Feature

สุนิล เชตรี : ดาวยิงอินเดียที่สถิติยิงในทีมชาติเป็นรองแค่โรนัลโด้, เมสซี่ และดาอี | Main Stand

ไม่เคยมีชื่อของนักฟุตบอลคนไหนที่เกิด โต และค้าแข้งในประเทศอินเดีย ได้รับการยอมรับทั้งในประดับประเทศและระดับนานาชาติมานาน 

 


จนกระทั่งมาถึงช่วงเวลาหนึ่งก็ปรากฏข้อมูลของนักเตะที่มีชื่อว่า สุนิล เชตรี กองหน้าชาวอินเดีย ที่ว่ากันว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ 

สุนิล เชตรี ในวัย 40 ปีคนนี้คือเจ้าของสถิติดาวยิงที่ทำประตูในนามทีมชาติเป็นอันดับ 4 ของโลก เป็นรองเพียง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ลิโอเนล เมสซี่ และ อาลี ดาอี เท่านั้น 

ทุกวันนี้หน้าของเขาปรากฏบนสื่ออินเทอร์เน็ตบ่อย ๆ แต่น้อยคนที่จะรู้ถึงที่มาและความยิ่งใหญ่ของเขาในแดนภารตะ ... นี่คือเรื่องราวของเขา 

 

นักฟุตบอลในยุคคริกเกตครองประเทศ

อังกฤษ ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศแรกที่ทำให้ฟุตบอลเป็นที่รู้จักในโลกใบนี้ และหากเป็นเช่นนั้น อินเดีย เองก็น่าจะเป็นประเทศที่ได้รับอิทธิพลนี้มาไม่น้อย เนื่องจากครั้งหนึ่งพวกเขาเคยอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษมาอย่างยาวนาน 

อย่างไรก็ตามชาวอินเดียนั้นอินกับอารยธรรมเก่าในประเทศของพวกเขาเป็นอย่างมาก ที่นี่เป็นดินแดนสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปแสวงบุญตามความเชื่อของแต่ละคนที่เต็มไปด้วยเรื่องของศาสนา ความเชื่อ จนทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายสำคัญของโลก นั่นทำให้ “ความคลั่งไคล้ในกีฬา" ไม่ค่อยเป็นเรื่องที่ผู้คนทั่วไปพูดถึง ไม่มีข้อยกเว้นให้กับกีฬาที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกอย่าง "ฟุตบอล" 

กีฬาเดียวที่เข้ามาครองใจชาวอินเดียได้มากที่สุดเป็นชนิดแรกคือ คริกเกต ซึ่งก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอังกฤษ ในปี 1792  อังกฤษได้มีการก่อตั้งสโมสรฟุตบอลและคริกเกตกัลกัตตาขึ้น ซึ่งเป็นทีมของคนอังกฤษที่ปกครองเมืองกัลกัตตา (โกลกาตา ปัจจุบัน) และจากนั้นเอง คริกเกตก็กลายเป็นกีฬาที่ชาวอินเดียคุ้นเคยมาอย่างชาวนาน ประวัติของคริกเกตในอินเดียนั้นมีเรื่องเล่ามากมาย ว่ากันว่าครั้งหนึ่งคริกเกตเคยเป็นกีฬาที่ใช้เดิมพันระหว่างคนอินเดียกับกองทัพอังกฤษเรื่องการงดเว้นภาษีหรือผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่อังกฤษเข้ามากอบโกยในอินเดียเลยด้วยซ้ำ 

นั่นแหละคือเหตุผลที่คริกเกตฝังรากลงไปในชาวอินเดียทุกคน คริกเกตเข้ามาก่อน ดังนั้นจึงไม่มีที่ว่างให้กับฟุตบอลมากนัก ความนิยมของกีฬาชนิดนี้ทำให้นักคริกเกตกลายเป็นบุคคลทรงอิทธิพลในสังคมอินเดีย พวกเขามีรายได้สูง เป็นสะพานสำหรับชนชั้นล่างที่จะยกระดับฐานะของตัวเอง ต่างกับนักฟุตบอลที่ถึงแม้จะมีคนเล่นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมเรื่อยมาเพราะรายได้นั้นน้อยกว่าคริกเกตหลายเท่า และลีกฟุตบอลอย่างเป็นทางการของตัวเองก็เพิ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1996 เท่านั้น 

อย่างไรก็ตามคนบางคนก็ไม่ได้เกิดมาเพื่อทุ่มชีวิตเพื่อเงินทองอย่างเดียว พวกเขาอาจจะเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองชอบที่สุดด้วย หนึ่งในนั้นคือ สุนิล เชตรี กองหน้าผู้ทำสถิติต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะผู้ยิงประตูให้กับทีมชาติอินเดียมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองเพียง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ เท่านั้น 

 

กำเนิดกัปตันแฟนทาสติก 

สุนิล เชตรี ไม่ได้เกิดมายากจนหรือเป็นชนชั้นล่างของประเทศอินเดีย พ่อของเขาเป็นนายทหารมียศเทียบกับระดับร้อยตรี ครอบครัวของเขาต้องย้ายถิ่นฐานอยู่บ่อย ๆ แต่สิ่งที่ติดตัวเขาไปทุกที่คือความรักที่มีต่อฟุตบอล เนื่องจากพ่อของเขาเป็นนักเตะของทีมกองทัพ และพ่อของเขาก็ปลูกฝังสุนิลมาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ แล้ว 

"พ่อของผมเป็นนักฟุตบอล แม่ของผมเป็นคนชอบดูฟุตบอล ทั้งคู่สนับสนุนให้ผมแสดงออกกับกีฬาชนิดนี้ตั้งแต่จำความได้" สุนิล กล่าว

"ผมถูกเลี้ยงดูมาในแบบของทหาร เรามีกีฬาให้เลือกเล่นมากมาย แต่ฟุตบอลช่วยให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้น มันทำให้ผมแข็งแรง ได้เจอกับผู้คน และได้พัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม ผมเล่นฟุตบอลจนอายุ 16 ปีก็ได้ไปอยู่กับสโมสรแรกในชีวิตชื่อว่า ซิตี้ คลับ เป็นทีมท้องถิ่นในกรุงเดลี ผมเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังตั้งแต่นั้นมา" 

สุนิลเป็นดาวประจำทีม ซิตี้ คลับ ดังนั้นการไปแข่งขันตามที่ต่าง ๆ ทำให้เขาถูกทีมเก่าแก่และมีชื่อเสียงของอินเดียอย่าง โมฮัน บากัน ดึงตัวไปร่วมทีม การเดินทางของตัวเองครั้งแรกเริ่มขึ้น เขาลาครอบครัวไปใช้ชีวิตคนเดียวที่เมืองโกลกาตา และได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพฉบับแรก

"การเป็นนักเตะอาชีพของผมไม่ได้ยากเย็นอะไรนัก มันเกิดขึ้นกะทันหันมาก ผมไปทดสอบฝีเท้ากับทีมได้แค่ไม่นานพวกเขาก็ให้สัญญาอาชีพกับผม ... ผมเล่นให้กับทีมท้องถิ่นอยู่ไม่กี่เดือนก็ต้องก้าวกระโดดไปเล่นให้ทีมที่ดีที่สุดในประเทศ" 

ตอนที่สุนิลอายุ 17 ปีก็ได้เข้าใจว่าการเป็นนักฟุตบอลในประเทศอินเดียไม่ใช่เรื่องยากหากมีฝีมือ แต่สิ่งที่ยากคือการปรับตัว วัฒนธรรมการเชียร์ฟุตบอลของชาวอินเดียนั้นค่อนข้างจะดิบเถื่อนอยู่สักหน่อย ด้วยความที่เป็นลีกอาชีพและมีการจัดการที่ยังไม่ลงตัวในช่วงแรก เขาเล่าว่าในช่วงเริ่มต้นอาชีพทุกเกมเยือนเป็นเหมือนฝันร้าย อีกทั้งความคาดหวังของแฟน ๆ ของทีมตัวเองก็สูงมากเช่นกัน และมันทำให้เขาแทบจะอยากขอลากลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวเลยทีเดียว 

"เราไปเล่นเกมเยือนและเป็นฝ่ายแพ้ ผมถูกแฟนบอลด่าทอ พยายามเข้ามาทำร้าย แม้กระทั่งถ่มน้ำลายใส่ ... เราต้องหลบก้อนหินไปจนถึงห้องแต่งตัว และต้องอยู่ในนั้นตั้ง 4 ชั่วโมงกว่าจะออกจากสนามได้ ... ผมเจอแบบนี้มาตั้งแต่อายุ 17 ปี ผมได้เรียนรู้จุดต่ำสุดและสูงสุดของวงการฟุตบอล ช่วงที่เล่นให้ โมฮัน บากัน เราเป็นวีรบุรุษเมื่อเราเป็นผู้ชนะ และเราก็เป็นแค่ขยะถ้าเราเป็นผู้แพ้" สุนิล เล่าถึงการได้เรียนรู้ฟุตบอลตั้งแต่วัยหนุ่ม ... ก่อนที่เขาจะเติบโตจากจุดนั้นขึ้นมาเป็น "นักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์อินเดีย" 

 

นัมเบอร์วันแห่งอินเดีย 

สุนิลกลายเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดในประเทศตั้งแต่อายุ 20 ปี เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เขาติดทีมชาติอินเดียชุดใหญ่ ณ ขณะนั้นเขาได้รับการชื่นชมจากสื่ออินเดียว่า 

"สุนิล เชตรี เป็นแบบอย่างของนักเตะอินเดียที่เราไม่เคยเห็น เขาเริ่มเล่นจากตำแหน่งปีกซ้ายแล้วขยับขึ้นมาเป็นกองหน้า เขามีความเร็วและมีทักษะที่ยอดเยี่ยม เหนือสิ่งอื่นใดคือคุณแทบไม่เคยเห็นนักฟุตบอลอินเดียในยุคนั้นวิ่งสปีดระยะกว่า 80 หลาผ่านผู้เล่นฝั่งตรงข้าม 6-7 เพื่อหาโอกาสยิงประตูหรอก" สตีเฟน คอนสแตนติน อดีตกุนซือทีมชาติอินเดีย พูดถึงเชตรี 

สุนิล เชตรี ประสบความสำเร็จในลีกอินเดียตั้งแต่ยังหนุ่ม เขามีผลงานดีกับทุกทีมที่เคยค้าแข้ง ก่อนที่จะได้ไปเล่นในอเมริกากับ แคนซัส ซิตี้ วิซาร์ดส์ ในช่วงปี 2010 ต่อด้วยการไปเล่นในโปรตุเกสกับ สปอร์ติง ลิสบอน บี จากนั้นเขาจึงไปเล่นในลีกอินเดียเรื่อยมา โดยเฉพาะยุคที่มีการสร้างลีกอาชีพที่ชื่อว่า อินเดียน ซูเปอร์ลีก ที่นำเอาสตาร์ระดับโลกอย่าง โรแบร์โต้ คาร์ลอส, นิโกลาส์ อเนลก้า และ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ มาค้าแข้งในอินเดีย ตอนนั้น สุนิล เชตรี ก็ยังยิงประตูได้มากกว่านักเตะทั้งหมดที่เรากล่าวมา 

แม้ในประเทศจะยกย่องแค่ไหนแต่ความจริงคือฟุตบอลของอินเดียยังมีมาตรฐานที่ต่ำ สุนิลจึงไม่ได้โด่งดังในระดับนานาชาติมากนัก แต่สำหรับชาวอินเดีย ทุก ๆ ปีที่ผ่านไปชื่อของ สุนิล เชตรี ยิ่งแจ่มชัดในความทรงจำพวกเขามากขึ้น เขาไม่ใช่แค่นักฟุตบอลที่เก่งแต่ยังเป็นนักฟุตบอลที่สร้างแรงบันดาลใจและทำให้เยาวชนรุ่นใหม่ของอินเดียหันมาเล่นฟุตบอลกันมากขึ้นอีกด้วย 

สุนิลรับรู้ถึงความคาดหวังที่มีต่อตัวเขา และนั่นทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ยังคงลงเล่นจนถึงทุกวันนี้ด้วยมาตรฐานที่สูงมาตลอด สำหรับเขามันคือการสร้างมาตรฐานเพื่อให้เยาวชนเห็นว่า แม้กระทั่ง สุนิล เชตรี ที่ยิงประตูในระดับทีมชาติเป็นรองแค่ยอดนักเตะอย่าง โรนัลโด้ และ เมสซี่ ก็ยังไม่เก่งพอที่จะไปค้าแข้งในต่างประเทศ ดังนั้นหากวงการฟุตบอลอินเดียจะก้าวหน้ามากกว่านี้ เด็กรุ่นใหม่ต้องทำผลงานให้แซงฮีโร่อย่างเขาไปให้ได้ 

"ผมอ่านเรื่องราวต่าง ๆ เยอะมาก ผมพยายามหาความรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ เมื่อคุณดูนักกีฬาระดับโลกคุณจะเห็นความน่าทึ่งที่เกิดขึ้นทุกวัน การเรียนรู้ช่วยผมได้มาก มันทำให้ผมมีความสามารถและความเข้าใจมากขึ้น โลกนี้มีคำตอบที่น่าเหลือเชื่อ และเราต้องเป็นผู้หาคำตอบที่เหมาะกับตัวเราที่สุด"

"ผมพยายามพัฒนาตัวเองในทุก ๆ วัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอาชีพอย่างผมมันสำคัญมาก ถ้าหยุดนิ่งก็จบแค่นั้น เราจะไม่สามารถรักษาอะไรไว้ได้เลย ผมทำในหลาย ๆ สิ่งทั้งการวางแผนเรื่องการนอนหลับ การควบคุมอาหาร การมีสมาธิในทุกขณะจิต และพยายามทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้วอยู่ตลอด ... วิธีนี้ได้ผลสำหรับผมนะ" สุนิล กล่าว

"ทุกอย่างที่ทำเต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า ผมอยากทุ่มเททุกอย่างที่มีให้กับประเทศอินเดีย สโมสรของผม และกีฬาฟุตบอล ... นี่แหละเหตุผลที่ผมทำงานหนักเสมอ" 

ด้วยมาตรฐานของลีกอินเดียและคู่แข่งของทีมชาติอินเดียที่ สุนิล เชตรี ต้องเจอ มันทำให้เขารู้ตัวว่าตัวเองไม่ใช่นักเตะที่เก่งกาจอะไรนักหากคุณเอาเขาไปเปรียบเทียบกับนักเตะในลีกใหญ่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สื่อชอบนำเสนอว่าเขาคือคนแค่ไม่กี่คนที่ยิงประตูในนามทีมชาติได้สูสีกับ โรนัลโด้ และ เมสซี่ เขารู้เรื่องนั้นดี 94 ประตูของเขา จาก 151 เกมในทีมชาติอินเดียอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่า แต่อย่างน้อยเขาก็ดีใจที่มีใครพูดถึงเขาพร้อม ๆ กับ 2 นักเตะที่ดีที่สุดในโลก

"ผมไม่เคยรำคาญการถูกเอาไปเปรียบเทียบ มันเป็นแค่ความคิดเห็นของคนอื่น ๆ แต่ถ้าคุณอยากจะฟังจากปากผม ผมจะตอบให้ว่าผมเองไม่เคยเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับนักเตะอย่างเมสซี่ หรือผู้เล่นคนอื่น ๆ เลย ... ความจริงก็คือมีนักเตะหลายพันคนบนโลกนี้ที่เก่งกว่าผม" สุนิล กล่าว

ตอนนี้ฟุตบอลขยับก้าวขึ้นมาได้รับความนิยมมากขึ้นแล้วในอินเดีย และการมีอยู่ของ สุนิล เชตรี ก็สร้างผลกระทบอย่างมากต่อเรื่องนี้ การที่เราได้เห็นนักเตะสักคนที่มีความหลงใหล มีทัศนคติที่ดี มีการวางตัวให้เหมาะกับภาระหน้าที่ และเหนือสิ่งอื่นใดคือการคิดอย่างทะเยอทะยานที่ต้องการจะเป็นคนที่เก่งขึ้นในทุกวัน นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ สุนิล เชตรี ได้มอบให้กับวงการฟุตบอลอินเดีย ตั้งแต่ตอนที่เขาอายุ 17 ปีมาจนถึงทุกวันนี้อย่างแท้จริง 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

โกลกาตา ดาร์บี้ : อริลูกหนังแดนภารตะ ที่ดุเดือดราวสงคราม เพราะความชังตั้งแต่รากเหง้า

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.wionews.com/sports/captain-fantastic-fifa-honours-indian-football-legend-sunil-chhetri-with-docuseries-on-his-career-520548
https://www.firstpost.com/sports/football-news/fifa-releases-captain-fantastic-on-sunil-chhetris-untold-story-of-tremendous-feats-11346541.html
https://www.hindustantimes.com/sports/football/fifa-pays-tribute-to-india-legend-sunil-chhetri-with-three-part-series-you-know-about-cristiano-ronaldo-and-lionel-messi-now-get-101664351223506.html
https://vocal.media/cleats/the-inspirational-story-of-sunil-chhetri
https://en.wikipedia.org/wiki/Sunil_Chhetri
https://www.newindianexpress.com/sport/football/2020/may/09/interview--need-to-get-priorities-right-and-do-whatever-it-takes-to-ensure-safety-chhetri-2141101.html
https://iftwc.com/the-legacy-of-sunil-chhetri/

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ