กาลครั้งหนึ่ง เดเล่ อัลลี่ เคยถูกมองไว้ว่าเป็น “วันเดอร์คิด” แห่งวงการฟุตบอลอังกฤษ ด้วยการติดทีมชาติชุดใหญ่ และประเดิมสนามในพรีเมียร์ลีกด้วยวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม อัลลี่กลับต้องเผชิญกับกราฟอาชีพค้าแข้งที่ดิ่งลงอย่างชัดเจน ทั้งปัญหาอาการบาดเจ็บ และพฤติกรรมนอกสนามต่าง ๆ ของเขา จนกลายเป็นแข้งพเนจร ผ่านประสบการณ์ในหลายประเทศ
เกิดอะไรขึ้นกับเส้นทางของอดีตดาวรุ่งรายนี้กันแน่ ร่วมไขคำตอบไปพร้อมกับ Main Stand
ดาวรุ่งพุ่งแรง
เดเล่ อัลลี่ คือผลผลิตจากระบบอคาเดมีของทีม เอ็มเค ดอนส์ สโมสรท้องถิ่นในละแวกบ้าน อัลลี่ในวัย 16 ปีได้ประเดิมสนามเกมแรกกับทีมชุดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2012 ก่อนจะเป็นส่วนสำคัญของทีมนับตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 เป็นต้นมา
เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่น 11 ตัวจริงชุดเปิดบ้านเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 4-0 ในเกมลีกคัพ รอบสอง ฤดูกาล 2014-15 ที่เป็นการรับน้องการเข้ามาของเป็นกุนซือปีศาจแดงของ หลุยส์ ฟาน กัล ได้อย่างไม่น่าจดจำสักเท่าไร
ในช่วงเวลาดังกล่าวอัลลี่เริ่มเป็นที่หมายตาของสโมสรชั้นนำในประเทศอยู่แล้ว โดยมีความสนใจจากทั้ง ลิเวอร์พูล และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ก่อนที่จะเป็นรายหลังที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีมก่อนตลาดซื้อขายเดือนมกราคม 2015 จะจบลง ด้วยค่าตัวเบื้องต้นที่ประมาณ 5 ล้านปอนด์ พร้อมกับเงื่อนไขยืมตัวกลับไปยัง เอ็มเค ดอนส์ จนจบฤดูกาล
อัลลี่ย้ายเข้ามายึดตัวจริงในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน ได้ในทันที โดยเป็นขุนพลหลักในทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ด้วยการประเดิมสนามเกมพรีเมียร์ลีกในเดือนสิงหาคม 2015 ที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามด้วยการประเดิมลงเล่นยูโรปาลีกในเดือนกันยายน และลงเล่นให้ทีมชาติอังอังกฤษชุดใหญ่เกมแรกในเดือนตุลาคมของปีเดียวกัน
กราฟชีวิตของเขากำลังไต่เต้าขึ้นไปสู่จุดสูงสุดด้วยความรวดเร็ว ตอกย้ำด้วยความสำเร็จส่วนตัวจากการได้ครอบครองตำแหน่งผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ PFA สองปีติด ในฤดูกาล 2015-16 และ 2016-17 เป็นนักเตะคนแรกนับตั้งแต่ เวนย์ รูนี่ย์ ที่คว้ารางวัลดังกล่าวได้สองปีติดต่อกัน พ่วงกับการมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของ PFA ในสองฤดูกาลเดียวกันด้วย
บทบาทกับบาดเจ็บ
ภายใต้การคุมทีมของโปเช็ตติโน่ เขาเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวหลักในการขึ้นเกมรุกด้วยทักษะการเคลื่อนที่ไปกับบอลได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงความเข้าขากับศูนย์หน้าอย่าง แฮรี่ เคน และความสามารถในการทำประตูได้ด้วยสัญชาตญาณของเขา
“ในกรอบเขตโทษ เขาเหมือนเล่นเป็นกองหน้า แต่นอกกรอบเขตโทษ เขายังเล่นเป็นมิดฟิลด์เหมือนเดิม” นี่คือคำอธิบายสรรพคุณจากกุนซือของเขา
อย่างไรก็ตาม อัลลี่เป็นนักเตะที่มีสไตล์การเล่นที่โฉ่งฉ่างอยู่บ้าง ควบคู่ไปกับการพุ่งล้มเพื่อเรียกจุดโทษให้กับทีม แต่สิ่งที่มีผลกระทบต่อการเล่นของเขามากที่สุดคืออาการบาดเจ็บที่รุมเร้าเขามาตั้งแต่ฤดูกาล 2018/19
อัลลี่ประสบปัญหากับแฮมสตริงรวมถึงสามครั้งในปีนั้น ทำให้เขาพลาดลงสนามช่วยทีมไป 10 นัด ก่อนที่จะเจออาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาฉีกตามมาในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน ซึ่งรอบนี้ดาวเตะของทัพไก่เดือยทองต้องพลาดลงสนามไปอีกถึง 12 เกม ก่อนจะกลับมาช่วยทีมได้ทันเวลาในเกมที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2018-19 ซึ่งพวกเขาพ่ายให้กับเพื่อนร่วมลีกอย่าง ลิเวอร์พูล ไป 0-2
จริงอยู่ที่มิดฟิลด์ชาวอังกฤษรายนี้มักประสบปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้เขาเริ่มแสดงให้เห็นถึงสัญญาณของการถอยหลังในเส้นทางอาชีพ เพราะมีหลายปัจจัยที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน
โปเช็ตติโน่ถูกปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีม และเขาก็มีปัญหาด้านทัศนคติกับกุนซือคนใหม่อย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ตามที่ปรากฏในสารคดี All or nothing ของแอมะซอน พร้อมกับยังไม่สามารถรีดฟอร์มเก่งกลับมาได้เหมือนเดิมในยุคของผู้จัดการทีมอย่าง ไรอัน เมสัน, นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้, และ อันโตนิโอ คอนเต้ จนถูกปล่อยให้ เอฟเวอร์ตัน ในเดือนมกราคม 2022
แต่ก่อนที่อัลลี่จะมาจบลงที่การถูกเอฟเวอร์ตันปล่อยให้ เบซิคตัส ยืมตัวไปใช้งานในฤดูกาล 2022-23 มีสาเหตุอะไรบ้างที่อาจทำให้เขาฟอร์มหลุดออกทะเลไปได้ไกลถึงเช่นนี้
ความเปลี่ยนแปลง
สามารถพูดได้ว่า เดเล่ อัลลี่ คือนักเตะที่ทำผลงานได้ดีที่สุดภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ซึ่งการตัดสินใจปลดกุนซือชาวอาร์เจนไตน์ออกจากตำแหน่งย่อมส่งผลต่อการโชว์ผลงานของเขา แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลหนึ่งเดียวที่เกิดขึ้น
ขุนพลทัพไก่เดือยทองอย่าง คริสเตียน อีริคเซ่น ผู้มีทักษะการออกบอลที่ยอดเยี่ยม และนักเตะในตำแหน่งแบ็กของทีมอย่าง ไคลน์ วอล์คเกอร์, แดนนี่ โรส, และ คีเรน ทริปเปียร์ ที่เป็นผู้คอยสนับสนุนให้อัลลี่เล่นได้อย่างสุดความสามารถ ต่างก็แยกย้ายออกจากทีมไปในเวลาไล่เลี่ยกัน
นั่นยังไม่เพียงพอ การเสริมทัพนักเตะใหม่ของสเปอร์สก็ถูกตั้งคำถามอยู่บ่อยครั้ง เพราะพวกเขาคือสโมสรแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ตัดสินใจไม่ซื้อใครเข้ามาร่วมทีมเลยในตลาดซื้อขายหน้าร้อนของปี 2018 และหน้าหนาวปี 2019 พร้อมกับสภาพแวดล้อมภายในสโมสรที่ไม่ได้เอื้อต่อการพัฒนาของนักเตะบางราย จนทำให้ผู้เล่นอย่าง ตองกีย์ เอนดอมเบเล่ และ โจวานนี่ โล เซลโซ่ ไม่สามารถแจ้งเกิดในพรีเมียร์ลีก
แต่ยังมีอีกหนึ่งสาเหตุคืออัลลี่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าความกระหายในการเล่นฟุตบอลของเขานั้นดรอปลงไปอย่างน่าตกใจ การวิ่งไล่ล่าเข้าสู่กรอบเขตโทษคู่แข่ง และความกล้าเสี่ยงเล่นจังหวะต่าง ๆ ซึ่งเคยทำให้เขายิงประตูได้จนคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมและถึงขั้นไปติดทีมชาติอังกฤษได้หายไปเสียแล้ว
การย้ายทีมไปยังถิ่นกูดิสัน ปาร์ค ก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น เขาลงสนามเกมลีกไป 13 นัด โดยไม่สามารถทำประตูหรือแอสซิสต์ได้แม้แต่ครั้งเดียว ก่อนถูกปล่อยให้เบซิคตัสยืมตัวแบบพร้อมออปชั่นซื้อขาดได้ และทีมจากประเทศตุรกีก็ตัดสินใจไม่ใช้ออปชั่นดังกล่าว ปล่อยให้อัลลี่กลับมารักษาอาการบาดเจ็บในประเทศอังกฤษ
และหลังสัญญากับเอฟเวอร์ตันหมดลงเมื่อเดือนมิถุนายน 2024 อัลลี่ว่างงานถึงครึ่งปี ก่อนที่ โคโม่ ทีมใน กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี จะคว้าตัวไปร่วมทีม แต่แค่ลงสนามนัดแรก เจ้าตัวก็โดนใบแดงเสียแล้ว
และ เดเล่ อัลลี่ ยังคงต้องต่อสู้เพื่อหวังกลับมาแจ้งเกิดให้ได้อีกครั้ง
แหล่งอ้างอิง:
https://theathletic.com/3102642/2022/02/01/dele-once-felt-new-phenomenon-english-football-rediscover-spark-everton/
https://www.transfermarkt.com/dele-alli/verletzungen/spieler/207929
https://www.youtube.com/watch?v=yKkfi3Y5Up4
https://www.youtube.com/watch?v=svTiz_Z_4Ag
https://theathletic.com/4408241/2023/04/13/dele-everton-sean-dyche/