Feature

เพราะลูกสำคัญที่สุด : เมื่อ "ดาบิด ซิลบา" จำเป็นต้องสู้เพื่อชีวิตของลูกชาย | Main Stand

ย้อนกลับเมื่อช่วงปี 2018 มีหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นกับ ดาบิด ซิลบา เพลย์เมกเกอร์ชาวสเปน เมื่อปัญหาที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวเกี่ยวกับเรื่องลูกชายของเขา ทำให้ซิลบาต้องกลับไปที่ประเทศสเปนอยู่บ่อยครั้ง ในระหว่างที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังขับเคี่ยวในเรื่องของการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก 

 

Main Stand ขอย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ช่วงเวลานั้น เมื่อนักเตะต้องสละเวลาจากฟุตบอลเพื่อไปดูแลเรื่องครอบครัว

 

ชีวิตของชายที่ชื่อ ดาบิด ซิลบา

ดาบิด โฮซูเอ ฮิมิเนซ ซิลบา (David Josue Jimenez Silva) เกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม 1986 ที่เมืองอาร์กีเนกิน (Arguineguin) ในหมู่เกาะคานารี ของประเทศสเปน ซึ่งคุณยายของ ดาบิด ซิลบา เล่าว่า พอหลานชายอายุได้ประมาณ 9 ขวบ เขาก็เอามันฝรั่งมาทำเป็นลูกฟุตบอลเพื่อฝึกซ้อม ด้วยความฝันในการเป็นนักเตะอาชีพ 

หลังจากนั้นโอกาสครั้งแรกของซิลบาในวัยเด็กก็มาถึง เมื่อ อูเด ซาน เฟร์นานโด (UD San Fernando) สโมสรท้องถิ่นได้ติดต่อให้เขาเข้าร่วมศูนย์ฝึกของสโมสร แต่ตอนแรกเขาไปลงเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู จนเมื่อเวลาผ่านไปเขาก็พัฒนาฝีเท้ามากขึ้นจึงถูกเปลี่ยนไปเล่นในตำแหน่งตัวรุกริมเส้น ซึ่งเขาใช้เวลาอยู่กับ ซาน เฟร์นานโด เป็นเวลา 5 ปี ก่อนที่เขาก็จะได้รับข้อเสนอจาก บาเลนเซีย ให้ไปอยู่ในอคาเดมีของทีมด้วยวัยแค่ 14 ปี 

ที่ศูนย์ฝึกเยาวชนของบาเลนเซีย ดาบิด ซิลบา พัฒนาฝีเท้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง พออายุได้ 18 ปี สโมสรเริ่มให้เขาไปเก็บประสบการณ์ก่อนกับการยืมตัวที่ เออิบาร์ กับ เซลต้า บีโก้ จากนั้นก็ได้โอกาสลงเล่นให้ บาเลนเซีย ชุดใหญ่ ในวัยแค่ 20 ปี และก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมแทบจะทันที จนฟอร์มการเล่นไปเข้าตาหลายทีมใหญ่ทั่วยุโรป หนึ่งในนั้นคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังก่อร่างสร้างทีมใหม่ภายใต้การเทคโอเวอร์ของ ชีค มานซูร์ มหาเศรษฐีจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 

กลางปี 2010 ดาบิด ซิลบา และ บาเลนเซีย ตอบรับข้อเสนอจาก แมนฯ ซิตี้ ย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวประมาณ 25 ล้านปอนด์ โดยเขากลายเป็นตัวหลักให้กับทีมได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ย้ายมา จากนั้นเขาก็ยังคงพัฒนาฝีเท้ามาเรื่อย ๆ จนมีส่วนสำคัญพาให้ทัพ "เรือใบสีฟ้า" คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ถึง 4 สมัยในฤดูกาล 2011-12, 2013-14, 2017-18 และ 2018-19 กลายเป็นนักเตะระดับตำนานและเป็นที่รักของเหล่าแฟนบอลแมนฯ ซิตี้ ทุกคน ฝากสถิติการมีส่วนร่วมกับประตูเอาไว้ที่ 77 ประตู 140 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 436 นัด ก่อนที่เขาจะตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ เรอัล โซเซียดาด ในฤดูกาล 2020-21 จนถึงทุกวันนี้

 

2017-18 ฤดูกาลที่ยากลำบากสำหรับซิลบา 

7 ฤดูกาลแรกที่ ดาบิด ซิลบา ลงเล่นรับใช้ "เดอะ ซิติเซ่น" เขาทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องในทุกฤดูกาล คอยสร้างสรรค์เกมรุกในทุกนัดที่ลงเล่นให้กับทีมจนมีผลงานที่ดีและสามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้อย่างล้นหลาม

แต่ทว่าในฤดูกาล 2017-18 กลับแตกต่างออกไป โดยช่วงต้นฤดูกาลเขายังคงมีมาตรฐานในการลงเล่นที่ดีเหมือนเดิม เขาลงสนามในฐานะรองกัปตันทีมต่อจาก แวงซองต์ กอมปานี โดยมีส่วนร่วมกับประตูแทบทุกนัด

จนมาถึงช่วงเดือนธันวาคมก่อนที่จะถึงช่วงโปรแกรมบ็อกซิ่ง เดย์ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2017 เกมที่ แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านถล่มเอาชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 4-1 นัดนั้น ดาบิด ซิลบา ไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง ซึ่งเขาให้เหตุผลว่ามีเรื่องส่วนตัวที่ต้องไปจัดการที่ประเทศสเปน แต่หลังจากนั้น วันที่ 23 ธันวาคม เขาก็กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงได้อีกครั้งในเกมที่ถล่มเอาชนะ บอร์นมัธ 4-0

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 27 และ 31 ธันวาคม 2 เกมที่ แมนฯ ซิตี้ ต้องออกไปเยือนทั้ง นิวคาสเซิล และ คริสตัล พาเลซ ตัวของ ดาบิด ซิลบา ก็ไม่มีชื่อมาลงแข่งกับทีมอีกครา โดยให้เหตุผลเดิมคือต้องไปจัดการปัญหาส่วนตัวที่สเปน ทำให้สื่อหลายสำนักเริ่มมีการตั้งข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับดาวเตะฉายา พ่อมดเมอร์ลิน ที่ไม่มีชื่อในเกมพรีเมียร์ลีกถึง 3 จากทั้งหมด 7 นัดในช่วงเดือนธันวาคม 

หลังผ่านพ้นช่วงเดือนธันวาคมเข้าสู่ช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง ดาบิด ซิลบา ก็กลับมาช่วยต้นสังกัดลงเล่นเพื่อล่าความสำเร็จตามปกติ โดยในช่วงเดือนมกราคม ปี 2018 ฟอร์มการเล่นของเขาอาจจะยังไม่เข้ารูปเข้ารอยมากนัก แต่หลังจากนั้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ฟอร์มการเล่นของเขาก็กลับมาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และมีส่วนร่วมกับประตูอยู่เรื่อย ๆ  

จนกระทั่งถึงช่วงท้ายฤดูกาล 2017-18 สถานการณ์ของ ดาบิด ซิลบา ก็กลับมาเหมือนช่วงบ็อกซิ่ง เดย์ อีกครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2018 ในเกมที่ แมนฯ ซิตี้ ถล่มเอาชนะ เวสต์แฮม 4-1 นัดนั้นซิลบาไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรอง หลังจากนั้นเขาก็กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง ในวันที่ 5 พฤษภาคม เป็นเกมที่ แมนฯ ซิตี้ เสมอกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 0-0 

ส่วนเกมพรีเมียร์ลีก 2 นัดสุดท้ายที่ แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านเสมอ ไบร์ทตัน 1-1 เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม และเกมบุกไปเฉือน เซาธ์แฮมป์ตัน 0-1 เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ซิลบาก็ไม่มีชื่ออีกหน ซึ่งหลังจากจบฤดูกาลสื่อในอังกฤษก็ได้นำประเด็นนี้กลับมาพูดคุยกันอีกครั้งว่าเพราะเหตุใด ดาบิด ซิลบา ถึงถูกตัดชื่อออกจากทีมบ่อยครั้งในฤดูกาลนี้ หรือมีโอกาสจะย้ายกลับไปเล่นฟุตบอลที่ประเทศบ้านเกิดหรือเปล่า ?   

 

สมาชิกใหม่ "มาเตโอ ซิลบา"       

เมื่อปัญหาได้รับการแก้ไขและเสร็จสิ้นไปแล้ว ดาบิด ซิลบา ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวในภายหลังว่า สาเหตุที่เขาไม่มีชื่อลงเล่นให้กับ แมนฯ ซิตี้ ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเพราะว่าภรรยาของเขาจำเป็นต้องคลอดลูกก่อนกำหนด ทั้งที่เพิ่งมีอายุครรภ์ได้แค่ 25 สัปดาห์ หรือประมาณ 6 เดือนเท่านั้น ซึ่งลูกชายที่คลอดออกมา ดาบิด ซิลบา ได้ตั้งชื่อให้กับเขาว่า มาเตโอ ซิลบา ส่วนสาเหตุที่ต้องคลอดก่อนกำหนดเป็นเพราะเด็กทารกมีปัญหาบางอย่างที่ผิดปกติในระบบร่างกาย ทำให้แพทย์ต้องรีบทำคลอดเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป

หลังจากที่ภรรยาของซิลบาได้ให้กำเนิดทารกน้อยอย่าง มาเตโอ ซิลบา แล้ว ทางโรงพยาบาลก็ได้ให้การรักษากับเด็กในทันที ซึ่งการรักษากินเวลาไปมากกว่า 5 เดือน นั่นจึงเป็นเหตุให้ ดาบิด ซิลบา จำเป็นต้องเดินทางไปที่ประเทศสเปนเพื่อดูแลอาการของลูกน้อยอย่างใกล้ชิดให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก่อนที่เขาจะกลับมาที่ประเทศอังกฤษเพื่อลงสนามแข่งขันในนัดถัดไป ทั้งในช่วงบ็อกซิ่ง เดย์ และช่วงท้ายของฤดูกาล 

จนในที่สุด มาเตโอ ซิลบา ก็หายจากอาการป่วยเรียบร้อยและใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยคุณพ่อมือใหม่อย่าง ดาบิด ซิลบา ก็ได้พาลูกชายลงสนามมาทักทายกับแฟนบอลของแมนฯ ซิตี้ ในเกมที่เปิดบ้านถล่ม ฮัดเดอร์สฟิลด์ 6-1 เมื่อช่วงต้นฤดูกาล 2018/19 อีกทั้งในแมตช์ดังกล่าวเขายังสามารถทำประตูให้กับทีมได้ด้วย และหลังจากที่ยิงประตูได้เขาก็จูบไปที่บริเวณแขนซ้าย ซึ่งเป็นรอยสักรูป มาเตโอ ซิลบา ลูกชายอันเป็นที่รักของเขา 

 

สัมภาษณ์ของ "ดาบิด" ที่มีต่อ "มาเตโอ"

หลังลูกชายหายจากอาการป่วยแล้ว ฝั่งของผู้เป็นพ่ออย่าง ดาบิด ซิลบา ก็รู้สึกโล่งใจ ซึ่งภายหลังในช่วงเดือนกันยายน ปี 2018 เขาได้รับเชิญให้ไปสัมภาษณ์พูดคุยกับ แกรี่ ลินิเกอร์ ในรายการ Premier League Show ของช่อง BBC โดยซิลบาก็ได้อธิบายถึงช่วงเวลา ณ ตอนนั้นว่า 

"มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก ๆ ผมต้องอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลานาน นอกจากนี้การที่ครอบครัวของผมอยู่ที่ประเทศสเปนทำให้ผมต้องเดินทางบ่อย ๆ และแทบไม่ได้ลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเลย มันเป็นช่วงเวลาที่ผมกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่ผมรู้สึกโชคดีที่มีเพื่อนร่วมทีมอยู่ด้วย พวกเขาช่วยผมได้มาก" 

ด้าน แกรี่ ลินิเกอร์ หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวของซิลบา เขาก็นึกถึงช่วงเวลาเดียวกันในอาชีพค้าแข้งของตัวเอง เมื่อ จอร์จ ลินิเกอร์ ลูกชายคนแรกได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคลูคีเมียเมื่อตอนที่อายุเพียงแค่ 2 เดือน ซึ่งเขาได้บอกกับซิลบาว่า "ฟุตบอลเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมสามารถผ่านพ้นเรื่องเหล่านี้ไปได้"

ฝั่งของ ดาบิด ซิลบา ก็รู้สึกเห็นด้วยและเสริมว่า "ฟุตบอลคือสิ่งที่เราชอบและสนุกกับมันที่สุด ครั้งเดียวที่ผมสามารถลบมันออกจากความคิดได้คือตอนที่กำลังเล่นฟุตบอล และเมื่อการแข่งขันจบลงผมถึงจะเริ่มคิดถึงทุกสิ่งอีกครั้ง" 
       
ปัจจุบันนี้หนูน้อย มาเตโอ ซิลวา มีอายุครบ 5 ขวบแล้ว เขามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้มาเตโอใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติในทุกวันนี้ เป็นเพราะความห่วงใยที่คุณพ่อและคุณแม่มีต่อลูกน้อยและคอยดูแลเอาใจใส่อย่างเต็มที่ทำให้มาเตโอผ่านพ้นปัญหาไปได้ และมีชีวิตอย่างมีความสุข อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบในฐานะของพ่อ-แม่-ลูก

 

บทความโดย : พงศทร อริยภูชัย     

แหล่งอ้างอิง

https://sportmob.com/en/article/937866-david-silva-biography
https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-6146123/David-Silva-opens-struggles-son-Mateo-born-prematurely.html
https://www.independent.co.uk/sport/football/premier-league/david-silva-manchester-city-personal-reasons-absence-has-extremely-premature-birth-son-mateo-a8139661.html
https://www.mirror.co.uk/sport/football/news/david-silva-opens-up-baby-13230244

Author

Main Stand

Stand ForAll สื่อกีฬาที่เข้าถึงทุกคน

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ