Feature

โอลลี่ วัตกิ้นส์ : ดาวยิงสิงห์ผงาดในมืออูไน และโอกาสสดใสกับทีมชาติอังกฤษ | Main Stand

แอสตัน วิลล่า กลายเป็นทีมที่น่าจับตามองมากที่สุดทีมหนึ่งในพรีเมียร์ลีกตลอดไม่กี่ฤดูกาลที่ผ่านมา หลังก้าวขึ้นมาเป็นทีมที่แย่งชิงโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อย่างเต็มตัว

 

นอกจากพลพรรคสิงห์ผงาดจะมี อูไน เอเมรี่ กุนซือระดับท็อปเป็นหัวใจหลักแล้ว การที่สโมสรจากเมืองเบอร์มิงแฮมแห่งนี้ยังคงมี โอลลี่ วัตกิ้นส์ ลงปักหลักในแกนรุกก็ถือเป็นอีกหนึ่งฟันเฟือง ถึงตอนนี้ วัตกิ้นส์ก็ยังคงทำผลงานเด่นอย่างสม่ำเสมอนับแต่ปีแรกที่เข้ามา เผลอ ๆ เขามีโอกาสพัฒนาฝีเท้าจนก้าวไปไกลกว่าทุกวันนี้ด้วยซ้ำไป

จากลีกทูสู่ลีกสูงสุด โอลลี่ วัตกิ้นส์พาตัวเองก้าวมาเป็นแข้งระดับแถวหน้าของวงการฟุตบอลอังกฤษได้อย่างไร และอูไน เอเมรี่ มีส่วนผลักดันให้ดาวยิงผู้นี้เฉิดฉายมากน้อยขนาดไหนในยุคสมัยปัจจุบัน ร่วมติดตามไปพร้อม ๆ กันกับ Main Stand

 

ไต่ระดับจากลีกล่าง

จุดเริ่มต้นในระบบฟุตบอลอาชีพของ โอลลี่ วัตกิ้นส์ เกิดขึ้นที่ เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ สโมสรซึ่งมีถิ่นฐานตั้งอยู่บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษและมีกลุ่มแฟนบอลเป็นเจ้าของ โดยวัตกิ้นส์อยู่ร่วมชายคาทีมแห่งนี้มาตั้งแต่ทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 11 ปี 

แม้จะเคยมีช่วงที่โดนทีมฉายา เดอะ เกรเชี่ยนส์ (The Grecians) ปฏิเสธการเข้าร่วมทีมเยาวชนเมื่อตอนอายุ 9 ขวบ แต่ในช่วงรอบทศวรรษต่อจากนั้น เขาก็พาตัวเองให้กลายเป็นผลผลิตของทีมชนิดค่อย ๆ เปลี่ยนสถานะจากแข้งอคาเดมี่มาสู่แข้งอาชีพอย่างเต็มตัวด้วยวัย 19 กะรัต ในปี 2014 โดยผลงานน่าจดจำของ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ณ วัยขณะนั้น หนีไม่พ้นสถิติกระหน่ำ 30 ประตูให้ทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีของสโมสร 

อย่างไรก็ดี ใช่ว่า โอลลี่ วัตกิ้นส์ จะได้โอกาสเฉิดฉายกับ เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ ไปในทันที โดย พอล ทิสเดล กุนซือของทีมค่อย ๆ ให้โอกาสวัตกิ้นส์แบบค่อยเป็นค่อยไป เป็นเหตุให้ในช่วงสองซีซั่นแรกกับ เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ วัตกิ้นส์เผชิญช่วงเวลาทั้งการตกเป็นตัวสำรองสลับกับไม่มีชื่อในเกมลีก แม้จะมีชื่อทำประตูให้ทีมได้บ้างก็ตาม 

แถมในช่วงเดือนธันวาคม 2014 เจ้าตัวยังเคยถูกปล่อยให้ทีมระดับนอกลีก อย่าง เวสตัน-ซูเปอร์-แมร์ ยืมตัวมาแล้ว

แต่ "เพชรอยู่ที่ใดก็เป็นเพชร" ที่สุดแล้วคำกล่าวนี้ก็ใช้ได้กับสถานการณ์ในยุคปฐมบทฟุตบอลของ โอลลี่ วัตกิ้นส์จนได้ ไล่มาตั้งแต่การปรับเรื่องทัศนคติที่มีต่อเกมลูกหนัง เช่นเดียวกับคำท้าทายสู่แรงกระตุ้นจาก พอล ทิสเดล กุนซือของ เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ เอง

"ผมเคยคิดว่าแค่เราลงเล่นเป็นตัวสำรองไม่กี่นัดก็คือนักเตะทีมชุดใหญ่แล้ว แต่จริง ๆ มันไม่ใช่แบบนั้น ผมมั่นใจในความสามารถของตัวเองมาโดยตลอด ทำให้ผมจึงยึดมั่นในแนวทางตัวเอง แต่ตอนนั้นผมไม่ได้ทำงานหนักตามไปด้วย" วัตกิ้นส์ เปิดใจผ่านซีรี่ส์พิเศษ "At home with" ของ Sky Sports

"พอล ทิสเดล เคยท้าทายผมด้วยนะ เขาแนะนำว่าอย่าให้เกมการเล่นของตัวผมเองดูซับซ้อนมากไปนัก มันก็เหมือนเราเล่นซันเดย์ลีกนั่นแหละ ลุยให้เต็มที่ไปเลย แสดงฝีเท้าออกมาให้ได้"

ผลงานในสนามของวัตกิ้นส์บ่งบอกได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่น 2015-16 หรือตั้งแต่แมตช์เดย์ที่ 34 ถึง 46 กับสถิติ 8 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์ หนึ่งในนั้นคือผลงานเกมแห่งศักดิ์ศรีภาคตะวันตก อย่าง เวสต์ เคาน์ตี้ ดาร์บี้ ซึ่งเขาทำสองประตูพาทีมอัด พลีมัธ อาร์ไกล์ 2-1

เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ พอล ทิสเดล ไว้ใจและส่งเป็นตัวจริงไปตลอดช่วงเวลาที่แข้งรายนี้มีสัญญากับสโมสร แน่นอนว่าเขาก็ตอบแทนโอกาสล้ำค่านี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะซีซั่น 2016-17 ที่ซึ่งตัวรุกสารพัดประโยชน์ผู้นี้ลงเล่นไปทั้งสิ้น 52 นัด ยิง 16 ประตูกับอีก 13 แอสซิสต์ แถมยังพาทีมเข้าเพลย์ออฟเลื่อนชั้นสู่ลีกวัน ทว่าน่าเสียดายที่ไม่อาจกำชัยเหนือแบล็คพูลได้ (แพ้นัดชิงชนะเลิศ 1-2)

อย่างไรก็แล้วแต่ ความสำเร็จในซีซั่นดังกล่าวนั้นดีพอที่จะพาให้เขาคว้าความสำเร็จส่วนตัว ผ่านรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำซีซั่นของ EFL (รวมทั้งแชมเปี้ยนชิพ ลีกวัน และลีกทู) 

ดูเหมือนว่าเวทีลีกทูจะเล็กไปสำหรับนักเตะรายนี้เสียแล้ว แน่นอนว่าในระหว่างสร้างความยิ่งใหญ่กับ เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ เขาจัดเป็นดาวรุ่งเนื้อหอมที่ทีมจากดิวิชั่นสูงกว่าล้วนแต่ให้การจับตา 

ก่อนที่การย้ายทีมจะเกิดขึ้นจริง ๆ ในซัมเมอร์ 2017 เมื่อ เบรนท์ฟอร์ด ภายใต้การคุมทัพของ ดีน สมิธ ได้ลายเซ็นหอกดาวโรจน์ผู้นี้ไปร่วมทีมด้วยสัญญา 4 ปี พ่วงออปชั่นอีกปี พร้อมค่าตัวที่ว่ากันว่ามีมูลค่าราว 1.8 ล้านปอนด์

ผลงาน 10 ประตูตลอดสองฤดูกาลแรกของ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ภายใต้สีเสื้อทีมแห่งเวสต์ลอนดอน เป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นดีถึงคุณภาพที่มี มากไปกว่านั้น ในฤดูกาล 2019-20 หรือฤดูกาลสุดท้ายของเขากับสโมสร กลับเป็นขวบปีที่น่าจดจำมากที่สุด 

แม้ว่าอดีตผลผลิต เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ จะไม่อาจช่วย เบรนท์ฟอร์ด เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกจากการพ่าย ฟูแล่ม 1-2 ในเกมเพลย์ออฟนัดชิงชนะเลิศ ทว่าโดยรวมแล้ว เขาทำสถิติกระหน่ำประตูในเดอะ แชมเปี้ยนชิพถึง 25 ตุง (3 แอสซิสต์) จากสถิติลงเล่นในลีกครบ 46 เกม ดีพอที่จะคว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมแห่งปีของลีก ในซีซั่นนั้น

นอกจากนี้ เขายังสถาปนาตัวเองจากนักเตะสารพัดประโยชน์ในเกมรุก ในสมัยโลดแล่นลีกล่าง มาเป็นนักเตะตำแหน่ง "กองหน้าเบอร์ 9" โดยสมบูรณ์ ในยุคที่ เบรนท์ฟอร์ด มีกุนซือชื่อ โธมัส แฟรงค์

เช่นเดียวกับสมัยที่เนื้อหอมในลีกทู หลังความสำเร็จส่วนตัวที่ถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง โอลลี่ วัตกิ้นส์ เริ่มถูกทีมน้อยใหญ่ให้การจับตามองอีกครั้ง กระทั่งคราวนี้ชีวิตมาพลิกผันสุดขั้ว เมื่อสถานีต่อไปของเจ้าตัว คือการก้าวขึ้นไปเป็นนักเตะพรีเมียร์ลีก กับ แอสตัน วิลล่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคุ้นมืออย่าง ดีน สมิธ ในฤดูกาล 2020-21

สัญญายาว 5 ปี พร้อมค่าตัวสูงเป็นสถิติสโมสรในเวลานั้น 28 ล้านปอนด์ และอาจจะพุ่งสูงถึง 33 ล้านปอนด์บวกโบนัสในอนาคต 

โอลลี่ วัตกิ้นส์ พร้อมแล้วกับการนับหนึ่งใหม่ในเวทีที่สปอตไลท์ส่องเข้ามามากกว่าเดิม

 

ของจริงสิงห์ผงาด

คุณภาพที่เต็มเปี่ยม ความมุ่งมั่นที่มีในตัว ตัวอย่างที่ว่านี้ ล้วนเป็นเหตุผลที่ ดีน สมิธ ผู้จัดการทีม แอสตัน วิลล่า แสดงความตั้งใจในการดึง โอลลี่ วัตกิ้นส์ มายังถิ่น วิลล่า พาร์ค

"โอลลี่พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นกองหน้าที่เนื้อหอมมากที่สุดในประเทศ (อังกฤษ) เราตั้งตารอดูเขาแสดงศักยภาพที่ยอดเยี่ยมออกมาในสีเสื้อ แอสตัน วิลล่า เขาเป็นนักเตะที่มีคาแร็กเตอร์ในแง่ของความมุ่งมั่น ซึ่งมีทั้งความสามารถและบุคลิกภาพที่พร้อมจะประสบความสำเร็จในระดับท็อปได้"

โอลลี่ วัตกิ้นส์ ทำให้ใครหลายคนเห็นตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่มีโอกาสลงบู๊พรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะโมเมนต์น่าจดจำในแมตช์ที่เขาทำประตูแรกในลีกได้ เกิดขึ้นในเกมที่ แอสตัน วิลล่า ถลุงยับ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่า 7-2 โดยเจ้าตัวทำเพอร์เฟ็กต์แฮตทริค (ทำประตูจากเท้าซ้าย เท้าขวา และโหม่ง) ได้ ซึ่งสามคะแนนของสิงห์ผงาดในวันนั้น ยังทำให้ทีมหงส์แดงพ่ายยับเยินสุดรอบ 57 ปี เทียบเท่ากับที่เคยแพ้ สเปอร์ส 2-7 เมื่อปี 1963 

นับตั้งแต่ฤดูกาล 2020-21 ไปจนถึง 2022-23 โอลลี่ วัตกิ้นส์ ทำประตูแตะเลขหลักสิบทุกครั้งไป แน่นอนว่าเขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรครบทุกขวบปี 

ต่อให้ทีมจากเมืองเบอร์มิ่งแฮมจะมีการเปลี่ยนแปลงเก้าอี้กุนซือจาก ดีน สมิธ สู่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด มาจนถึงกุนซือคนปัจจุบันอย่าง อูไน เอเมรี่ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน ก็คือมาตรฐานการเล่นของวัตกิ้นส์

ยิ่งนานวันเข้า ดูเหมือนว่าหัวหอกเจ้าของส่วนสูง 180 เซนติเมตรผู้นี้จะดูพีคยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ โดยเฉพาะช่วงที่ได้ร่วมงานกับผู้จัดการทีมระดับต้นคนหนึ่งแห่งวงการฟุตบอลนาม "อูไน เอเมรี่"

 

ยุคอูไน หัวใจคืออยู่ในกรอบเขตโทษ

อดีตผู้จัดการทีมผู้พา เซบีย่า เถลิงแชมป์ยูโรป้า ลีก 3 สมัย, พา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เป็นแชมป์ลีกเอิง 1 สมัย โยกเข้ามาคุมทีมในถิ่น วิลล่า พาร์ค ในช่วงกลางซีซั่น 2022-23 แน่นอนเทรนเนอร์สแปนิชมีเป้าหมายใหญ่คือการพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเองยังมีดีพอกับการทำงานในพรีเมียร์ลีก หลังเคยไปไม่สุดในสมัยอยู่คุม อาร์เซนอล

ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ อูไน เอเมรี่ คาดหวังและอยากจะพิสูจน์ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ในซีซั่น 2022-23 สตีเว่น เจอร์ราร์ด คุมแอสตัน วิลล่าในช่วงต้นซีซั่นด้วยผลงานที่ไม่สู้ดี ชนะเพียงสามเกมเท่านั้น แถมยังเคยหล่นไปถึงอันดับรองสุดท้ายของฤดูกาลมาแล้ว 

ทว่าพอเก้าอี้เฮดโค้ชเปลี่ยนมาเป็น อูไน เอเมรี่ ซึ่งใช้ขุมกำลังชุดเดียวกัน แถมตลาดนักเตะเดือนมกราคม 2023 สโมสรเติมแค่ อเล็กซ์ โมเรโน่ แบ็คซ้ายมาจาก เรอัล เบติส และ จอห์น ดูแรน จาก ชิคาโก้ ไฟร์ แต่กระนั้น นายใหญ่วัย 52 ปีกลับพาทีมสิงห์ผงาดจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 7 คว้าตั๋วฟุตบอลยุโรปถ้วยเล็ก ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก ได้แบบหน้าตาเฉย

แท็คติกและวิธีการเล่น คือหัวใจหลักที่ อูไน เอเมรี่ เลือกใส่รายละเอียดลงไปในตัวนักเตะหลาย ๆ คนของทีม หนึ่งในนั้นก็คือ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ทำให้ร่างทองของกองหน้าทีมชาติอังกฤษผู้นี้ ดูราศีจับยิ่งขึ้นไปอีก

คีย์หลักที่วัตกิ้นส์ได้รับโจทย์มาจากกุนซือสแปนิชคือให้โฟกัสกับการเล่นในกรอบเขตโทษเป็นสำคัญ ไม่จำเป็นต้องมาช่วยเพื่อนวิ่งไล่บอลทั่วสนาม จัดการกับหน้าที่หลักของตัวเองในเขตแดนคู่แข่งให้ดีที่สุด

นอกจากนี้ อูไน เอเมรี่ ยังยกตัวอย่างและแนะนำให้วัตกิ้นส์ มีแนวทางการเล่นแบบเดียวกองหน้าสไตล์เบอร์ 9 ที่กุนซือแดนกระทิงรายนี้เคยร่วมงานด้วย อาทิ เอดินสัน คาวานี่, ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง เช่นเดียวกับ คาร์ลอส บัคก้า อดีตกองหน้า เซบีย่า ที่ถล่มประตูจนทีมเป็นแชมป์ระดับถ้วยเล็กสโมสรยุโรปเป็นว่าเล่น

"บางครั้งผมอยากออกมาเล่นนอกกรอบเขตโทษ แต่เขา (อูไน) ก็พูดตรง ๆ เลยว่า 'อย่าไปตรงนั้น' เขาพูดตรง ๆ แบบนั้นเลยนะ - 'อย่าไป อยู่นั่นแหละ' ผมนี่ฮาเลยนะ แต่มันก็ได้ผลครับ" วัตกิ้นส์ พูดถึงแนวทางที่ อูไน เอเมรี่ อยากให้ลูกทีมคนนี้เป็น

"ผมพยายามให้ตัวเองมีไหวพริบและเลือกวิ่งให้ได้เปรียบมากกว่าใช้ความกระตือรือร้นในการวิ่งไปทั่วสนาม"

"ผู้จัดการทีมมีความสำคัญมากนะครับ อย่างในแง่ของการวางตำแหน่งนักเตะ ดังนั้น มันเกี่ยวกับจังหวะการวิ่งของผม การรักษาตำแหน่งของตัวผมเอง และการดูผู้เล่นคนอื่น ๆ เข้ามาเชื่อมกันในพื้นที่แดนหน้า"

อธิบายลึกลงไปถึงสถิติที่บ่งชี้ถึงความสุดยอดของวัตกิ้นส์ยุคเอเมรี่ในซีซั่น 2022-23 โดย Birmingham Live สื่อท้องถิ่นหยิบตัวเลขในเดือนเมษายน หรือในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่น ระบุว่า กองหน้าเบอร์ 11 รายนี้มีค่าเฉลี่ยทำประตูต่อเกมในพรีเมียร์ลีกที่ 0.66 ครั้ง ขณะที่ยุคเจอร์ราร์ดเขามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 0.10 ครั้ง ขณะที่ค่า Expected Goals หรือ xG หรือค่าเฉลี่ยบ่งบอกถึงความเป็นไปได้ที่โอกาสการยิงในแต่ละครั้งก็เพิ่มขึ้นจากยุคเดิมที่ 0.32 เป็น 0.53 ครั้งเลยทีเดียว

ผลลัพธ์จากการอยู่เรียนรู้และเข้าใจแท็คติกของ อูไน เอเมรี่ ส่งให้ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ปิดฉากซีซั่นนั้นด้วยสถิติ 16 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์ โดย 14 จาก 16 ประตู เกิดขึ้นในยุคกุนซือชาวสเปน 

ส่วนสถิติในซีซั่น 2023-24 วัตกิ้นส์ทำไป 19 ประตู กับอีก 13 แอสซิสต์ในลีก และหากรวมทุกรายการ วัตกิ้นส์ยิงไปถึง 27 ประตูเลยทีเดียว 

แน่นอนว่าถ้าไม่เจ็บไม่แบน กอปรกับสัญญาใหม่ที่เพิ่งเซ็นยาวกับ แอสตัน วิลล่า ไปจนถึงปี 2028 เขามีโอกาสเพิ่มสถิติส่วนตัวให้สูงขึ้นกว่านี้อีกชนิดที่ไม่มีใครสงสัย

 

อนาคตไกลกับสิงโตคำราม

การที่ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ทำผลงานชนิดกราฟฟุตบอลพุ่งขึ้นสูงอยู่เรื่อย ๆ ผลสอดรับที่ตามมาติด ๆ กันก็คือมันช่วยการันตีว่า ทีมชาติอังกฤษ มีศูนย์หน้าผลงานเด่นคนนี้เป็นตัวเลือก และพร้อมจะมีชื่อติดทีมไปในทุก ๆ ทัวร์นาเมนต์

แม้ โอลลี่ วัตกิ้นส์ จะถูกเรียกติดธงสิงโตคำรามมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2021 ทว่ายังไม่ได้เป็นการติดทีมชาติในฐานะกองหน้าเบอร์ต้น ๆ ของชาติ อย่างในกลางปีดังกล่าว กับศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) ดาวยิงแอสตัน วิลล่า ผู้นี้ ไม่ได้ถูกเรียกตัวไปติดทัพ

เช่นเดียวกับฟุตบอลโลก 2022 เจ้าตัวยังถูก แกเร็ธ เซาท์เกต หั่นชื่อ ไม่ได้ไปลุยฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
 
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ที่ทำให้เขายังไม่ค่อยได้รับโอกาสกับ ทรี ไลออนส์ มันทำให้วัตกิ้นส์รู้สึกผิดหวังและเสียดายอยู่เหมือนกัน 

"ผมอยากไปได้ไกลกว่านี้ คว้าโอกาสให้ได้มากกว่านี้ แล้วผมก็จะถูกพูดถึงมากกว่านี้" วัตกิ้นส์ กล่าวผ่าน The Athletic หลังไม่มีชื่อลุยเวิลด์คัพ 2022 

"บางครั้งผมหยิกตัวเองด้วยนะ เพราะผมประสบความสำเร็จมาพอสมควรแล้ว ผมอยากได้อะไรมากกว่านี้เหมือนกันนะ ผมใจร้อนกับเรื่องนี้อยู่" 

อย่างไรก็ตาม หากโอลลี่ยังรักษาผลงานสม่ำเสมอกับสโมสรต่อไปเรื่อย ๆ โอกาสข้างหน้าก็คงเข้ามาในวันใดวันหนึ่ง เพราะเหล่ากองหน้า "ตัวเป้า" สัญชาติอังกฤษที่ติดทำเนียบในเวลาเดียวกันก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีเท่าเขา นอกจาก แฮร์รี่ เคน

ที่สุดแล้ว วัตกิ้นส์ก็มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุด ยูโร 2024 จนได้ และแม้จะไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามมากนัก แต่เขาก็เป็นหนึ่งในตัวโจ๊กเกอร์ที่ช่วยให้อังกฤษไปไกลถึงรองแชมป์ กับลูกยิงนาทีสุดท้าย ให้อังกฤษแซงชนะเนเธอร์แลนด์ 2-1 ในรอบรองชนะเลิศ

หากยังคงรักษาฟอร์มการเล่นของตัวเองให้เสมอต้นเสมอปลายเฉกเช่นที่ผ่านมา มากไปกว่านั้นก็คือพาตัวเองก้าวไปอีกระดับ ไม่ว่าจะทั้งสถิติทำประตูหรือแอสซิสต์ ตลอดจนช่วยแอสตัน วิลล่า ทำผลงานบินสูงกว่าปีก่อน ๆ 

แน่นอนว่าโอกาสดี ๆ ต่อจากนี้ จะเดินเข้ามาหาตัวเขาอย่างไม่ต้องสงสัย  

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.efl.com/news/2020/september/ollie-watkins-efl-journey/  
https://www.theguardian.com/football/2021/mar/25/ollie-watkins-non-league-england-weston-super-mare 
https://www.avfc.co.uk/news/2020/september/Villa-announce-Watkins-signing-/ 
https://www.birminghammail.co.uk/sport/football/football-news/ollie-watkins-unai-emery-villa-26656252
https://www.premierleague.com/news/3750635 
https://theathletic.com/4993169/2023/10/26/ollie-watkins-off-the-ball/ https://theathletic.com/3983227/2022/12/10/ollie-watkins-aston-villa-england/ https://en.wikipedia.org/wiki/Ollie_Watkins 

Author

พชรพล เกตุจินากูล

แฟนคลับเชลซี ติดตามฟุตบอลเอเชีย ไก่ทอดและกิมจิเลิฟเวอร์

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา