เนื่องด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประสบปัญหาขาดผู้เล่นตำแหน่ง “ศูนย์หน้า” มาเป็นอาวุธลุยเกมช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2022/23 หลังการอำลาทีมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขณะที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ก็อยู่ในสภาพที่ร่างกายไม่ได้ฟิตพร้อมลงเล่นทุก ๆ เกม ทำให้ทีมจำเป็นต้องหาผู้เล่นตำแหน่งดังกล่าวมาเสริมทัพในช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคม 2023
หวยมาออกที่ชื่อของ เวาท์ เว็กฮอร์สท์ ดาวยิงทีมชาติเนเธอร์แลนด์ โดยเขาย้ายมาในรูปแบบของสัญญายืมตัวภายใต้งบประมาณที่จำกัดของสโมสร
แต่แทนที่สตาร์เจ้าของส่วนสูง 6 ฟุต 6 นิ้ว (197 เซนติเมตร) จะช่วยผลิตสกอร์ให้ปีศาจแดงในฐานะกองหน้าตัวเป้า เขากลับทำอะไรได้มากกว่านั้น และที่สำคัญมันกลายเป็นประโยชน์กับทีม
ในอีกทางหนึ่ง เขานำมาซึ่งความสำเร็จล่าสุดของสโมสรกับการซิวแชมป์คาราบาว คัพ หรือโทรฟี่แรกของทีมในรอบ 6 ปี
ทำไม เอริค เทน ฮาก ถึงดึงแข้งร่วมสัญชาติดัตช์มาร่วมก๊วน เขามีจุดเด่นอะไรในการเติมเต็ม แมนฯ ยูไนเต็ด จนกลายเป็นที่รักของแฟน ๆ ไปแล้ว ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกันได้ที่ Main Stand
พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งบนเกาะอังกฤษ
“ผมว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับผม ผมอายุ 30 ประสบการณ์ของผมพอมีในพรีเมียร์ลีก ถึงมันจะไม่ค่อยน่าประทับใจก็ตาม แต่ผมก็ตั้งตารอที่จะกลับมาที่นี่เพราะลีกนี้มีการแข่งขันที่สูงที่สุดในโลก และผมกำลังจะเล่นให้กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกด้วย” เว็กฮอร์สท์ เปิดใจหลังย้ายมาสวมยูนิฟอร์มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
การย้ายมาสู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้สัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล 2022/23 ของ เวาท์ เว็กฮอร์สท์ ถือเป็นการกลับมาสู่ศึกพรีเมียร์ลีกคำรบสอง หลังจากที่ช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลก่อน (2021/22) กองหน้าเลือดดัตช์รายนี้ย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ของ เบิร์นลีย์ ภายใต้สัญญาถาวรจาก โวล์ฟสบวร์ก 3 ปีครึ่ง
ทว่าด้วยผลงานซัดสองประตูจากสถิติลงสนาม 20 นัด ภายใต้สีเสื้อของ “เดอะ คราเร็ต” เว็กฮอร์สท์ไม่อาจช่วยให้สโมสรอยู่รอดปลอดภัยบนลีกสูงสุดของอังกฤษได้
อย่างไรก็ตาม กองหน้าสถิติส่วนสูง 197 เซนติเมตร ไม่ได้ลงไปโลดแล่นในเวที เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ร่วมกับเบิร์นลีย์แต่อย่างใด โดยในช่วงซัมเมอร์ 2022 เขาเลือกย้ายไปเล่นในลีกสูงสุดของประเทศตุรกีกับทีมดังอย่าง “เบซิคตัส” แทน ทั้งนี้ก็เพื่อโอกาสในการสร้างความมั่นใจและเพื่อพาตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ในฟุตบอลโลก 2022
ท้ายสุดดาวยิงวัย 30 กะรัตก็ถูก หลุยส์ ฟาน กัล หนีบเป็นหนึ่งในขุนพลอัศวินสีส้มบู๊เวิลด์คัพที่กาตาร์สมใจ ทั้งยังจารึกชื่อของตัวเองในทัวร์นาเมนต์ได้ด้วย จากผลงานซัลโวสองตุงใส่ อาร์เจนตินา ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย รวมไปถึงโมเมนต์กระทบกระทั่งกับ ลิโอเนล เมสซี่ ที่โลกออนไลน์ก็ได้ให้ความสำคัญไม่แพ้ผลงาน
แม้ว่าท้ายสุด ทัพดอกทิวลิปจะจอดป้ายแค่รอบดังกล่าวจากการพ่ายการดวลจุดโทษทีมแชมป์โลกก็ตาม
เวกฮอร์สท์มีเวลาพักราว ๆ 10 วันก่อนกลับไปรายงานตัวกับต้นสังกัดสัญญายืมตัวที่เบซิคตัส แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มมีข่าวว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ความสนใจในตัวเขา
กอปรกับรายงานจากสื่อเรื่อยมาว่าทั้ง เว็กฮอร์สท์ และ เอริค เทน ฮาก เคยพบปะพูดคุยกันในช่วงระหว่างฟุตบอลลีกพักเบรก ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เว็กฮอร์สท์ได้พักหลังเนเธอร์แลนด์ตกรอบพอดี โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่จังหวัดโอเฟอไรส์เซิล (Overijssel) ในทเวนเต้ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของทั้งคู่
“เทน ฮาก ติดตามเส้นทางอาชีพของเวกฮอร์สท์ตั้งแต่สมัยที่เป็นดาวรุ่งอายุ 16 ปี และเป็นผู้จัดการทีมที่มักจะศึกษาคุณลักษณะของนักเตะที่เขาตั้งใจจะเซ็นสัญญามาร่วมทีม” แอนดี้ โจนส์ นักข่าวสายเบิร์นลีย์และลิเวอร์พูล จาก The Athletic อธิบาย
“เว็กฮอร์สท์เองก็ศึกษามาเช่นกัน เขาฟังจากเพื่อนร่วมทีมชาติที่ชื่นชมผู้จัดการทีมชาวดัตช์คนนี้ กับแรงปรารถนาสู่วิธีการแห่งชัยชนะและแนวทางของเขา”
เคมียิ่งมาตรงกันเข้าไปอีกเมื่อศึกคาราบาว คัพ รอบสี่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด โคจรมาเจอกับ เบิร์นลีย์ ต้นสังกัดที่แท้จริงของเขา ว่ากันว่านี่คือ “สัญญาณแรก” ที่ทั้งสองทีมได้เจรจาระหว่างกัน
แต่เพราะเว็กฮอร์สท์ยังเป็นนักเตะของเบซิคตัสอยู่ แถมเขายังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับทีมดังแห่งแดนไก่งวง ทำให้ทีมแชมป์ลีกสูงสุดตุรกี 16 สมัยทีมนี้ก็ไม่อยากปล่อยกลับทีมแม่ แถมสัญญายืมตัวนั้นก็ยังมีผลไปถึงเดือนมิถุนายน 2023
แน่นอนว่าการเล่นให้ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้สวมชุดแข่งขันของทีมต่อหน้าแฟน ๆ ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นฝันของนักเตะน้อยใหญ่ และ เวาท์ เว็กฮอร์สท์ ก็เป็นหนึ่งในแข้งที่มีความฝันนั้นเช่นกัน และที่สำคัญเขาจะได้ร่วมงานกันผู้จัดการทีม “คนบ้านเดียวกัน” อีกด้วย
อย่างที่ทุกคนทราบ แมนฯ ยูไนเต็ด สนใจดึงเวกฮอร์สท์มาร่วมทัพจริง ๆ ก่อนที่การเจรจากับเบิร์นลีย์เรื่องเงินค่าชดเชยให้เบซิคตัสเพื่อตอบรับการยกเลิกสัญญายืมตัวที่ตุรกีเป็นไปในทิศทางบวก
เมื่อนักเตะมีใจย้ายมา บวกกับเบซิคตัสแถลงยกเลิกสัญญายืมตัว พร้อมรับเงินค่าชดเชยราว 2.8 ล้านยูโร
เว็กฮอร์สท์ปิดฉากสถิติลงเล่นรวมทุกรายการกับเบซิคตัส 18 นัด ซัด 9 ประตู เขาเตรียมจะได้ลงเล่นต่อหน้าแฟน ๆ เรด เดวิลล์ ใน “โรงละครแห่งความฝัน” และได้กลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในลีกอังกฤษ
ขวัญใจคนใหม่แห่งถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด
ถึงแม้ว่า เวาท์ เว็กฮอร์สท์ จะไม่ได้ซัลโวประตูให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบเป็นกอบเป็นกำ
อย่างสถิติในเวลานี้ นับหลังเกมคาราบาวคัพ นัดชิงชนะเลิศ กับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เขาจะทำไปแค่ประตูเดียวเท่านั้น และเกิดขึ้นในเกมบุกถล่ม น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 3-0 ในคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
ทว่าเว็กฮอร์สท์กลับมีจุดเด่นอื่น ๆ ที่เป็นอาวุธอันตราย และได้นำพาตัวเองให้กลายเป็นขวัญใจคนใหม่แห่งถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเพรสซิ่ง การใช้ประโยชน์จากความกำยำและสรีระที่สูงใหญ่ แถมยังเล่นเกมบนพื้นได้อย่างโดดเด่น
จุดหนึ่งที่น่าสังเกตภายใต้แทคติกของ เอริค เทน ฮาก คือเฮดโค้ชเลือดดัตช์ผู้นี้มักจะมีผู้เล่นที่ทรงคล้ายกับ เวาท์ เว็กฮอร์สท์ ในช่วงตลอดเส้นทางการเป็นกุนซือ ไล่มาตั้งแต่การมี มาร์นิกซ์ โคลเดอร์ หัวหอกเจ้าของส่วนสูง 190 เซนติเมตร สมัยคุมทีมอาชีพหนแรกที่โก อเฮด อีเกิลส์ เมื่อปี 2012
ไปจนถึง คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์, แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก และ เซบาสเตียน ฮัลแลร์ ที่อาหยักซ์ อัมสเตอร์ดัม ฯลฯ ซึ่งทุกคนล้วนแต่เป็นดาวยิงรูปร่างสูงใหญ่ โดยกุญแจสำคัญที่ เทน ฮาก มักเลือกใช้งานนักเตะกองหน้าร่างใหญ่ในทีม คือการช่วยทีมมากกว่าแค่เรื่องการทำประตู
“ถ้าคุณครองบอลได้ เอริคคาดหวังว่าผู้เล่นกองหน้าต้องพร้อมเล่นต่อทันที กองหน้าต้องเก็บบอลได้และเล่นร่วมกับผู้เล่นคนอื่นได้ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างเกมรุกที่ดี หากคู่แข่งได้บอล เขาก็คาดหวังให้คุณกดดันคู่แข่งในเวลาที่เหมาะสม ช่วง 5 วินาทีแรกน่ะสำคัญที่สุด” โคลเดอร์ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการใช้งานหน้าเป้าของ เอริค เทน ฮาก
“หากเขาต้องเปลี่ยนไปเล่นสไตล์อื่นเมื่อต้องการรูปเกมที่มันแตกต่างออกไป กองหน้าประเภทนี้มีความสำคัญสำหรับเขามาก”
เวาท์ เว็กฮอร์สท์ มีตามที่ว่ามานี้ทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องการ “เพรสซิ่ง” เคยมีข้อมูลบันทึกเอาไว้ว่าสมัยเว็กฮอร์สท์ลงเล่นให้เบิร์นลีย์เพียงแค่ราว ๆ ครึ่งฤดูกาล เขามีสถิติเข้ากดดันคู่แข่งมากที่สุดถึง 33.2 ครั้ง มากกว่าอันดับสอง ซึ่งเป็นผู้เล่นมิดฟิลด์อย่าง คาลวิน ฟิลลิปส์ ในสมัยค้าแข้งกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่เคยทำไว้ 28.7 ครั้งเสียอีก
ศูนย์หน้าทีมชาติเนเธอร์แลนด์จะคอยใช้ข้อได้เปรียบเรื่องรูปร่างที่สูงใหญ่และแข็งแกร่งเข้าบีบปะทะ หลายต่อหลายครั้งเขาทำในลักษณะนี้ตั้งแต่พื้นที่แดนบน
ก่อนเขาจะเล่นในลักษณะนี้ให้แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เห็นเต็มตา กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้แฟน ๆ รับรู้ว่าเขามีจุดแข็งด้านอื่นเข้ามาทดแทนเรื่องการจบสกอร์ ในเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกชนะคู่แข่งในศึกสงครามดอกกุหลาบกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-0
หนึ่งในจุดเปลี่ยนของแทคติกที่ เอริค เทน ฮาก วางไว้ในครึ่งหลังคือการให้เว็กฮอร์สท์เปลี่ยนตำแหน่งจากการเป็นนักเตะเบอร์ 9 มาเป็นเบอร์ 10 เขากลายเป็นหน้าต่ำกึ่งมิดฟิลด์ตัวรุก แล้วดัน มาร์คัส แรชฟอร์ด ไปเป็นเบอร์ 9 แทน
โดยแรชฟอร์ดก็จะคอยดึงกองหลังทัพยูงทองเพื่อให้เว็กฮอร์สท์มีพื้นที่ได้เก็บบอล รวมถึงคอยเพรสซิ่งแย่งบอลมาครองให้ได้ นำมาซึ่งประตูตอกฝาโลงต่อหน้าแฟน ๆ ในเอลแลนด์ โรด เมื่อเว็กฮอร์สโชว์สกิลแย่งบอลจากคู่ต่อสู้จากกลางสนาม ก่อนแทงทะลุช่องเน้น ๆ ให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ยิงเข้าไปไม่เหลือ
แทคติกรูปแบบนี้มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เช่นเดียวกับเกมบิ๊กแมตช์ประจำยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบเพลย์ออฟ นัดแรก ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกเยือน บาร์เซโลน่า ที่คัมป์นู เมื่อ เอริค เทน ฮาก ตัดสินใจส่ง เวาท์ เว็กฮอร์สท์ ยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก ให้ทำหน้าที่เล่นเพรสซิ่งร่วมกับเฟร็ดเพื่อทำลายการขึ้นเกมของฝั่งเจ้าบ้าน
แม้ผลการแข่งขันในวันนั้นจะจบลงที่การเสมอ 2-2 ก่อนที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะกลับมาชนะที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด 2-1 แต่หนึ่งในไฮไลต์ที่แฟน ๆ ต่างปรบมือให้คือจังหวะเพรสซิ่งมัน ๆ ของเว็กฮอร์สท์ ที่มาพร้อมความขยัน ช่วยเก็บบอลในพื้นที่หน้าแผงรับคู่แข่งที่ทำได้ดีแบบไม่มีที่ติ
เพราะมันพิสูจน์ให้เห็นว่า ต่อให้จะทำประตูไม่ได้ แต่พลพรรค “เรด เดวิลล์” มี เวาท์ เว็กฮอร์สท์ มาคอยสร้างประโยชน์อื่น ๆ และเติมเต็มให้ทีมมีอาวุธที่หลากหลาย พร้อมต่อสู้กับช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาลไปอีกยาว
“ผมไม่เคยมองผู้เล่นเพียงแค่เรื่องเทคนิคการเล่น ผมมองไปที่บุคลิกภาพ มองภาพรวม เขาจะมีส่วนร่วมกับทัศนคติแห่งชัยชนะที่พวกเราสร้างขึ้น” เทน ฮาก อธิบายถึงข้อดีของการมี เวาท์ เว็กฮอร์สท์ อยู่ในทีม
“เขานำสิ่งต่าง ๆ เข้ามาสู่ทีมมากมายจากช่วงเวลาที่เขาย้ายเข้ามา แนวรุกมีไดนามิกมากขึ้นและเพรสซิ่งได้ดีขึ้นด้วย เราได้ปรับปรุงแนวทางการเล่นของพวกเรานับตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเข้ามาสู่ทีม”
หนึ่งในฟันเฟืองสู่แชมป์แรกในรอบ 6 ปี
โทรฟี่ใบสุดท้ายที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้ามาได้ก่อนที่พวกเขาจะผงาดโทรฟี่คาราบาว คัพ 2023 คือยูโรป้า ลีก 2017 นั่นหมายความว่าเป็นเวลาเกือบจะ 6 ปีที่ทีมร้างความสำเร็จผ่านคำว่า “แชมป์”
แน่นอนว่าการได้โทรฟี่ใบล่าสุดจากชัยชนะเหนือ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-0 เป็นเสมือนสัญญาณที่ดีของทีมยุคสมัยใหม่ ภายใต้การทำทีมของ เอริค เทน ฮาก
และเป็นอีกหนึ่งเกมที่ เวาท์ เว็กฮอร์สท์ มีประโยช์กับทีม กับกลยุทธ์ที่นอกเหนือไปจากการทำประตู
กองหน้าทีมชาติเนเธอร์แลนด์ออกสตาร์ทในฐานะกองหน้าหมายเลข 9 เขามีส่วนกับประตูที่สองที่ทีมทำได้ ดาวยิงเบอร์ 27 ไม่ได้ยืนค้ำในแดนหน้าเพียงอย่างเดียว เขาถอยลงมาช่วยเก็บบอลแถวกลางสนาม เมื่อบอลตกมาถึงเท้า กลับกลายเป็นว่าพื้นที่ระหว่างเกมรับดันเปิดช่องให้ได้ลองโจมตี
เว็กฮอร์สท์ค่อย ๆ ลำเลียงบอลขึ้นหน้าชนิดที่ไม่มีใครตามเบียด จนได้จ่ายต่อให้แรชฟอร์ดกดด้วยซ้ายบอลแฉลบสเวน บอทมัน จากนั้น ลอริส คาริอุส พยายามปัดแล้วแต่เอาไม่อยู่ จนบอลปลิ้นเข้าประตูไป
แม้ตอนแรกจะมีการพลิกคำตัดสินไปมาว่าเป็นแรชฟอร์ดที่ยิงเข้าหรือแนวรับสาลิกาดงทำเข้าประตูตัวเอง ทว่าท้ายสุด ฝ่ายจัดการแข่งขันก็ยืนยันว่าเป็นประตูของแนวรุกทีมชาติอังกฤษ นั่นเท่ากับว่า เวสท์ เว็กฮอร์สท์ ทำแอสซิสต์ในเกมนี้ได้
ก่อนที่ แมนฯ ยูฯ จะรักษาสกอร์ที่ได้เปรียบนี้ไปจนสิ้นเสียงนกหวีดยาว 90 นาที คว้าแชมป์มาครองอย่างยิ่งใหญ่
กลายเป็นความสำเร็จผ่านการคว้าแชมป์ได้ตั้งแต่ปีแรกที่ เทน ฮาก ในวัย 53 ปี ก้าวเข้ามาคุมทีม และเป็นช่วงเวลาเดือนเศษ ที่ เวาท์ เว็กฮอร์สท์ เข้ามาเป็นขุมกำลังของทีม และพร้อมงัดสไตล์การเล่นของตัวเองเข้ามาเติมเต็มแทคติกการเล่น
"นั่นคือสิ่งที่อยู่ในหัวพวกเรามาตลอด แม้ว่ามันจะอีกไกลกว่าจะถึงเป้าหมายที่เราวางไว้ แต่ตอนนี้พวกเรามีความเชื่อมั่นว่าจะชนะ มันอยู่ในความคิดของพวกเราทุกคน แน่นอนครับ ตอนนี้ผมแฮปปี้มาก ๆ” เว็กฮอร์สท์ เผยความรู้สึกหลังนัดชิงคาราบาว คัพ 2023
“ผมอาจจะอยู่ที่สโมสรนี้ไม่นาน แต่ผมรู้ตั้งแต่วันแรกที่ผมเข้ามาว่าผมจะได้ช่วยทีมในรอบรองชนะเลิศ ผมรู้ว่าเรามีโอกาสดีที่จะคว้าถ้วยรางวัลนี้ และวันนี้ (นัดชิงลีกคัพ) ผมคิดว่าเราคู่ควรกับมัน เช่นเดียวกัน วันนี้เราก็คู่ควรกับการเป็นผู้ชนะ มันจึงเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ ครับ"
ถึงแม้ว่าสัญญาของ เวาท์ เว็กฮอร์สท์ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะยังอยู่ในรูปแบบการยืมตัว หลังจบฤดูกาล สถานการณ์ของเขาสามารถออกได้ทุกหน้า
แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในเวลานี้เขากลายเป็นนักเตะที่แฟน ๆ เรด อาร์มี่ ยกให้เป็นขวัญใจคนหนึ่งไปแล้ว
แหล่งอ้างอิง
https://www.theguardian.com/football/2023/feb/27/manchester-united-quadruple-wout-weghorst-ten-hag
https://theathletic.com/4227497/2023/02/22/wout-weghorst-manchester-united-tactics/
https://theathletic.com/4103049/2023/01/27/wout-weghorst-manchester-united-goal/
https://theathletic.com/4099695/2023/01/18/weghorst-manchester-united-ten-hag/
https://www.telegraph.co.uk/football/2023/02/19/wout-weghorst-manchester-uniteds-marouane-fellaini-v20/
https://web.facebook.com/natnarinpaj/posts/pfbid0bBP4V5QNR8pPgR2VuMp42dA9VHfCJNeYPdaZunv1JiCUqBvjTyjGdS8KCPjtYpUSl https://www.manchestereveningnews.co.uk/sport/football/football-news/manchester-united-wout-weghorst-transfer-26353060
https://en.wikipedia.org/wiki/Wout_Weghorst
https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/man-utd-carabao-cup-weghorst-29321146