แม้จะอายุเพียง 20 ปี แต่ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ถูกยกย่องว่าเป็นหัวหอกระดับแนวหน้าของเมืองไทย พ.ศ. นี้ไปเรียบร้อยแล้ว
โดยฤดูกาลนี้เขาก้าวมาเป็นตัวหลักของทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างเต็มตัว ยิงไป 9 ประตู และ 7 แอสซิสต์ จากการลงสนามทุกรายการ 21 นัด
แต่ตำแหน่งที่ทำให้เขาทำผลงานดีกลับไม่ใช่กองหน้าที่ถนัด แต่เป็นตำแหน่งปีกขวา แล้วการเล่นปีกขวาส่งผลให้ ศุภณัฏฐ์ ฟอร์มเทพไปอีกระดับอย่างไร ติดตามกันใน BallThaiStand
มีโอกาสลงสนามมากขึ้น
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถือเป็นสโมสรที่ไม่ค่อยเปลี่ยนระบบการเล่น ซึ่งระบบ 3-5-2 ที่ใช้มาตั้งแต่ยุค อรรถพล ปุษปาคม กุนซือผู้ล่วงลับ มาจนถึง อเล็กซานเดร กาม่า โดยยึดเซ็นเตอร์แบ็ค 3 คน
มีวิงแบ็คซ้าย-ขวา และกองกลางคอยคุมเกม 1 คน และจะมีพวกที่เล่นดีทั้งรุกและรับอยู่ 2 คน อาทิ โก ซูล กิ, จักรพันธ์ แก้วพรม และ สุเชาว์ นุชนุ่ม
ส่วนกองหน้าก็จะเป็นต่างชาติ บ้างก็มีคนไทยสอดแทรกเป็น 11 ตัวจริง อย่างปัจจุบันก็มี โจนาธาน โบลินกิ กับ ศุภชัย ใจเด็ด เป็นตัวหลัก นั่นทำให้โอกาสลงสนามของกองหน้าไทยคนอื่นๆ ลดลงไปด้วย
ทว่านับตั้งแต่ มาซาทาดะ อิชิอิ เข้ามาคุมทีมในเลก 2 ฤดูกาลที่แล้ว เขาเปลี่ยนระบบการเล่นของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้กลายเป็น 4-4-2 คลาสสิก มีปีกซ้าย-ขวา เป็นอาวุธลับในการทำประตู นอกเหนือจากคู่กองหน้าที่เป็นหน่วยล่าตาข่ายหลัก
คนที่ถูก อิชิอิ จับมาเล่นเป็นปีกขวาคือ ศุภณัฏฐ์ ซึ่งแน่นอนว่านั่นคือตำแหน่งที่เขาไม่ถนัด แต่เขาพยายามเรียนรู้และปรับตัว จนสามารถยึดตัวจริงได้
โดย ศุภณัฏฐ์ กล่าวถึงการไปเล่นตำแหน่งที่ไม่ถนัดว่า “จริงๆ แล้วผมยังไม่ถนัดเล่นปีกขวาเท่าไหร่ พยายามปรับตัวและพัฒนาตัวเองให้เล่นตำแหน่งนี้ให้ดีขึ้น”
“แต่เพื่อทีมผมพร้อมเล่นทุกตำแหน่งอยู่แล้ว ไม่ซีเรียสว่าจะต้องเล่นกองหน้าอย่างเดียว”
ตอนนี้ ศุภณัฏฐ์ ยิงไป 9 ประตู และ 7 แอสซิสต์ จากการลงสนามทุกรายการ 21 นัด ในตำแหน่งปีกขวา ไม่ใช่กองหน้าตำแหน่งที่เขาเล่นมาตลอดตั้งแต่เด็ก เมื่อมีโอกาสลงสนามมากขึ้น ฝีเท้าก็พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ด้าน วรวุธ ศรีมะฆะ อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ปัจจุบันเป็นเฮดโค้ช เกษตรศาสตร์ เอฟซี ในไทยลีก 2 ซึ่งเคยร่วมงานกับ ศุภณัฏฐ์ ในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบสุดท้าย กล่าวว่า “จริงๆ การที่แบงค์ มาเล่นปีกก็ดี เพราะจะมีโอกาสลงสนามเยอะ ตอนนี้ บุรีรัมย์ กองหน้าตัวเป้าเยอะ เบียดแย่งตำแหน่งยาก”
“การลงเล่นตลอดมันดีกว่าการลงมาเป็นตัวสำรองคอยเปลี่ยนเกม การได้ลงสนามบ่อยๆ มันทำให้นักเตะเก่งขึ้น โดยเฉพาะดาวรุ่ง”
คู่ต่อสู้รับมือยาก
แม้กองหน้าจะมีหน้าที่ทำประตู แต่วันไหนที่กองหน้าถูกแนวรับคู่แข่งจับตาย โอกาสที่จะคว้าผลการแข่งขันตามที่ต้องการจะลดน้อยลง นั่นทำให้หลายทีมให้ความสำคัญกับแนวรุกส่วนอื่นๆ ทั้งปีกหรือกองกลางคอยสอดขึ้นมาทำประตู
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เองก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการเจาะแนวรับคู่แข่ง ดังนั้นการโยกเอา ศุภณัฏฐ์ ไปเล่นเป็นปีกขวา ย่อมเป็นอาวุธลับให้ทีมสร้างโอกาสทำประตูได้มากขึ้น และยากต่อการรับมือของกองหลัง
อย่างในเกมรีโว่ ลีกคัพ 2022-23 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในเกมเจอ เมืองทองฯ ในจังหวะได้ประตูนำ 1-0 แนวรับ กิเลนผยอง มัวแต่พะวงกับการตามประกบกองหน้าอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด หรือ ลอนซาน่า ดูมบูย่า จนปล่อยให้ ศุภณัฏฐ์ ยืนโล่งๆ และได้โอกาสยิงประตูอย่างสวยงาม
หรือจะเป็นเกมล่าสุดที่บุกไปชนะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ศุภณัฏฐ์ ไปเอาบอลจากฝั่งขวา ก่อนจะจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีม สุดท้ายบอลมาถึงเขาแล้วเลี้ยงหลบแนวรับ บีจี ปทุมฯ ที่กำลังหลงตำแหน่งการยืนเข้าไปยิงบอลตุงตาข่ายอย่างสุดยอด
เมื่อมีอิสระและมีพื้นที่การเล่นมากขึ้น ศุภณัฏฐ์ ยังช่วยสร้างสรรค์โอกาสยิงประตูช่วยเพื่อนร่วมทีม จนตอนนี้ทำไป 6 แอสซิสต์ ในไทยลีกอีกด้วย
“เอาจริงๆ แบงค์ เล่นตำแหน่งก็ได้ เพราะเป็นนักเตะที่เทคนิคดี และเข้าใจเกมสูง แต่การเล่นปีกมันดีคือ ตัวประกบจะน้อย การเล่นเป็นกองหน้ามันโดนเพ่งเล็งเยอะ” โค้ชโย่ง วรวุธ กล่าว
“การเล่นปีกสร้างความหลากหลายให้ทีมและเกมรุกด้วย เพราะจะหาพื้นที่เข้าไปทำประตูก็ได้ อีกอย่างการเล่นปีกทำให้ทิศทางการวิ่งมันเยอะ จะวิ่งตรงก็ได้ จะตัดเข้าในได้ จะหุบเข้าไปเป็นกองหน้าก็ได้”
เปลี่ยนตำแหน่งแต่สัญชาตญาณไม่เปลี่ยน
การขยับมาเล่นเป็นปีกในสโมสร ทำให้หลายคนอาจจะเป็นห่วงว่าจะทำให้ ศุภณัฏฐ์ สูญเสียสัญชาตญาณของดาวยิงลงไปหรือไม่ โดยเฉพาะในยามที่ต้องไปเล่นให้กับทีมชาติไทย เพราะ ศุภณัฏฐ์ ถูกคาดหมายจะก้าวมาเป็นกองหน้าเบอร์ 1 ของไทย แทนที่ ธีรศิลป์ แดงดา
“โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ อดีตกองหน้าและกุนซือทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “หากยังได้เล่นตัวรุกด้านบน ไม่ว่าจะเป็นปีกหรือกองหน้า ไม่ส่งผลกระทบแค่ เพราะ แบงค์ หาพื้นที่และจบสกอร์ในกรอบ 18 หลา ได้ดีอยู่แล้ว”
“ที่สำคัญเลย แบงค์ เป็นคนเสียบอลยาก นักเตะตัวรุกที่เสียบอลยาก ครองบอลดี เล่นตัวรุกได้หมด”
เลสเตอร์ ซิตี้ บ่มเพาะอะไรให้ศุภณัฏฐ์
เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เปิดเผยผ่านทางรายการ Beyond BallThai Talk EP.9 ถึงประเด็นนี้ โดยเชื่อมั่นว่า ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา มีโอกาสจะเป็นนักเตะไทยคนแรกที่ได้ค้าแข้งกับทีมในพรีเมียร์ลีก
"จริงๆ นี่เป็นรอบที่ 2 ที่ศุภณัฏฐ์ไปเลสเตอร์ เขาก็ส่งรีพอร์ตมาตลอดว่าใครพัฒนา จริงๆทุกคนดีหมด แต่ที่ต้องเป็นศุภณัฏฐ์ เพราะปัจจุบันศุภณัฏฐ์อายุ 20 ปี พอไปก็ไปซ้อมกับทีมชุดยู-23 พอไปซ้อมด้วยกันแล้ว ศุภณัฏฐ์ เหนือกว่ารุ่นๆเดียวกัน มันเหนือกว่า มันฉลาดกว่า เขาก็สนใจ"
"พี่ก็คุยกับต๊อบ (อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา) ว่าศุภณัฏฐ์ น่าจะเป็นเด็กไทยคนแรก ที่น่าจะเป็นความหวังของไทย ที่จะได้ไปเล่นพรีเมียร์ลีก ตอนนี้ที่ให้อยู่ต่อเพราะให้ทีมสตาฟฟ์เขาดู ชุดยู-23 เขาก็จะมีหน้าที่สร้าง นักเตะจากอะคาเดมี่ที่จะขึ้นชุดใหญ่ เขาก็จะคัดจากตรงนี้"
"ไม่ได้คิดเรื่องซื้อขายเลยนะ ว่าจะได้ราคาเท่าไหร่ แต่คิดอย่างเดียวคือ จะทำยังไงให้เด็กไทยไป (พรีเมียร์ลีก)"
"ถ้าได้ไปมันก็จะได้เป็นแรงจูงใจให้เด็กรุ่นหลังรู้ว่า ถ้าคุณมีกำลังใจคุณก็ไปพรีเมียร์ลีกได้ ไม่ใช่คิดว่าเล่นไปให้ตายยังไง คุณก็ไปได้เเค่เจลีก เคลีก"
ตอนนี้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา พัฒนาฝีเท้าไปอีกระดับ หากฝีเท้ายังเทพไม่หยุด เขาอาจไปค้าแข้งในต่างประเทศเร็วๆ นี้ ส่วนจะเป็นที่ญี่ปุ่นหรือยุโรปตามความฝันต้องคอยติดตาม
