หากใครเป็นคอกีฬาการต่อสู้ หรือสตรีทคอมมูนิตี้น่าจะเคยเห็นการแข่งขันสุดโหดอย่างการแข่งตบหน้า หรือ Slap Fighting กันมาบ้างแล้ว เพราะการแข่งขันนี้ได้กลายเป็นไวรัลในโลกอินเทอร์เน็ต และมีผู้ติดตามมากมาย แต่ยังมีคนอีกหลายส่วนที่ยังถกเถียงกันในประเด็นที่ว่านี่ไม่ใช่การแข่งขันกีฬา นี่มันอันตรายเกินไป หรือการแข่งขันแบบนี้เป็นเรื่องไร้สาระ
วันนี้ Main Stand จะพาทุกคนมารู้จักกับการแข่งขันชนิดนี้ให้มากขึ้นว่าสรุปแล้วการแข่งขันชนิดนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร จะได้รับการยอมรับให้กลายเป็นกีฬาหรือไม่ และเป็นอันตรายจริงหรือเปล่า ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน ๆ
จุดเริ่มต้นของการแข่งขันสุดโหด
จุดเริ่มต้นของการแข่งตบหน้าสุดโหดนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2019 ที่เมืองครัสโนยาสค์ ประเทศรัสเซีย ได้มีการจัดงานประกวดประจำปีที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในประเทศชื่อว่า “Siberian Power Show” เป็นงานที่จัดประกวดความแข็งแกร่งและความสวยงามของสรีระมนุษย์ โดยภายในงานจะจัดการแข่งขันเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งมากมาย เช่น เพาะกาย กินจุ หรือยกน้ำหนัก
แต่มีการแข่งขันหนึ่งที่สร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมและกลายเป็นไฮไลต์ของงานก็คือการแข่งขันที่มีชื่อว่า “Male Slapping Championship” หรือ การแข่งขันชิงแชมป์สุดยอดนักตบชาย ซึ่งในปีนั้นเป็นการจัดแข่งขันครั้งแรก
กติกาในการแข่งขันเข้าใจได้ง่ายๆ ก็คือผู้เข้าแข่งขัน 2 คนต้องมายืนประจันหน้ากัน โดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน และผลัดกันใช้ฝ่ามือตบไปที่ใบหน้าของคู่แข่ง โดยที่อีกฝ่ายทำได้แค่ยืนรอรับแรงกระแทกและจะต้องทรงตัวให้อยู่ ส่วนการแพ้ชนะนั้นวัดกันที่ความอึด ใครโดนตบจนไม่ไหวก่อน ต้องกลายเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้ไป
ผู้ชนะในการแข่งขันเมื่อปี 2019 คือ วาสิลี คามอตสกี ชาวนาจากไซบีเรีย ผู้ไม่เคยรู้จักการแข่งขันชนิดนี้มาก่อน แต่ด้วยร่างกายที่กำยำและแข็งแกร่งของเขา เพื่อนเขาก็โน้มน้าวให้ตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้
และในที่สุดเขาก็คว้าแชมป์ได้สำเร็จ กลายเป็นสุดยอดนักตบชายแห่งปี พร้อมรับเงินรางวัล 30,000 รูเบิล หรือประมาณ 15,000 บาท และกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงขึ้น เพราะคลิปการแข่งขันตอนที่เขากำลังตะบันหน้าคู่แข่งกลายเป็นไวรัลในโลกอินเทอร์เน็ต
ได้รับการยอมรับให้จัดแข่งขันเป็นกีฬา
หลังจากที่การแข่งขันนี้ได้กลายเป็นไวรัลในอินเทอร์เน็ต และได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย ในที่สุดเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมาคณะกรรมการกำกับการกีฬาของรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้จัดการแข่งขันตบหน้าชิงแชมป์ในลาสเวกัสอย่างเป็นทางการ
ในการแข่งขันที่ผ่านมาที่แพร่หลายในประเทศรัสเซียนั้นไม่ได้จัดการแข่งขันในรูปแบบของกีฬา เป็นเพียงการประลองเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่เมื่อทางการของรัฐเนวาดาอนุมัติให้จัดเป็นการแข่งขันกีฬาที่อยู่ในระดับเดียวกับกีฬาต่อสู้อื่นๆ จึงจำเป็นต้องยกระดับมาตรฐานของการแข่งขันขึ้น
โดยต้องให้ความสำคัญกับมาตรฐานในการดูแลความปลอดภัยของผู้เข้าแข่งขัน ด้วยการออกกฎการแข่งขันที่เหมาะสม ใส่อุปกรณ์ป้องกันอย่างฟันยาง ที่อุดหู และจัดให้มีทีมแพทย์สำหรับเหตุฉุกเฉินไว้ในสถานที่แข่งขันด้วย
ทางการเนวาดาและคณะกรรมการกำกับกีฬาจะจัดการแข่งขันตามระเบียบของศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน หรือตามหลักการของสมาคมศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน UFC
สตีเฟน คลูเบ็ค ประธานคณะกรรมการกำกับการกีฬาของรัฐเนวาดา กล่าวว่า “การแข่งตบหน้ากันเป็นกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานที่มีโอกาสเติบโตขึ้นได้ อีกทั้งยังเป็นกีฬาที่สามารถให้ความบันเทิงได้ด้วย และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของเนวาดา แต่การแข่งขันที่ดุดันนี้จะต้องจัดภายใต้การควบคุมด้านความปลอดภัย”
เสียงต่อต้านจากคนในวงการกีฬาต่อสู้
แม้ในรัฐเนวาดาจะได้รับการอนุมัติให้จัดแข่งขันและได้รับการยอมรับให้เป็นกีฬาที่อยู่ในระดับเดียวกันกับกีฬาต่อสู้ชนิดอื่นๆ แต่กลับมีเสียงต่อต้านตามมามากมายจากคนในแวดวงกีฬาต่อสู้ว่านี่ไม่ใช่การแข่งขันในรูปแบบของกีฬา และไม่ใช่ศิลปะการต่อสู้ที่สวยงาม
“มันแย่มาก” ดมิทรี ซาลิตา โปรโมเตอร์มวยกล่าวกับ Insider “ปกติแล้วผมก็ไม่ใช่คนที่ชอบแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับธุรกิจของคนอื่นหรอกนะ แต่ในฐานะคนในวงการมวยผมรู้สึกเบื่อมากเมื่อมีคนเอาการแข่งตบหน้ามาเปรียบเทียบกับการชกมวย”
ดมิทรี ชี้ให้เห็นว่าการแข่งตบหน้าแตกต่างจากการชกมวย หรือแม้แต่กีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) เพราะทั้งสองอย่างต้องมีการฝึกซ้อมให้เล่นเกมรุก และตั้งรับ นั่นหมายความว่าคุณสามารถจู่โจม ในขณะเดียวกันก็สามารถป้องกันตัวเองได้ แต่ในการแข่งตบหน้านั้นแตกต่างออกไป เพราะผู้เข้าแข่งขันไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เลย “สำหรับผมแล้วการแข่งตบหน้าไม่ใช่กีฬา”
สตีเฟน เอสปิโนซา ประธาน Showtime Sports ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเขาเห็นด้วยกับความเห็นของดมิทรี ซาลิตา ที่ว่าการแข่งตบหน้าไม่ใช่กีฬา “สำหรับผมแล้วมันยากมากที่จะยอมรับว่านี่เป็นกีฬา มันมีแง่มุมของความอดทนก็จริง แต่คุณดูสิ มันมีบางอย่างที่ขัดต่อความรู้สึก คุณจะยอมทนต่อการถูกโจมตีแล้วไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ทำไม”
แม้แต่นักชกชาวอเมริกัน เจ้าของแชมป์โลกเข็มขัดเงิน WBC รุ่นซูเปอร์ เฟเธอร์เวต และแชมป์โลกเฉพาะกาล รุ่นไลท์เวต WBC อย่างไรอัน การ์เซีย ยังออกมาทวีตว่า “การแข่งตบหน้าเป็นความคิดที่น่ากลัวและจำเป็นต้องหยุดความคิดนี้”
แพทย์ออกมาชี้ถึงอันตราย
เรามักพบเห็นอาการบาดเจ็บจากการโดนกระแทกบริเวณศีรษะในกีฬาหลายชนิด เช่น ฟุตบอล ฮ็อกกี้น้ำแข็ง รักบี้ และมวย ซี่งถูกจัดเป็นอาการบาดเจ็บที่รุนแรง อย่างเช่นในการแข่งขันฟุตบอลหากผู้เล่นในสนามมีอาการบาดเจ็บบริเวณศีรษะ ผู้ตัดสินจะต้องเป่าหยุดเกมทันที เพื่อมาเช็คอาการของผู้เล่น เพราะการบาดเจ็บที่ศีรษะสามารถส่งผลร้ายได้หลายอย่าง เช่น สูญเสียสติสัมปัชชัญญะ หมดสติ สูญเสียความทรงจำระยะสั้น หรือแม้กระทั่งภาวะสมองเสื่อม
ในการแข่งตบหน้าผู้เข้าแข่งขันจะต้องโดนจู่โจมที่บริเวณศีรษะโดยตรง โดยที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน และไม่สามารถแสดงปฏิกิริยาป้องกันตัวเองได้ นั่นทำให้ผู้เล่นสามารถเกิดการบาดเจ็บ และกระทบกระเทือนถึงสมองได้
“การถูกกระแทกที่ศีรษะอย่างรุนแรง อาจทำให้เลือดออกในสมองได้ และการตีที่ศีรษะซ้ำๆ จะทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บของสมองเรื้อรัง และภาวะสมองเสื่อม” ดร.มิเชลล์ เฮนน์ แพทย์เวชศาสตร์การกีฬาจากฟลอริดากล่าวถึงความอันตรายของการแข่งตบหน้า
ดร. มันโร คัลลัม นักประสาทวิทยาจากสถาบัน O’Donnell Brain Institute ของ UT Southwestern ยังกล่าวเสริมอีกว่า “การถูกกระแทกที่ศีรษะซ้ำๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ อาจทำให้สมองบวม เส้นเลือดในสมองโป่งพอง และอาจร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้”
และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์อีกหลายรายยังออกมาเตือนและคัดค้านการจัดแข่งขันตบหน้า เพราะมองว่าเป็นการแข่งขันที่มีความเสี่ยงสูงที่ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรืออาจร้ายแรงกว่านั้น โดยดร.มิเชลล์ เฮนน์ ยังกล่าวย้ำอีกว่า “ถ้าคณะกรรมการกีฬาฟลอริดาอนุมัติให้มีการจัดแข่งตบหน้าในรัฐของเรา ฉันขอยืนยันเลยว่าฉันจะไม่ร่วมงานกับพวกเขา”
จนถึงตอนนี้การแข่งตบหน้าสุดโหดนี้ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าเป็นกีฬาหรือไม่ เพราะมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยกับการจัดแข่งขัน และฝ่ายที่ต่อต้าน อีกทั้งแพทย์ยังออกมาแสดงความคิดเห็นว่าการแข่งขันแบบนี้มีความเสี่ยงสูงเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อผู้เข้าแข่งขันได้
แต่หากทางผู้จัดต้องการจัดแข่งขันจริงๆ และต้องการการยอมรับจากสังคม ก็คงต้องยกระดับความปลอดภัยให้อยู่ในระดับเดียวกับ MMA คือ หลังจากการแข่งขันจะต้องให้แพทย์ประเมินอาการของผู้เข้าแข่งขันอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีอาการกระทบกระเทือนทางสมอง แพทย์สามารถสั่งให้ผู้เข้าแข่งขันหยุดพักการแข่งขันไปก่อนตามเวลาที่กำหนด เพื่อคอยดูอาการที่จะเกิดขึ้นตามมา
ทิศทางของการแข่งตบหน้าจะไปทางไหนต่อ อาจจะได้รับการบรรจุให้เป็นกีฬา หรืออาจจะเป็นเพียงการแข่งขันเพื่อความบันเทิง เรายังคงต้องติดตามกันต่อไป
แหล่งอ้างอิง
https://www.unlockmen.com/slapping-championship/
https://www.dailynews.co.th/news/1614990/
https://www.fox5vegas.com/2022/10/18/nevada-athletic-commission-approves-slap-fighting-sport-where-opponents-slap-each-other-across-face/
https://www.buzzfeednews.com/article/fjollaarifi/health-risks-slap-fighting
https://www.insider.com/power-slap-boxing-world-aghast-at-american-slap-fighting-2023-1