อิตาลี ไม่เคยพลาดการไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาตลอด 60 ปี จนกระทั่งพวกเขาได้ลิ้มรสความผิดหวังในฟุตบอลโลก 2022 ทั้ง ๆ ที่ 1 ปีก่อนหน้านั้นพวกเขาเพิ่งยืนยันว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดในยุโรปด้วยแชมป์ยูโร 2020
ความผิดหวังครั้งนี้ทำให้กุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ แทบถอดใจ เขาเตรียมจะลาออกแล้วด้วยซ้ำ แต่แล้วการเข้าประชุมกับบอร์ดบริหารเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็เปลี่ยนใจมันชินี่ได้
จากคนที่ตั้งใจจะเลิกคุมทีมชาติแล้วกลับไปรับงานคุมสโมสร มันชินี่พร้อมใช้เวลาอีก 4 ปีที่เหลือตามสัญญาเพื่อเป้าหมายที่เขาอยากจะทำให้ได้มากที่สุดนั่นคือการพิชิตแชมป์โลกด้วยทีมของเขา
จากทีมที่น่าผิดหวัง อิตาลีและมันชินี่มีแนวทางสำหรับฟุตบอลโลก 2026 ที่หวังกันถึงแชมป์อย่างไร ? ติดตามได้ที่นี่กับ Main Stand
เมาความสำเร็จ ?
หลังจากคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2020 อิตาลีที่นำทัพโดยกุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ ก็เริ่มเปลี่ยนไป เดิมทีพวกเขามีนักเตะหนุ่มฝีเท้าดีในทีมชุดแชมป์ยุโรปหลายคน นิโคโล บาเรลล่า, เฟเดริโก เคียซ่า และ มานูเอล โลคาเตลลี่ ที่ต่างเป็นคนหนุ่มที่แจ้งเกิดในยูโร 2020 ทั้งสิ้น
ด้วยเหตุผลนี้ใคร ๆ ต่างก็คิดว่าอิตาลีน่าจะสานต่อความยิ่งใหญ่และพาทีมไปลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 5 ในฟุตบอลโลก 2022 ได้ แต่ความจริงคืออิตาลีกลับล้มเหลวทุกอย่างไม่ว่าจะด้วยวิธีการเล่น ทัศนคติ และผลลัพธ์ จนพวกเขาตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 แบบช็อคโลก ด้วยเหตุผลมากมายหลายประการ
หลังจากคว้าแชมป์ยุโรป อิตาลีกลับมาเป็นทีมที่พวกเขาเคยโดนแซวอยู่บ่อย ๆ จากประโยคที่ว่า "อิตาลีเป็นตัวเต็งของทุกทัวร์นาเมนต์ ... ถ้าพวกเขาผ่านรอบคัดเลือกมาได้นะ" อีกครั้ง เพราะเมื่อต้องมาเล่นรอบคัดเลือก นักเตะของพวกเขาก็ไม่สามารถทำในสิ่งที่แสดงออกมาในยูโร 2020 ได้ พวกเขาดรอปความฉูดฉาดในแง่ของแทคติกที่มีวิธีการเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ, พวกเขาไม่ได้ปลุกใจ ไม่ได้วิ่งสู้ฟัดเหมือนในทัวร์นาเมนต์ใหญ่, สภาพจิตใจของพวกเขาก็ย่ำแย่จากฟอร์มที่เริ่มถดถอย นำไปสู่การเกิดข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ส่งผลมหาศาลในตอนจบของเรื่อง
"ระดับความสงบและระดับของความเด็ดขาดของทั้งสองทีม (ชุดแชมป์ยุโรป - ชุดตกรอบฟุตบอลโลก) ใน 90 นาทีมันเทียบกันไม่ได้เลยแม้แต่น้อย" โรแบร์โต้ บาจโจ้ กล่าวอย่างจบความ
มีการคาดเดากันว่าพวกเขากำลังเจอกับสิ่งที่ "แชมเปี้ยน" ทุกคนทุกวงการบนโลกนี้เคยเจอ เมื่อไปถึงจุดที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ ความเข้มข้นและความจริงจังจะลดน้อยถอยลงสวนทางกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น และนั่นทำให้พวกเขาเสียสมดุลที่เคยควบคุมได้ทั้ง 2 สิ่งไปเรียบร้อยแล้ว
"เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว (คว้าแชมป์ยูโร 2020) คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมเคยเจอมา ส่วนครั้งนี้คือสิ่งที่น่าผิดหวังที่สุด" มันชินี่ กล่าว
"การจะให้ความเห็นกับเกมนี้เป็นไปได้ยาก เพราะประตูเกิดขึ้นหลังจากนาทีที่ 90 ทีมชุดนี้เป็นทีมที่เต็มไปด้วยผู้เล่นชั้นยอดมากมาย ผมต้องขอโทษจริง ๆ เพราะเราไม่สมควรจะเจอกับอะไรแบบนี้เลย"
แม้แต่มันชินี่ที่มีคาแร็กเตอร์สุขุมเยือกเย็นก็ยังส่งแววตาที่แสดงถึงความผิดหวังอย่างชัดเจน ... เขายอมรับภายหลังว่าเขาคิดจะลาออกทันทีหลังจากพลาดการคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลก
ทว่าสุดท้าย 1 เดือนต่อมาหลังจากวันที่พวกเขาแพ้ นอร์ทมาซิโดเนีย 0-1 (เกมที่ตกรอบ) มันชินี่ก็กลับมาประกาศว่าเขาจะสร้างทีมอิตาลีต่อไป โดยเป้าหมายของเขาคือการแก้ตัวจากความผิดหวังครั้งนี้ และคว้าแชมป์โลกในปี 2026 ให้ได้
ซ่อมแซมอัซซูรี่
มันชินี่เกือบจะถอดใจอยู่แล้ว แต่การประชุมกับบอร์ดบริหารของอิตาลีทำให้เขาเปลี่ยนใจ เขาพบว่าตนเองยังคงได้รับการสนับสนุนจากสมาพันธ์เป็นอย่างดี และสุดท้ายพวกเขาลงความเห็นตรงกันว่าจะช่วยกันพัฒนาจุดอ่อนในช่วงเวลาหลังจากนี้ เพื่อเป้าหมายที่ตั้งไว้คือแชมป์โลกสมัยที่ 5 ในปี 2026
"เราจะคิดอย่างรอบคอบว่าเรายังต้องพัฒนาจุดไหนอีกบ้างเพื่ออนาคต ผมยังหนุ่ม ผมต้องการคว้าแชมป์ยูโรและแชมป์โลก ผมยังมีเวลาที่จะคว้าแชมป์โลกอยู่"
"ผมชอบงานของผม ผมรู้ว่าผมยังสนุกกับงานนี้ได้อีกมากพร้อมกับกลุ่มนักเตะที่ผมจะสร้างขึ้นมาใหม่" โรแบร์โต้ มันชินี่ กล่าว
มันชินี่เล่าว่าเขาพยายามลบภาพลักษณ์ของอิตาลีจากคำแซวที่ว่า "อิตาลีเป็นตัวเต็งของทุกทัวร์นาเมนต์ ... ถ้าพวกเขาผ่านรอบคัดเลือกมาได้นะ" โดยเขาเชื่อว่าทีมของเขาต้องมีการหมุนเวียนและให้โอกาสนักเตะที่เป็นสายเลือดใหม่มากกว่านี้ เพราะการเติมความหนุ่มลงไปในทีมจะทำให้ทีมมีความดุดันฮึกเหิมและทำให้การกระหายความสำเร็จในทีมเพิ่มมากขึ้น
"ทีมนี้จะพัฒนาได้อย่างไร ? ... เราจะรวมเด็ก ๆ ที่อายุน้อยกว่าด้วยความหวังว่าพวกเขาจะมีประสบการณ์ที่สำคัญกับสโมสร เพราะนั่นเป็นพื้นฐาน" มันชินี่ กล่าวต่อ "เราจะทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้"
"เราสามารถดูศักยภาพของผู้เล่นอายุน้อยได้ ทีมปัจจุบันสามารถชนะการแข่งขันฟุตบอลโลกได้ มีหลายสิ่งที่เราต้องดูและวิเคราะห์เพิ่มเติม แน่นอนเราจะเปลี่ยนแปลงบางอย่าง และเราต้องดูไปถึงฟุตบอลยูโรในอีก 2 ปี และเตรียมทีมให้ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก นี่คืองานของเรา"
เรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นความรับผิดชอบของมันชินี่คนเดียวเท่านั้น เขาแชร์ความเห็นกับ กาเบรียลเล กราวิน่า ประธานสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี หรือ FIGC ซึ่งแนวคิดดังกล่าวก็นำไปสู่การสร้างกฎใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการเตรียมทีมของมันชินี่ในการล่าแชมป์โลก 2026
โดยกราวิน่ายืนยันว่าจากนี้เขาจะปรับกฎเล็กน้อยในฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา โดยจะเริ่มใช้ระบบเพลย์ออฟตัดสินแชมป์ในกรณีแต้มเท่ากันเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของการแข่งขันและทำให้นักเตะตื่นตัวและอยู่บนเกมที่มีเดิมพันสูงมากขึ้น นอกจากนี้พวกเขายังเตรียมให้ทุกสโมสรในลีกอิตาลีแบ่งเวลาการลงสนามให้กับนักเตะดาวรุ่งหรือนักเตะอายุน้อย ๆ ที่มีสัญชาติอิตาลีมากขึ้น เพราะพวกเขาเชื่อว่ายิ่งมีประสบการณ์มากในช่วงที่ยังอายุน้อย นักเตะเหล่านั้นก็จะยิ่งมีความเข้าใจเกมและมีทัศนคติในสนามที่ดีมากกว่าเดิม
ฝ่ายบริหารวางนโยบาย ฝ่ายปฏิบัติก็เรียกสติสตังกลับมาตั้งใจทำงานเพื่อแก้ไขความผิดพลาดอีกครั้ง ... นี่แหละคือจุดเริ่มต้นและเหตุผลที่มันชินี่เลือกคุมทีมชาติอิตาลีต่อไป ทั้ง ๆ ที่หลังจากฟุตบอลยูโร 2020 จบลง เขาจะมีชื่อเป็นแคนดิเดตกุนซือของสโมสรชื่อดังมากมายหลายทีมก็ตาม
4 ปีสร้างและส่งต่อ
แนวคิดที่มันชินี่ต้องการทำให้ได้คือการสร้างทีมใหม่อีกครั้ง ต้องยอมรับว่าเบื้องหลังการเป็นแชมป์ยุโรปของพวกเขานั้นการจับคู่กันระหว่าง เลโอนาร์โด โบนุชชี่ และ จอร์โจ คิเอลลินี่ มีผลกับทีมอย่างมาก แต่ตอนนี้คิเอลลินี่ประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปแล้ว ขณะที่โบนุชชี่ก็อายุ 35 ปีแล้ว ... พวกเขาต้องสร้างแนวรับที่เป็นหัวใจของอิตาลีทุกยุคทุกสมัยขึ้นมาใหม่
ขณะที่ส่วนอื่น ๆ โดยเฉพาะแนวรุกนั้นก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ ฮีโร่ในยูโร 2020 เลยจุดพีกและย้ายไปค้าแข้งในสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว, อันเดรีย เบลล็อตติ ก็หมดฟอร์มอย่างน่าใจหาย ขณะที่ ชิโร อิมโมบิเล่ กองหน้าเบอร์ 1 ของทีมก็ก้าวเข้าสู่วัย 33 ปี
ดังนั้นทีมชุดปัจจุบันของอิตาลีจึงกลายร่างเป็นทีมคนหนุ่มเต็มรูปแบบ มันชินี่ใช้งานนักเตะที่อายุมากกว่า 30 ปีแค่ โบนุชชี่, ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี (34 ปี) ในแนวรับ, จอร์จินโญ่ (30 ปี) ในแดนกลาง และ มาโนโล กับเบียดินี่ (30 ปี) ในแนวรุก รวมแล้วแค่ 4 คนเท่านั้น
นอกจากนี้ในทีมยังมีนักเตะอายุต่ำกว่า 26 ปี (ฟุตบอลโลก 2026 ในอีก 4 ปีต่อจากนี้พวกเขาก็จะอายุไม่เกิน 30 ปี) ถึง 16 คน โดยนักเตะที่อายุน้อยที่สุดคือ วิลฟรีด ยอนโต้ จากลีดส์ ที่มีอายุ 18 ปี ทั้งหมดนี้คือแนวทางการสร้างทีมที่เห็นภาพชัดมากขึ้นว่าอิตาลีมีทิศทางไปทางไหน
ในแง่ของวิธีการนั้นไม่เปลี่ยนแปลง อิตาลียุคมันชินี่ยังคงเชื่อมั่นในฟุตบอลแบบเดียวกับที่พวกเขาใช้ในยูโร 2020 กล่าวให้เห็นภาพก็คือ โมเดิร์นฟุตบอลที่เล่นเกมรับกันทั้งทีมและเล่นเกมรุกกันทั้งทีม ใช้การสร้างโอกาสด้วยการเข้าทำที่น้อยจังหวะ (ไดเร็กต์) และมีวินัยในเกมรับอย่างสุดขีด
สิ่งนี้ถูกเติมไปด้วยคนหนุ่ม แม้ว่าท้ายที่สุดจะมีปัญหาเรื่องความสม่ำเสมอบ้าง แต่หลังจากตกรอบฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก อิตาลีก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นทีมที่สดใหม่อย่างชัดเจน พวกเขาลงเล่นเกม ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก A ด้วยการคว้าแชมป์กลุ่ม 3 เข้าสู่รอบชิงแชมป์โดยแพ้เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น (แพ้เกมเยือน เยอรมัน 2-5) และมันชินี่บอกว่าตอนนี้พวกเขาได้ลืมความผิดหวังและพร้อมไปในเส้นทางต่อไปแล้ว
มันชินี่ยืนกรานส่งท้ายว่าเขาจะทุ่มทุกอย่างที่เขามีหลังจากนี้เพื่อไม่ให้เขาเสียดายโอกาสที่ได้รับ เพราะสัญญาของเขาจะหมดลงหลังจากฟุตบอลโลก 2026 จบลงพอดี และเขาตัดสินใจแล้วว่าหลังจากจบฟุตบอลโลกครั้งนั้นเขาจะกลับไปทำทีมระดับสโมสรอีกครั้ง โดยระหว่างการให้สัมภาษณ์เขาได้พูดถึงชื่อกุนซือจอมเก๋าชาวอิตาเลียนอย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ ในฐานะคนที่เหมาะสมจะมารับตำแหน่งนายใหญ่ทีมชาติอิตาลีต่อจากเขา
ซึ่งเรื่องนี้มันสอดคล้องกับที่อันเชล็อตติได้ยืนยันถึงอนาคตของเขาเช่นกัน โดย อันเช่ ที่เป็นกุนซือของ เรอัล มาดริด และมีสัญญาถึงปี 2024 ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า "ผมจะรีไทร์หลังจากงานที่ เรอัล มาดริด จบลง สโมสรนี้อยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลกฟุตบอล มันสมเหตุสมผลที่ผมจะลงจากตำแหน่งพร้อมประสบการณ์เหล่านี้"
ดังนั้นหากมองตามชื่อและสิ่งที่ มันโช่ และ อันเช่ บอกคือ อิตาลีจะสร้างทีมยุคใหม่เพื่อฟุตบอลโลก 2026 นักเตะหนุ่มจะถูกเติมประสบการณ์ในเกมระดับชาติ จุดนี้เป็นงานของมันชินี่ที่จะมาซ่อมและสร้าง หลังจากนั้นอันเชล็อตติที่เชี่ยวชาญเรื่องการทำทีมที่มีคุณสมบัติดีพอจะเป็นแชมป์จะเป็นผู้พาทีมวิ่งไปจนถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เหมือนกับที่เขาปลุกชีพ เรอัล มาดริด จนกลับมาคว้าแชมป์ยุโรปได้อีกครั้ง
ย้อนกลับมาที่มันชินี่ เรียกได้ว่าทีมชุดนี้คือ The Last Dance ของเขาในฐานะกุนซือทีมชาติอิตาลีก็คงไม่ผิดนัก ... นั่นยิ่งทำให้เป้าหมายของทีมชาติอิตาลีหลังจากนี้น่าสนใจไปอีกหลายเท่าเลยทีเดียว
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เมาความสำเร็จ : เหตุผลที่อิตาลีล้มเหลวฟุตบอลโลก ทั้งที่เพิ่งคว้าแชมป์ยูโร | Main Stand
แหล่งอ้างอิง
https://www.marca.com/en/world-cup/2022/03/28/62422039e2704e159a8b4592.html
https://www.marca.com/en/football/international-football/2022/06/03/6299cdb846163f025c8b45da.html
https://football-italia.net/how-italys-line-up-will-change-after-world-cup-failure/
https://football-italia.net/th/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C-2022/
https://en.wikipedia.org/wiki/Italy_national_football_team
https://football-italia.net/nations-league-brings-added-cash-to-italy/