‘ความกลัว’ เป็นสิ่งที่เราต้องพบเจอสักครั้งในชีวิต ความล้มเหลวหรือความผิดหวังบางอย่างอาจหนักเกินกว่าที่เราจะแบกรับไหว ทำให้เราไม่กล้าเดินหน้าต่อ และเผชิญหน้ากับความจริงอย่างกล้าหาญ เพราะไม่อยากล้มเหลวอีกเป็นครั้งที่สอง
‘ไมเคิล จอร์แดน’ เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ต้องต่อสู้กับภาวะความกลัวในจิตใจอย่างหนัก ซึ่งตำนานนักบาสเกตบอลผู้นี้เคยชูตพลาดไปถึง 9,000 ครั้ง แพ้ไปเกือบ 300 เกม และมีอยู่ 26 ครั้งที่เขามีโอกาสชูตในวินาทีสุดท้ายเพื่อให้ทีมพลิกแซงชนะแต่เขาก็พลาด และพลาดแล้วพลาดอีกครั้งแล้วครั้งเล่า
หาก ไมเคิล จอร์แดน ถอดใจในวันนั้น วันนี้ก็คงไม่มีตำนานนักบาสเกตบอลผู้สร้างปาฏิหาริย์ในสนามครั้งแล้วครั้งเล่า อะไรคือวิธีคิดหรือวิธีจัดการกับความกลัวเมื่อล้มเหลวของ ไมเคิล จอร์แดน ร่วมถอดบทเรียนไปพร้อมกันได้กับ Main Stand
อย่าหวั่นไหวกับคำคน
ในโลกนี้มีผู้คนมากมายหลากหลายประเภท แน่นอนว่าเราไม่อาจทำทุกเรื่องให้ทุกคนประทับใจได้ เมื่อครั้ง ไมเคิล จอร์แดน เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ (Rookie) ฟอร์มของเขาก็ร้อนแรงจนนิตยสาร ‘Sports Illustrated’ นำไปถ่ายขึ้นปก พร้อมพาดหัวว่า ‘A Star is Born’ หลังจากจอร์แดนได้ก้าวเข้ามาเล่นใน ‘NBA’ ได้เพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น
ในเกมรวมดารา NBA แน่นอนว่าจะต้องมีผู้เล่นตัวเก๋าใน NBA (บางคน) ที่หมั่นไส้เล็ก ๆ จึงรับน้องด้วยการไม่ส่งบอลให้จอร์แดน ซึ่งจอร์แดนก็สัมผัสได้ แต่เจ้าตัวก็ไม่หวั่นไหวยังคงโฟกัสที่จุดมุ่งหมายของตัวเองเพื่อทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด แทนที่จะหวั่นไหวไปกับกระแสวิจารณ์ของผู้คน
“มันเป็นเรื่องที่หนักหนาเกินไปในการที่จะทำทุกอย่างให้ทุกคนประทับใจ ผมไม่สามารถใช้ชีวิตตามสิ่งที่ผู้คนอยากให้ผมทำหรือไม่อยากให้ผมทำ” จอร์แดน กล่าว
พอเริ่มฤดูกาลปกติเขาก็ทุ่มเทเต็มที่จนคว้ารางวัล Rookie แห่งปีได้สำเร็จ มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าจอร์แดนไม่เคยให้ผู้อื่นเข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตมากกว่าตัวของเขาเอง
ฝึกฝนให้หนักทุกวัน
จอร์แดนเป็นผู้เล่นบาสเกตบอลที่ขึ้นชื่อเรื่องการมีระเบียบวินัยในการซ้อมอย่างสม่ำเสมอ ขณะศึกษาในชั้นไฮสคูลปีที่ 2 เขาเคยถูกคัดชื่อออกด้วยเหตุผลว่าตัวเล็กเกินไป ตอนนั้นจอร์แดนกลับบ้านเพื่อขังตัวเองไว้ในห้องและนอนร้องไห้จนหลับไป การพบเจอกับความล้มเหลวในครั้งนั้นเกือบทำให้จอร์แดนยอมแพ้และเลิกเล่นบาสไปเลย
และทุกครั้งที่เห็นการประกาศรายชื่อที่ไร้ชื่อของเขาอยู่ แทนที่จะโมโหหรือล้มเลิกเขากลับเปลี่ยนมันให้เป็นแรงจูงใจในการซ้อมหนักทุกวัน
“ทุกครั้งที่ผมรู้สึกเหนื่อยล้าจากการฝึกซ้อมจนอยากจะหยุด ผมจะหลับตาลง แล้วนึกภาพใบประกาศรายชื่อที่ไร้ชื่อของผมในห้องล็อกเกอร์ และมันจะทำให้ผมลุกขึ้นสู้ต่อไป” จอร์แดน กล่าว
จอร์แดนเชื่อว่าหากฝึกซ้อมจนชำนาญเขาก็จะไม่กลัวผิดพลาดเพราะได้ผิดพลาดในการซ้อมมาแล้ว ซึ่งเขาก็รู้ว่าควรจัดการกับความรู้สึกของตัวเองอย่างไร
ในเรื่องนี้ผู้เล่นบาสเกตบอลทุกคนรู้ดีว่าจอร์แดนจะเป็นคนแรกที่มาถึงยิมและกลับคนสุดท้ายเสมอ จากผลของการซ้อมหนักอย่างมีวินัยทุกวันทำให้เขามีการพัฒนาที่รวดเร็วและสม่ำเสมอจนวันสุดท้ายของอาชีพ ซึ่งมันช่วยให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่ดีกว่าคนอื่นในที่สุด
เชื่อมั่นในตัวเอง … คิดอย่างผู้ชนะ
ความเชื่อมั่นในตัวเองเกิดขึ้นได้ด้วยทัศนคติเชิงบวกว่าเราทำได้ เช่นเดียวกับจอร์แดนที่ไม่ยอมให้ความล้มเหลวเข้ามาครอบงำจนสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไป
จอร์แดนบอกเสมอว่าเขาจะทำงานหนักขึ้นทุกครั้งที่ล้มเหลว เพราะเขามีความคิดแบบผู้ชนะอยู่เสมอ และความคิดแบบผู้ชนะจะทำให้เขามองเห็นความเป็นไปได้ที่คนทั่วไปมองไม่เห็น อย่างที่ ‘ทิม โกรเวอร์’ (Tim Grover) อดีตเทรนเนอร์ผู้อยู่เคียงข้างจอร์แดนมายาวนานกว่า 15 ปีเคยกล่าวไว้ในหนังสือ “Winning : The Unforgiving Race to Greatness” ว่า
“ผู้ชนะไม่ได้คิดนอกกรอบเพราะพวกเขาไม่สร้างกรอบไว้ตั้งแต่แรก นอกจากนั้น พวกเขายังเชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเอง และถึงแม้การตัดสินใจเหล่านั้นจะผิดพลาดพวกเขาก็มองว่ามันเป็นเพียงบันไดอีกขั้นที่ต้องก้าวข้ามก่อนที่จะเดินทางไปถึงเป้าหมาย”
เพราะในเส้นทางสู่ความสำเร็จนั้นความมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญเสมอ มันจะช่วยให้เรามีทัศนคติของผู้ชนะ ซึ่งจอร์แดนแสดงให้เห็นแล้วว่าความมั่นใจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาเกิดความความมุ่งมั่น จนนำเขาไปสู่ความสำเร็จที่ไม่มีใครคิดว่าเขาจะไปถึงได้
แหล่งอ้างอิง
พีรวิชช์ อนันตศิรรัตน์.(2563).วิธีคิดของ Michael Jordan ที่ทำให้เขากลายเป็นตำนานแห่งวงการบาสเกตบอล. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://www.gqthailand.com/gq-hype/article/gq-hype-vol-18
8 บรรทัดครึ่ง.(2564).เปิดเคล็ดลับ “คิดอย่างผู้ชนะ” ฉบับเทรนเนอร์คู่กาย “Michael Jordan” ตำนานของนักบาสเกตบอล. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://www.facebook.com/eightandahalfsentences/photos/a.926576950701796/6151002684925837/?type=3