ต้องยอมรับประการหนึ่งว่า ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ดูจะกลายเป็นถ้วยของ เซบีย่า เอฟซี อย่างจริงแท้ เพราะนี่คือสโมสรที่คว้าถ้วยใบนี้มาครอบครองมากที่สุดถึง 7 สมัย
และในนัดชิงชนะเลิศ ฤดูกาล 2022-23 ก็เช่นกัน เพราะจากที่ตามหลัง 1 ประตูในครึ่งแรกแบบรูปเกมเทียบ อาแอส โรมา ไม่ได้ แต่เซบีย่ากลับพลิกกลับมาได้เปรียบ หาโอกาสกดดัน และส่องประตูได้ตลอด แม้จะเน้นโยนบอลจนคู่ต่อสู้ทำเข้าประตูตนเอง แต่ในการยิงจุดโทษก็ไม่มีหวั่น และชนะไป 4-1 (สกอร์รวม 5-2) คว้าถ้วยแชมป์ไปครอง
แน่นอนว่าการพลิกดังกล่าว อาจให้เหตุผลได้ว่า โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ แก้เกมดี ส่ง ซูโซ่ กับ เอริค ลาเมล่า ลงมาสร้างความแตกต่าง แต่มีอีกหนึ่งคนที่สำคัญแทบจะที่สุด เขาขาดไม่ได้ในการสอดประสาน ทำเกม และสร้างสรรค์โอกาสในแนวรุก ชื่อของ ลูคัส โอคัมโปส (Lucas Ocampos) ต้องเด้งขึ้นมาในหัวอย่างแน่แท้
จริง ๆ แล้วถือว่าเขาเจิดจรัสกับ “โรฆิบลังโกส” มา 2-3 ฤดูกาลแล้ว แต่หากย้อนไปดูกันจริง ๆ จะพบว่า บนถนนสายฟุตบอลของเขา แม้จะมีชื่อเสียงคับประเทศอาร์เจนตินาบ้านเกิด แต่ในการมาค้าแข้งในยุโรปเขาแทบจะเป็นแนวรุกโนเนม หากไม่มีชื่ออยู่ในเกม FIFA ก็แทบจะไม่มีใครรู้จัก
มาร่วมติดตามชีวิตแบบ “เปลวเทียนให้แสง อันดาลูเซียให้ทาง” ไปพร้อมกับ Main Stand
ยิ่งใหญ่คับอาร์เจนตินา
ที่จริงนั้นต้องกล่าวว่าโอคัมโปสไม่ใช่ไก่กา เพราะเขาถือเป็น Wonderkid หรือเด็กเทพในตำแหน่งศูนย์หน้า ที่มีความเร็วจี๊ดจ๊าด ร่างกายกำยำ และสูงถึง 188 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าหาได้ยากมาก ๆ ในอาร์เจนตินา เพราะส่วนใหญ่ในตำแหน่งนี้มักจะมีทรงเตี้ย ๆ ตัน ๆ หุ่นมะขามข้อเดียวแบบ เซร์คิโอ กุน อเกวโร่, คาร์ลอส เตเวซ หรือ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ
การค้นพบการเล่นในตำแหน่งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่อายุ 6 ปี เมื่อครั้งยังเป็นเยาวชนของ กิลเมซ (Quilmes Atlético Club) ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่ที่เขาโชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะในรายการ Sudamericano U-15 (คล้าย UEFA Youth League) ที่เขาตะบันไม่ยั้ง แม้ทีมจะกลับบ้านก่อนกำหนดก็ตาม
ด้วยฟอร์มดังกล่าว ริเวอร์เพลท (Club Atlético River Plate) ยอดทีมดังแห่งอาร์เจนตินา ได้เข้ามาแชร์สัญญากับกิลเมซครึ่งหนึ่งในการเป็นเจ้าของสิทธิ์ในตัวโอคัมโปส ก่อนที่เขาจะเล็งเห็นถึงความก้าวหน้าในอาชีพค้าแข้งจึงเลือกมาซบอกพลพรรค “เศรษฐี” อย่างถาวร
แต่การปรับตัวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในยอดทีมระดับประเทศมีตัวเลือกในตำแหน่งศูนย์หน้าเพียบ และโค้ชเล็งเห็นว่า ส่วนสูงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเพราะไม่ได้ไปจำกัดความจี๊ดจ๊าด กระชากลากเลื้อย และทำเกมจากด้านข้างของเขาแม้แต่น้อย ทำให้มีการปรับเปลี่ยนเขาให้ไปเล่นตำแหน่งริมเส้นแทน ซึ่งเขาก็ทำได้ดีอย่างมาก ฉายแววตัวเลือกในการขึ้นทีมชุดใหญ่มาแต่ไกล จนได้รับฉายาว่า “กระทิงน้อย (El Torito)”
แต่ ณ ตอนนั้นริเวอร์เพลทถือว่าตกต่ำอย่างมาก เพราะทีมโดยรวมมีฟอร์มย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง ถึงขนาดที่ร่วงตกชั้นไปลีกรองอย่างน่าอดสู หมดราศีทีมใหญ่ จนต้องปล่อยนักเตะมีชื่อไปตามวิถีแห่งฟุตบอล รวมถึงยังแต่งตั้ง มาติอาส อัลเมด้า (Matías Almeyda) ขึ้นมาเป็นโค้ชแอนด์เพลย์เยอร์ ทั้งที่ไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมมาก่อน
แต่ใครเลยจะรู้ว่าการแต่งตั้งอัลเมด้าจะทำให้โอคัมโปสได้แจ้งเกิด ดังที่ เฟเดริโก พราเมิล นักข่าวฟุตบอลสายอเมริกาใต้ ให้ทรรศนะไว้ว่า
“หมอนี่ร่างทองชัด ๆ เขาประเดิมสนามในลีกรองของอาร์เจนตินาแบบไร้ความกดดัน แมตช์แรกไม่เท่าไร แต่แมตช์ต่อมาเขายิงได้ ส่วนอีกแมตช์เขาทั้งยิงทั้งจ่าย เขาเป็นคนแรกที่ เอล เปราโด (El Pelado: หมายถึง อัลเมด้า) ดันขึ้นชุดใหญ่และได้เป็น 11 ตัวจริงเลย โดยสาเหตุที่ดันคือในตอนที่รับงานคุมทีมใหม่ ๆ ระหว่างลงซ้อม โอคัมโปสดันไปเล่นท่า “นัตเม็ก” โค้ชเฉยเลย ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวนะครับ 2 ครั้งด้วยกัน”
การเล่นท่านัตเม็ก (Nutmeg) คือการ “แตะลอดขา” ซึ่งโดยปกติการโดนเล่นท่านี้มีแต่จะทำให้เกิดอาการหัวร้อน หงุดหงิด ประหนึ่งโดนเหยียดหยาม แต่กับอัลเมด้าเขาไม่คิดแบบนั้น การเล่นท่านี้ใส่เขาที่มีประสบการณ์และอาวุโสที่สุดในทีม ย่อมหมายถึงโอคัมโปสเก่งจริง และพร้อมกับทุกความกดดันแน่นอน เขาจึงต้องส่งลงสนามบ่อย ๆ ให้ไปปล่อยของ
ผลที่ตามมาคือ ริเวอร์เพลทเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาลีกสูงสุดสมใจ พร้อมด้วย 7 ประตู 5 แอสซิสต์ จาก 38 แมตช์ ของโอคัมโปส ส่งผลให้เขาดังข้ามน้ำข้ามประเทศจน FIFA บรรจุไว้ให้เป็น 1 ในนักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2012 เคียงคู่กับ ติอาโก้ อัลคันทารา แห่งบาร์เซโลน่า, รอสส์ บาร์คลี่ย์ แห่งเอฟเวอร์ตัน และ ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ แห่งชาลเก้ 04 โดยบรรยายสรรพคุณไว้ว่า
“นักเตะด้านกว้างรายนี้มีสไตล์และเทคนิคคล้ายคลึงกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เขากำลังทำผลงานออกสตาร์ทได้อย่างดีเยี่ยมกับริเวอร์เพลท โดยทีมกำลังตั้งราคาขายที่สมน้ำสมเนื้อสำหรับบรรดาทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อินเตอร์ มิลาน”
แต่กลับเป็น อาแอส โมนาโก ทีมเศรษฐีใหม่ใน ลีก เดอซ์ ที่หยิบชิ้นปลามันนี้ไปครองในปี 2012 โดยมีสนนราคาค่าตัว 11 ล้านยูโร ถือได้ว่าทำสถิติเป็นนักเตะที่แพงที่สุดใน ลีก เดอซ์ แถมยังมีอายุเพียง 18 ปี เสียด้วย
แต่ใครเลยจะรู้ว่าการบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาค้าแข้งยังทวีปแห่งฟุตบอลอาชีพระดับสูงกลับกลายเป็นดั่ง “ขุมนรก” ของพ่อกระทิงน้อยไปเสียอย่างนั้น
หัวเราะยิ่งดัง ภายหลังยิ่งเศร้า
ในตอนแรกเริ่มกับพลพรรค “แดง-ขาว (Les Rouge et Blanc)” ใน ลีก เดอซ์ โอคัมโปสถือว่ามีชีวิตที่ดีอย่างมาก เพราะเขาเป็นกำลังหลักของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ในการพาทีมกลับไปสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง ซึ่งชะตากรรมก็ไม่ต่างจากที่เขาประสบมากับริเวอร์เพลท คือเป็นทีมใหญ่ที่ตกระกำลำบาก และต้องหาหนทางกลับไปเฉิดฉายเช่นกัน
32 แมตช์รวมทุกรายการคือจำนวนที่เขาได้ลงสนาม ถึงแม้จะเป็นตัวจริงจำนวนน้อยกว่าการเปลี่ยนลงมาจากข้างสนาม แต่ 5 ประตูที่ยิงได้ก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยในการพาโมนาโกเลื่อนชั้นสู่ ลีก เอิง อีกครั้ง แถมหนึ่งในนั้นยังมีประตูยอดเยี่ยมประจำสโมสรที่แฟนบอลเทคะแนนเสียงโหวตให้ โดยเป็นลูกที่เขายิงจักรยานอากาศใส่ วาล็องเซียนส์ ในแมตช์ คูป เดอ ลา ลีก (เฟรนช์ ลีก คัพ) ช่วงต่อเวลาพิเศษ ที่ทีมชนะไป 4-2
ถึงแม้ตอนที่ทีมขึ้นสู่ลีกสูงสุดจะได้รับงบประมาณจากเจ้าของทีมชนิดที่บ้าคลั่งอย่างมาก และแปรเปลี่ยนเป็นนักเตะมีชื่อราคาแพงจำนวนหนึ่ง เช่น ชูเอา มูตินโญ่, ฮาเมส โรดริเกซ และที่แพงสุด ๆ อย่าง ราดาเมล ฟัลเกา ประกอบกับนักเตะมีชื่อที่เข้าสู่วัยเก๋ามาประคองทีมอย่าง เอริค อบิดัล, เจเรมี่ ตูลาล็อง, เซร์คิโอ โรเมโร่ และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ จะทำให้โอคัมโปสมีความสำคัญลดน้อยลงไป กระนั้นเขาก็ยังถือได้ว่าเป็นซูเปอร์ซับ ที่ลงมาทีไรได้เรื่องตลอด
โดยหนึ่งในลูกยิงที่ติดตาแฟนบอลคือการยิงจักรยานอากาศใส่ ตูลูส ในนาทีที่ 88 แมตช์ที่ 21 ของฤดูกาล จากการลงสนามมาแทนฟัลเกาในนาทีที่ 69 ทั้งยังตะบันไปได้มากถึง 7 ประตูในฐานะตัวสำรอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าบทบาทของตนจะไปอยู่ ณ ตำแหน่งแห่งที่ใด แต่ก็ยังหาโอกาสให้กับตนเองได้เสมอ แถมทีมยังจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์เสียด้วย
เช่นนี้ส่งผลให้เขาถึงขนาดเป็น 1 ใน 40 แคนดิเดตที่มีชื่อเข้าชิง Golden Boy ในปี 2014 ซึ่งถือว่ามาไกลอย่างมากในระยะเวลาเพียง 2-3 ปี หากแต่ ณ ปีนั้น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่โดดเด่นจริง ๆ กับลิเวอร์พูล คว้ารางวัลไปครอง
แต่ใครเลยจะรู้ว่านั่นจะเป็นความโดดเด่นที่มาพร้อมกับความดับสูญ
เพราะหลังจากการเข้ามาของ เลโอนาร์โด ยาร์ดิม เขาได้ผลักดันนักเตะที่เป็นวัยรุ่นและเป็นลูกหม้อมากกว่าที่จะผลักดันโอคัมโปสต่อ เช่น ฟาบินโญ่, เยฟฟรีย์ กงด็อกเบีย, ติเอมูเอ บากาโยโก้ หรือ แบร์นาโด ซิลวา ทำให้เขาต้องระเห็จระเหินไปอยู่กับ โอลิมปิก มาร์กเซย์
แม้การอยู่ภายใต้อาณัติของ มาร์เซโล บิเอลซ่า จะทำให้เขาเฉิดฉายอย่างต่อเนื่อง แต่เขาก็ไม่ถึงขั้นที่อยู่กับโมนาโก เรียกได้ว่าเขาเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ อยู่ในระดับกลาง ๆ ค่อนไปทางท้าย เป็นนักเตะธรรมดา ๆ ที่หาได้ทั่วไป แม้จะมีฤดูกาลที่ดีที่สุดกับมาร์กเซย์ในฤดูกาล 2017-18 ที่ยิงไป 16 ประตู 4 แอสซิสต์ แต่ทีมก็ยังมีการปล่อยยืมไปให้ทั้ง เจนัว และ เอซี มิลาน ใช้งาน แต่ก็มิได้นำพา เพราะเป็นการยืมไปเพื่อนั่งตบยุงข้างสนามเฉย ๆ แสดงให้เห็นว่าเขากำลังลดระดับลงจริง ๆ
เรียกได้ว่าแฟนบอลจะรู้จักเขาก็เพราะเปิดแพ็คในเกม FIFA เท่านั้น หากใครเป็นคอเกมนี้ย่อมทราบดีว่า ระบบจะสุ่มการ์ดของเขาออกมาบ่อยมาก ๆ และเขาจะมีค่าพลังรวมอยู่ที่ประมาณ 77 แม้จะเป็นการ์ดแรร์โกลด์ แต่ใครเห็นก็ว่า “เกลือ” ล้วน ๆ เหมาะกับการลงไว้ใช้เล่นในแรงค์ต่ำ ๆ มากกว่าที่จะนำมาใช้ลุยแรงค์สูง
เรียกได้ว่าสวนทางกับชีวิตการค้าแข้งจริง ๆ ของเขาแบบสุด ๆ ที่แทบจะโดนวิถีแห่งฟุตบอลกลืนหายไปตามกาลเวลา
แต่ในโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่เสียเล็กน้อย เพราะใครเลยจะรู้ว่าการเดินทางออกจาก สตาด เวโลโดรม มาสู่ รามอน ซานเซซ ปิซฆวน ของ เซบีย่า จะนำพาแสงให้มาส่องกระทบเขาอีกครั้ง
โดดเด่นเป็นสง่า ณ เซบีย่า
ฆูเลน โลเปเตกี โค้ชของเซบีย่า ณ ขณะนั้น เป็นคนเสนอให้บอร์ดบริหารซื้อโอคัมโปสเข้ามาเพื่อเป็นกำลังหลักในแดนหน้า ประจำการในตำแหน่งแนวรุกริมเส้น ซ้าย-ขวา เพราะแนวรุกริมเส้นของเซบีย่า ณ ตอนนั้นไม่ตอบโจทย์แผนการเล่นของเขา
แน่นอนว่าโอคัมโปสไม่ทำให้โลเปเตกีผิดหวัง ช่วงเปิดฤดูกาลเขาเล่นได้อย่างถึงเครื่อง เป็นแนวรุกที่จี๊ดจ๊าดที่สุดของทีมที่ปั่นป่วนแนวรับคู่ต่อสู้ได้ตลอด 90 นาที เท่านั้นยังไม่พอ จุดเด่นที่สำคัญนอกเหนือไปจากปั่นหัวกองหลังฝั่งตรงข้ามคือการที่เขามักจะสอดขึ้นมาทำประตูได้บ่อยครั้ง
เรียกได้ว่าสามารถแบ่งเบาภาระศูนย์หน้าประจำทีมอย่าง ลุค เดอ ยอง และ มูนีร์ เอล ฮัดดาดี ไปได้มาก แถมในช่วงหลังที่คลายล็อกดาวน์และฟุตบอลกลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง เขายังยิงประตูได้แซงศูนย์หน้าของทีมอีกด้วย
โดยเฉพาะการเหมายิงใน ลา ลีกา ชนิดที่นักเตะในทีมคิดอะไรไม่ออกก็ส่งบอลมาให้เขา ประเดี๋ยวเขาก็จะหาวิธีเข้าทำและใส่สกอร์ด้วยตนเอง มีช่วงหนึ่งที่เขาตะบันติดต่อกันมากถึง 5 แมตช์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้ทีมไม่แพ้ใครติดต่อกันมากถึง 15 แมตช์ (ชนะ 12 เสมอ 7) จบด้วยอันดับที่ 4 ในลีก
แถมประตูที่แทบจะสำคัญที่สุดในฤดูกาลดังกล่าวของเซบีย่า เขาก็เป็นคนยิง นั่นคือการซัดประตูโทนในนาทีที่ 88 ใส่ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2019-20 ก่อนจะทะยานเข้าไปคว้าแชมป์ในที่สุด พร้อมจบฤดูกาลด้วยการเป็นดาวซัลโวของทีม ด้วยจำนวน 17 ประตูรวมทุกรายการ
ก่อนที่ฤดูกาลต่อ ๆ มาเขาจะถูกปรับเปลี่ยนแนวทางการเล่นให้เพิ่มการสร้างสรรค์เกมมากยิ่งขึ้น ทำให้การยิงที่เป็นจุดเด่นลดระดับลงไป แทนที่ด้วยการหาโอกาสเริ่มต้นการเข้าทำ รวมถึงแอสซิสต์ที่เป็นคนปิดทองหลังพระให้บรรดาแนวรุกคนอื่น ๆ ที่เห็นได้ชัดคือ ยุซเซฟ เอ็น-เนซีรี ที่ไปถึงดาวซัลโวอันดับที่ 5 ของลา ลีกา 2020-21 รวมถึง ราฟา มีร์, ซูโซ่, ปาปู โกเมซ หรือ เอริค ลาเมล่า ที่กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งที่เซบีย่าเช่นกัน
ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการตัดสินใจของเขาที่เกือบจะซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง
อันดาลูเซียที่คิดถึง
ในตลาดซัมเมอร์ ฤดูกาล 2022-23 ความฮือฮาที่สุด แน่นอนว่าคือการย้ายจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ไปสู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สนนราคากว่า 100 ล้านยูโร ของ อันโตนี่ อินเวิร์ตวิงเกอร์สายโชว์สกิล แม้จะโดนครหาว่าเป็น “Panic Buy” แต่ที่ Panic ที่สุดกลับเป็นอาแจ็กซ์ เพราะไม่รู้ว่าจะไปหานักเตะที่มีการเล่นคล้าย ๆ กันมาจากที่ใด ?
แต่แล้วหวยก็ไปออกที่โอคัมโปสในวัย 28 ปี และเซบีย่าก็ถือว่าเขาเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมจึงโขกอาแจ็กซ์ไปได้มากถึง 16 ล้านยูโร (บ้างก็ว่า 20 ล้านยูโร) โดยที่เป็นการเซ็นสัญญาแบบยืมก่อน พร้อมออปชั่นเซ็นถาวรในภายหลัง (Loan with buy option)
แต่แล้วหลังจากผ่านไปครึ่งทาง อาแจ็กซ์ก็มา “ลอยแพ” โอคัมโปสเสียดื้อ ๆ เนื่องจากไม่เคารพสัญญาที่ว่าต้องเซ็นถาวรหลังจากยืมไปใช้งาน ด้วยเห็นว่าราคาที่เซบีย่าตั้งไว้นั้นไม่เหมาะสมกับวัยของนักเตะที่ใกล้แตะหลัก 30 ปี ดังนั้นโอคัมโปสจึงต้องกลับมาที่เซบีย่า พร้อมกับ 114 นาทีที่ลงสนามในถิ่น โยฮันน์ ครัฟฟ์ อารีนา
แน่นอนว่าโอคัมโปสออกอาการหัวร้อนกับเรื่องนี้อย่างมาก ดังที่เขาให้สัมภาษณ์กับ Relevo ความว่า
"ผมบินไปที่นั่นแล้ว คือร่ำลาเซบีย่าเรียบร้อยแล้ว แล้วมาบอกผมว่าไม่ต้องการตัวผม นี่มันไร้ความเป็นมืออาชีพมาก ๆ บ้าบอสิ้นดี … ตอนอยู่กับอาแจ็กซ์ผมต้องหาที่ซ้อมแถว ๆ ห้องล็อกเกอร์ของชุดเยาวชน คือพวกทีมแพทย์และนักกายภาพไม่มาที่สนามซ้อมน่ะครับ ผมเลยซ้อมที่สนามชุดใหญ่ไม่ได้ ทำแบบนี้ไม่เห็นหัวผมเลย ทั้งที่ผมก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมาย … คือผมแค่ต้องการความเคารพสักเล็กน้อยก็ยังดี แต่นี่อะไร ทั้งที่ผมเป็นมืออาชีพกับทุกคนตลอดนะครับ"
โอคัมโปสได้หิ้วความผิดหวังและความเศร้ากลับมาให้เซบีย่าดูแลแผลใจ โดยโค้ชคนใหม่ที่มีชื่อว่า ฮอร์เก้ ซามเปาลี ซึ่งยังคงให้ความไว้วางใจในการเป็นแนวรุกริมเส้นเช่นเดิม แต่ฟอร์มทีมโดยรวมกลับดิ่งลงเหว ผลงานในลีกจมท้ายตารางอยู่นาน ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงนำ โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ เข้ามาทำทีม ผลงานจึงกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย
ผิดกับ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ที่เปรียบเสมือน “บ้าน” ของพวกเขาจริง ๆ
เพราะไม่ว่าสถานการณ์ของทีมจะเป็นเช่นไรในถ้วยอื่น ๆ แต่เมื่อลงสนามในถ้วยรองฟุตบอลระดับทวีปนั้น ประหนึ่งได้บัฟพิเศษจากพระเจ้าอย่างไรอย่างนั้น จะไปแหล่ไม่ไปแหล่เซบีย่าก็พลิกกลับมาเข้ารอบได้ตลอด
และก็เหมือนภาพยนตร์ม้วนเดิมฉายเวียนซ้ำที่เซบีย่าคว้าโทรฟีนี้ไปครองเป็น “สมัยที่ 7” ประหนึ่งเขียนบทไว้ และที่สำคัญ เป็นครั้งที่ 2 สำหรับโอคัมโปสที่ได้ชูถ้วยนี้ แต่ครั้งนี้พิเศษกว่านั้นเพราะเป็นการสมานแผลใจที่โดนอาแจ็กซ์ย่ำยีเมื่อตลาดหน้าหนาวได้อย่างหายเป็นปลิดทิ้ง
“มีอะไรหลาย ๆ อย่างประเดประดังเข้ามาในชีวิตของผม ทำให้ผมรู้สึกเศร้าใจที่ต้องประสบเรื่องราวดังกล่าวในอาชีพค้าแข้ง แต่ฟุตบอลก็ให้ที่ทางผมได้แก้ลำและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 3 เดือนก่อนหน้านี้ผมยังรู้สึกเคว้งคว้าง แต่ดูตอนนี้สิครับ ผมคว้าแชมป์ยูโรป้ามาได้เลยนะ!”
คำกล่าวของเขา หากอ่านระหว่างบรรทัดจะเห็นถึงความสะใจต่ออาแจ็กซ์อย่างมากเลยทีเดียว
มาถึงตรงนี้ นับว่าชีวิตของโอคัมโปสมีแต่เรื่องที่ไม่คาดคิดเข้ามา ตั้งแต่เรื่องการประสบกับความตกต่ำไปจนถึงปาฏิหาริย์ ซึ่งแท้จริงไม่ได้แตกต่างจากชีวิตของมนุษย์โดยทั่วไป เพียงแต่ระยะเวลาที่เกิดขึ้นนั้นช่างกระชั้นเสียเหลือเกิน ซึ่งถือได้ว่าหากใครใจไม่แข็งจริงย่อมไม่อาจที่จะควบคุมตัวเองได้
อย่างน้อยที่สุดการอยู่กับเซบีย่า ณ ตอนนี้ของเขาก็ประหนึ่งเจอแหล่งพักใจที่เหมาะสม ไม่แน่ว่าหากอยู่กันไปยาว ๆ โอคัมโปสอาจจะเป็นหนึ่งในขวัญใจแฟนบอล ไม่แตกต่างจาก เฆซุส นาบาส หรือ อิวาน ราคิติช ที่เคยจากทีมไปแต่ก็กลับมารับใช้ทีมอีกครั้งก็เป็นได้
แหล่งอ้างอิง
https://sportmob.com/en/article/948181-top-facts-about-lucas-ocampos-the-future-star-of-sevilla-fc
https://www.busybuddiesng.com/lucas-ocampos-7-interesting-facts-about-laligas-emerging-sensation/
https://www.getfootballnewsfrance.com/2013/prospect-lucas-ocampos/
https://english.ajax.nl/articles/meet-lucas-ocampos-i-always-give-it-my-all/
https://onefootball.com/id/berita/lucas-ocampos-three-months-ago-i-was-alone-and-now-im-a-european-champion-37591759
https://web.archive.org/web/20120116094511/http://www.fifa.com/worldfootball/clubfootball/news/newsid=1567609.html
https://www.tribalfootball.com/articles/sevilla-attacker-lucas-ocampos-slams-ajax-i-felt-mistreated-4458788