Feature

วิลเลียม ซาลิบา : จากอดีตกองหน้า สู่กองหลังที่ดีที่สุดในเกาะอังกฤษเวลานี้ | Main Stand

“เขาคือกองหลังที่ดีที่สุดในเกาะอังกฤษ” คือคำบรรยายสรรพคุณจาก มิคาเอล ซิลแวสต์ อดีตกองหลังสารพัดประโยชน์ของ อาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พูดถึง วิลเลียม ซาลิบา กองหลังดาวรุ่งของทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล

 


ระยะเวลา 2 ปีหลังที่ผ่านมา ชื่อของ วิลเลียม ซาลิบา ได้กลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงอย่างมากในวงการฟุตบอล ความแข็งแกร่งของร่างกายและสไตล์การเล่นของเขาเป็นที่ประจักษ์ทุกครั้งเมื่อได้ลงบัญชาการเกมรับให้กับต้นสังกัด 

ด้วยผลงานส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมคงเส้นคงวาของเขาเป็นสาเหตุให้ผู้คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า วิลเลียม ซาลิบา จะกลายเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลกคนถัดไป

ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกันได้ที่ Main Stand

 

ซาลิบา & เอ็มบัปเป้

วิลเลียม ซาลิบา เกิดที่เมืองบงดี ซึ่งเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยคุณพ่อของเขาเป็นชาวเลบานอนและคุณแม่ของเขาเป็นชาวแคเมอรูนที่อพยพถิ่นฐานมาอยู่ในฝรั่งเศส และมันทำให้ วิลเลียม ซาลิบา มี 3 สัญชาติ ได้แก่ ฝรั่งเศส เลบานอน และแคเมอรูน

วิลเลียม ซาลิบา ชื่นชอบและหลงรักกีฬาฟุตบอลตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เนื่องจากเขาได้รับของขวัญเป็นลูกฟุตบอลจากคุณพ่อและคุณแม่ของเขา และทำให้เขามีความใฝ่ฝันอยากโตขึ้นไปเป็นนักฟุตบอลอาชีพ 

เขาชื่นชอบการดูฟุตบอลตั้งแต่วัยเด็ก เขาเริ่มดูฟุตบอลช่วงแรกจากการดู ทีมชาติฝรั่งเศส ลงแข่งฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งนักเตะที่เขาชื่นชอบเป็นอย่างมากและยกให้เป็น “ไอดอล” ในการเตะฟุตบอลคือ เธียร์รี่ อองรี 

ด้วยการที่เขาชื่นชอบ เธียร์รี่ อองรี จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เขาเริ่มเล่นฟุตบอลในตำแหน่งกองหน้า โดยเขามักจะชอบไปเล่นฟุตบอลกับพี่และเพื่อนแถวบ้านที่สนามสตรีทฟุตบอลในเมืองบงดี

ต่อมาฝีเท้าการเล่นของเขาไปเข้าตา วิลเฟรด เอ็มบัปเป้ คุณพ่อของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซึ่งในขณะนั้น วิลเฟรด เอ็มบัปเป้ ทำงานเป็นครูสอนฟุตบอลประจำโรงเรียนบงดี เขาจึงชักชวนให้ วิลเลียม ซาลิบา เข้าไปเป็นนักฟุตบอลประจำโรงเรียนบงดี ทำให้เขาและ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ สนิทกันตั้งแต่ตอนนั้น

โดย วิลเลียม ซาลิบา ให้สัมภาษณ์ถึง วิลเฟรด เอ็มบัปเป้ ไว้ว่า “ผมขอขอบคุณ วิลฟรีด เอ็มบัปเป้ ที่สอนให้ผมรู้จักฟุตบอล ความสำเร็จของผมมาจากสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากเขาตอนเป็นเด็ก”

และเขายังได้พูดถึงความสนิทของเขากับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ในสมัยนั้นไว้ว่า “ผมและ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ สนิทกันตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขาไปโรงเรียนพร้อมกับผมตลอดในช่วงประถม เขาจะมาเล่นที่บ้านผมอยู่บ่อย ๆ ผมดีใจมากที่โตขึ้นมาแล้วก็ยังได้เล่นฟุตบอลร่วมกับเขา”

วิลเลียม ซาลิบา ใช้เวลาฝึกฝนอยู่ที่โรงเรียนบงดีเป็นเวลา 6 ปี ก่อนที่เขาจะย้ายเข้าร่วมทีมอคาเดมี มงต์แฟรไมล์ ซึ่งการมาอยู่ที่นี่ เขาได้คำแนะนำจากผู้จัดการทีมให้ลองเปลี่ยนตำแหน่งการเล่นจากเดิมที่เล่นตำแหน่งกองหน้ามาเล่นตำแหน่งกองหลัง เนื่องจากเขามองว่าสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งและรูปร่างที่สูงของ วิลเลียม ซาลิบา เหมาะกับ การเล่นในตำแหน่งกองหลังมากกว่า

โดย วิลเลียม ซาลิบา ได้ออกมาพูดถึงการเปลี่ยนแปลงแนวทางการเล่นของเขาครั้งนี้ไว้ว่า “ผมรู้ดีว่าผมเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่ง และผมเป็นกองหน้าที่ดีได้ แต่อาจจะเป็นเพราะว่าผมเป็นคนที่ขี้เกียจวิ่งทำให้ผมต้องทำงานหนักกว่านี้หากอยากไปถึงระดับที่ดี แต่ผมไม่เคยไปถึงระดับนั้นได้เลย ซึ่งการที่ผมเปลี่ยนมาเล่นในตำแหน่งกองหลังกลับกลายเป็นตำแหน่งที่ผมชอบเล่นมากกว่ากองหน้าเสียอีก ผมจะตั้งใจฝึกซ้อมมากกว่าเดิมเพื่อสักวันหนึ่งผมจะกลายเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลกให้ได้”

 

ก้าวที่ยิ่งใหญ่

วิลเลียม ซาลิบา ฝึกฝนวิชากับมงต์แฟรไมล์จนถึงอายุ 16 ปี ก่อนจะได้รับโอกาสครั้งสำคัญ นั่นคือการย้ายไปเล่นให้กับ แซงต์ เอเตียน 

วิลเลียม ซาลิบา ก้าวกระโดดรวดเร็วมากกับการมาเล่นที่ แซงต์ เอเตียน เขาลงสนามให้กับทีมเยาวชนเพียงแค่ 1 ปี ก่อนจะถูกดันขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 17 ปี

สภาพร่างกายที่สูงใหญ่ผสมผสานกับความคล่องแคล่วว่องไวของเขาส่งผลให้เขาเบียดรุ่นพี่ในทีมขึ้นมายึดตำแหน่งกองหลังตัวจริงของทีมได้สำเร็จ ซึ่งในฤดูกาลดังกล่าว วิลเลียม ซาลิบา ในวัย 17 ปี ได้รับโอกาสลงสนามช่วยต้นสังกัดไปทั้งหมด 20 นัด รวมทุกรายการ

ด้วยฟอร์มการเล่นที่เกินอายุของซาลิบา ส่งผลให้ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส และ  “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล 2 ทีมยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ ต่างให้ความสนใจในตัวของเขา

โดยทั้งสองสโมสรต่างยื่นข้อเสนอที่ใกล้เคียงกันในราคา 30 ล้านยูโร แต่เป็นทางด้าน วิลเลียม ซาลิบา ที่ตัดสินใจเลือกเซ็นสัญญากับ อาร์เซนอล เนื่องจากเขาอยากที่จะลงเล่นสโมสรเดียวกันกับ “ไอดอล” ในวัยเด็กของเขาอย่าง เธียร์รี่ อองรี

วิลเลียม ซาลิบา ได้ออกมาเปิดใจถึงการได้มาเป็นอยู่ที่อาร์เซนอลไว้ว่า “สโมสรแห่งนี้เป็นสโมสรที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ผมดีใจอย่างมากที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ที่เคยมีหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดของโลกอย่าง เธียร์รี่ อองรี เคยลงเล่นให้ นี่จึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผมเลือกเซ็นสัญญามาอยู่กับอาร์เซนอล”

 

บ่มเพาะวิชา

หลังจากเซ็นสัญญายาวเป็นระยะเวลา 5 ปี อาร์เซนอลเลือกที่จะส่งตัว วิลเลียม ซาลิบา ไปให้สโมสรเก่าของเขาอย่าง แซงต์ เอเตียน ยืมตัวใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

แต่การกลับมาเล่นให้กับสโมสรเก่าในครั้งนี้ดูจะไม่ค่อยดีสักเท่าไร เนื่องจาก วิลเลียม ซาลิบา ถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานถึง 2 ครั้ง เริ่มจากเจ็บแฮมสตริงในช่วงต้นฤดูกาล และได้รับบาดเจ็บกระดูกฝ่าเท้าช่วงกลางฤดูกาล ทำให้ในฤดูกาลดังกล่าวเขาลงช่วยต้นสังกัดไปแค่ 12 นัด

แม้ว่าในฤดูกาลถัดมาช่วงครึ่งฤดูกาลแรก วิลเลียม ซาลิบา จะกลับมามีชื่อกับอาร์เซนอล แต่เขาก็ไม่เคยถูกส่งลงสนามแม้แต่นัดเดียว ส่วนใหญ่มักจะมีส่วนร่วมกับทีมสำรอง จนกระทั่งในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังจะถูกปล่อยตัวไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับ นีซ สโมสรในลีกเอิง ประเทศฝรั่งเศส ด้วยสัญญายืมตัว

ซึ่งการมาอยู่ที่นี่ วิลเลียม ซาลิบา ได้รับโอกาสจาก อาเดรียน อูร์ซี ผู้จัดการทีมนีซมากพอสมควร โดยเขาได้ลงสนามให้กับนีซไปทั้งหมด 20 นัด และโชว์ผลงานส่วนตัวได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมจบอันดับที่ 9 ของตาราง

ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขาส่งผลให้ฤดูกาล 2021/22 โอลิมปิก มาร์กเซย สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งประเทศฝรั่งเศส ยื่นข้อเสนอขอยืมตัวซาลิบาไปใช้งาน 1 ฤดูกาล

วิลเลียม ซาลิบา ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้กับ โอลิมปิก มาร์กเซย ตลอดทั้งฤดูกาล เขาลงสนามไปทั้งหมด 36 นัด เป็นนักเตะที่ลงสนามมากที่สุดให้กับ โอลิมปิก มาร์กเซย ประจำฤดูกาล 2021/22 และเป็นส่วนสำคัญในการพาต้นสังกัดจบอันดับที่ 2 ของตาราง ได้สิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 

หลังจบฤดูกาล 2021/22 วิลเลียม ซาลิบา ได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งลีกเอิง ประเทศฝรั่งเศส และยังได้รับโอกาสจาก ดิดิเยร์ เดสชองป์ส ผู้จัดการทีมชาติฝรั่งเศส เรียกตัวติดทัพตราไก่เป็นครั้งแรกในชีวิต

ผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขาส่งผลให้ โอลิมปิก มาร์กเซย สนใจจะซื้อขาดไปร่วมทีมแบบถาวร และดูทีท่าว่าเขาก็อยากจะเล่นอยู่กับ โอลิมปิก มาร์กเซย ต่อไปเช่นกัน โดยเขาได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวไว้ว่า “ผมอยากเล่นอยู่ที่ โอลิมปิก มาร์กเซย ต่อไปเพราะผมอยากเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สักครั้งในชีวิต ผมยังไม่เคยลงเล่นในรายการนี้ และผมอยากสัมผัสประสบการณ์แบบนั้นสักครั้ง”

แม้ว่าเขาจะอยากลงเล่นให้กับ โอลิมปิก มาร์กเซย ต่อไป แต่ มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล ยืนกรานอย่างหนักแน่นที่จะไม่ปล่อยตัว วิลเลียม ซาลิบา ออกไป เพราะเขามองว่าซาลิบาคือนักเตะที่อยู่ในแผนการทำทีมของสโมสรในฤดูกาลหน้า

 

เดอะแบกในเกมรับ

วิลเลียม ซาลิบา ต่อยอดฟอร์มการเล่นจากที่ดีอยู่แล้วเป็นดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เขาขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในเกมรับให้กับอาร์เซนอล จับคู่กับ กาเบรียล มากัลเญส กองหลังทีมชาติบราซิลได้อย่างยอดเยี่ยม

ร่างกายที่สูงใหญ่ ความแข็งแกร่ง ความคล่องแคล่วว่องไว และความมั่นใจเต็มร้อย ปัจจัยหลายอย่างเหล่านี้ส่งผลให้ วิลเลียม ซาลิบา ถูกมองว่าเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในเกาะอังกฤษเวลานี้ อดีตนักฟุตบอลต่างออกมาชื่นชมเกี่ยวกับดาวเตะวัย 22 ปีรายนี้

เริ่มตั้งแต่มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล ออกมาพูดถึงลูกทีมไว้ว่า “ทุกคนได้เห็นกันแล้วถึงพัฒนาการของเขา รวมถึงมาตรฐานและความสม่ำเสมอที่เขาแสดงออกมา ผมคิดว่ามีกองหลังเพียงไม่กี่คนในโลกนี้ที่ทำได้แบบที่เขาทำ”

แฮร์รี่ เรดแนปป์ อดีตผู้จัดการทีม ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาชื่นชม วิลเลียม ซาลิบา เช่นกันโดยเขาพูดไว้ว่า “วิลเลียม ซาลิบา เขาคือกองหลังชั้นยอด เขาเปรียบเสมือนกับรถหรูโรลส์รอยซ์ ผมคิดว่า โทนี่ อดัมส์ และ โซล แคมป์เบลล์ คือกองหลังที่ดีที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรขึ้นมา แต่ตอนนี้ผมคิดว่า วิลเลียม ซาลิบา ก็อยู่ในระดับนั้นเช่นเดียวกัน”

เชสก์ ฟาเบรกาส อดีตกัปตันทีมอาร์เซนอล ออกมาชื่นชมดาวเตะรุ่นน้องไว้ว่า “ทุกคนสามารถมองเห็นความแตกต่างของอาร์เซนอลในวันที่มีและไม่มี วิลเลียม ซาลิบา อยู่ในสนามได้อย่างชัดเจน ผมคิดว่าเขาคือกองหลังที่ครบเครื่องในการเป็นกองหลังระดับโลก”

ซึ่งถ้ามองย้อนกลับไปในช่วงปลายฤดูกาล 2022/23 หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้า วิลเลียม ซาลิบา ไม่เกิดอาการบาดเจ็บที่หลังอย่างรุนแรง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คงไม่มีทางคว้าแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกไปครองได้

เนื่องจากตลอด 27 นัดในพรีเมียร์ลีกที่ วิลเลียม ซาลิบา ลงเล่น อาร์เซนอลแพ้ไปเพียง 3 นัดเท่านั้น เขาพาต้นสังกัดอยู่ที่อันดับ 1 ของตารางมาอย่างยาวนาน แต่หลังจากที่ไม่มี วิลเลียม ซาลิบา ลงสนามในอีก 11 นัดที่เหลือ อาร์เซนอลก็ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ถึง 6 นัด และเป็นเหตุให้ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปาดหน้าคว้าแชมป์ไปครองได้ในท้ายที่สุด

ซึ่งในฤดูกาลปัจจุบัน หลังจากที่ วิลเลียม ซาลิบา สลัดอาการบาดเจ็บกลับมายืนบัญชาการในแผงเกมรับให้กับ อาร์เซนอล เขาลงสนามครบทั้ง 12 นัด และสร้างสุดยอดสถิติที่น่าเหลือเชื่อ นั่นคือการโดนผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเลี้ยงผ่านไปเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น

จากผลงานส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม อาร์เซนอลจึงต่อสัญญาระยะยาว 5 ปี กับเขา ถึงปี 2028 พร้อมกับเพิ่มค่าเหนื่อยเป็น 190,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ มากขึ้นจากเดิมที่รับอยู่เพียง 40,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เท่านั้น

สุดท้ายแล้ว วิลเลียม ซาลิบา ควรได้รับคำยกย่องและคำชื่นชม เนื่องจากเขาพัฒนาฟอร์มการเล่นของตนเองขึ้นมาเป็นนักเตะตำแหน่งกองหลังที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก ซึ่งปัจจุบันถูกประเมินค่าตัวไว้ที่ 70 ล้านยูโร

ยิ่งถ้าย้อนกลับไปในอดีต เขาเป็นกองหลังที่ถูกปล่อยยืมตัว 3 ปีติดต่อกัน จนหลายคนต่างคาดการณ์ว่าน่าจะหมดอนาคตกับอาร์เซนอลไปแล้ว

แต่ในปัจจุบัน เขาคือกองหลังคนสำคัญที่อาร์เซนอลไม่สามารถขาดไปได้อีกต่อไป และเชื่อได้ว่าถ้าเขายังรักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ต่อไป ชื่อของ วิลเลียม ซาลิบา กับตำแหน่งกองหลังที่ดีที่สุดในโลกคงจะไม่ไกลเกินความจริง

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.arsenal.com/william-saliba-premier-league-interview
https://talksport.com/football/1502737/william-saliba-kylian-mbappe-dad-arsenal-position/
https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/arsenal-william-saliba-kylian-mbappe-30504818
https://www.skysports.com/football/news/11670/11770436/arsenal-sign-william-saliba-from-saint-etienne-on-long-term-deal
https://theathletic.com/3491057/2022/05/15/william-saliba-arsenal-loanee-wins-ligue-1-young-player-of-the-year-with-marseille/
https://www.transfermarkt.com/william-saliba/verletzungen/spieler/495666

Author

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา