หากเอ่ยถึงชื่อสุดยอดสโมสรฟุตบอลในประเทศบราซิล แน่นอนว่า ซานโตส เอฟซี คือหนึ่งในทีมชื่อดังที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ไม่ว่าจะทั้งการคว้าแชมป์รายการน้อยใหญ่เป็นว่าเล่น ไปจนถึงการผลิตนักเตะฝีเท้าดีขึ้นมาประดับวงการลูกหนังแดนเซเลเซา
ซานโตส สั่งสมชื่อเสียงจากความสำเร็จนี้มาช้านาน จนกระทั่งถึงช่วงสิ้นสุดฤดูกาล 2023 เมื่อทีมดังแห่งรัฐเซา เปาโล มีอันต้องล่วงหล่นจากลีกสูงสุดของบราซิลเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 111 ปี ของสโมสร โดยหลังเกมนัดส่งท้ายซีซั่น ซึ่งชี้ชัดว่าพวกเขาตกชั้น แฟนบอลบางส่วนของทีมได้ร่วมกันก่อเหตุความไม่สงบ มีทั้งเผารถยนต์และรถบัสที่จอดบริเวณด้านนอกสนาม มาพร้อมกับคาบน้ำตาแห่งความเศร้าโศก
เกิดอะไรขึ้นกับสโมสรอย่างซานโตส Main Stand ขอชวนแฟน ๆ มาติดตามเรื่องราวทั้งหมดนี้ไปพร้อม ๆ กัน
ทีมแห่งประวัติศาสตร์ แหล่งผลิตดาวเด่นโลกลูกหนัง
ซานโตส เอฟซี ก่อตั้งขึ้นในปี 1912 เป็นสโมสรที่มีพื้นเพอยู่ที่รัฐเซา เปาโล ซึ่งว่ากันว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการเงินของบราซิล แม้ซานโตส จะไม่ได้เป็นทีมที่มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับทีมอื่น ๆ ร่วมรัฐ ทั้ง เซา เปาโล, โครินเธียนส์ หรือแม้แต่ พัลไมรัส สังเกตได้จากรังเหย้าสโมสร อย่าง เอสตาดิโอ อูร์บาโน่ คัลไดร่า (Estádio Urbano Caldeira) หรือที่รู้จักในนาม วีล่า เบลมิโร่ (Vila Belmiro) ซึ่งจุแฟนบอลได้ราว ๆ 16,068 คน ทว่าพวกเขากลับเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ทีมร่วมรัฐ เช่นเดียวกับความยิ่งใหญ่ที่มีไม่ต่างไปจากทีมของรัฐอื่น
โดยเฉพาะเรื่องของความสำเร็จในยุครุ่งเรือง ช่วงทศวรรษ 1950 ต่อเนื่องไปยังทศวรรษ 1960 ที่ซึ่งซานโตสเคยผงาดแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศ (Campeonato Brasileiro Série A) หรือที่รู้จักในนามบราซิเลียโร่ เซรีอา ถึง 5 สมัยติดต่อกัน ระหว่างปี 1961 ถึง 1965, เช่นเดียวกับแชมป์โคปา ลิเบอร์ตาโดเรส (Copa Libertadores) หรือแชมป์สโมสรประจำทวีปอเมริกาใต้อีกสองสมัย ในปี 1962 ถึง 1963
เช่นเดียวกับความสำเร็จผ่านแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ (Intercontinental Cup) หรือศึกชิงแชมป์ระดับแชมป์สโมสรทวีปอเมริกาใต้ ชนกับแชมป์สโมสรทวีปยุโรป ถึงสองสมัย ในปี 1962 และ 1963 และอีกหลายรายการ
ตัวอย่างข้างต้นนี้ ถือเป็นความสำเร็จที่ในเวลานั้นยากจะหาทีมใดมาต่อกร
ปฏิเสธไม่ได้ว่าฟันเฟืองชิ้นใหญ่ที่นำพาให้ซานโตสก้าวสู่ความสำเร็จนั้นมาจาก เปเล่ กองหน้าดาวเด่นผู้ที่ภายหลังได้รับการยกย่องว่าเป็นแข้งสมบัติของประเทศบราซิล ซึ่งเคยมีช่วงเวลาค้าแข้งกับทีมในระหว่าง 1956-1974
มากไปกว่านั้น ตัวตนของเปเล่ ในฐานะแข้งดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลกสามสมัย ยังมีส่วนพาซานโตส รวมถึงประเทศบราซิลให้กลายเป็นที่รู้จักไปยังทุกทวีป เพราะในยุคดังกล่าว ทางรัฐบาลบราซิล, สหพันธ์ฟุตบอลบราซิล (CBF) และซานโตส ผุดโปรเจ็คต์อันเป็นสิทธิพิเศษสโมสร ว่าด้วยเรื่องของการทำกิจกรรมฟุตบอล และกำหนดให้มีเกมกระชับมิตรเพื่อให้คนทั้งโลกได้เห็นทักษะและลีลาอันแพรวพราวของตำนานลูกหนังรายนี้
โดยรายได้ที่ได้รับก็จะแบ่งให้ซานโตสด้วย ว่ากันว่าทั้งรัฐบาลและองค์กรลูกหนังแม่แดนกาแฟ ผุดโครงการนี้ขึ้นเพื่อเป็นการตอบแทนเปเล่ ที่บอกปัดไม่ไปค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ซึ่งหนึ่งในหมุดหมายที่เปเล่ รวมถึงเพื่อนร่วมทีมซานโตสเดินทางไปเยือน ก็คือกรุงเทพฯ ในปี 1972
หลังหมดยุครุ่งเรืองไปแล้ว ใช่ว่ามาตรฐานของซานโตสจะตกลง เพราะช่วงหลังปี 1974 ทีมดังแห่งรัฐเซา เปาโล ยังคงคว้าความสำเร็จในรูปแบบของแชมป์อยู่อีกจำนวนไม่น้อย ไล่มาตั้งแต่การคว้าแชมป์ระหว่างรัฐเซา เปาโล กับริโอ เดอ จาเนโร ในปี 1997, ครองแชมป์ลีกสูงสุดเพิ่มอีกสองสมัย ในปี 2002 และ 2004 ไปจนถึงแชมป์โคปา ลิเบอร์ตาโดเรส อีกหนึ่งสมัย ในปี 2011
ขณะเดียวกัน ซานโตสก็ยังคงชื่อชั้นว่าเป็นทีมที่ปลุกปั้นนักเตะสัญชาติบราซิลเลี่ยนขึ้นมาประดับวงการได้อย่างต่อเนื่อง ไล่มาตั้งแต่ โรบินโญ่ อดีตกองหน้า เรอัล มาดริด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เอซี มิลาน, ดิเอโก้ รีบาส อดีตเพลย์เมกเกอร์ แวร์เดอร์ เบรเมน, เนย์มาร์ แนวรุกค่าตัวสถิติโลก 222 ล้านยูโร จาก บาร์เซโลน่า ไป ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่แจ้งเกิดกับสโมสรนี้ ไปจนถึงดาวเด่นทัพเซเลเซาชุดล่าสุดอย่าง โรดรีโก้ โกเอส สตาร์สังกัดเรอัล มาดริด
แน่นอนว่าความสำเร็จทั้งในรูปแบบโทรฟี่ การเป็นที่รู้จักของแฟนฟุตบอลทั่วโลก ตลอดจนการปลุกปั้นแข้งสู่เวทีทีมชาติชุดใหญ่อยู่เรื่อยมาของซานโตส จะทำให้ใครหลายคนคงไม่ทันตระหนักรู้ว่าสโมสรแห่งนี้จะถึงคราวล้มเหลวชนิดกราฟดิ่งฮวบฮาบ
กระทั่งมาเกิดขึ้นในปี 2023 หรือ 111 ปี หลังก่อตั้งสโมสร
สารพันปัญหา
ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ระบบอคาเดมี่ที่เริ่มดร็อปลง กอปรกับการบริหารที่ไปไม่สุดในทางใดทางหนึ่ง ท่ามกลางวิกฤตการเงินที่เริ่มก่อตัว ทั้งหมดนี้คือภาพรวมที่นำมาซึ่งการตกชั้นจากลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของซานโตส
จริงอยู่ที่ซานโตสจะมีนักเตะดาวรุ่งขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่และส่งออกไปเล่นในยุโรปได้ ทว่าเมื่อถูกนำไปเปรียบเทียบกับทีมใหญ่ร่วมลีกบราซิล อคาเดมี่ของสโมสรไม่ได้อยู่ในระดับที่ดีไปกว่าสโมสรอื่น ๆ โดยเฉพาะเรื่องของความทันสมัย
"ระบบเยาวชนไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก" บรูโน่ ลิมา หนึ่งในผู้ที่อยู่คลุกคลีกับสโมสรซานโตส เริ่มอธิบาย "ไม่ทันสมัย อคาเดมี่ของซานโตสถูกสโมสรอื่น ๆ ในบราซิลที่ลงทุนไปกับการพัฒนาเยาวชนแซงหน้าไปแล้ว ทำให้สโมสรเหล่านั้นมีตัวเลือกของนักเตะมากขึ้นไปด้วย ตอนนี้ทีม (ซานโตส) ไม่มีวอนเดอร์คิดคนไหนที่พร้อมจะเฉิดฉายขึ้นมาเหมือนในอดีต"
เหตุผลสอดรับกับการที่ซานโตสไม่สามารถพัฒนาระบบเยาวชนทีมให้ดีได้เหมือนก่อน หรือทำได้เท่ากันกับทีมใหญ่ ๆ ทีมอื่น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสโมสรมีสถานะการเงินที่ไม่สู้ดี ยกตัวอย่างเงินบัญชีกลางปีของทีม ที่มีหนี้สินอยู่ถึง 700 ล้านเรียลบราซิล คิดเป็นเงินปอนด์อยู่ที่มูลค่า 113 ล้านปอนด์
และหากจะมองกลับไปยังปัญหาที่สืบเนื่องจากสองเรื่องนี้ ก็ต้องมองไปยังการบริหารสโมสร โดยเฉพาะในยุคปี 2021 หลังการเข้ามาเป็นประธานทีมของ อันเดรส รูเอด้า
The Athletic สื่อเอ็กซ์คลูซีฟรายงานว่า ซานโตส ในยุคของท่านประธานรูเอด้า ประสบปัญหาเรื่องการจัดสรรบุคลากรมาสู่สโมสร ทีมใช้จ่ายเงินไปกับเรื่องการซื้อความสำเร็จระยะสั้น
ไล่ตั้งแต่เรื่องราวทั้งที่ทีมมีการเปลี่ยนแปลงเก้าอี้กุนซืออย่างน้อย 4 ราย ในทุก ๆ ปี นับแต่ที่รูเอด้าเข้ามาเป็นหัวเรือใหญ่ นั่นรวมถึงฤดูกาลล่าสุดก่อนตกชั้นสู่ลีกรอง ซานโตสมีเฮดโค้ชคุมทีมทั้งถาวรและขัดตาทัพรวมถึง 5 คน
ขณะที่บุคลากรสโมสรอย่าง นักเตะ ก็คงความอลหม่านไม่แพ้กัน ยกตัวอย่างตลอดฤดูกาล 2023 นี้ ซานโตสมีการเปลี่ยนแปลงทีมถึงขั้นดึงแข้งใหม่มาเสริมแกร่งถึง 21 ราย โดยเหลือผู้เล่นจากเกมส่งท้ายซีซั่นก่อนหน้าแค่ 3 รายเท่านั้น
ส่วนนักเตะที่ว่ากันว่าเป็นยังบลัดเพชรเม็ดงามของทีมในอนาคตอันใกล้ อย่าง อันเจโล่ กาเบรียล รวมถึง เดวิด วอชิงตัน ทีมก็รั้งตัวไม่อยู่ สโมสรเลือกขายดาวโรจน์ผลผลิตอคาเดมี่ไปให้กับเชลซี จากพรีเมียร์ลีก แน่นอนว่าที่ขายไปก็เพราะจะได้นำรายได้มาสู่สโมสร เพื่อฉายภาพการผลิตซ้ำโมเดลนี้ต่อไป
เมื่อขุมกำลังมาพร้อมหน้ากันแบบสดใหม่หมด ขณะที่ตัวกุนซือสโมสรก็ไม่เคยนิ่งว่าจะใช้งานใครไปยาว ๆ ที่สุดแล้วการเรียนรู้แท็คติก วิธีการเพื่อต่อกรซีซั่นที่ยาวนาน ก็ไม่ได้ให้ความยั่งยืนอย่างที่ควรจะเป็น
"เป็นทีมที่อ่อนศักยภาพ" บรูโน ลิมา ย้ำ "มันแย่ในระดับนี้มาพักหนึ่งแล้ว พวกเขาใช้เงินจำนวนมากไปกับผู้เล่นที่ใช้งานไม่ได้ รุเอด้าไม่รู้วิธีบริหารสโมสรฟุตบอล เขาไม่เข้าใจเกมฟุตบอลเลย"
และทั้งหมดนี้ก็ส่งผลมายังฟอร์มการเล่รในสนามแบบยากจะเลี่ยงหลีก ว่ากันว่าก่อนจะถึงปี 2023 แห่งความล้มเหลว ซานโตสเริ่มออกลายผลงานดร็อปลงตั้งแต่การจบอันดับกลางตารางในปี 2021 และ 2022 จนกระทั่งหายนะมาเยือนในปีต่อมา
นับหนึ่งใหม่ในลีกรอง
ในคืนวันพุธที่ 6 ธันวาคม 2023 กับเกมฟุตบอลนัดสุดท้ายในบราซิเลียโร่ เซรีอา ทันทีที่สิ้นเสียงนกหวีดยาวหลังเกม พัลไมรัส บุกเจ๊า ครูไซโร่ 1-1 พวกเขาผงาดแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศเป็นสมัยที่ 12 นับเป็นความสำเร็จที่ชื่นมื่นของทีมดังแห่งเซา เปาโล
ในทางกลับกัน อีกทีมเก่าแก่ของเมืองอย่าง ซานโตส กลับเผชิญเหตุการณ์คนละอย่าง ทันทีที่ผู้ตัดสินเป่ายุติเกมที่ วีล่า เบลมิโร่ พวกเขาพ่ายคาบ้านต่อ ฟอร์ตาเลซ่า 1-2 ไม่เพียงพอต่อการ อยู่รอดปลอดภัยบนลีกสูงสุด
โดยผลงานของซานโตส ในฤดูกาล 2023 เรียกได้ว่าบู่ถึงขั้นสุด พวกเขาชนะคู่แข่งได้แค่ 11 เกม เสมอ 10 เกม และแพ้ไปถึง 17 เกม จากทั้งหมด 38 เกม จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 17 จาก 20 ทีมในตารางคะแนน (เอาตกชั้นสี่ทีม) ต้องไปนับหนึ่งใหม่ในซีรีบี หรือลีกรองของประเทศ
ไม่ว่าจะเพราะครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ต้องมาตกชั้น หรือจะเป็นเรื่องความผิดพลาดสะสมมาตลอดหลายปีให้หลัง ที่สุดแล้วแฟนบอลบางส่วนของซานโตสไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาพยายามปาพลุไฟลงสนาม เดือดร้อนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคอยมาห้ามปราม
เช่นเดียวกับเหตุการณ์นอกสนามที่มีการก่อจลาจลไปทั่วเมือง มีทั้งเผารถยนต์และรถบัสในพื้นที่โดยรอบสนาม กลายเป็นทั้งความโศกเศร้าที่ก่อตัวจนเกิดเป็นความเดือดดาลควบคู่กันไป
"สิ่งเดียวที่ดูเหมือนจะปลอบใจเรื่องพวกนี้ได้ก็คือ เปเล่ไม่ได้อยู่ดูความล้มเหลวนี้" ยูก้า คลอฟรี่ (Juca Kfouri) คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นระบุ
ภายหลังความล้มเหลวในรอบปี อดีตนักเตะทีมหลาย ๆ คนล้วนโพสต์ข้อความส่งกำลังใจถึงสโมสร เช่น เนย์มาร์ และ โรดรีโก้ โดยเชื่อว่าซานโตสจะกลับมาได้ในไม่ช้า เมื่อล้มแล้วก็ต้องรีบลุก
ปี 2024 ของซานโตส กับเวทีลีกรองแดนกาแฟ พวกเขามีโอกาสกลับไปอยู่ในจุดที่ควรอยู่อีกครั้ง นั่นเพราะบอร์ดบริหารทีมมีการเปลี่ยนแปลง การหมดวาระของ อันเดรส รูเอด้า แปรเปลี่ยนมาสู่ประธานคนใหม่ มาร์เซโล เตเซร่า
ซึ่งเตเซร่าก็โชว์การปลุกใจทีมเต็มที่ อย่างเรื่องเสื้อหมายเลข 10 ของสโมสร ที่ซึ่ง เปเล่เคยสวมใส่ นักธุรกิจบราซิลเลี่ยนผู้นี้ออกกฎว่า ตราบใดที่ทีมยังไม่ได้เลื่อนชั้น ก็ไม่ควรมีใครมาสวมเสื้อเบอร์นี้
บทเรียนแย่ ๆ ในอดีตมีไว้เพื่อคอยเตือนใจไม่ให้ทำผิดพลาดอีก แน่นอนว่าทุกคนที่ซานโตสต่างก็หวังว่าจะไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก
เพราะนี่คือหนึ่งในสโมสรระดับตำนานของบราซิล เรื่องนี้ใคร ๆ ก็รู้กัน
แหล่งอ้างอิง
https://theathletic.com/5122772/2023/12/09/santos-pele-brazil-relegation/
https://bolavip.com/en/soccer/santos-fc-announce-a-historic-decision-after-being-relegated-in-brazil-20231210-BUS-91114.html
https://news.cgtn.com/news/2023-12-07/How-Pele-s-Santos-suffered-first-relegation-in-111-year-history-1pluIrzKkq4/index.html
https://www.goal.com/en/lists/neymar-santos-al-hilal-relegation-brazilian-top-flight-111-years/blt609d309817868001
https://en.wikipedia.org/wiki/Santos_FC
https://www.espn.co.uk/football/story/_/id/39078754/santos-retire-pele-no-10-jersey-club-promoted