Feature

จากแชมป์เอเชียนคัพ 2019 : จุดเริ่มต้นความสำเร็จสู่ฟุตบอลโลกของทีมชาติกาตาร์ | Main Stand

อีกไม่กี่อึดใจฟุตบอลโลก 2022 ที่ กาตาร์ เป็นเจ้าภาพก็จะเริ่มขึ้นเเล้ว และ Main Stand เชื่อว่าหลายคนคงไม่ได้รู้เรื่องราวการพัฒนาฟุตบอลของกาตาร์มากนัก จนเดาไม่ออกว่าพวกเขาจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องเจอกับเหล่าชาติหัวแถวด้านฟุตบอลของโลก

 


นี่คือเรื่องราวที่คุณไม่ควรพลาดเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดภายในระยะเวลาแค่ 12 ปี พวกเขาคว้าเเชมป์ทวีปเอเชีย ขยับอันดับโลกขึ้นมากว่า 100 อันดับได้อย่างไร ? 

ติดตามได้ที่ Main Stand 

 

เริ่ม ... ก่อนที่จะรู้ 

ย้อนอดีตไปในช่วงยุค 90s เป็นต้นมา กาตาร์ อาจจะเป็นชาติที่ไม่ได้เก่งฟุตบอลมากถึงขั้นที่เป็นชาติแถวหน้าของเอเชีย พวกเขาอาจจะเคยเข้าไปเล่นในรอบลึก ๆ ของศึกเอเชียนคัพบ้าง แต่พวกเขาก็ไม่เคยดีพอจะเป็นแชมป์ และเช่นเดียวกันพวกเขาไม่เคยไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเลย 

อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่กาตาร์มีคือ "เงิน" และคนที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จหลายคนก็มักมีนิสัยเหมือนกันอยู่ 1 อย่างนั่นคือ "เกลียดความพ่ายแพ้" นี่คือการเปรียบเทียบให้เห็นง่าย ๆ ว่าทำไมกาตาร์จึงพยายามที่จะทำทีมฟุตบอลให้เเข็งแกร่งในเอเชีย อย่างน้อย ๆ ก็ต้องเป็นเบอร์ 1 ของชาติอาหรับให้ได้ 

ต้องไม่ลืมว่าชาติอาหรับหรือแถบชาติแตะวันออกกลางนั้นมีการแข่งขันความเป็นที่หนึ่งอยู่เสมอ และแบ่งเป็น 2 ฝั่งมาอย่างนานนม ฝั่งหนึ่งเป็นมุสลิมสุหนี่ ส่วนอีกฝั่งคือมุสลิมชีอะห์ และพวกเขาก็แข่งขันกันในทุกเรื่องไม่เว้นแม้แต่ฟุตบอล 

แม้กาตาร์จะเริ่มจากการทำให้ตัวเองกลายเป็นชาติเบอร์ 1 ของตะวันออกกลาง แต่ในเมื่อพวกเขาคิดจะทำแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด ดังนั้นในปี 2004 ราชวงศ์แห่งกาตาร์รู้สึกไม่พอใจนักกับวงการกีฬาในบ้านเมืองของพวกเขา เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีก่อนหน้า กาตาร์ไม่ปรากฏความโดดเด่นเรื่องกีฬาชนิดใดบนโลกใบนี้เลย แม้ว่าพวกเขาจะมีเงินมากมายให้ลองผิดลองถูกก็ตาม

เข้าสู่ช่วงกลางปีมีคำสั่งจาก เอเมียร์ ชีกห์ ฮาเหม็ด บิน คาห์ลิฟา อัล ทาห์นี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ให้ ชีกห์ ทามิม บิน ฮาหมัด อัล ทาห์นี ผู้เป็นรัชทายาทร่างโครงการที่จะสร้างความเป็นเลิศทางด้านกีฬาให้กับประเทศกาตาร์ ด้วยงบประมาณที่วางไว้ 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้ชื่อโครงกว่า แอสไปร์ อคาเดมี (Aspire Academy) 

เมื่อกาตาร์คือประเทศที่มีประชากรน้อย และอาชีพส่วนใหญ่ของคนในประเทศคือการทำงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายกีฬา จึงทำให้โครงการนี้มุ่งเน้นการสร้างนักกีฬาระดับเพชรในตมโดยไม่สนว่าจะมีเชื้อชาติกาตาร์หรือไม่ พวกเขาเดินทางไปทั่วทุกมุมโลกทั้งแอฟริกา อเมริกาใต้ และเอเชีย เพื่อหาเด็ก ๆ ที่มีแวว และจากนั้นก็มอบทุกอย่างให้ ทั้งการศึกษาตลอดจนศาสตร์และศิลป์ทางกีฬาทั้งหมด 

ทุก ๆ ปีแอสไปร์จะทำการคัดเลือกนักกีฬากว่า 5-6 แสนคน เพื่อคัดเอาระดับหัวกะทิมาต่อยอด ณ สถานที่ที่มีพร้อม ทั้งที่พัก,การศึกษา,วิทยาศาสตร์การกีฬา และผู้มีประสบการณ์ในเกมกีฬาระดับสูง ... ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่กาตาร์สร้างทีมฟุตบอลชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขาได้ก่อนที่พวกเขาจะรู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาจะได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 

 

จากศูนย์ฝึกสู่แชมป์เอเชีย 

หลังจากสร้างศูนย์ฝึกแอสไปร์ได้เพียง 6 ปี กาตาร์ไปถึงมองเป้าใหญ่กว่าที่ตัวเองเคยตั้งไว้ เพราะในปี 2010 พวกเขาได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งผลการรับเลือกนี้นำมาซึ่งกระแสต่อต้านมากมายว่ากาตาร์ใช้เงินซื้อโอกาสให้ตัวเองเพื่อให้ได้เล่นฟุตบอลโลก เพราะพวกเขายังไม่เคยผ่านรอบคัดเลือกเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายมาก่อนเลย (และฟุตบอลโลกปี 2022 ก็จะเป็นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งแรกของชาตินี้อีกด้วย)

เมื่อโดนหยาม ตระกูล อัล ทาห์นี ก็เริ่มอยากจะตอบโต้กลับ พวกเขาจะพิสูจน์ว่ากาตาร์ไม่ได้มีแค่เงินแต่มีสมองด้วย ดังนั้นเมื่อมีโอกาสแสดงฝีมือในเวทีระดับสูง กาตาร์จะต้องแสดงออกถึงพัฒนาการที่ใครก็ไม่อยากจะเชื่อให้ได้  ดังนั้นการไล่บี้คนที่ดูแลทีมในแต่ละชุดจึงเริ่มเกิดขึ้นอย่างจริงจังนับตั้้งแต่นั้นมา 

กาตาร์ไว้วางใจ เฟลิกซ์ ซานเชซ อดีตโค้ชเยาวชนของสโมสรบาร์เซโลน่า ให้เข้ามารับผิดชอบเรื่องการสร้างอนาคตให้กับทีมชาติกาตาร์ โดยตัวของซานเชซเข้ามาทำงานที่กาตาร์ครั้งแรกในปี 2006 ก่อนที่จะได้ขยับตำแหน่งหลังช่วงที่กาตาร์ชนะการคัดเลือกเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก โดยเริ่มจากทีมชุด ยู-16, ยู-19, ยู-23 และทีมชาติชุดใหญ่ มาจนถึงปัจจุบัน 

เหตุผลที่ต้องให้เฟลิกซ์ทำงานและขยับรุ่นอายุตามนักฟุตบอลนี้มีเหตุผล เนื่องจากกาตาร์เป็นประเทศที่มีประชากรน้อยมาก ดังนั้นเมื่อได้เด็กที่เก่งที่สุดในช่วงอายุพวกเขาจะต้องประคบประหงมอย่างดี เพราะไม่สามารถคัดทิ้งและเปลี่ยนทีมใหม่ระหว่างทางได้เหมือนกับชาติระดับแถวหน้าด้านฟุตบอลอย่าง สเปน, อังกฤษ, เยอรมัน และอื่น  ๆ อีกมากมาย ... เรียกได้ว่าเมื่อเลือกเด็กที่เก่งที่สุดในช่วงอายุเข้ามาสู่ทีมสักคนแล้วก็ต้องดันกันไปจนถึงสุดทาง แล้วค่อยไปวัดกันที่ทีมชาติชุดใหญ่อีกที 

"เราถูกข้อกำหนดจากจำนวนประชากรที่น้อย ดังนั้นเราต้องเริ่มทำงานกับเด็กแต่ละรุ่นที่เกิดในรอบปฏิทิน ที่นี่ไม่เหมือนสเปนหรอกที่นักเตะคนนี้ไม่ดีเล่นไม่ได้คุณก็แค่โละออกแล้วหาใหม่ กาตาร์ไม่มีตัวเลือกมากนัก คุณต้องดูพวกเขาให้ดีและอ่านให้ออกว่าพวกเขาเหล่านี้จะก้าวไปในทางที่ดีขึ้นได้อย่างไร" เฟลิกซ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อดังบ้านเกิดอย่าง AS

เฟลิกซ์ไม่ได้แค่ทำทีมฟุตบอลเท่านั้น แต่เขามีตำแหน่งเป็นเหมือนไดเร็กเตอร์หรือผู้อำนวยการกีฬาอีกด้วย เขาเป็นผู้วางโครงสร้างฟุตบอลของกาตาร์ แม้กระทั่งเรื่องนอกสนามที่เขาเรียกร้องให้ผู้บริหารองค์กรหาสโมสรในยุโรปเอาไว้เพื่อรองรับนักเตะกาตาร์รุ่นหลังที่เก่งเกินกว่าจะเล่นในประเทศแถบอาหรับ นำมาสู่การที่ราชวงศ์ในกาตาร์ได้เทคโอเวอร์สโมสร อูเปน ทีมในระดับลีกสูงสุดของเบลเยียม และ คูตูรัล เลโอเนซ่า ในระดับดิวิชั่น 3 ของสเปน 

โดยเหล่านักเตะทีมชาติกาตาร์ชุดปัจจุบันหลายคนก็เคยมีประสบการณ์ไปค้าแข้งในต่างเเดน ทั้ง อัลโมเอซ อาลี, อัคราม อาฟิฟ, อาเหม็ด โมอีน และ อาเหม็ด อัล ซาดี เป็นต้น

นอกจากนี้เขายังเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนแนวคิดให้สโมสรฟุตบอลลีกในของกาตาร์ดึงเอานักเตะระดับโลกมาค้าแข้งด้วยเพื่อให้เด็ก ๆ ที่ไม่เก่งพอจะไปเล่นในต่างแดนได้มีประสบการณ์ตรงในการเล่นฟุตบอลกับนักเตะระดับโลก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงได้เห็นนักเตะอย่าง ราอูล กอนซาเลซ, ชาบี เอร์นานเดซ, เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์, จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ และอีกหลาย ๆ คนไปเล่นฟุตบอลที่นั่น 

พวกเขาพัฒนาทั้งเรื่องโครงสร้างและระบบการเล่นในสนามมาตั้งแต่ก่อนฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มถึง 12 ปี ... ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมท้ายที่สุดเเล้วพวกเขาจะสามารถพาทีมพิชิตเอเชียได้สำเร็จในการแข่งขัน เอเชียนคัพ ในปี 2019 ซึ่งหากยังจำกันได้ในรายการนั้น ชาวไทยและชาวเอเชียหลายคนจึงได้เห็นพัฒนาการของนักเตะกาตาร์ด้วยตาตัวเอง พวกเขามีทักษะส่วนตัวที่เป็นเลิศ มีความเข้าใจในเกมสูง และเป็นทีมที่เล่นโมเดิร์นฟุตอลได้ดีกว่าที่ใครหลายคนคิด

ในรอบแบ่งกลุ่มที่อยู่ร่วมสายกับ ซาอุดีอาระเบีย อริเบอร์ 1 ของกาตาร์, เลบานอน และ เกาหลีเหนือ พวกเขาก็เก็บได้ 9 แต้มเต็ม ยิงไป 10 ประตู และไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว ... จากนั้นเมื่อเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ กาตาร์ก็ผ่านทีมแกร่งอย่าง อิรัก, เกาหลีใต้ และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้สบาย ๆ โดยไม่เสียประตูเลยเช่นกัน ก่อนที่ไข่จะมาแตกเอาในรอบชิงชนะเลิศด้วยการชนะญี่ปุ่น 3-1 คว้าเเชมป์เอเชียสมัยแรกไปครองอย่างยิ่งใหญ่ 

ในทัวร์นาเมนต์นั้น อัลโมเอซ อาลี ยิงไปถึง 9 ประตู มากกว่านักเตะที่ไปค้าแข้งในยุโรปอย่าง ซาดาร์ อัซมูน, ทาคุมิ มินามิโนะ, อู๋ เหล่ย และ เอลดอร์ โชมูโรดอฟ แบบขาดลอย ... ทีมชุดแชมป์เอเชียนคัพของกาตาร์ถือเป็นโมเดลหลักที่พวกเขาปฏิบัติตามกันมาแบบรุ่นสู่รุ่น เพื่อสร้างนักเตะที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่ฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มขึ้น 

 

ก่อนสอบไฟนอล 

นับตั้งแต่สร้างแอสไปร์ อคาเดมี หากวัดกันที่ผลลัพธ์ไม่นับเงินลงทุน กาตาร์ประสบความสำเร็จมากกว่าที่พวกเขาตั้งไว้เสียอีก เพราะในปี 2010 ก่อนที่พวกเขาจะได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 กาตาร์ยังโดนค่อนขอดว่าใช้เงินซื้อฟุตบอลโลก และมีทีมฟุตบอลที่อ่อนชั้น พาลทำให้ภาพรวมของฟุตบอลโลก 2022 ไม่น่าสนุก ... ย้อนกลับไปตอนนั้นพวกเขาอยู่ในอันดับที่ 113 ของโลกเลยทีเดียว

ทว่าหลังจากการเริ่มงานอย่างจริงจังสำหรับโปรเจ็กต์ฟุตบอลโลก มีการเลือกโค้ชที่มีฝีมือมาดูแลทีมเยาวชนแต่ละรุ่น มีการใช้หลักสูตรฟุตบอลจากประเทศแถวหน้าของโลกด้านฟุตบอลเป็นต้นแบบ และมีการพัฒนาโครงสร้างโดยรวมที่จะสามารถผลักดันผลงานในสนามให้ดียิ่งขึ้น จนถึงตอนนี้กาตาร์ขยับอันดับขึ้นมาอยู่ที่อันดับที่ 48 ของโลกตามคะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง ล่าสุด ... สิ่งนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่ากาตาร์ก้าวกระโดดได้รวดเร็วขนาดไหนภายในเวลาแค่ 12 ปีเท่านั้น 

ตอนนี้พวกเขาชนเป้าหมายแรกได้แล้ว แต่เป้าหมายต่อไปนั้นยากกว่ามาก นั่นคือการทำผลงานให้ดีในฟุตบอลโลกที่แข่งขันในบ้านของตัวเอง และจากการจับฉลากก็ถือว่าพวกเขาไม่ได้เจอกับภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากพวกเขาได้อยู่กลุ่มเดียวกับ เอกวาดอร์, เซเนกัล และ เนเธอร์แลนด์ แม้ทีมเหล่านี้จะแกร่งกว่าพวกเขามาก ๆ บนหน้าเสื่อ แต่กาตาร์ก็ตั้งเป้าว่าพวกเขาจะต้องผ่านรอบแบ่งกลุ่มให้ได้เป็นอย่างน้อย 

มันซูร อัล อันซารี เลขาธิการสมาคมฟุตบอลกาตาร์ ยอมรับว่าเมื่อทัวร์นาเมนต์ใกล้จะเริ่มขึ้น ความคาดหวังที่มีจากกลุ่มผู้บริหารองค์กร กลุ่มราชวงศ์ที่ให้การสนับสนุนเรื่องเงินทุน รวมถึงชาวกาตาร์ทุกคนก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามไปด้วย แต่กาตาร์ชุดนี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการทำให้ดีที่สุดและรีดฟอร์มให้พีกแบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อน โดย อัล อันซารี บอกว่าความทะเยอทะยานคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ทีมของพวกเขาเดินทางมาถึงจุดนี้

ข้อดีของการวางแผนอีกอย่างหนึ่งคือเหล่านักเตะดาวรุ่งของกาตาร์ที่ประคบประหงมกันมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ขยับระดับตัวเองขึ้นมาจากการเป็นดาวรุ่งสู่ตัวความหวังของทีมอย่างเต็มตัว พวกเขาเป็นทีมคนหนุ่มที่มีอายุเฉลี่ยไม่ถึง 25 ปี (วัดจากทีมชุดปัจจุบัน) ทว่านักเตะเหล่านี้กลับมีประสบการณ์การเล่นเกมระดับทีมชาติมาอย่างโชกโชน อาทิ อัคราม อาฟีฟ จากอัล ซาดด์ ที่เคยเล่นให้กับทีมอย่าง บียาร์เรอัล, อูเปน และ สปอร์ติง กิฆอน ที่เคยติดทีมชาติไปมากถึง 85 เกมทั้ง ๆ ที่อายุเพียง 24 ปีเท่านั้น ส่วนกัปตันทีมอย่าง ฮัสซาน อัล-ไฮดอส ที่อยู่ในวัย 31 ปีนั้นเคยติดทีมชาติมากถึง 165 นัด 

สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่านักเตะกาตาร์ชุดนี้เคยเล่นร่วมกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งมันจะทำให้ทีมเวิร์กกลายเป็นจุดแข็งของพวกเขา โดย เฟลิกซ์ ซานเชซ เล่าว่าปรัชญาของทีมกาตาร์ชุดนี้คือทีมเวิร์กและความเข้าใจเกมเป็นหลัก พวกเขาอาจจะไม่ได้มีนักเตะดัง แต่พวกเขาเชื่อว่าโมเดิร์นฟุตบอลแบบรุกทั้งทีมและรับทั้งทีมจะสามารถตอบโจทย์ได้ดีไม่แพ้กับการมีสตาร์ดังมาแบกทีม 

"กดดัน (เพรสซิ่ง) ให้เร็วและสูงที่สุด ต้องรู้จักเกมรับ และที่สำคัญที่สุดคือต้องรู้ว่าจังหวะไหนของเกมควรฆ่าคู่ต่อสู้ให้ตาย" ซานเชซ กล่าวและพูดถึงทีมชุดนี้ต่ออีกว่า การทำงานร่วมกันมานานของนักเตะและโค้ชจะเป็นกุญเเจสำคัญที่ทำให้กาตาร์พร้อมสำหรับฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ 

"นี่คือกลุ่มผู้เล่นที่แข็งแกร่ง ผมรู้จักพวกเขามานาน แม้เราจะมีข้อจำกัดที่เป็นประเทศเล็กที่มีประชากรไม่กี่คน แต่การทำงานหนักทำให้เราได้เจอกับผลลัพธ์บางอย่างที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้” 

ฟุตบอลโลก 2022 จะเป็นเช่นไรคือเรื่องของอนาคต แต่ที่แน่ ๆ คือเราสามารถรู้ได้เลยว่าการลงทุนด้านฟุตบอลของกาตาร์ไม่มีทางสูญเปล่าแน่ พวกเขายกระดับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และตอนนี้จะได้พิสูจน์ฝีมือในทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 

ส่วนเรื่องผลลัพธ์นั้นจะสมหวังหรือผิดหวังมันเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ และต่อให้พวกเขาล้มเหลวแต่ก็ใช่ว่าครั้งนี้จะเป็นโอกาสครั้งสุดท้าย เพราะ กาตาร์ ได้วางรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่ออนาคตที่พวกเขาจะเป็นทีมที่ดีกว่านี้ขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่พวกเขาไม่ลังเลที่จะทุ่มงบประมาณมหาศาลจนกว่าวันนั้นจะมาถึง ... วันที่พวกก้าวขึ้นมาเป็นทีมระดับหัวแถวของโลก 

 

แหล่งอ้างอิง 

https://www.bbc.com/sport/football/32147203
https://www.gulf-times.com/story/412779/We-have-achieved-our-dream-says-Felix 
https://baomoi.com/hlv-felix-sanchez-u23-duoc-to-chuc-tot-va-rat-ky-luat/c/24710555.epi 
https://baomoi.com/hlv-felix-sanchez-u23-duoc-to-chuc-tot-va-rat-ky-luat/c/24710555.epi 
https://www.theguardian.com/football/2018/nov/22/xavi-qatar-four-years-until-world-cup 
http://www.espn.com/soccer/fifa-world-cup/4/blog/post/3700843/qatars-unknown-players-may-not-be-the-2022-world-cup-flops-theyre-expected-to-be 
https://www.reuters.com/article/us-football-nfl-trump-football/trump-says-he-wouldnt-steer-son-toward-football-idUSKCN1PS0JB
https://in.reuters.com/article/soccer-asiancup-final-preview/soccer-qatar-wont-be-distracted-from-final-by-eligibility-row-coach-idINKCN1PP13U
https://www.theguardian.com/football/2015/nov/14/qatar-world-cup-200-billion-dollar-gamble
https://www.euronews.com/2022/09/01/fifa-world-cup-qatar-2022-can-the-hosts-reach-the-knockout-stages

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

ภราดร ภราดร

อยากจะทำให้ดี ไม่ใช่แค่อยากจะทำให้เป็น