Feature

หลี่ เถีย : การเปิดตลาดนักเตะจีนของเอฟเวอร์ตันที่ประสบความสำเร็จเกินคาด | Main Stand

เมื่อพูดถึงตลาดนานาชาติที่ทีมฟุตบอลยุโรปน่ากระโดดเข้ามาสร้างฐานแฟนคลับ ประเทศจีน ย่อมเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าน่าสนใจ ทั้งจากเศรษฐกิจของประเทศและจำนวนประชากรที่หมายถึงเม็ดเงินมหาศาล

 


ย้อนกลับไปยัง 20 ปีก่อน มีสโมสรจากอังกฤษแห่งหนึ่งตัดสินใจคว้าตัวนักเตะจีนเพื่อเปิดตลาดในแดนมังกร … ที่น่าสนใจคือทีมที่ตัดสินใจทำแบบนั้นไม่ใช่ทีมใหญ่ที่ไหน แต่เป็น เอฟเวอร์ตัน ที่มองเห็นทางลัดตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่มีทีมฟุตบอลทีมไหนเคยทำได้

Main Stand ขอนำเสนอเรื่องราวของ หลี่ เถีย นักเตะชาวจีน ที่ย้ายสู่กูดิสัน พาร์ค ด้วยเรื่องการตลาด แต่เรื่องกลับตารปัตรเมื่อเจ้าตัวดันเล่นพรีเมียร์ลีกได้จริง จนถูกทีมดังแห่งเมืองลิเวอร์พูลซื้อขาด และยังคงเป็นนักเตะที่ถูกจดจำโดยแฟนบอลเอฟเวอร์ตันตราบจนทุกวันนี้

 

รู้จักเบ็คแฮมแห่งแดนมังกร

ย้อนกลับไปยังช่วงซัมเมอร์ปี 2002 ไม่มีความเคลื่อนไหวใดในวงการลูกหนังที่จะได้รับความสนใจมากไปกว่า ฟุตบอลโลก 2002 ทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเลือกจัดการแข่งขันที่ทวีปเอเชียเป็นครั้งแรก ส่งผลให้ทีมเจ้าภาพอย่าง ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ต่างได้รับการจับตาจากคนทั่วโลกเป็นพิเศษ

แต่สำหรับแฟนบอลเอฟเวอร์ตัน นักเตะเอเชียที่พวกเขาให้ความสนใจมากที่สุดกลับเป็น หลี่ เถีย ซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของทีมชาติจีนในเวลานั้น 

หลังเจ้าตัวถือเป็นหนึ่งในทีมเยาวชนชุดมหัศจรรย์ที่เคยถูกส่งไปฝึกฝนวิชาฟุตบอลถึงประเทศบราซิลเป็นเวลา 3 ปี โดย หลี่ เถีย คือนักเตะที่มีพรสวรรค์มากที่สุดจนได้รับเลือกเป็นกัปตันของทีมเยาวชนจีนชุดนั้น

เมื่อเดินทางกลับสู่บ้านเกิด หลี่ เถีย กลายเป็นหัวใจสำคัญของ เหลียวหนิง เอฟซี ในทันที เมื่อบวกกับความจริงที่ลีกฟุตบอลจีนเพิ่งก้าวสู่ระบบอาชีพได้ไม่ถึงสิบปี จึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่ หลี่ เถีย จะก้าวเป็นดาวดังของการแข่งขัน และแสดงฝีเท้าได้ทัดเทียบกับนักเตะต่างชาติหลายสิบคนที่ค้าแข้งอยู่ในลีก

นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ หลี่ เถีย มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมาก จนถึงกับก้าวไปเป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์น้ำอัดลม, โทรศัพท์มือถือ หรือแม้กระทั่งผลิตภัณฑ์กำจัดขน 

นั่นจึงทำให้ใบหน้าของนักเตะรายนี้ปรากฏไปทั่วป้ายโฆษณาของประเทศจีน แถมยังมีการวางขายหนังสือชีวประวัติที่มียอดขายมากกว่าหนึ่งแสนเล่ม ทั้งที่เจ้าตัวยังไม่ได้แสดงฝีเท้าบนเวทีฟุตบอลโลกเลยด้วยซ้ำ

"คุณสามารถหานักเตะเข้ามาแทนที่ เฮา ไฮดง หรือ ฟาน ซิยี่ ได้ แต่คุณไม่มีทางหาใครมาแทน หลี่ เถีย เขาคือนักเตะระดับโลกตัวจริง แม้อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอังกฤษสักหน่อยก็ตาม" โบร่า มิลูติโนวิช อดีตกุนซือทีมชาติจีน ที่พาทีมไปลุยฟุตบอลโลก 2002 กล่าวชื่นชมซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของทีม

หลี่ เถีย จึงได้รับการพูดถึงอย่างแพร่หลายในฐานะ "เดวิด เบ็คแฮม แห่งประเทศจีน" และด้วยความโด่งดังขนาดนี้ ทางฝั่งจีนเองก็อยากส่งนักเตะหมายเลขหนึ่งของประเทศออกไปพิสูจน์ฝีเท้าบนลีกฟุตบอลหมายเลขหนึ่งของโลกเช่นกัน 

นำมาสู่ดีลย้ายทีมที่ชวนงุนงงแต่ประสบความสำเร็จมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของเอฟเวอร์ตัน เมื่อ หลี่ เถีย ก้าวมาเป็นสมาชิกใหม่ที่กูดิสัน พาร์ค โดยที่เอฟเวอร์ตันไม่ต้องเสียเงินสักบาท แถมยังรับทรัพย์เข้ากระเป๋าเพิ่มอีกต่างหาก...

 

สปอนเซอร์ดัน ดีลมหัศจรรย์ก็เกิด

ขณะที่ หลี่ เถีย กำลังสร้างชื่ออยู่ในประเทศ จีนได้ส่งสองนักเตะชื่อดังมาหาประสบการณ์บนเวทีพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ปี 1998 นั่นคือ ซุน จีไห่ และ ฟาน ซิยี่ กับสโมสรคริสตัล พาเลซ 

ถึงแม้นักเตะทั้งสองจะไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรมากนัก แต่เกมแรกที่พวกเขาลงเล่นให้กับทีมดังแห่งกรุงลอนดอน ชาวจีนที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลกต่างพร้อมใจกันเปิดทีวีดูเกมดังกล่าวเป็นจำนวนเกือบหนึ่งพันล้านคน

ความสำเร็จในคราวนั้นส่งผลให้ทีมระดับล่างในพรีเมียร์ลีกต่างตาลุกวาว เพราะพวกเขารู้ได้ทันทีว่ามีเงินมากมายไหลเวียนในตลาดฟุตบอลจีน รอแค่ให้พวกเขาเปิดประตูเข้าไปเท่านั้น 

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทีมฟุตบอลจากอังกฤษจะเข้าไปทำตลาดที่จีนได้ทันที เนื่องจากเวลานั้นพวกเขามีความรู้เกี่ยวกับโลกตะวันออกน้อยมาก แถมยังมีรัฐบาลจีนคอยขัดแข้งขัดขา ส่งผลให้กระแสเดียวที่ต่อยอดจากคู่หูจีนในคริสตัล พาเลซ คือธุรกิจเสื้อบอลปลอมที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

ท่ามกลางเครื่องหมายคำถามในการเจาะตลาดจีน เอฟเวอร์ตัน กลายเป็นทีมแรกที่ค้นพบคำตอบอันถูกต้อง เมื่อพวกเขาตัดสินใจจับมือเป็นพันธมิตรกับ Keijan บริษัทโทรคมนาคมของจีนที่จะเข้ามาเป็นสปอนเซอร์คาดหน้าอกของทีมเป็นเวลา 2 ปี โดยเอฟเวอร์ตันจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน 2 ล้านปอนด์ แต่นั่นถือเป็นกำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้นหากเทียบกับสิ่งที่เอฟเวอร์ตันจะได้รับจากเงื่อนไขอีกข้อที่ตกลงกันไว้

เงื่อนไขดังกล่าวคือเอฟเวอร์ตันจะต้องเปิดโอกาสให้ หลี่ เถีย และ หลี่ เว่ยเฟิง นักเตะทีมชาติจีนอีกรายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมด้วยสัญญายืมตัวเป็นเวลาหนึ่งปี ซึ่งแน่นอนว่าทันทีที่เรื่องนี้ปรากฏเป็นข่าวออกมา แฟนบอลเอฟเวอร์ตันย่อมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการย้ายทีมครั้งนี้ 

เพราะทุกคนย่อมเห็นอย่างชัดเจนว่าทางสปอนเซอร์จีนใช้สองนักเตะเป็นหนึ่งในข้อต่อรองในการเปิดโอกาสให้สโมสรต่างชาติเข้ามาจับมือกับธุรกิจจีน พูดง่าย ๆ คือหากทีมไหนต้องการเข้ามาเปิดตลาดในจีนก็ต้องพร้อมจะรับนักเตะจีนไปใช้งานด้วย

เอฟเวอร์ตันแสดงออกอย่างชัดเจนว่าพวกเขาพร้อมที่จะเสี่ยงกับข้อกำหนดที่สปอนเซอร์จีนกำหนดไว้ โดยในงานแถลงข่าวที่สโมสรตกลงเป็นพันธมิตรกับ Keijan เอฟเวอร์ตันประกาศอย่างชัดเจนว่าพวกเขามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะกลายเป็นทีมแรกที่ก้าวมาจับมือกับธุรกิจชั้นนำของจีน 

แถมยังพูดอย่างตรงไปตรงมาด้วยว่า นี่คือความร่วมมือที่จะขยายฐานแฟนคลับของสโมสรในประเทศจีนให้เติบโตขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เพียงเท่านี้คงเห็นได้ชัดเจนแล้วว่าเอฟเวอร์ตันเลือกดึงสองนักเตะจากประเทศจีนเข้ามาด้วยเหตุผลทางธุรกิจล้วน ๆ ไม่มีเหตุผลทางฟุตบอลผสม ส่งผลให้แฟนบอลส่วนใหญ่ไม่เคยตั้งความคาดหวังในตัว หลี่ เถีย เลยแม้แต่น้อย 

ก่อนที่กองกลางชาวจีนได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของเขาในถิ่นกูดิสัน พาร์ค ด้วยการยึดตำแหน่งตัวจริงในทีม แถมยังได้ย้ายขาดเป็นสมาชิกถาวรของสโมสรในเวลาต่อมา

 

การย้ายทีมที่ประสบความสำเร็จ ? 

เหตุผลหลักที่ หลี่ เถีย ประสบความสำเร็จในการเล่นให้กับเอฟเวอร์ตัน เป็นเพราะ เดวิด มอยส์ กุนซือใหม่ป้ายแดงของทีมในเวลานั้นตัดสินใจเดินทางไปชมทีมชาติจีนลงเล่นฟุตบอลโลกด้วยตาตัวเอง เพื่อคัดเลือกนักเตะหนึ่งคนที่เขามองเห็นว่ามีแวว และดึงตัวมาใช้งานตามสัญญาที่ตกลงกันไว้กับสปอนเซอร์ ใครคนนั้นที่มอยส์กำลังตามหาคือ หลี่ เถีย นักเตะเพียงไม่กี่คนของจีนที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในฟุตบอลโลก 2002

"ตามความเห็นของผม หลี่ เถีย คือนักเตะที่ดีที่สุดของทีมชาติจีน แม้เราจะไม่สามารถตั้งความหวังอะไรกับตัวเขาได้มากนัก แต่ผมกล้าบอกได้เลยว่าเขาเป็นนักเตะที่ดี เพียงแต่เขาต้องทำงานอย่างหนัก และต้องพัฒนาอย่างมากเพื่อจะก้าวสู่การยึดตำแหน่งตัวจริงของทีม" เดวิด มอยส์ พูดถึงกองกลางทีมชาติจีนที่เขาตั้งใจเลือกมาใช้งาน

ความต้องการของมอยส์เกือบไม่ประสบผล เพราะขณะนั้น หลี่ เถีย ดันเล่นให้กับเหลียวหนิง เอฟซี ซึ่งมีเจ้าของสโมสรเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของ Keijan ส่งผลให้ต้นสังกัดของเจ้าตัวปฏิเสธจะปล่อยนักเตะรายนี้ให้กับเอฟเวอร์ตัน นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ทีมเซ็นสัญญา หลี่ เว่ยเฟิง เข้ามาสู่ทีมก่อน เล่นเอามอยส์ถึงกับเหวอไม่น้อยในเวลานั้น

โชคดีที่ท้ายที่สุดทุกฝ่ายจัดการปัญหากันได้ลงตัว หลี่ เถีย ได้ย้ายมาเป็นส่วนหนึ่งของเอฟเวอร์ตันในฤดูกาล 2002-03 และลงเล่นให้กับต้นสังกัดใหม่ไปทั้งหมด 33 เกมในฤดูกาลดังกล่าว ก่อนจะย้ายมาร่วมทีมถาวรด้วยค่าตัว 1.2 ล้านปอนด์ในฤดูกาลถัดมา ส่วน หลี่ เว่ยเฟิง ที่มอยส์ไม่เคยต้องการมาใช้งานตั้งแต่แรกมีโอกาสลงสนามในสีเสื้อเอฟเวอร์ตันเพียง 2 เกม ก่อนถูกส่งกลับบ้านเกิดทันทีหลังจบฤดูกาล

แต่ไม่ว่า หลี่ เว่ยเฟิง จะล้มเหลวแค่ไหนบนเวทีพรีเมียร์ลีก ความสำเร็จของ หลี่ เถีย ก็ได้กลบฝังเรื่องราวของเพื่อนร่วมชาติไปจนหมด เพราะกองกลางรายนี้กลายเป็นนักเตะที่ได้รับความสนใจจากชาวจีนมากที่สุดคนหนึ่ง 

ยกตัวอย่างเกมที่เอฟเวอร์ตันพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งขณะนั้นมี ซุน จีไห่ อยู่ในทีม การปะทะของสองนักเตะจีนบนเวทีพรีเมียร์ลีกทำยอดผู้ชมในประเทศจีนมากถึง 360 ล้านคน ซึ่งถือเป็นจำนวนผู้ชมที่เยอะกว่าตอนที่ทีมชาติจีนพบกับทีมชาติบราซิลในศึกฟุตบอลโลก 2002 เสียอีก

ยิ่ง หลี่ เถีย ยึดตัวจริงในถิ่นกูดิสัน พาร์ค ได้สำเร็จ ความนิยมที่ชาวจีนมีต่อเอฟเวอร์ตันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นทวีคูณ สโมสรแห่งนี้กลายเป็นทีมฟุตบอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่ชาวจีนในเวลานั้น 

มีรายงานออกมาว่าเว็บไวต์ภาษาจีนของเอฟเวอร์ตันมีผู้เข้าชมมากกว่า 5 แสนคนต่อวัน ยิ่งไปกว่านั้น หลี่ เถีย ยังกลายเป็นเหมือนวีรบุรุษของชาติจนไม่สามารถออกไปเดินเล่นได้แม้แต่ในไชน่าทาวน์ของเมืองลิเวอร์พูล

แม้ฤดูกาลถัดมา หลี่ เถีย จะได้โอกาสลงสนามเพียง 7 นัด หลังเจ้าตัวไปพลาดเสียใบแดงแบบไม่น่าให้อภัยจนถูก เดวิด มอยส์ ดร็อปยาว ก่อนโบกมือลาเอฟเวอร์ตันในปี 2006 แต่เรื่องราวของกองกลางชาวจีนรายนี้ยังถูกจดจำเป็นอย่างดีโดยชาวจีนและแฟนบอลเอฟเวอร์ตันในประเทศอังกฤษที่ยังคงนับเขาเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ทีมอันยิ่งใหญ่ตราบจนทุกวันนี้

"ลูกสาวของผมเกิดที่อังกฤษ เมื่อผมพาเธอไปดูบอลที่เอฟเวอร์ตัน พนักงานของสโมสรยังแซวว่าเธอเป็นคนสเกาเซอร์ด้วยซ้ำ พนักงานหลายคนของสโมสรยังคงทำงานที่เอฟเวอร์ตันจนถึงปัจจุบัน พวกเขาแทบไม่เชื่อเลยว่าลูกสาวผมโตขึ้นมากขนาดไหน "

"ผมเองเคยกลับไปที่อังกฤษแล้วเจอแฟนบอลเอฟเวอร์ตันที่สนามบิน เขาบอกว่าได้ดูทุกเกมที่ผมลงเล่นให้กับทีม และจำได้แม้แต่ประตูที่ผมยิงในเกมพรีซีซั่นกับเรนเจอร์ส" 

"ผมมีความทรงจำที่ยอดเยี่ยมกับประเทศอังกฤษ และผมยังคงกลับไปที่นั่นแทบทุกปีกระทั่งทุกวันนี้" หลี่ เถีย กล่าวถึงความทรงจำดี ๆ ที่เขามีในฐานะนักเตะของเอฟเวอร์ตันอย่างเต็มภาคภูมิ

 

แหล่งอ้างอิง

https://bleacherreport.com/articles/2153437-exclusive-former-everton-midfielder-li-tie-on-his-career-and-football-in-china
https://www.irishtimes.com/sport/everton-s-li-tie-taps-into-vast-market-1.1093057
https://www.independent.ie/sport/soccer/why-li-tie-makes-chinese-crackers-about-everton-26025503.html
https://www.liverpoolecho.co.uk/sport/football/football-news/everton-transfer-target-sponsorship-chance-24554084

Author

ณัฐนันท์ จันทร์ขวาง

Love is not blind – it sees more, not less.But because it sees more, it is willing to see less.

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ