การที่นักเตะของนาโปลีสักคนจะถูกยกเปรียบเทียบกับ ดิเอโก้ มาราโดน่า ตำนานขวัญใจชาวเนเปิลส์ตลอดกาลคือเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนกระทั่งในปี 2022 การมาถึงของนักเตะชาวจอร์เจียได้ทำให้ประวัติศาสตร์ดังกล่าวถูกทำลาย
เพราะ ควิชา ควารัตสเคเลีย สร้างผลงานแบบเต็ม 10 คะเแนนในช่วงออกสตาร์ทซีซั่น และพานาโปลีนำหัวตารางทั้งใน เซเรีย อา และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และเหนือสิ่งอื่นใดเขาได้รับการขนานนามว่า "ควาราโดน่า"
หลายคนคงจะได้เห็นฟอร์มของเขาไปแล้ว แต่วันนี้เราจะพาคุณไปรู้ที่มาที่ไปก่อนที่นักเตะอายุ 21 ปีชาวจอร์เจียรายนี่จะกลายเป็นพายุถล่มฟุตบอลอิตาลีอยู่ในเวลานี้ ติดตามได้ที่ MainStand
คนจะดีเริ่มต้นที่ระบบ
ควิชา ควารัตสเคเลีย นั้นถือเป็นเด็กที่เกิดมาเพื่อเป็นนักฟุตบอลก็คงไม่ผิดนัก พ่อของเขาคือ บาร์ดี ควารัตสเคเลีย เคยเป็นนักเตะอาชีพและเคยติดทีมชาติอาเซอร์ไบจานมาก่อน ทว่าหลังจากนั้นเขาก็ย้ายมาตั้งรกรากที่ประเทศจอร์เจีย และได้รับสัญชาติจอร์เจียหลังจากเลิกเล่นฟุตบอล ซึ่งนั่นทำให้ควิชาลูกชายของเขาเกิดและโตที่นี่
ในช่วงที่ ควิชา ควารัตสเคเลีย ลืมตาดูโลกและเติบโตขึ้นมาในช่วงอายุ 10-12 ปี หรือย้อนกลับไปในช่วง 10 ปีที่เเล้ว จอร์เจียนั้นถือเป็นประเทศที่ไม่ได้มีความแข็งแกร่งด้านฟุตบอลเลย พวกเขาเคยอยู่ในอันดับโลกต่ำกว่าทีมชาติไทยด้วยซ้ำ (อันดับที่ 150)
ความล้มเหลวดังกล่าวทำให้อดีตนักเตะทีมชาติจอร์เจียที่มีประสบการณ์ในระดับบุนเดสลีกามากกว่า 600 เกมอย่าง เลวาน โคเบียชวิลลี ตั้งทีมงานของตัวเองเพื่อลงชิงตำแหน่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลจอร์เจีย จนกระทั่งเขาได้รับตำแหน่งจากนโยบาย "จอร์เจียก้าวหน้า" ที่จะสร้างลีกฟุตบอลขึ้นมารองรับนักเตะเยาวชนให้มีโอกาสได้ลงเล่นเก็บเกี่ยวประสบการณ์
โคเบียชวิลลีสร้างมาตรฐานขึ้นมาใหม่ด้วยการเพิ่มงบประมาณสร้างทีมอคาเดมีให้กับสโมสรต่าง ๆ ในประเทศ ทำให้ในช่วงเวลาไม่กี่ปีจากนโยบายดังกล่าวอคาเดมีของสโมสรต่าง ๆ ใจจอร์เจียมียอดเด็ก ๆ ที่เข้ามาสมัครมากขึ้นถึง 10 เท่าจากในอดีต โดยเฉลี่ยแล้วต่อปีจะมีเด็ก ๆ เข้าสู่ระบบเยาวชนราว 800 คน
นอกจากเพิ่มวัตถุดิบแล้วยังเพิ่มส่วนประกอบอื่น ๆ ด้วย ทั้งการสร้างสนามฟุตบอลขึ้นมาใหม่ 2 สนาม และการจ้างโค้ชที่มีฝีมือมาดูแลเด็ก ๆโดยเฉพาะ ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ทำให้พวกเขากลายเป็นชาติที่มีนักเตะให้เลือกใช้มากขึ้ และมีมาตรฐานที่สูงขึ้น ยืนยันได้จากอันดับโลกที่ขยับจากที่เคยอยู่ในอันดับที่ 150 ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 78 ในปัจจุบัน ... เหนือสิ่งอื่นใดคือระบบการสร้างเยาวชนนี้เองที่ทำให้พวกเขากำลังจะมีไอดอลฟุตบอลของประเทศจอร์เจียคนแรกอย่างเป็นทางการ นั่นคือ ควิชา ควารัตสเคเลีย ที่เติบโตมากับยุคของ เลวาน โคเบียชวิลลี อย่างแท้จริง
"ผมยังจำได้ในช่วงที่เราสร้างนักฟุตบอลเยาวชนของเราเมื่อหลายปีก่อน เด็ก ๆ ชาวจอร์เจียแทบทุกคนปรารถนาที่จะเป็น ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ตอนนี้หลายสิ่งเปลี่ยนไปแล้วนะ ชื่อของ ควิชา ควารัตสเคเลีย กลายเป็นชื่อที่ถูกนำมาเป็นสารตั้งต้นของเด็ก ๆ แทน และเขากำลังจะเปลี่ยนวัฒนธรรมฟุตบอลทั้งหมดของประเทศนี้" เลวาน โคเบียชวิลลี เล่าถึงนักเตะที่เก่งที่สุดในประเทศของเขา ณ ตอนนี้ ซึ่งเกิดจากผลผลิตอันแสนคุ้มค่าของการลงมือ ลงแรง และลงเงิน เพื่อพัฒนาฟุตบอลภายในประเทศ
ไม่เห็นจะมีใครรู้จักเขาเลย ?
การเรียนรู้ฟุตบอลมาแบบมืออาชีพทั้งด้านวิธีการคิด การพัฒนาเซนส์ฟุตบอล และการมีเกมให้ลงสนามรองรับ ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่ทำให้ ควิชา ควารัตสเคเลีย พัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดด ยิ่ง DNA ของเขาที่เป็นชาวอาเซอร์ไบจานทำให้เขามีความได้เปรียบเพิ่มขึ้นไปอีกเพราะตัวสูงใหญ่แถมยังปราดเปรียวแข็งแรง
เรื่อง DNA นี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญและมีผลกับความโดดเด่นของควิชา ณ เวลานี้เป็นอย่างยิ่ง คุณอาจจจะไม่ค่อยได้ยินชื่อประเทศนี้บ่อยนัก แต่อาเซอร์ไบจานเป็นศูนย์กลางของกีฬาหลายชนิดเนื่องจากมีวัฒนธรรมกีฬาที่ฝังรากลึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของชาติมาตั้งแต่อดีต ไล่ตั้งแต่ มวยปล้ำ, ยิงปืน, ฟันดาบ ไปจนถึง พุ่งแหลน ซึ่งกลายเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาวงการกีฬาในประเทศ เนื่องจากผู้คนในชาติมองเห็นความสำคัญของการเล่นกีฬาในหลายแง่มุม
อดีตของการบ้ากีฬาโดยเฉพาะกีฬาที่ต้องใช้พลังเยอะทำให้เกิดการฝึกฝนและซึมซับกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ชาวจอร์เจียจึงมีร่างกายที่สมบูรณ์และมีสุขภาพแข็งแรง และเหนือสิ่งอื่นใดคือพวกเขาไม่ได้เล่นกีฬาเพื่อสุขภาพเท่านั้น แต่การเล่นกีฬายังหมายถึงเกียรติยศของตัวเอง รวมถึงเป็นความสำเร็จของชาติ .... แนวคิดดังกล่าวได้เริ่มต้นและเห็นผลในช่วงที่พ่อของควิชาก้าวขึ้นมาเป็นหนุ่มเต็มตัวและเป็นนักฟุตบอลอาชีพนั่นแหละ ไม่เเปลกที่มันจะถูกส่งต่อมายังลูกชายของเขาด้วย
เรื่องชาติกำเนิดเอาไว้ก่อน เพราะของจริงที่ทำให้ควิชายอดเยี่ยมมากขึ้นนั้นคือตัวของเขาเองนี่แหละที่ไม่ได้เล่นฟุตบอลเพียงเพราะสนุกหรือแค่เพราะความชอบ แต่เขาบ้าฟุตบอลเข้าเส้นและอยากจะเป็นคนที่เก่งขึ้นในทุกวัน โดยต้นแบบที่แท้จริงคนแรกและเป็นไอดอลของเขาคือ "กูตี" กองกลางคลาสสูงของ เรอัล มาดริด ในช่วงยุค 2000s
"รักแรกกับฟุตบอลของผมคือกูตี จอมทัพของมาดริด ผมยังจำได้ลยว่าตอนที่ผมเล่นให้กับทีมดินาโม ทบิลิซี ทีมของเราใส่เสื้อสีขาวเหมือนกับเรอัล มาดริด และผมชอบก็แอบเขียนชื่อ GUTI ติดไว้ที่หลังเสื้อเป็นประจำ"
และช่วงที่เล่นกับทบิลิซีก็ถือเป็นช่วงที่คนในประเทศเริ่มรู้แล้วว่าควิชาคือความหวังของฟุตบอลจอร์เจียในอนาคต เขาคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของประเทศตั้งแต่อายุ 17 ปี และครองรางวัลดังกล่าวมาจนถึงปี 2019 ซึ่งในช่วงเวลานั้น เดอะการ์เดียน สำนักข่าวของอังกฤษ ยังเคยยกให้เขาเป็น 1 ใน 60 นักเตะวันเดอร์คิดที่น่าจับตามอง โดยควิชาได้อันดับที่ 34 โดยคนที่ได้อันดับ 33 และ 32 ก่อนหน้าเขาคือ โรดรีโก้ ของเรอัล มาดริด และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ของอาร์เซนอล ... ณ เวลานั้นหลายคนที่อาจจะยังไม่รู้จักเขาก็ได้แต่สงสัยกันว่านักเตะชื่อยาว ๆ เรียกยาก ๆ จากจอร์เจียคนนี้มีดีตรงไหน เพราะเท่าที่ดูจากสถิติแล้วก็ไม่น่าจะเท่าไร ยิงประตูก็ไม่เยอะเท่าที่ควร
เหตุผลอาจจะเป็นเพราะในช่วงเวลานั้นควิชาไม่ได้เล่นในลีกที่ดังอะไรมากมาย เขาเล่นในลีกรัสเซียให้กับ โลโคโมทีฟ มอสโก แบบยืมตัว แต่ถ้าถามแฟนบอลชาวรัสเซียพวกเขารู้กันตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าควิชาคือของจริง เพราะเขาเป็นนักเตะที่เอาตัวรอดเก่ง มีทักษะการอ่านเกมสูง เบสิกพื้นฐานดีทั้งหมดไม่ว่าจะการจ่ายบอลสั้นยาว หรือแม้แต่การเลี้ยงบอลก็คล่องแคล่วคาดเดายากเพราะถนัดทั้งเท้าซ้ายและขวาพอ ๆ กัน
หลังหมดสัญญากับโลโคโมทีฟ สโมสรไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อตัวควิชา กุนซือของพวกเขาอย่าง ยูริ เซมิน ถึงกับออกมาพูดผ่านสื่อว่า "ผมผิดหวังอย่างมากกับความล้มเหลวในการคว้าตัวควารัตสเคเลียมาร่วมทีมแบบถาวร ... แค่เห็นเขาก็รู้แล้วว่านี่คือนักเตะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ผมเคยเห็น" ซึ่งทีมที่ได้โอกาสจากปัญหาเรื่องเงินของโลโคโมทีฟคือ รูบิน คาซาน ที่เคยโดนควิชาป่วนมาเเล้วในการเจอกันในเกมลีก
ฟอร์มของควิชานั้นฝังจิตฝังใจแฟนบอลและทีมงานของรูบินมาตั้งแต่เจอกันในช่วงกลางปี 2019 ในเกมนั้นควิชาลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลังให้โลโคโมทีฟ ก่อนจะเผาแนวรับของรูบินราบคาบ และเขาก็เป็นคนยิงประตูตีเสมอให้กับทีมอีกด้วย โดยฟอร์มของเขาในเกมนั้นแม้แต่แฟนบอลของ รูบิน คาซาน ก็ยังโหวตให้เขาคู่ควรกับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ เลยทีเดียว
ขณะที่ฝั่งรูบินก็ตามติดควิชามาตั้งแต่วันนั้น และพวกเขาก็ยื่นซื้อตัวตอนที่ยังมีโอกาส ก่อนจะปิดดีลสำเร็จด้วยเงินแค่ 600,000 ยูโรเท่านั้น สื่อรัสเซียที่เคยเห็นฟอร์มของเขามา 1 ปีเต็มได้ยกย่องดีลดังกล่าวว่าเป็นการซื้อตัวที่เปลี่ยนโฉมหน้าทางการเงินของรูบินได้แน่นอน เพราะหลังจากนี้มูลค่าของ ควิชา ควารัตสเคเลีย จะเพิ่มขึ้นถึงอีก 5 เท่าในฤดูกาลเดียว
มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ เพราะควิชามาถึงและลงเล่น 5 เกมแรกให้กับรูบินโดยได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ถึง 4 เกม น่าเสียดายที่รูบินไม่ทันจะได้ทำกำไรจากเขาเพราะเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองระหว่าง รัสเซีย และ ยูเครน ทำให้ ฟีฟ่า ออกมายืนยันว่าผู้เล่นต่างชาติที่ค้าแข้งในลีกรัสเซียสามารถเจรจายกเลิกสัญญากับต้นสังกัดได้โดยไม่ต้องได้รับการยินยอมจากสโมสร
ควิชา ควารัตสเคเลีย ยกเลิกสัญญากับรูบินและไปหาที่พักใจและหาเกมลงเล่นระหว่างรอดีลใหม่ ๆ ที่บาทูมีในบ้านเกิด เหตุผลหนึ่งในการกลับมาครั้งนี้คือการได้รับคำแนะนำจาก วิลลี่ ซาญอล กุนซือทีมชาติจอร์เจีย ที่แนะนำให้ควิชารีบหาสโมสรลงเล่นเพื่อได้ฝึกซ้อมแบบเต็มที่ และแก้ไขปัญหาการหมดแรงหลังนาทีที่ 70 ของเขา เพื่อทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ดีขึ้น
"ทั้งหมดที่ผมได้ยินมาคือมีคำวิจารณ์ว่าเขามักจะเฉื่อยชาหลังจากนาทีที่ 70 ... มีคนบอกกับผมว่า 'คุณรู้ไหมวิลลี่ เขา(ควิชา) นั้นเป็นนักเตะจอร์เจีย มันไม่ได้ดึงดูดเท่ากับการเป็นนักเตะบราซิล เขาต้องดีพร้อมจริง ๆ เท่านั้นจึงจะได้ไปเล่นลีกที่ใหญ่กว่านี้ ดังนั้นควิชาจึงกลับมาที่บาทูมีเพื่อรอเวลาของเขา" วิลลี่ ซาญอล กล่าว
รอเวลาให้พายุก่อตัว
ควิชา ควารัตสเคเลีย เลยถอย 1 ก้าวเพื่อก้าวกระโดดครั้งใหญ่ เพราะในซัมเมอร์ที่ผ่านมาสโมสรระดับแถวหน้าของอิตาลีอย่าง นาโปลี ดึงตัวเขาไปร่วมทีมด้วยสัญญา 10 ล้านยูโรโดยประมาณ และเซ็นสัญญายาวถึง 5 ปี นี่มันมากกว่าที่พวกเขาคาดการณ์กันไว้ว่าจะแพงกว่า 600,000 ยูโร 5 เท่า
ไม่มีใครสนใจควิชามากนักตอนที่เขาเข้ามา เนื่องจากหลายคนคิดว่านาโปลีก็แค่ถ่ายเลือดเพราะปล่อยนักเตะชุดเดิมอย่าง ลอเรนโซ่ อินซินเย่ และ ดรีส์ เมอร์เทนส์ ออกไปเท่านั้น
โรดริโก้ มอนตานารี นักข่าวของ eurosport อธิบายเพิ่มเติมถึงช่วงเวลานั้นว่า "ไม่มีใครรู้จักเขาเลยสักคน ตอนเขาย้ายมามีคนบอกว่าที่รัสเซียเขาสร้างความจี๊ดไว้มาก แต่ใครจะกล้ายืนยันล่ะว่าเขาจะโชว์ฟอร์มได้ดีในอิตาลี เพราะเขาแค่เคยเล่นในลีกรัสเซียกับจอร์เจียเท่านั้นเอง"
"ผมได้ข่าวมาว่านอกจากนาโปลีแล้วยังมี เอซี มิลาน, ยูเวนตุส และ โรม่า ที่พยายามตามจีบเขาอยู่ แต่เรื่องนี้ต้องขอบคุณ คริสเตียโน่ จิอันโตลี่ ผู้อำนวยการกีฬาของนาโปลี มาก ๆ ที่มั่นใจในตัวเขาสุด ๆ ว่าจะต้องเป็นคนที่ทีมตามหา ... จิอันโตลี่บอกว่าเขาตามฟอร์มของควิชามาตั้งแต่ปี 2020 แล้ว แต่ตอนนั้นรูบินจะขายเขาในราคาตั้ง 30 ล้านยูโร นาโปลีจึงถอยทันที" นักข่าวสายอิตาลี กล่าว
ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ กุนซือของนาโปลี อธิบายว่าเหตุผลที่เขาเห็นตรงกันกับจิอันโตลี่ คือฟุตบอลยุคปัจจุบันนั้นวัดผลแพ้ชนะกันที่การจัดการพื้นที่ว่างที่คู่ต่อสู้เปิดให้ และ ควิชา ควารัตสเคเลีย คือคนประเภทที่นิ่งพอ และสามารถจัดการกับพื้นที่เหล่านั้นได้ดีมาก ๆ และที่สำคัญคือเขาเป็นมืออาชีพที่มีทัศนคติดีและขยันซ้อมด้วย
"ควิชารับมือกับการกดดันของฝ่ายตรงข้ามได้ดี เขาอ่านสถานการณ์ล่วงหน้าและรู้ว่าเป้าหมายที่เขาจะส่งบอลไปอยู่ที่ไหน ไหนจะเรื่องการยิงประตูได้ด้วยทั้งเท้าซ้ายและขวา และยังรู้จังหวะว่าตอนไหนควรผ่อนตอนไหนควรเร่ง" สปัลเล็ตติ กล่าว
หลังจากลงสนามให้นาโปลี ฟุตบอลอิตาลีก็ได้รู้จักเขา เขาเป็นแบบที่สปัลเล็ตติบอกจริง ๆ คล่องแคล่ว ว่องไว ความคิดยอดเยี่ยม และมีความเข้าใจเกมสูง และเหนือสิ่งอื่นใดคือเกมที่เขาดีที่สุดในช่วง 2-3 ปีหลังเกมกับ ลิเวอร์พูล ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ในเกมนั้นทั้ง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ หรือแม้กระทั่ง เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ก็ต้องเจอปัญหาในการประกบตัวเขา
ควารัตสเคเลียพิสูจน์ตัวเองว่าเขาไม่ได้เด่นแค่เกมเดียว เพราะหลังจากที่พา นาโปลี ถล่ม ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ หลายคนเริ่มจับตามองเขามากขึ้น แต่ฟอร์มการเล่นและสิ่งที่เขาทำได้ไม่ได้ตกลงไปเลย นับวันยิ่งจะเด่นขึ้นด้วยซ้ำ ซีซั่นนี้เขาลงเล่นไปแล้ว 16 เกม ทำไป 8 ประตูและอีก 10 แอสซิสต์ เป็นนักเตะที่ท็อปฟอร์มที่สุดในเซเรีย อา ซีซั่นนี้เป็นที่เรียบร้อย และคุณไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเล่นได้ยอดเยี่ยมขนาดไหนจากฉายา "ควาราโดน่า" ที่เขาได้รับจากแฟนบอลนาโปลีในตอนนี้
"นี่เป็นการเปรียบเทียบที่เหลือเชื่อและไม่มีใครคิดว่าจะเห็นมันมาก่อนในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอิตาลี เขามาที่นาโปลีและสร้างผลกระทบอย่างมากมาย เขามีบุคลิกที่ยอดเยี่ยมในสนาม มีสายตาที่เเหลมคมในการทำประตู ดูเหมือนว่าเมื่อบอลอยู่กับเท้า ก็ยากที่ใครจะหยุดเขาได้ หากวัดกันเฉพาะตอนนี้ผมพูดตรง ๆ ว่าผมไม่เห็นจุดอ่อนของเขา แต่ปัญหาเดียวที่ควรติดตามหลังจากนี้คือ เมื่ออนาคตใกล้เข้ามาเขาจะรับมืออย่างไรกับความกดดันที่สูงขึ้นในทุก ๆ วัน" มอนตานารี กล่าวถึงควารัตสเคเลียกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้
ฤดูกาลที่เหลือยังคงอีกยาวนาน ตอนนี้เพิ่งผ่านไป 1 ใน 3 ส่วนของฤดูกาลทั้งหมด สิ่งที่มอนตานารีกล่าวไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อยกับสิ่งที่ควิชาเป็นในเวลานี้ และสิ่งที่ควิชาจะต้องพิสูจน์ในอนาคต … เราสามารถรู้อะไรได้บางอย่างจากเรื่องนี้ นั่นคือเมื่อเด็กคนหนึ่งเติบโตมากับสังคมที่มีโครงสร้างดี มีผู้ใหญ่ผลักดัน และมีการปลูกฝันทัศนคติของการกระหายชัยชนะ พวกเขาจะสามารถสร้างปรากฏการณ์ให้กับโลกใบนี้ได้เสมอ
แหล่งอ้างอิง
https://www.nytimes.com/2022/10/26/sports/soccer/napoli-khvicha-kvaratskhelia-kvaradona.html
https://sportsbrief.com/facts/bio/24038-khvicha-kvaratskhelias-profile-napolis-youngster/
https://www.eurosport.com/football/champions-league/2022-2023/who-is-khvicha-kvaradona-kvaratskhelia-napoli-and-georgian-superstar-who-has-been-compared-to-diego-_sto9142762/story.shtml
https://www.getfootballnewsitaly.com/2022/napolis-khvicha-kvaratskhelia-my-first-love-was-guti-from-real-madrid/
https://www.transfermarkt.com/khvicha-kvaratskhelia/leistungsdaten/spieler/502670
https://en.wikipedia.org/wiki/Khvicha_Kvaratskhelia