Feature

ผลของความพยายาม : แฮรี่ แมคไกวร์ เรียกฟอร์มเก่งจนได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมได้อย่างไร? | Main Stand

‘เจ้าของค่าตัวสถิติโลกในตำแหน่งกองหลัง’ และ ‘กัปตันทีมของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ คือสองบทบาทที่ แฮรี่ แมคไกวร์ แบกไว้บนบ่าของเขา เช่นเดียวกับความคาดหวังของแฟนบอลปีศาจแดง ที่ต้องการให้ดาวเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้ประสบความสำเร็จกับสโมสร

 


อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวกลับเป็นที่จดจำจากข้อผิดพลาด จนกลายเป็นที่กล่าวถึงในเชิงล้อเลียนบนโลกออนไลน์ และเกือบต้องย้ายไปร่วมทัพ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เพื่อกอบกู้อาชีพการค้าแข้งของตนมาแล้ว

เกิดอะไรขึ้นในเส้นทางการค้าแข้งที่เปรียบดั่งรถไฟเหาะของ แมคไกวร์ และอะไรที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของเขา หาคำตอบไปพร้อมกับ Main Stand ในบทความนี้

 

ไต่เต้าสู่จุดสุดยอด

เด็กปั้นจากระบบอคาเดมี่ของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไต่เต้าจากการลงเล่นในระดับลีกวัน ขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของสโมสร ฮัลล์ ซิตี้ ที่วนเวียนระหว่างพรีเมียร์ลีกกับแชมเปียนชิพ ในช่วงเวลาเดียวกับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ก่อนที่เส้นทางจะนำพาทั้งคู่ขึ้นมาเป็นคู่แข่งกันในอนาคต

แมคไกวร์ ถูกดึงตัวไปร่วมทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2017 และกลายเป็นนักเตะที่ลงเล่นทุกนาทีในฤดูกาล 2017/18 พร้อมกับคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสโมสรไปครอง และการันตีการเป็นนักเตะตัวจริงของทีมชาติอังกฤษในชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย

เซ็นเตอร์แบ็ครายนี้แปรสภาพจากสถานะผู้ชมบนอัฒจันทร์ในฟุตบอลยูโร 2016 สู่การเป็นขุมพลตัวหลักในทีมของ แกเร็ธ เซาท์เกธ ที่สามารถเอาชนะลูกโหม่งและจังหวะการเข้าสกัดคู่แข่ง จนทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างให้ความสนใจในการล่าลายเซ็นต์ แมคไกวร์ เพื่อคว้าตัวไปร่วมทีม

เป๊ป กวาดิโอลาร์ กุนซือของทัพเรือใบสีฟ้า ระบุว่า แมคไกวร์ มีดีพอที่จะเข้ามาแทนที่กองหลังระดับตำนานอย่าง แวงซองต์ กอมปานี แต่เพราะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปฏิเสธที่จะยื่นข้อเสนอมูลค่าสูงกว่า 70 ล้านปอนด์ จึงทำให้เพื่อนร่วมเมืองอย่าง ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายทำลายสถิติโลกด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ และดึงตัวมาร่วมทีมในวันที่ 5 สิงหาคม 2019

การประเดิมชีวิตช่วงแรกในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ถือว่าไปได้สวยสำหรับ แมคไกวร์ โดยเจ้าตัวคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมตั้งแต่ประเดิมสนามเกมเอาชนะ เชลซี 4-0 และกลายเป็นตัวหลักในทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ พร้อมกับได้รับมอบปลอกแขนกัปตันทีมตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 ซึ่งเจ้าตัวได้มีการไปขอคำปรึกษาจากทั้ง เวนย์ รูนี่ย์ และ ไบรอัน ร็อบสัน เช่นเดียวกับมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือมูลนิธิของสโมสรในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19

หากดูเส้นทางอาชีพของ แมคไกวร์ มาจนถึงจุดนี้ อาจดูเหมือนชีวิตของเขากำลังมุ่งหน้าสู่ยอดเขาแห่งความสำเร็จ ตามรอยสตาร์ดังหลายคนที่เคยทำได้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาก่อนหน้านี้... แต่เกิดอะไรขึ้นกับช่วงเวลาหลังจากนั้น ที่เปลี่ยนสถานการณ์ของดาวเตะทีมชาติอังกฤษอย่างกลับตาลปัตรได้เช่นนี้

 

ร่วงคืนสู่สามัญ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงเวลาของ แฮรี่ แมคไกวร์ ในสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงและมรสุมต่าง ๆ ที่รุมล้อม ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนถ่ายผู้จัดการทีม นักเตะ รวมถึงโครงสร้างของผู้บริหาร ที่ต่างมีผลกระทบต่อสโมสรในองค์รวม มาจนถึงตัวของ แมคไกวร์ เช่นกัน

แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นเหมือนจุดพลิกผันของชีวิตกองหลังรายนี้ เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่เจ้าตัวกำลังไปพักผ่อนบนเกาะมิโคนอสของประเทศกรีซกับครอบครัว ก่อนเกิดเหตุการณ์ระหว่าง แมคไกวร์ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจของกรีซ ซึ่งส่งผลให้เจ้าตัวถูกคุมตัวในห้องขังถึง 2 วัน ก่อนขึ้นให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาในชั้นศาล ที่รวมถึงการติดสินบนเจ้าหน้าที่ และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ซึ่งตัวคดีความยังไม่ถือว่าสิ้นสุดจนถึงปัจจุบัน และมีกำหนดพิจารณาอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2024

แม้จะได้รับการสนับสนุนด้านกฏหมายจากทีมทนายของสโมสร และยังได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งกัปตันทีมต่อไป แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็มีส่วนทำให้ฟอร์มของ แมคไกวร์ ผิดไปจากฤดูกาลแรกกับสโมสร และแม้จะมีการดึงตัว เจดอน ซานโช่ กับ คริสเตียโน โรนัลโด มาร่วมทีมในฤดูกาล 2021/22 แต่สถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังไม่พ้นขีดอันตรายแต่อย่างใด

The Athletic สื่อออนไลน์ด้านกีฬาที่ได้รับความน่าเชื่อถือ ได้เคยรายงานว่าการมาของ คริสเตียโน โรนัลโด มีผลทำให้ขั้วอำนาจของสโมสรเปลี่ยนแปลงไป โดยมีทีมวิเคราะห์ข้อมูลพบว่านักเตะพยายามผ่านบอลให้ดาวเตะชาวโปรตุกีสในจังหวะขึ้นเกมรุก จนทำให้พลาดโอกาสทำเกมไป เช่นเดียวกับมีช่วงเวลาที่ โรนัลโด ได้คุยกับกุนซืของทีมในตอนนั้นอย่าง ราล์ฟ รังนิค ว่า แฮรี่ แมคไกวร์ เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาในทีม และควรถูกดรอปเป็นตัวสำรอง

สถานการณ์ของ แมคไกวร์ ไม่ได้ดีขึ้นมาในยุคของ เอริค เทน ฮาก โดยมีช่วงเวลาหนึ่งที่เขากลายเป็นตัวเลือกอันดับห้าในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คของทีม เป็นรองแม้กระทั่งแบ็คซ้ายอย่าง ลุค ชอว์ ที่ถูกหุบมาเล่นแทนเมื่อตัวหลักของทีมเกิดอาการบาดเจ็บ และก่อนเริ่มต้นฤดูกาล 2023/24 เทน ฮาก ได้ตัดสินใจมอบปลอกแขนกัปตันทีมให้กับ บรูโน่ เฟอร์นันเดส แทนที่ของ แมคไกวร์

ในจุดนี้ เจ้าตัวกำลังได้รับความสนใจจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ตัดสินใจยื่นข้อเสนอมูลค่าสูงถึง 30 ล้านปอนด์ เพื่อดึงตัวไปร่วมทีม ซึ่งหากมองจากมุมของธุรกิจและฟุตบอล นี่อาจเป็นดีลที่เหมาะกับทุกฝ่าย เพราะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้ค่าตัวที่เหมาะสมกับนักเตะอายุเกือบ 30 ปี ที่ค่อนข้างหลุดฟอร์มไปจากเดิม ในขณะที่ทัพขุนค้อนจะได้ผู้เล่นดีกรีทีมชาติไปร่วมทัพ โดยมีโอกาสที่จะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาอย่างไม่ต้องแบกรับความกดดันต่าง ๆ เหมือนเดิม

 

ต่อสู้เพื่อหวนคืน

ท้ายที่สุดแล้ว แมคไกวร์ เป็นคนที่ตัดสินใจปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว โดย BBC รายงานว่าแหล่งข่าวใกล้เคียยงกับนักเตะให้ข้อมูลว่า “แฮรี่ ยังคงมุ่งมั่นและรักสโมสรแห่งนี้ เขามั่นใจว่าจะได้รับโอกาสลงเล่นเพียงพอในฤดูกาลที่กำลังมาถึง”

หลังจากนั้นไม่นาน เทน ฮาก ได้ระบุว่ามีการแข่งขันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงภายในทีม ซึ่งผลที่ได้ก็คือการกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งอีกครั้งของ แมคไกวร์ ที่แทบเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับนักเตะฟอร์มตกเมื่อประมาณ 18 เดือนที่แล้ว

เริ่มจากการปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นให้เข้ากับรูปแบบของ เทน ฮาก โดยที่ แมกไกวร์ ได้ลงมาช่วยในพื้นที่กรอบเขตโทษทีมตัวเองมากยิ่งขึ้น ต่างจากบทบาทเดิมที่เจ้าตัวจะดันไลน์ขึ้นไปเป็นตัวเข้าสกัด ที่เคยนำไปสู่การเสียฟาวล์และใบเหลืองอยู่หลายครั้งในอดีต

แมคไกวร์ พยายามเล่นให้ง่ายขึ้น การยืนตำแหน่งในพื้นที่ระหว่างเส้นครึ่งสนามและหน้ากรอบเขตโทษของตนเอง ออกบอลให้เพื่อนร่วมทีมด้วยความมั่นใจและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม จนมีส่วนช่วยให้ต้นสังกัดเก็บชัยชนะในเกมลีกเดือนพฤศจิกายน 3 นัดรวด และเข้าป้ายคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนไปครอง แซนหน้าทั้ง เฌเรมี่ โดกู, แอนโธนี่ กอร์ดอน, โธมัส คามินสกี, ราฮีม สเตอร์ริ่ง, และ มาร์คัส ธาเวอร์เนียร์

เจ้าตัวถือเป็นกองหลังคนที่ 5 ที่คว้ารางวัลดังกล่าวมาครองได้ในรอบ 10 ปีหลังสุด รวมถึงเป็นผู้เล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คคนแรกของสโมสร ต่อจาก เนมันย่า วิดิช ที่เคยได้ในเดือนมกราคม 2009 โดยได้คะแนนทั้งจากการโหวตจากแฟนบอล และคณะผู้เชี่ยวชาญที่มาร่วมกันตัดสิน

กุนซือชาวดัตช์ได้ออกมาชมกองหลังรายนี้ผ่าน MUTV ว่า “เขามีความสำคัญมาก เขาต่อสู้กลับมาด้วยหัวจิตหัวใจที่แข็งแกร่งยิ่ง เขาสามารถภูมิใจในตัวเองได้เลย”

“แฮรี่ กำลังไปในทิศทางที่ควรเป็นกับทีมนี้ เราต้องการจะประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับ แฮรี่ ที่มีความทะเยอทะยานไม่แพ้กัน เขาอยากคว้าแชมป์กับทีม ดังนั้นเราจะทำทุกวันให้ดีที่สุด”

อาจดูเหมือนเป็นเรื่องราวดั่งเทพนิยาย ว่าเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้า แฮรี่ แมคไกวร์ เป็นผู้เล่นที่อาจหมดหนทางกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแล้ว แต่เจ้าตัวก็กลับมาเรียกผลงานเก่ง จนนำทีมเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการ และพาเจ้าตัวคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกมาครองได้สำเร็จ แต่นี่คือผลของความพยายามอย่างไม่ย่อถอย ที่เจ้าตัวได้แสดงออกมาตั้งแต่สมัยลงเล่นกับ ฮัลล์ ซิตี้ แล้ว

“เขาต้องการจะพัฒนาตลอดเวลา มีอยู่ครั้งหนึ่งเขารู้ว่าการวิ่งเยอะไม่ได้ช่วยให้ผลงานดีขึ้นเสมอไป และต้องอาศัยตำแหน่งการวิ่งที่เหมาะสม ซึ่งมีหลายครั้งที่เขาสามารถทำความเร็วสูงสุดของทีม ในการวิ่งกลับมาป้องกันประตูจากจังหวะโดนสวนกลับ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเขา” คือความเห็นของอดีตนักวิทยาศาสตร์การกีฬาในสโมสร ฮัลล์ ซิตี้ ที่มักได้รับข้อความจากเซ็นเตอร์แบ็ครายนี้อยู่เสมอ เพื่อสอบถามว่าเขาจะพัฒนาในมุมไหนได้บ้าง

อาจด้วยความพยายามที่มีมาตั้งแต่แรกเริ่ม หรือเป็นเพราะความไม่ย่อท้อต่อข้อครหาหรือถ้อยคำด้อยค่าต่าง ๆ หรืออาจเพราะความแข็งแกร่งทางสภาพจิตใจของ แฮรี่ แมคไกวร์ แต่ไม่ว่าจะเป็นจากเหตุผลใดก็ตาม คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้าตัวเหมาะสมกับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

 

แหล่งอ้างอิง :

https://theathletic.com/5098498/2023/12/08/maguire-player-of-the-month/
https://theathletic.com/3549583/2022/11/22/cristiano-ronaldo-manchester-united/
https://www.bbc.com/sport/football/66520737
https://www.espn.com/soccer/story/_/id/38905762/how-harry-maguire-found-manchester-united-form-ahead-england-call

Author

กรทอง วิริยะเศวตกุล

2000 - Football and F1 fanatics - Space enthusiasts - aka KornKT

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา