Feature

ตัวตนที่แท้จริง พัค ฮัง-ซอ : ดุดัน ไม่เกรงใจใคร แต่ชนะใจ คนเวียดนาม | Ball Thai Stand

ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริก คัพ 2022” รอบชิงชนะเลิศ ไทย กับ เวียดนาม นัดที่ 2 ในค่ำคืนนี้คาดว่าเกมจะสู้กันดุเดือดเผ็ดมันเหมือนเดิม  นี่คือสองยอดทีมคู่ปรับอาเซียนยุคปัจุบันอย่างแท้จริง เชื่อว่าบรรยากาศในสนามนักเตะคงจัดหนัก จัดเต็ม ตาต่อตาฟันต่อฟันชนิดไม่มีใครยอมกันง่ายๆ 

ขณะที่ข้างสนามภาพหน้าบึ้งตึง เกรี้ยวกราด หัวร้อน โวยวาย นักเตะคู่ต่อสู้ กุนซือฝ่ายตรงข้าม บทคำสัมภาษณ์ก่อนและหลังเกมสุดทรนงของ “พัค ฮัง-ซอ” กลายเป็นสีสันให้แฟนบอลไทยออกอาการหงุดหงิด หมั่นไส้ กุนซือชาวเกาหลีใต้เสมอ 
 
แต่แฟนบอลไทยจะไม่เห็นภาพเหล่านั้นแล้ว เพราะนี่คือทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของ “พัค ฮัง-ซอ” ในฐานะกุนซือทัพดาวทอง

ด้วยภาพลักษณ์ที่ ดุดัน ไม่เกรงใจใคร ของ พัค ฮัง-ซอ คือตัวตนของเขาจริงหรือ? ไปติดตามกับ Ball Thai Stand 


ผู้นำแบบ พ่อ ปรัชญาชนะใจนักเตะ

แม้ พัค ฮัง-ซอ จะมีหน้าตาบึ้งตึง หัวร้อน ขี้โวยวาย ขณะคุมทีมข้างสนาม แต่กับลูกทีม เขาถูกขนานนามเป็น “ผู้นำแบบพ่อ” เขาพยายามสร้างความสัมพันธ์แบบครอบครัวระหว่างนักเตะกับโค้ช เขาดูแลเอาใจใส่นักเตะ มีความเข้าใจนักเตะอย่างแท้จริง 

สิ่งที่ พัค ฮัง-ซอ ปรารถนาก็คือการยกระดับฟุตบอลของ เวียดนาม ไปสู่ระดับที่สูงขึ้น เดินหน้าสู่ยุคใหม่ ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน แข็งแกร่ง เต็มไปด้วยวินัยสุดเป๊ะ ตามแบบฉบับของคนเกาหลีใต้ ซึ่งดูจะเข้ากันดีกับความเป็น เวียดนาม  
 
“ผมยอมทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง เพื่อมาเป็นเฮดโค้ชทีมชาติเวียดนาม”​ 
 
"ในการฝึกซ้อม ผมต้องตะโกนใส่พวกเขาและเข้มข้นกับการฝึกซ้อมเสมอ เราต้องทิ้งความเป็นตัวเองไว้ข้างหลัง เพราะทุกอย่างที่ทำก็เพื่อทีม” 
 
"นักเตะเวียดนามฝีเท้าดี มีความแข็งแกร่ง และเทคนิคไม่เป็นรองใคร แถมเข้าใจแท็คติคของผมได้อย่างรวดเร็ว” พัค ฮัง-ซอ พูดถึงลูกทีม เวียดนาม ของเขา 
ความเป็นผู้นำแบบนี้ เขาเรียนรู้มาจาก กุส ฮิดดิ้งค์ กุนซือชาวเนเธอร์แลนด์ ที่เคยร่วมงานสมัยคุมทีมชาติเกาหลีใต้ ลุยฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ปี 2002 ทุกคำสอนของฮิดดิ้งค์​ เป็นสิ่งนำทางให้ เขาประสบความสำเร็จกับทีมชาติเวียดนามจนถึง ปัจจุบัน 

“ฮิดดิงค์ สอนผมในการเป็นผู้นำ เวลาเป็นสิ่งสำคัญ คุณต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด”
“ดังนั้นหากผมเป็นผู้นำทีมใด ผมจะรับฟังทุกความเห็นและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เช่นเดียวกับที่ตอนผมทำทีมเวียดนาม” พัค ย้อนความทรงจำถึง ฮิดดิ้งค์ อาจารย์ในวิชาโค้ชฟุตบอลของเขา 

การหล่อหลอมจิตวิญญาณนักเตะให้กลมเกลียว ทำให้ เวียดนาม มีทีมเวิร์คแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จตลอด 5 ปีที่ผ่านมา 


ร้ายก็รัก


ปี 2017 ถือเป็นจุดเปลี่ยนของวงการฟุตบอลเวียดนามอย่างแท้จริง เมื่อสมาคมฟุตบอลเวียดนาม แต่งตั้ง พัค ฮัง-ซอ เข้ามาคุมทีม โดยจุดเริ่มต้นความสำเร็จของ เวียดนาม ภายใต้การคุมทัพของกุนซือชาวเกาหลีใต้ คือการพาทีมชาติเวียดนาม รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี คว้ารองแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ปี 2018 ที่จีน 

จากนั้นนักเตะจากชุด U23 ของทัพ “ดาวทอง” ก็ก้าวมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น เหงียน กวาง ไห่ หรือ เหงียน กง เฟือง ก่อนพาทีมเดินหน้าพุ่งชนความสำเร็จ ทั้งการคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซกิ คัพ ปี 2018 คว้าเหรียญทอง ซีเกมส์ ปี 2019 และ 2021 เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ เอเชียน คัพ 2019 รวมถึงการพาทีมผ่านถึงรอบ 12 ทีมสุดท้าย ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย

 
อย่างที่ทราบกันดีหลังจบฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริก คัพ 2022” พัค ฮัง-ซอ ได้ตัดสินใจอำลาทีมชาติ เวียดนาม เหลือไว้เพียงความทรงจำดีๆ ให้แฟนบอลและวลีเด็ดในตำนานได้จดจำ  
 
“สุภาษิตไทยเลยครับ อยู่ให้เขารัก จากให้เขาคิดถึง ตลอดระยะเวลา 5 ปี พัค ฮัง-ซอ ทำให้แฟนบอล เวียดนาม รัก จากให้เขาคิดถึง”


“เขาสร้างมาตรฐาน สร้าง เวียดนาม เวย์ เขาสามารถยกกระดับ โดยเฉพาะ รูปแบบ วิธีการเล่น จิตใจ แพรสชั่นให้กับฟุตบอลเวียดนาม” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตตำนานกองหน้าทีมชาติไทย อดีตเพื่อนร่วมทีมของ พัค ฮัง-ซอ สมัยค้าแข้งกับสโมสร ลัคกี้ โกลสตาร์ กล่าวถึงความสำเร็จและสิ่งที่ พัค ฮัง-ซอ ทำไว้กับ เวียดนาม 
การที่พวกเขายึดเบอร์ 1 ของอาเซียนจากการวัดอันดับในฟีฟ่าแรงกิ้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา และทำให้แฟนบอลเวียดนาม รักและศรัทธา พัค ฮัง-ซอ เป็นอย่างมาก แม้ทีมอื่นจะมองเขาเป็นตัวร้ายก็ตาม


แข็งกร้าว ชนะ ความกลัว 

 
ก่อนที่ พัค ฮัง-ซอ จะเข้ามาเป็นกุนซือทีมชาติเวียดนาม วงการฟุตบอลของเขายังตาม ไทย อยู่ ในช่วงนั้นทัพ “ช้างศึก” ถือเป็นเต้ยของอาเซียน และมีผลงานโดดเด่น จนหลายชาติในเอเชียต้องจับตามอง การที่ เวียดนาม จะก้าวไปท้าทายบัลลังก์เบอร์ 1 ของอาเซียน สิ่งสำคัญคือต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน มีความกล้า และปราศจากความกลัวทุกอย่าง
 
ไม่แปลกที่ พัค ฮัง-ซอ จะกลายเป็นตัวตึงของฟุตบอลเวียดนาม ซึ่งความดุดัน เกรี้ยวกราด ของเขาถูกถ่ายทอดไปยังนักเตะให้กลายเป็นนักสู้ที่กระหายชัยชนะในสนาม 

“ผมเคยคุยกับ พัค ผมถามเขาว่าสิ่งแรกที่จะทำในการคุมทีมชาติเวียดนาม คืออะไร เขาบอกว่าวิธีคิด ไม่ให้กลัว ไทย เขาพูดกับผมเลย” ปิยะพงษ์ พูดถึงปรัชญาที่ พัค ฮัง-ซอ ที่ติดตั้งให้นักเตะเวียดนาม 

 
“นักบอล เวียดนาม กลัวนักเตะไทยขึ้นสมอง เมื่อก่อน 5 ปีที่แล้ว กลัวแพ้ กลัวโน่นกลัวนี่ เขาเปลี่ยนเลย และเขาก็เปลี่ยนเวียดนาม”
 
“เวียดนามดีอย่าง คือเป็นประเทศสังคมนิยม ดังนั้นเลือดรักชาติมาก่อน และทุกสโมสร ยินยอมให้นักเตะมารวมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาชาติของเขา มันเลยง่ายต่อการปฏิบัติ”
 

อ่อนโยนก็คนใกล้ชิด 


หากจะหาคนที่สนิทรู้จักนิสัยใจคอ พัค ฮัง-ซอ เป็นอย่างดี เห็นทีจะมีแต่ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตกองหน้าทีมชาติไทย เท่านั้นเพราะเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมและเพื่อนร่วมของพักสมัยค้าแข้งในเคลีก กับ ลัคกี้ โกลด์สตาร์

 
ย้อนไปเมื่อปี 2019 ทีมชาติเวียดนาม ยกพลมาเก็บตัว ที่ประเทศไทย ก่อนทำศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 กับทีมชาติไทย ซึ่ง พัค ฮัง-ซอ นำลูกทีมลงฝึกซ้อมที่สนามฝึกซ้อมของ เมืองทอง ยูไนเต็ด และ ปิยะพงษ์ ได้เดินทางไปทักทายเพื่อนเก่า 
 
ซึ่ง พัค เองแสดงสีหน้างงงวย เพราะปกติการฝึกซ้อมจะไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามา แต่เมื่อเห็นหน้า ปิยะพงษ์ ภาพกุนซือที่เคยหัวร้อนกับทำสีหน้าตกใจ พร้อมเข้าไปสวมกอด ยิ้มและทักทาย อดีตเพื่อนร่วมทีมอย่างเป็นกันเอง และสั่งให้ลูกทีมและสต๊าฟฟ์โค้ชร่วมถ่ายภาพหมู่ร่วมกับอดีตดาวยิงทีมชาติไทย ซึ่งถือเป็นการให้เกียรติอดีตเพื่อนรวมทีมเป็นอย่างมาก
 
เรียกว่าภาพอันดุดันกลายเป็นมุมที่น่ารักและได้รับคำชมจากแฟนบอลไทยเป็นอย่างมาก

 

 
“เขาเป็นคนเคร่งขรึม ดุดัน นั่นเป็นคาแรกเตอร์เขา ถือเป็นเรื่องดีที่เราเห็นโค้ชที่มีบทบาทหน้าที่ ลงทุน ลงแรง ลงจิตวิญญาณไปอยู่ในทีม ประเทศ วัฒนธรรม นั้นๆ”

“เขาใส่ความรู้สึกให้นักบอล นักบอลถ่ายทอดไปสู่สนาม สู่แฟนบอล ดึงอารมณ์ร่วมมาสู่แฟนบอล” 

“เขารับหน้าที่มา ต้องทำแบบนั้น เราชื่นชมด้วยซ้ำที่เขายกระดับฟุตบอลเวียดนามได้ นั่นคือหน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมาย” อดีตกองหน้าฉายาเพชฌฆาตหน้าหยก กล่าวปิดท้าย 
 
เอาจริงๆ ทุกคนมีหัวโขนที่ต้องสวมใส่ต่างกัน การกระทำบางอย่างไม่ถูกใจบางกลุ่ม แต่สิ่งที่เขาทำอาจเป็นการทำตามหน้าที่ หรือ หัวโขนที่สวมใส่ เพื่อเดินหน้าสู่ความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าใว้ 

แม้ภาพจำของแฟนบอลไทยกับ พัค ฮัง-ซอ จะดูปากแจ๋วหรือสร้างความหมั่นเขี้ยวให้ชาวอาเซียน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือคนที่เข้ามาสร้างสีสันให้ฟุตบอลในอาเซียนให้คึกคักไม่น้อยทีเดียว  

 

แหล่งอ้างอิง 
 
https://olympics.com/en/news/park-hang-seo-vietnam-coach-football-south-korea
https://vietnamnews.vn/sports/1004980/coach-park-praises-guus-hiddink-s-mentorship.html
https://vietnaminsider.vn/heres-what-to-know-about-coach-park-hang-seo/
https://youtu.be/kx10avFk1ns
  
 
 
 

 

Author

Main Stand

Stand ForAll สื่อกีฬาที่เข้าถึงทุกคน