คุณคิดว่าการจะทำให้ทีมทีมหนึ่งที่หลุดวงโคจรการลุ้นแชมป์ไปไกล และเสียนักเตะตัวหลักแทบทุกปี กลับมาเป็นทีมลุ้นแชมป์ลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลีกที่มีโคตรสโมสรระดับจองแชมป์ลีกยาว 10 ปี อย่าง บาเยิร์น มิวนิค เป็นก้างปลาวาฬขวางคอ มันเป็นไปได้ยากแค่ไหน ? ... ยังไม่ต้องลงมือทำจริง แค่คิดก็ท้อแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีหนึ่งสโมสรที่ยืนหยัดด้วยการใช้กุนซือหนุ่มอย่าง ชาบี อลอนโซ่ และให้เวลาเขากว่า 1 ปี เสริมสร้างและซ่อมแซม จนตอนนี้ไม่มีแฟนบอลคนไหนไม่รู้สึกถึงความอันตรายของทีม ๆ ทีมนี้ ทีมที่กำลังจะกลายเป็นก้างขวางคอของ บาเยิร์น เสียเองอย่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทีมเดียวใน 5 ลีกยุโรปที่ยังไม่แพ้ใคร และเป็นทีมเดียวกันที่นำห่าง บาเยิร์น มิวนิค ในลีกถึง 7 แต้ม
อลอนโซ่ ทำยังไง ? เราจะพาคุณไปถอดปรัชญาและวิธีสร้างทีมของเขา ที่ความจริงแล้วมันไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ชนิดที่ว่าทีมไหนก็ทำได้ ... ติดตามที่นี่กับ Main Stand
หาสิ่งที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อ
ภายใต้การทำทีมที่มีงบประมาณไม่มากนัก สิ่งที่โค้ชทุกคนต้องทำให้ได้เพื่ออยากให้ทีมมีจุดเริ่มต้นของการพัฒนาคือ "การบริหารคน" ซึ่งถือเป็นศาสตร์ที่ลึกล้ำ เพราะโดยธรรมชาติของนักฟุตบอล ไม่ว่าจะบอลนักเรียน บอลเดินสาย ไปจนถึงบอลระดับโลก พวกเขาอยากจะลงสนามทั้งนั้น แต่คุณจะทำอย่างไรล่ะให้พวกเขาเต็มที่จะเล่นให้กับคุณ แม้ว่าพวกเขารู้ว่าบทบาทของตัวเองจะเป็นได้แค่ตัวสำรอง
ชาบี อลอนโซ่ เปิดปากเองเรื่องนี้เขาบอกว่า การซื้อใจคนคือสิ่งแรกที่กุนซือควรทำให้ได้ เมื่อจุดเริ่มต้นคือการที่นักเตะเชื่อใจโค้ช ทุกอย่างจะเดินทางไปยังสเต็ปต่อไปที่คุณตั้งใจไว้ได้
เรื่องนี้ อลอนโซ่ ได้เรียนรู้จากโค้ชของเขามากมายที่เขานับถือเป็นอาจารย์สมัยที่ตัวเองเป็นนักเตะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, ราฟา เบนิเตซ, โชเซ่ มูรินโญ่ ... ทั้งหมดโค้ชที่เขาเคยทำงานด้วย เขาไม่ได้บอกว่าคนไหนดีหรือไม่ดี แต่เขาบอกว่าเขาหยิบสิ่งละอันพันละน้อยของแต่ละคนมารวมกัน เพื่อหาสิ่งที่เข้ากับตัวของเขามากที่สุด
"บทเรียนแรกที่ผมเรียนรู้ทันทีจากการเริ่มเป็นโค้ช คุณต้องทำให้นักเตะเต็มใจจะเดินตามแนวทางเขาคุณ พวกเขาจะต้องเชื่อในสิ่งที่พวกเขาทำ พวกเขาจะต้องรู้ว่าการฝึกสอนของคุณจะทำให้พวกเขาพัฒนาขึ้น และคนที่จะทำให้พวกเขาเก่งกาจขึ้นได้คือคุณ กับความช่วยเหลือของคุณ" ชาบี อลอนโซ่ กล่าว
ทำให้ลูกทีมเชื่อ
มีคำกล่าวว่านักเตะระดับโลกทุกคนไม่จำเป็นว่าเขาจะเติบโตขึ้นมาเป็นยอดโค้ชเสียทั้งหมด แต่อันที่จริงแล้วการเคยเป็นอดีตยอดนักเตะมันพาเอาสิ่งที่เรียกว่า "ออร่า" มาด้วย เมื่อคุณประสบความสำเร็จในการเป็นแชมป์ทุกรายการบนโลกนี้ มันคือเครื่องหมายการันตีว่าคุณคือผู้มีประสบการณ์ที่เห็นโลกในที่นักเตะหลายคนไม่เคยเห็น ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเอา "ออร่า" นั้นมาขับเคลื่อนลูกทีมของคุณอย่างไร ?
"ชาบี อลอนโซ่ คือคนที่พยายามจะอธิบายหลายสิ่งอย่างในสนามซ้อมและในห้องทำงานของเขา ทุกอย่างเกี่ยวกับฟุตบอล และมันแสดงถึงความเข้าใจเชิงทฤษฎีอย่างลึกซึ่ง และเมื่อมันรวมกับออร่าความเป็นซูเปอร์สตาร์ที่คว้าทุกแชมป์สมัยเป็นผู้เล่น ที่มันทำให้เขาดูเป็นคนที่ทรงพลังมากในฐานะผู้จัดการทีมคนหนึ่ง" เจ้าหน้าที่ระดับซีเนียร์รายหนึ่งของ เลเวอร์คูเซ่น เปิดใจกับ The Athletic
ความรู้ทางทฤษฎี กับบารมีสมัยเป็นนักเตะ ทำให้ อลอนโซ่ ดูน่าเกรงขาม แต่มันสิ่งที่ทำเขามีเสน่ห์ยิ่งกว่านั้น คือการปฏิบัติต่อทุกคนในทีม และการแสดงออกในวันที่เขาเป็นคนที่ทุกคนต้องฟัง
อลอนโซ่ ทำทุกอย่างที่อยู่ในขอบเขตหน้าที่ของเขา มีจรรยาบรรณในการทำงาน และอ่อนน้อมถ่อมตนเหมือนมือใหม่ ... และแน่นอน ประโยคคลาสสิกที่เราจะใช้พูดถึงคนที่ประสบความสำเร็จในโลกฟุตบอลนั่นคือ "เขามาทำงานเป็นคนแรก และเดินออกประตูของสโมสรเป้นคนสุดท้ายทุกวัน เขาใช้เวลาครุ่นคิดถึงรายละเอียดเชิงแท็คติกได้ติดต่อกันหลายชั่วโมง" เจ้าหน้าที่คนเดิมบอกแบบนั้น
เป็นเรื่องจริงและมันบังเอิญไปตรงกับที่นักเตะในทีมบอก พวกเขาเชื่อ อลอนโซ่ เพราะ อลอนโซ่ ทำให้พวกเขาเห็น ว่ากันว่าเมื่อปี 2023 ในวันที่ อลอนโซ่ แขวนสตั๊ดได้ 6 ปี แต่เมื่อเขาลงสนามซ้อมร่วมกับนักเตะในทีม เลเวอร์คูเซ่น เขาคือนักเตะที่ดีที่สุดในทีม แน่นอนว่ามันคงไม่จริงทั้งหมด แต่มันคือการเปรียบเทียบที่ทำให้เราเห็นว่า อลอนโซ่ ทำอะไรในสนามซ้อมบ้าง
"คุณมาลองดูได้เลย เขาจะโยนบอลแนวทแยงด้วยระยะทางกว่า 50 หลา ที่นุ่มนวลและแม่นยำ มันจะลงไปยังจุดตกตรงที่ใจเขาอยากจะให้มันเป็น เช่นเดียวกันกับที่เขาจะจ่ายบอลผ่านตัดแนวรับด้วยความคมกริบเหมือนกับมีดที่ลับคมมาใหม่ ๆ … ใช่ และทั้งหมดนี้เขาทำได้โดยเหงื่อไม่ออกแม้แต่หยดเดียว"
“คุณก็แค่เชื่อทุกคำพูดที่เขาพูด เพราะคุณสามารถรู้ว่าเขาเป็นใครและจากวิธีที่การที่เขาพูดออกมา และคุณก็แค่เชื่อว่าเขาจะนำความสำเร็จมาให้ นั่นเพราะสิ่งที่เขากำลังทำ” ประโยคนี้ตอบได้ทันทีว่าทำไม เลเวอร์คูเซ่น จึงนำเป็นจ่าฝูงของ บุนเดสลีกา ในเวลานี้
รู้จริงในงานที่ทำ
การบริหารคนซึ่งเป็นส่วนที่ยากที่สุดผ่านไป เมื่อนักเตะทำสิ่งที่คุณอยากให้เขาทำ คุณจะได้นักเตะที่คุณภาพดีขึ้น คุณจะได้เห็นคุณภาพเกมในสนามที่ดีขึ้น แม้ว่าคุณจะไม่ได้มีนักเตะระดับพรสวรรค์ระดับโลก แต่คุณจะได้ผู้เล่นที่สร้างประโยชน์ให้กับทีมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง พวกเขาจะลงสนามไปและทำบางอย่างที่คุณอยากได้ โดยที่ไม่มีใครเป็นนักเตะในแบบที่เป็น "ตัวแถม" ให้เห็น และนั่นคือสิ่งที่นักเตะ เลเวอร์คูเซ่น รวมกันแล้วเล่นเป็นทีมได้ดีที่สุดในลีกยุโรป ณ เวลานี้
ในโลกฟุตบอลสมัยใหม่ แท็คติกคือสิ่งที่จำเป็นพอ ๆ กับคุณภาพผู้เล่น สำหรับ ชาบี อลอนโซ่ แม้เขาจะเพิ่งเป็นโค้ชได้ไม่กี่ปี และอย่างที่บอกไป เขาเคยทำงานกับยอดโค้ชหลายคน และความสงสัยใคร่รู้ ทำให้เขาเก็บรายละเอียดมาตั้งแต่วันที่เขาเป็นนักเตะ ในวันที่เขาเป็นโค้ช เขาจึงไม่ได้เริ่มนับ 1 ใหม่ทั้งหมด
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 โชเซ่ มูรินโญ่ ที่คุมทีม เรอัล มาดริด โดยมี อลอนโซ่ เป็นจอมทัพ ได้พูดว่า อลอนโซ่ จะกลายเป็นยอดโค้ช เพราะมีคุณสมบัติบางอย่างต่างจากยอดนักเตะคนอื่น ๆ ภายในทีม
"ชาบี อลอนโซ่ เป็นนักเตะที่มี DNA ความเป็นโค้ช เขาคือคนที่มีคุณสมบัติของ 'เมโทรนอม' อย่างแตกฉาน ผมมั่นใจว่าเมื่อเขาแขวนสตั๊ด เขาจะกลายเป็นโค้ช และเป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยม เขาเหมือนกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ตอนที่ผมทำงานกับเขาในฐานะผู้เล่น ... เขาเป็นโค้ชตั้งแต่วันที่เขาเป็นนักเตะแล้ว" มูรินโญ่ ว่าแบบนั้น
คุณอาจจะงง ๆ กับคำว่า เมโทรนอม (metronome - ความหมายที่แท้จริงคือ เครื่องกำหนดจังหวะ ในที่นี้หมายถึง ผู้กำหนดจังหวะในเกมฟุตบอล) แต่ มูรินโญ่ ก็ออกมาพูดอีกครั้งในวันที่ ชาบี อลอนโซ่ เป็นกุนซือของทีม เรอัล โซเซียดาด ชุดบี โดยหนนี้เขาอธิบายชัดมากกว่าเดิมว่า
"กับ ชาบี อลอนโซ่ ผมเห็นเงาเฮดโค้ชในตัวของเขา เขาคือคนที่มีปูมหลังและพื้นฐานดีมาก ๆ พ่อของเขาเป็นนักฟุตบอล และเคยเป็นผู้จัดการทีมด้วย (เปริโก อลอนโซ่) จากนั้น ชาบี ก็กลายมาเป็นนักเตะอาชีพที่เดินทางไปยังทุกที่ที่มีเกมฟุตบอลระดับสูงไม่ว่าจะเป็น สเปน, อังกฤษ, อิตาลี และ เยอรมนี ... เขาถูกฝึกสอนโดยยอดโค้ชมากมายทั้ง เป๊ป, ตัวของผมเอง, คาร์โล อันเชล็อตติ และ ราฟา เบนิเตซ ที่ ลิเวอร์พูล"
"ทีนี้คุณรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน คุณจะเห็นว่าเขาเป็นคนที่พร้อมจะเป็นโค้ชตั้งนานแล้ว เขารู้จักฟุตบอลอย่างแตกฉาน และเห็นฟุตบอลในแบบที่กว้างและลึกยิ่งกว่านักฟุตบอลคนอื่น ๆ" มูรินโญ่ แจกแจง
เรื่องแท็คติกที่ เลเวอร์คูเซ่น ใช้นั้นเป็นไปตามฟุตบอลสมัยใหม่ ชาบี อลอนโซ่ ไม่ได้อธิบายส่วนนี้เยอะ เพียงแค่เขาบอกว่าในฐานะที่เขาเป็นอดีตนักเตะตำแหน่งกองกลาง ทีมของเขาจะต้องเป็นฝ่ายที่ครอบครองบอลเป็นหลัก และที่สำคัญที่สุดไม่ว่าคุณจะมีบอลหรือไม่มีบอลอยู่กับตัว ความกระตือรือร้นห้ามลดลงเด็ดขาด
"ฟุตบอลของผมคือโมเดิร์นฟุตบอล แปลว่าเราจะมีความเข้มข้นทั้งตอนที่มีและไม่ม่บอลอยู่กับเท้า เราจำเป็นจะต้องมีสมาธิ และตื่นตัว มีจิตใจที่แข็งแกร่ง ทุกคนต้องเข้าใจตรงกันว่าทีมจะต้องเล่นอย่างไร นี่คือสิ่งที่พวกเขาต้องรู้ตั้งแต่ก่อนเดินลงสนาม และใช้มันให้เต็มจนเสียงนกหวีดยาวดังขึ้น ผมอธิบายให้ทุกคนแบบเข้ม ๆ และชัดเจนที่สุด ผมต้องการถ่ายถอดแนวคิดนี้ให้กับทุก ๆ คนในทีม" อลอนโซ่ ว่าแบบนั้น
นอกจากนักเตะจะตื่นตัวแล้ว โค้ชอย่างเขาจะเป็นเครื่องช่วยกระตุ้นตลอดเวลา หากคุณได้ดูเกมที่เขาคุมทีมข้างสนาม เขาจะไม่ใช่โค้ชที่นั่งจมอยู่กับเก้าอี้และทำหน้าเครียดอย่างเดียว ถ้าเขามีข้อความอะไรในใจ เขาจะลุกออกมาจากที่นั่งและตะโกนสั่งเพื่อส่งสารถึงนักเตะของเขาทันที และเขาเชื่อว่าวิธีนี้ทำให้ลูกทีมของเขาตื่นตัวตลอดเวลา
"สำหรับผม เป็นเรื่องปกติมากที่ผมจะส่วนร่วมกับเกมให้มากที่สุด ตอนนี้ผมเป็นโค้ชแล้ว ผมก็เลยแสดงออกมาแบบนั้น ผมถือคติว่าเมื่อคุณเป็นนักเตะคุณต้องเล่นในสนาม และเมื่อคุณเป็นโค้ชคุณก็ต้องจัดเต็มบนม้านั่งสำรองเหมือนกัน เพราะผมต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน และมีอิทธิพลต่อเกม"
พื้นฐานดีอยู่แล้ว พยายามหาความรู้เพิ่มเติม และปรับตัวไปตามยุคสมัยที่เกมฟุตบอลเปลี่ยนไปทุกวินาที นี่คือวิถีของ ชาบี อลอนโซ่ ที่จริงจังกับงานที่เขาทำ และทำตัวเองให้พร้อมกับทุกความท้าทายที่เข้ามา
สนุกกับความท้าทาย
ณ ตอนนี้ เลเวอร์คูเซ่น เป็นทีมเดียวใน 5 ลีกดังของยุโรป ฤดูกาล 2023/24 ที่ยังไม่แพ้ใคร และพวกเขามีแต้มทิ้งห่าง บาเยิร์น มิวนิค ทีมเต็งหามของ บุนเดสลีกา แน่นอนว่าบททอดสอบของจริงกำลังจะเริ่มหลังจากนี้ วันที่ทุกคนสนใจทีมเขา สื่อจะจับจ้องทุกอย่างที่ทีมของเขาทำ ความผิดพลาดหรือเรื่องเล็กน้อยจะถูกขยายให้ใหญ่ขึ้น ขณะที่คู่แข่งก็จะสเกาท์พวกเขาแบบไม่ปล่อยให้คลาดสายตา ทุกรายละเอียดของ เลเวอร์คูเซ่น จะอยู่ในสไลด์ก่อนเกมของทุก ๆ ทีมที่พวกเขาเจอ
จากนี้งานของเขาจะยากมากขึ้นเป็นเขาตามตัว เลเวอร์คูเซ่น จะได้รับบท "ผู้ถูกล่า" เหมือนกับที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รับบทบาทนี้มาตลอดหลายซีซั่นที่ผ่านมา และอย่างที่เราได้เห็นกัน วันใดที่ บาเยิร์น เป็นผู้ล่า พวกเขามักแสดงพลังบางอย่างออกมาเสมอ
ด้วยเรื่องนักเตะ ไม่ว่าจะในเชิงคุณภาพหรือปริมาณ แม้กระทั่งเรื่องประสบการณ์ระดับเขี้ยวลากดิน บาเยิร์น มิวนิค แสดงให้เห็นเสมอว่าถ้าพวกเขาเครื่องติด ต่อให้ 10 หรือ 15 เกมรวด พวกเขาก็สามารถเอาชนะได้ และการชนะแบบไม่หยุดของ บาเยิร์น ทำให้ผู้ถูกล่าในซีซั่นที่แล้วอย่าง ดอร์ทมุนด์ ต้องแหกโค้ง ตกม้าตายอย่างน่าเจ็บปวดในเกมสุดท้ายของซีซั่น 2022/23 มาแล้ว
ตอนนี้ เลเวอร์คูเซ่น เจอกับสถานการณ์ที่ตัวหลักบาดเจ็บ ไล่เรียงตั้งแต่ เอ็ดมอนด์ แทปโซบา, อามิน อัดลี และ โอดิลอน คอสซูนู ลงเล่นในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ และ วิคเตอร์ โบนิเฟซ ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุด เยเรมี่ ฟริมปง ก็บาดเจ็บในเกมที่เอาชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก 3-2 ชนิดที่ได้ประตูชัยในนาทีสุดท้าย คือตัวอย่างของสิ่งที่เขาจะเจอได้เป็นอย่างดี ... บททดสอบต่อไปของเขาจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
แม้ ณ ตอนนี้ ชาบี อลอนโซ่ จะไมได้บอกว่าเขามีแผนการระยะยาวอย่างไร แต่แผนการระยะสั้นของเขาก็มีหลุดมาบ้าง โดยหลังเกมกับ ไลป์ซิก เขาตอบกับสื่อที่ถามเขาว่า จะทำอย่างไรกับซีซั่นที่เหลือ และเขาตอบสั้นว่า ๆ "สุดเหวี่ยงไปกับมันสิ เหมือนกับเกมนี้ไง นี่คือการระเบิดความสุขแบบสุดบ้าคลั่ง และส่งมันต่อถึงนักเตะ ทีมงาน และแฟน ๆ ของเราทุกคน"
สิ่งที่ มูรินโญ่ บอกเกี่ยวกับ ชาบี อลอนโซ่ เมื่อ 14 ปีก่อนกำลังจะถูกพิสูจน์ ในฐานะ "เมโทรนอม" ผู้ที่เข้าใจจังกับทุกจังหวะและทุกสถานการณ์ ถ้าเขาจับความเคลื่อนไหว ปรับตัว และมีเหลี่ยมเชิงในการจัดการทีมกับการแข่งขันที่เหลือจนจบซีซั่น นั่นแสดงว่า "เดอะ เมโทรนอม" เหมาะกับการเป็นฉายาติดตัวของเขาอย่างแท้จริง
แหล่งอ้างอิง
https://onefootball.com/en/news/xabi-alonso-sets-out-philosophy-as-new-bayer-leverkusen-manager-35983602
https://www.bundesliga.com/en/bundesliga/news/xabi-alonso-bayer-leverkusen-tactics-25350
https://theanalyst.com/eu/2023/04/xabi-alonso-bayer-leverkusen-revolution/
https://theathletic.com/4908614/2023/09/29/xabi-alonso-head-coach/?access_token=4781369&redirected=1
https://www.marca.com/en/football/europa-league/2023/05/11/645d1957e2704e3b398b45d4.html
https://www.thescore.com/bund/news/2826742