โฟเด้น คัดตัว ถือว่าสร้างความฮือฮา จนต้องโทรตามกันมาดู โฟเด้น คัดตัวเลยทีเดียว
"เทอร์รี่ จอห์น หัวหน้าที่คัดตัวโทรหากันพัลวัน ผมรับสายแล้วเขาร้อนรนบอกว่า รีบมาดูด่วนเลย เขาเจอของดีเข้าแล้ว" แคสเซลล์ กล่าวเริ่ม ก่อนที่ อดีตโค้ชเยาวชนของซิตี้ อย่าง สตีฟ อายร์ จะรีบเสริมทันทีว่า
"โฟเด้น เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์จริง ๆ เด่นกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน โดดเด่นที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมา" เขาอธิบายเรื่องความสามารถ ก่อนจะอธิบายเรื่องนอกสนาม ที่เขาเชื่อว่า เป๊ป ถึงรักเด็กคนนี้มากกว่าใคร
"ฟิล ไม่ได้แค่เล่นฟุตบอลเก่ง แต่เขารักฟุตบอลจากใจจริง รักสโมสร แมนฯ ซิตี้ สิ่งนี้มันสะท้อนออกมาจากการตรงต่อเวลา มาซ้อมแต่เช้าตรู่ เราจะเห็นเขากำลังซ้อมบนสนามหญ้าเทียมโดยที่พ่อของเขามองอยู่รอบ ๆ โดยช่วงก่อนการซ่อมจะเริ่มเขาจะเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ด้วยตัวเองก่อน เขายังแบ่งเวลาไปสอนน้องชายเขาที่อายุน้อยกว่า 1-2 ปีเตะฟุตบอลด้วย แค่เราเห็นภาพนั้นก็รู้แล้วว่าเขาโตมาในสิ่งแวดล้อมที่ดีมาก ดังนั้น เราต้องช่วยส่งเสริมสิ่งที่นอกเหนือจากครอบครัวของเขาจะทำได้"
ภาพความมุ่งมั่น วนซ้ำ ๆ แบบนั้นไปหลายปี ตัดภาพไปข้างหน้าตอนปรีซีซั่น 2017 ที่ แมนฯ ซิตี้ มีคิวไปอุ่นเครื่องที่สหรัฐอเมริกา เป็นธรรมเนียมที่ฟุตบอลพรีซีซั่นจะมีการหนีบเอานักเตะดาวรุ่งไปด้วย ซึ่งตอนนั้นก็ถึงเวลาของ ฟิล โฟเดน ที่มีอายุ 17 ปี ในการซ้อม โฟเด้น ทำให้ เป๊ป ยิ้มออก เหนือไปกว่านั้นเมื่อเขาส่ง โฟเด้น ลงสนามในเกมแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-2 เขายิ่งทำให้ เป๊ป ตะลึงยิ่งกว่านั้นอีก
"ผมไม่มีคำพูดจะอธิบายเลย" เป๊ป ตอบคำถามหลังนักข่าวถามถึงเรื่องฟอร์มของ โฟเด้น
"จริง ๆ ผมอยากจะหาคำพูดมาบอกให้คุณเข้าใจนะว่าผมเห็นอะไรในตัวเขาวันนี้ เอาเป็นว่าผมใช้คำว่าพวกคุณโชคดีมาก ๆ ที่ได้เห็นเด็กคนนี้ลงเล่นเกมชุดใหญ่ของ แมนฯ ซิตี้ ครั้งแรก"
เป๊ป ทำตามที่เขาพูด แมนฯ ซิตี้ มีนักเตะเยาวชนมากมายทั้งจากท้องถิ่นหรือจากที่ดึงตัวจากทีมอื่น ๆ ทั่วโลกมารวมตัวกัน นักเตะหลายคนรุ่นราวคราวเดียวกันโดยปล่อยยืมออกไปเพื่อหาโอกาสลงเล่น ข้อเสนอมากมายมาถึง โฟเด้น แต่เป๊ป คือคนที่ยืนกรานว่า โฟเด้น จะไม่ไปไหน เพราะอยากให้นักเตะวัย 17 ปี คนนี้ได้ซ้อมกับยอดแข้งอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ และ ดาบิด ซิลบา .. พูดง่าย ๆ คือ เป๊ป อยากให้ โฟเด้น อยู่ใกล้เขามากที่สุดเพื่อให้ได้เห็นพัฒนาการแบบขั้นต่อขั้นให้ชัดที่สุด ซึ่งอย่างที่รู้กัน โฟเด้น ไม่เคยทำให้ เป๊ป ผิดหวัง
ฤดูกาล 2017-2018 โฟเด้น ถูกเป๊ป ส่งลงสนามทุกรายการไปทั้งหมด 10 เกม เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า ที่ แมนฯ ซิตี้ มีกำแพงมากมายที่ขวางทางเขาอยู่ กำแพงทุกชั้นล้วนเป็นนักเตะระดับโลก ก่อนจะทิ้งท้ายว่า โฟเด้น มีอนาคตที่สดใสกับทีมรออยู่ แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาของเขา เป๊ป ร้องขอให้ โฟเด้น อดทน ถ่อมตัว และพัฒนาตัวเองเพื่อโอกาสที่จะมาถึง ... ซึ่ง โฟเด้น รับคำ เขาเลือกที่จะเชื่อฟัง เป๊ป โค้ชทุกคน และรุ่นพี่ในทีม เขาซ้อมกับชุดใหญ่ตลอดเวลา แต่ได้เวลาเล่นเพียงน้อยนิด ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ปัญหา เป๊ป คุยกับ โฟเด้น รู้เรื่องแล้ว ไม่คำถาม ไม่มีข้อสงสัย มีแต่ความเข้าใจที่เกิดขึ้นสำหรับ โฟเด้น ในวัย 18 ปี วัยที่เด็กหลายคนกำลังอยากที่จะหาโอกาสลงเล่น
โฟเด้น พร้อมมาก ๆ ในเรื่องการเตรียมตัวสู่ชุดใหญ่ ว่ากันว่าตอนที่เขารู้ว่าตัวเองใกล้ได้เป็นนักเตะชุดใหญ่ของ แมนฯ ซิตี้ เขาเริ่มงดลงรูป รีเบ็คก้า แฟนสาว(ซึ่งเป็นภรรยาในภายหลัง) ของเขาในโซเชี่ยลมีเดีย เขาห่างไกลแฟนมากขึ้น เพราะอยากโฟกัสกับฟุตบอลให้มากที่สุด
นอกจากการเชื่อมั่นในการทำงานกับโค้ชแล้ว โฟเด้น ยังแสดงความเป็นผู้ใหญ่ครั้งสำคัญออกมาอีกครั้ง ในวันที่เขาอายุ 18 ปี ภรรยาของเขาคลอดลูกชายออกมา "รอนนี่" ลืมตาดูโลก และ โฟเด้น ต้องทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิตนั่นคือการเป็นพ่อคน ไปพร้อม ๆ กับกับการใช้ชีวิตเพื่อความฝันของตัวเองในการเป็นนักเตะทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ซิตี้ นี่คือหน้าที่ที่หนักมากสำหรับเด็กวัยทีนเอจแบบเขา
ทว่าอย่างที่รู้กัน เขา บาลานซ์ชีวิตในแบบที่นักเตะแมนฯ ซิตี้ คนอื่นยังกล่าวชื่นชม บทความของสโมสรได้อธิบายว่า "ความเป็นพ่อได้เปลี่ยนชีวิต โฟเด้น ให้ดีขึ้น เหมือนกับที่เพื่อนร่วมทีมของเขาคาดการณ์เอาไว้ เขาอาจจะเสียช่วงเวลาการอยู่กับ รอนนี่ ไปบ้างในช่วงที่ต้องเดินทางเล่นเป็นทีมเยือน แต่เขาก็ทดแทนช่วงด้วยการใช้ช่วงเวลาที่เหลือนอกจากฟุตบอลให้กับลูกชายอย่างเต็มที่"
"โลกของผมเปลี่ยนไป" โฟเด้น บอกแบบนั้น
"การที่คุณมีลูกเปลี่ยนแนวคิดของคุณบางอย่าง เช่นบางครั้งคุณอาจจะมีเกมที่แย่ การซ้อมทีไม่ดี ถ้าเป็นแต่ก่อนผมจะเฟลมาก ผิดหวังไปตามประสา แต่ตอนนี้ผมมีเรื่องสำคัญกว่า ผมมองสิ่งต่าง ๆ แตกต่างออกไปจากวันที่มีลูก เพราะเรื่องภายนอกจะกลายเป็นเรื่องเล็กเมื่อคุณกลับถึงบ้านและได้เห็นรอยยิ้มของเขา ... น่าเสียดายที่บางครั้งฟุตบอลได้พรากช่วงเวลาพิเศษ ๆ ระหว่างพ่อ-ลูกไปบ้าง แต่ผมเชื่อว่ามันจะเป็นการเสียสละที่ลูกชายของผมจะต้องซาบซึ้งและเข้าใจเมื่อเขาโตขึ้น" โฟเด้น กล่าว
โฟเด้น บ้าฟุตบอล และเป๊ป กวาร์ดิโอล่า บ้าฟุตบอลเข้าเส้น ... สองคนที่มีบางอย่างที่คลิกกัน และเป๊ป ก็รู้ดีว่านักเตะที่มีพร้อมทุกอย่างอย่าง โฟเด้น ควรจะใช้งานแบบไหน เพื่อให้เขาเบ่งบานในระยะยาวมากที่สุด
ถึงเวลาปล่อยลงน้ำ
โฟเด้น ก็เห็นการเติบโตของรุ่นพี่ในอคาเดมี่อย่าง ซานโช่ ที่ย้ายไปอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ และแจ้งเกิดได้ แต่ตัวของเขานั้นก็มีทางเลือกของตัวเอง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีแผนการสำหรับเขานั่นคือการค่อย ๆ ให้เขาลงเล่น ในตำแหน่งตัวรุก 3 คนหลังกองหน้าสลับกันไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นสไตล์ของ เป๊ป ที่จะใช้นักเตะคนเดียวลงเล่นในหลายตำแหน่ง
เหตุผลไม่ใช่เพราะไม่รู้ว่า โฟเด้น เล่นในตำแหน่งไหนดีที่สุด แต่เมื่อให้เขาใจบริบทเกมรุกของระบบการเล่นของทีมชุดใหญ่ การลงเจอกับรุ่นพี่ที่แตกต่างกัน ซึมซับวิธีการเล่นร่วมกัน เพื่อให้เขา โฟเด้น เป็นอย่างที่เขาเป็นในทุกวันนี้นั่นคือ เล่นตรงไหนก็ได้ เล่นกับใครก็ได้ และเป็นคนที่ปรากฎตัวในเวลาที่ทีมต้องการได้เสมอ
"ฟีล ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เล่นในแนวทางที่เป๊ปต้องการ วิธีการที่เขามองเกม วิสัยทัศน์ในการจ่ายบอล และแน่นอนที่สุดคือการเป็นนักเตะที่เล่นได้หลากหลายตำแหน่งโดยที่คุณภาพที่ลงเลย เขาส่งเขาลงเล่นตรงไหนก็ได้ เขาเหมาะกับระบบของ เป๊ป ทั้งนั้น" แคสเซลล์ เล่ามุมมองของเขา
"เขาได้รับการชื่นชมมาตลอด ในฐานะนักเตะที่รับมือกับการหมุนเวียนทีมได้ดีที่สุด เป๊ป จะมองหาโฟเด้นตลอดไม่ว่าเขาจะต้องการนักเตะประเภทไหนในเกมรุก ยิ่งเวลาผ่านไปคุณจะเห็นว่าเขายิ่งเด่นขึ้น และจากที่เขาเป็นส่วนประกอบ วันนี้ผมมองว่าเขาเริ่มมีความเป็นผู้ควบคุมวงออเคสตราของ แมนฯ ซิตี้เเล้ว"
เป๊ป จะคอยพูดถึง โฟเด้น ผ่านสื่อตลอดว่าจะเป็นแกนกลางของทีมในอนาคต และจะเป็นกำลังหลักของทีมไปอีกนาน เหนือสิ่งอื่นใดวิธีการที่เขาปฎิบัติกับ โฟเด้น ทำให้ โฟเด้น ยิ่งอยู่ยิ่งมั่นใจมากขึ้น ว่าง่าย ๆ คือ เป๊ป ซื้อใจ โฟเด้น ได้สำเร็จ ไม่ว่า เป๊ป จะพูดอะไร โฟเด้น พร้อมจะอยู่ตรงนั้นเสมอ
"ผมอยู่กับทีมชุดนี้มานาน และการได้เป็นส่วนหนึ่งที่เห็นทีมเติบโตขึ้น มันยิ่งชัดเจนว่าทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดี ตอนนี้ผมก้าวพ้นจากดาวรุ่งและได้ลงสนามมากขึ้นแล้ว นี่คือช่วงเวลาที่ผมสนุกกับฟุตบอลมากที่สุด" โฟเด้น กล่าว
"การที่ผมมีโค้ชที่ให้ความมั่นใจในตัวผมตลอด ทำให้ผมมั่นใจมากในการลงเล่นแต่ละครั้ง การที่เขารู้จักผมดีมันช่วยได้มากเวลาที่ผมลงสนาม ผมสามารถลงเล่นได้อย่างมีอิสระ เพราะมีความเข้าใจมากมายที่เคยเกิดขึ้นจากการเรียนรู้ในอดีต"
เป๊ป บอกว่า โฟเด้น เหมือนกับนกที่โบยบินไปทุกที่ที่เขาต้องการยามลงสนาม พร้อมทั้งยืนยันว่านักเตะอย่าง โฟเด้น ต่อให้มีคนมาซื้อในราคา 500 ล้านปอนด์เขาก็จะไม่ขายเด็ดขาดตราบใดที่เขายังเป็นโค้ชของ แมนฯ ซิตี้ และทิ้งท้ายว่าตอนนี้ โฟเด้น เป็นนักเตะระดับโลกแล้ว
จากนักเตะที่ค่อย ๆ หยอดลงมาในช่วง 10-20 นาทีสุดท้ายในช่วงอายุ 18-19 ปี กลายเป็นนักเตะที่ได้ลงเล่นเกมบอลถ้วย หรือเกมลีกทื่เจอคู่แข่งที่ไม่เก่งมากในช่งอายุ 20-21 ปี จนกระทั่งวันนี้ โฟเด้น อายุ 23 ปี เขามีส่วนกับทุกเเชมป์ที่สโมสรคว้ามาได้ เป็นนักเตะประเภทบิ๊กเกมเพลย์เยอร์ ถึงเกมใหญ่เมื่อไหร่ต้องได้ลงเมื่อนั้น ... นี่คือพัฒนาการที่ เป๊ป ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น แน่นอนว่า โฟเด้น ก็เก่งขึ้นในทุก ๆ วันอย่างที่เป๊ปตั้งใจประคบประหงมเขาเป็นอย่างดี
18 ประตูกับอีก 12 แอสซิสต์ นี่คือผลงานทีดีที่สุดที่เขาทำได้ และยังมีโอกาสนับต่อไปในฤดูกาลที่เหลืออยู่ เหนือสิ่งอื่นใดแม้ เป๊ป จะบอกว่า โฟเด้น ไต่ไปถึงระดับโลกแล้ว แต่ตัวของเขาก็ยืนยันว่านี่ยังไม่ใช่จุดสูงสุดของเขา
"ผมยังไม่สามารถพูดว่าตัวเองเป็นนักเตะระดับโลกได้ ผมคิดว่าผมยังมีศักยภาพที่จะไปต่อได้ แต่ทุกครั้งที่ผู้จัดการทีมพูดถึงผมในแง่ชื่นชมมันเป็นเรื่องที่พิเศษมาก ... แต่ขอบอกตรงนี้ว่าผมอยากจะพัฒนาตัวเองให้เก่งกว่าเดิม ผมอยากสม่ำเสมอยิ่งกว่า พิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าผมได้เล่นในเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และเจอกับความท้าทายที่สูงที่สุด ... ไว้ถ้าผมทำแบบนั้นได้ติด ๆ กันหลายปี นั่นแหละผมคิดว่าผมจะสมควรกับการเป้นระดับโลก" โฟเดน กล่าวทิ้งท้าย
แหล่งอ้างอิง
https://www.goal.com/en-om/lists/man-city-phil-foden-explains-why-he-isn-t-world-class-pep-guardiola-praise/blt7240be9fa8fc11d6#cs8e64cdb3718163be
https://www.manchestereveningnews.co.uk/sport/football/football-news/man-city-phil-foden-news-16095467
https://edition.cnn.com/2024/01/25/sport/phil-foden-pep-guardiola-manchester-city-unbeatable-spt-intl/index.html
https://www.skysports.com/football/news/11095/12250667/premier-leagues-young-stars-the-story-of-phil-foden
https://www.mancity.com/features/phil-foden-fishing/#:~:text=%E2%80%9CThe%20odd%20one%20likes%20fishing,and%20have%20some%20down%20time.%E2%80%9Dpablo