Feature

เนย์มาร์ : เมื่ออาการบาดเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่า เข้ามาทำลายเส้นทางซูเปอร์สตาร์ลูกหนัง | Main Stand

“นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าเศร้ามาก ๆ มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตผม มันไม่ง่ายเลยกับการที่เคยได้รับบาดเจ็บ จากนั้นก็ผมเข้ารับการผ่าตัดมาด้วยดี แล้วก็ดันมาเจอกับสถานการณ์แบบเดิมอีกใน 4 เดือนต่อจากนั้น”

 


17 ตุลาคม 2023 คงไม่ใช่วันที่เนย์มาร์อยากจะจดจำเท่าไรนัก เมื่อแข้งวัย 31 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นไขว้หน้าเข่าขาด ในเกมคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 ที่ทีมชาติบราซิลพ่ายต่อทีมชาติอุรุกวัย 0-2 ซึ่งบทสรุปของเรื่องน่าเศร้านี้คือเนย์มาร์จะต้องพักไปอย่างน้อย 7-9 เดือน ตามรายงานของต้นสังกัดอย่าง อัล ฮิลาล

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เนย์มาร์เผชิญอาการเจ็บหนักชนิดทำลายเส้นทางฟุตบอลของตัวเขาซึ่งเคยได้รับการยกย่องจากใครหลายคนว่าเขาในวัยรุ่ง ๆ ว่ามีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งของโลกได้

เหตุใดเนย์มาร์ถึงโดนอาการเจ็บเล่นงานครั้งแล้วครั้งเล่าถึงขั้นพลาดโอกาสลงสนามแตะหลักกว่า 200 นัด ขณะเดียวกันปัญหาเจ็บรอบล่าสุดนี้จะส่งผลถึงเส้นทางฟุตบอลต่อจากนี้มากน้อยแค่ไหน

ร่วมติดตามไปพร้อม ๆ กันกับ Main Stand

 

เจ็บนี้อีกนาน

เราทุกคนรู้ดีว่า เนย์มาร์ เป็นหนึ่งในแข้งระดับท็อปของโลกยุคสมัยหลังปี 2010 เรื่อยมา โดยเฉพาะกับช่วงเวลาที่แนวรุกบราซิลเลียนรายนี้เริ่มจะเฉิดฉายที่เกิดขึ้นในสมัยอยู่ค้าแข้งกับสโมสรซานโตส ในลีกบ้านเกิดที่ประเทศบราซิล รวมไปถึงช่วงออกสตาร์ทเส้นทางทีมชาติชุดใหญ่ในเวลาไล่เลี่ยกัน

เนย์มาร์จารึกผลงานเด่นมากมายในการค้าแข้งที่ซานโตส ไม่ว่าจะทั้งรางวัลส่วนตัว ไล่มาตั้งแต่ทำสถิติยิงประตูที่ 100 ในการลงเล่นให้กับซานโตสในวันเกิดอายุครบรอบ 20 ปีของตัวเองพอดิบพอดี และได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของอเมริกาใต้ 2 สมัย ในปี 2011 และ 2012 

ไปจนถึงเกียรติยศร่วมกับทีม เช่น รางวัลโคปา โด บราซิล 2010 และเกียรติประวัติอย่างผลงาน 6 ประตู พาทีมซิวโคปา ลิเบอตาโดเลส 2011 ซึ่งถือเป็นหนแรกในรอบ 48 ปีที่ซานโตสทำได้

จนกระทั่งช่วงเวลาพอเหมาะพอเจาะกับชีวิตที่พร้อมจะทะยาน เมื่อ บาร์เซโลน่า ทำภารกิจกระฉ่อนตลาดนักเตะก่อนเริ่มซีซั่น 2013-14 ด้วยการกระชากตัวแนวรุกอนาคตไกลรายนี้มาร่วมทัพด้วยสัญญา 5 ปี พร้อมค่าตัวที่ว่ากันว่ามีมูลค่า 57.1 ล้านยูโร 

แน่นอนว่าเนย์มาร์สถาปนาตัวเองกลายเป็นสุดยอดแข้งระดับโลกในนามทีมบาร์ซ่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการผนึกกำลังภายใต้ฉายา “MSN” ร่วมกับอีกสองแนวรุกระดับพระกาฬอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ พาสโมสรคว้าแชมป์ลีกติดต่อกันสองสมัย แชมป์โกปา เดล เรย์ สามสมัยติด และที่สำคัญ แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2014-15 

4 ฤดูกาลที่คัมป์นู เนย์มาร์ฝากฝังสถิติ 186 นัดกับอีก 105 ประตู ก่อนก้าวไปผจญภัยในเส้นทางฟุตบอลบนความท้าทายที่ใหญ่กว่าเดิมที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก (222 ล้านยูโร)
 
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเนย์มาร์ก้าวมายังปาร์ค เดอ แปร็งส์ พร้อมความหวังจากสาวกที่แบกไว้บนบ่า ด้วยค่าตัวและชื่อเสียงที่สั่งสมมาพักใหญ่ ใคร ๆ ก็คาดหมายว่าซูเปอร์สตาร์บราซิลเลียนรายนี้จะยกระดับเปแอสเชให้ก้าวไปอีกขั้น 

นอกเหนือไปจากการได้แชมป์ลีกฝรั่งเศสและแชมป์บอลถ้วยแดนน้ำหอมที่ถือเป็นผลงานมาตรฐานที่เปแอสเชวางพื้นเอาไว้อยู่แล้ว ภารกิจใหญ่หลวงของสโมสรหลังการดึงเนย์มาร์เข้ามาคือการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 

แต่กระนั้นทุกสิ่งอย่างไม่ได้ทางสะดวกแบบที่คาดหวัง ซึ่งสิ่งที่เข้ามารบกวนตัวเขาอยู่บ่อยครั้งที่กระทบไปถึงการลงเล่นในทีมชาติบราซิลไปด้วย นั่นก็คืออาการบาดเจ็บ

อาการบาดเจ็บดูเหมือนจะเป็นปัญหาที่อยู่คู่กับเนย์มาร์มาพักใหญ่แล้ว เพราะหากย้อนไปตั้งแต่สมัยสวมเสื้อแข่งบาร์เซโลน่า ศูนย์หน้าแซมบ้ารายนี้ก็ประสบปัญหาดังกล่าวมากว่า 10 ครั้ง ครอบคลุมทั้งปัญหาที่หัวเข่า ข้อเท้า แฮมสตริง ไปจนถึงอาการปวดท้อง ฯลฯ

ยังไม่นับอีกหนึ่งเหตุการณ์ใหญ่ของตัวเขาที่เกิดขึ้นในฟุตบอลโลก 2014 กับกระดูกสันหลังแตก ในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศที่ บราซิล ชนะ โคลอมเบีย 2-1 เรียกได้ว่าหวิดจะเป็นปิดฉากเส้นทางฟุตบอลในเวลานั้นไปแล้ว

“ผมไปที่โรงพยาบาลเข้ารับการตรวจ และพวกเขาก็บอกผมว่า “เรามีข่าวมาแจ้งคุณสองข่าว ข่าวดีกับข่าวร้าย ข่าวร้ายก็คือคุณจะไม่ได้ลงเล่นในเวิลด์คัพอีกแล้ว มันจบแล้วสำหรับคุณ” ผมก็เลยถามกลับไปประมาณว่า แล้วข่าวดีล่ะ ? “ข่าวดีก็คือ หลังจากนี้คุณจะยังเดินได้อยู่ เพราะหากขยับไปด้านข้างอีกสัก 2 เซนติเมตร คุณก็คงเล่นฟุตบอลไม่ได้อีก”” เนย์มาร์ เล่าย้อนความ

กลับมาที่เปแอสเช อาการเหล่านี้ยังคงเป็นปัญหาที่คอยเข้ามากวนใจเนย์มาร์ และทำให้เขารีดศักยภาพของตัวเองออกมาช่วยทีมได้ไม่เต็มอัตราศึก 

จริงอยู่ที่นับแต่ซีซั่น 2017-18 ไปจนถึง 2022-23 ดาวเตะดีกรีดาวซัลโวตลอดกาลทีมชาติบราซิลรายนี้จะอยู่ช่วยเปแอสเชครองแชมป์น้อยใหญ่สิริรวมกัน 13 แชมป์ แถมซัลโวประตูในแต่ละขวบปีรวมทุกรายการเกิน 15 ลูกทุกซีซั่น

อย่างไรก็ดี เพราะเขาบาดเจ็บบ่อยเกินไป มันทำให้โอกาสพาทีมบินสูงกว่านี้โดยเฉพาะในเวทียุโรปไม่เกิดขึ้น และนั่นก็ทำให้เขาค่อย ๆ ไม่เป็นที่สบอารมณ์แฟน ๆ อยู่บ่อย ๆ ถึงขั้นโดนโห่โดนต่อต้านมานักต่อนัก 

กระทั่งเขาอำลาทีมหลังจบซีซั่นที่แล้วและกลายไปเป็นสมาชิกใหม่ของ อัล ฮิลาล ในลีกซาอุดิอาระเบีย ก่อนจะต้องมาหยุดเส้นทางฟุตบอลในวัย 31 ปีอีกครั้ง คราวนี้มันกินเวลาไปอีกราว ๆ 7-9 เดือน ด้วยปัญหาเอ็นไขว้หน้าเข่าฉีก

177 นัด คือตัวเลขนับในรอบทศวรรษที่ซึ่งซูเปอร์สตาร์แซมบ้าผู้นี้พลาดโอกาสลงสนามให้ทั้งต้นสังกัดและทีมชาติรวมกัน โดยเฉพาะกับที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ปัญหานี้มันทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นให้ทีมในเกมทางการแตะหลัก 101 นัดเลยทีเดียว

หากเจาะลึกลงไปยังช่วงเวลาพลาดช่วยทีมแบบยาวนานก็มีทั้งอาการเจ็บกระดูกฝ่าเท้าหักหนักหน่วงถึงสองครั้งสองครา รอบแรก เกิดขึ้นในระหว่างปลายกุมภาพันธ์ถึงปลายพฤษภาคม 2018 ที่ทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นไป 16 เกม 

รอบสอง เกิดขึ้นช่วงปลายเดือนมกราคมถึงกลางเดือนเมษายน 2019 ชวดลงเล่นไป 18 นัด หรือแม้แต่อาการเจ็บบริเวณข้อเท้าในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2021 ไปจนถึง 13 กุมภาพันธ์ 2022 ที่เขาพลาดลงเล่นไป 13 นัด 

คำถามที่ตามมาคือ ทำไมเนย์มาร์ถึงได้เจอเรื่องราวเจ็บน้อยใหญ่เข้ามารบกวนอาชีพพ่อค้าแข้งอยู่แบบไม่มีลดละ 

 

สไตล์การเล่นและแผลเก่า

เมื่อวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ที่ทำให้เขาเจอเรื่องแบบนี้อยู่บ่อย ๆ ตามที่ใครหลายคนก็เคยออกมาแสดงความเห็นก็มีทั้งสไตล์การเล่นของตัวเนย์มาร์เอง รวมถึงแผลเดิมที่เขาเคยบาดเจ็บที่มักจะกำเริบอยู่บ่อย ๆ

เริ่มกันที่แนวทางการเล่นฟุตบอลของเนย์มาร์ แน่นอนว่าด้วยการที่สตาร์รายนี้ลงเล่นในตำแหน่งสารพัดประโยชน์ในแดนหน้า ไล่มาตั้งแต่กองหน้าตัวเป้า กองหน้าตัวต่ำ กองหน้าริมเส้น ไปจนถึงการถูกขยับไปเล่นเป็นเบอร์ 10 ในบางโอกาส 

รวมถึงสไตล์การเล่นของเขาที่มักจะเน้นความสามารถเฉพาะตัว มีลูกเล่น มีเทคนิคอันแพรวพราวยามต้องดวลกับคู่แข่ง หรือหาพื้นที่ในการเข้าทำประตูหรือแอสซิสต์ 

นั่นทำให้เนย์มาร์มักเป็นเป้าโจมตีของนักเตะทีมตรงข้ามอยู่เสมอ ผ่านการถูกทำฟาวล์ทั้งหนักและเบาปะปนกันไป แน่นอนว่าหากดาวยิงคนใหม่ของอัล ฮิลาล ผู้นี้เอาชนะบรรดาคู่ต่อสู้ได้ อาการบาดเจ็บก็อาจจะไม่ปรากฏให้เห็นบ่อย 

ในทางตรงกันข้าม หากเขาโดนนักเตะคู่แข่งทำฟาวล์ใส่ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนา แน่นอนว่าผลกระทบที่ส่งผลมาคู่กับการถูกทำฟาวล์ก็คือการถูกปะทะ และในหลาย ๆ ครั้งมันก็เสี่ยงถึงขั้นบาดเจ็บ

เว็บไซต์ Besoccer เคยรวบรวมสถิตินักเตะที่ถูกทำฟาวล์มากที่สุดในลีกทวีปยุโรปนับแต่ปี 2016-2021 ซึ่งตำแหน่งที่โดนทำฟาวล์ใส่บ่อยที่สุดคือนักเตะตำแหน่งเกมรุกริมเส้น และคนที่ตกเป็นเป้าของการถูกตัดฟาวล์มากที่สุดก็คือเนย์มาร์ คิดเป็นจำนวน 1,040 ครั้ง 

หากคิดเป็นค่าเฉลี่ยออกมาจะพบว่าแนวรุกแดนเซเลเซาผู้นี้ถูกทำฟาวล์มากกว่าสี่ครั้งต่อเกมเลยทีเดียว

เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งคือผลสืบเนื่องจากที่เนย์มาร์บาดเจ็บเป็นประจำ บางครั้งเป็นอาการเจ็บซ้ำที่จุดเดิม หรือที่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บเรื้อรัง 

ยกตัวอย่างอาการเจ็บกระดูกฝ่าเท้าหักซึ่งมันเคยเกิดขึ้นแบบหนัก ๆ ถึงสองหนที่ทำให้เขาพลาดลงสนามให้เปแอสเชถึง 34 เกม หรือแม้แต่อาการเจ็บที่ข้อเท้า หากยกตัวอย่างในสมัยอยู่กับยอดทีมแห่งมหานครปารีส ผลคือเนย์มาร์เจ็บบริเวณนี้มากกว่า 3 หน 

และนั่นก็รวมถึงปัญหาเจ็บข้อเท้าด้านขวาที่ทำให้เขาต้องปิดฉากเส้นทางกับทีมไปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 กระทั่งถึงคราวย้ายโมสรมาหาความท้าทายใหม่ในซีซั่นถัดมา (2023-24)

ดังนั้นหากจะหาเหตุผลสำคัญที่มีผลอย่างยิ่งต่อการที่เส้นทางฟุตบอลของเนย์มาร์ถูกหยุดลงไปในหลาย ๆ โอกาส นั่นเพราะแนวทางการเล่นของตัวเขาเองที่แม้จะทำให้แฟนบอลฮือฮา จับต้องได้ และส่งให้เขาเป็นสุดยอดแข้งของโลกในเวลานี้ 

ทว่ามันก็ต้องแลกมาด้วยอาการบาดเจ็บจากการถูกคู่แข่งหยุดจังหวะการเล่น และผลสืบเนื่องก็คือการบาดเจ็บซ้ำจากแผลเก่าที่เคยประสบ

 

อาการเจ็บ กระทบชีวิตฟุตบอลวัย 31 มากแค่ไหน ?

หลังการบาดเจ็บครั้งล่าสุดในเดือนตุลาคม 2023 ร่วมกับทีมชาติบราซิล อย่างอาการเอ็นไขว้หน้าเข่าขาด แน่นอนว่านี่ก็เป็นอาการเดิมที่เนย์มาร์เคยประสบมาในอดีต เขายอมรับว่านี่เป็นอาการเจ็บที่เลวร้ายมากที่สุดอีกครั้งหนึ่งในชีวิต

“นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าเศร้ามาก ๆ มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตผม” กองหน้าจากอัล ฮิลาล เปิดใจผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว

“ผมรู้ตัวเองดีว่าผมก็เป็นคนที่เข้มแข็ง แต่ครั้งนี้ผมต้องการกำลังใจจากทั้งครอบครัวผมและเพื่อน ๆ ของผมมาก ๆ มันไม่ง่ายเลยกับการที่เคยได้รับบาดเจ็บ จากนั้นก็ผมเข้ารับการผ่าตัดมาด้วยดี แล้วก็ดันมาเจอกับสถานการณ์แบบเดิมอีกใน 4 เดือนต่อจากนั้น” 

“แต่ถึงอย่างไรผมยังมีศรัทธาอยู่เต็มเปี่ยม ผมจะปล่อยให้เรื่องต่าง ๆ ไปอยู่กับพระหัตถ์ของพระเจ้า เพื่อขอให้พระองค์ปกปักรักษาช่วยให้ผมกลับมาเป็นคนที่เข้มแข็งอีกครั้ง ขอบคุณสำหรับทุก ๆ ข้อความที่ส่งเข้ามาให้กำลังใจและส่งความรักที่มีให้กับตัวผมครับ”

อาการเจ็บคราวนี้มันหนักหนาถึงขั้นที่เนย์มาร์อาจจะต้องรักษาอาการบวกฟื้นฟูอีกเกินครึ่งปี และนั่นทำให้เขามีโอกาสปิดฉากฤดูกาลกับต้นสังกัดใหม่อย่างอัล ฮิลาล ไปโดยปริยาย มากไปกว่านั้นเขายังหมดสิทธิ์ช่วยทีมชาติบราซิลลงเล่นตามปฏิทินทีมชาติในช่วงเวลาต่อจากนี้ไปอีกพักใหญ่ 

ข้อสังเกตน่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ หากเนย์มาร์ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บกลับมาลงสัมผัสฟลอร์หญ้าอีกครั้ง เนย์มาร์ในวัย 31 กะรัต จะกลับมาเป็นเนย์มาร์คนเดิมที่เปี่ยมไปด้วยความแพรวพราวอีกหรือไม่ 

อาจเพราะพรสวรรค์ที่มีในตัวนักเตะคนนี้อย่างเปี่ยมล้น ดูเหมือนว่าหลาย ๆ ฝ่ายก็ยังคงเชื่อมั่นว่าหัวหอกอัล ฮิลาล ผู้นี้ จะกลับมาเป็นคนเดิมได้แบบไร้รอยต่อ 

“แน่นอนว่าอายุของนักกีฬามันเป็นปัจจัยสำคัญนะ แต่สำหรับคนอย่างเนย์มาร์ที่ฝีเท้าดีและเป็นนักเตะระดับโลก เขามีโอกาสกลับมาจากอาการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ” บิล โนวส์ (Bill Knowles) ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสภาพนักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บ และที่ปรึกษาให้องค์กรกีฬาระดับโลก แสดงความเชื่อมั่น ผ่าน The Athletic

“เขา (เนย์มาร์) คือนักเตะวัย 31 ปีที่ยังมีอนาคตรออยู่ข้างหน้า วันนี้การฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ ACL ของเขาอยู่ในมาตรฐานที่ดี ถึงแม้จะต้องใช้เวลานานประมาณ 8 เดือนก็ตาม” เซซาร์ เคย์ซาด้า (Cesar Quesada) แพทย์จากศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ของฟีฟ่า กล่าวอย่างมั่นใจ

และที่สำคัญ เนย์มาร์จะยังคงเป็นไอค่อนของทีมชาติบราซิลอยู่แบบไม่เสื่อมคลาย ดังบทสัมภาษณ์ของ เอ็ดนัลโด้ โรดริเกซ ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล (CBF) 

“ฟุตบอลบราซิลและฟุตบอลโลกยังคงต้องการเนย์มาร์ให้หายดีและฟื้นตัว เพราะโลกของฟุตบอลจะมีความสุขมากยิ่งขึ้นเมื่อมีคนอย่างเขาอยู่ในสนาม เนย์มาร์ไว้วางใจเรื่องมิตรภาพที่ผมมีให้กับเขาได้แน่นอน” 

“และเขาจะยังได้รับการสนับสนุนจากองค์กรนี้อยู่เสมอ” 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.marca.com/en/world-cup/2022/12/06/638e7e6b22601d116d8b458a.html 
https://theathletic.com/4976636/2023/10/19/neymar-brazil-injury-update/
https://www.goal.com/en/news/neymar-injury-history-psg-brazil-games-missed/blt90a8da42ce5bda13 
https://www.transfermarkt.com/neymar/verletzungen/spieler/68290 
https://www.fourfourtwo.com/news/is-this-the-real-reason-neymar-has-had-his-career-ruined-by-injury 
https://www.thedailystar.net/shout/cover-story/news/the-definitive-youth-magazine-3367876 
https://en.as.com/soccer/does-neymar-get-enough-protection-n/ https://www.goal.com/en/news/neymar-reacts-knee-injury-brazil/blt291cd86523b37ee2 https://www.marca.com/en/football/2023/10/19/65316ff7e2704ebd318b4612.html 
https://www.bbc.com/sport/football/66505930 

Author

พชรพล เกตุจินากูล

แฟนคลับเชลซี ติดตามฟุตบอลเอเชีย ไก่ทอดและกิมจิเลิฟเวอร์

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

ภราดร ภราดร

อยากจะทำให้ดี ไม่ใช่แค่อยากจะทำให้เป็น