เครื่องยนต์ขัดข้อง, สภาพอากาศย่ำแย่, อุปกรณ์ชำรุดเสียหาย, ความผิดพลาดของนักบิน ฯลฯ ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ล้วนเป็นสาเหตุหลักให้เครื่องบินตก
แต่ใครจะไปเชื่อว่าลูกฟุตบอลกลม ๆ ที่พวกเราใช้เตะกันอย่างสนุกสนานนั้นจะเคยเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เจ้านกเหล็กร่วงลงจากท้องนภาสู่พื้นโลกมาก่อนแล้ว
แม้จะฟังดูเหลือเชื่อแต่ถ้าหากไปถามชายที่ชื่อว่า โรแบร์โต้ กาเบรียล ตริโก อดีตนักฟุตบอลชาวปารากวัย เขาจะตอบด้วยความมั่นใจว่า "ผมเองนี่แหล่ะ ที่เคยสอยเครื่องบินร่วงลงมาด้วยลูกฟุตบอล"
แล้วเพราะเหตุใดเจ้าลูกฟุตบอลกลม ๆ ถึงไปสร้างหายนะให้กับเครื่องบินได้ นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวในวงการฟุตบอลที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงนัก แต่ Main Stand จะเล่าให้ทุกคนได้ฟัง
คนดังในอดีต
หนึ่งในอุบัติเหตุการบินที่แปลกที่สุดในโลกที่สื่อการบินต่างประเทศหลายสำนักต่างยกให้เข้าป้ายมาเป็นที่ 1 นั่นคือกรณีของ แอโรฟลอต เที่ยวบินที่ 593 จากประเทศรัสเซีย ในปี 1994 เมื่อเครื่องบินลำดังกล่าวที่บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือรวม 75 คนต้องตกลงจากฟ้าสู่พื้นดินย่านไซบีเรีย เพราะกัปตันในเที่ยวบินนั้นนำลูกชายวัย 16 ปีของตัวเองเข้ามาลองขับเครื่องบินเล่น ๆ ในห้องนักบิน ก่อนเกิดเหตุร้ายและไม่มีผู้รอดชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนั้น
แต่ถ้าหากย้อนไปในปี 1957 หรือเมื่อ 65 ปีที่แล้ว ณ ประเทศปารากวัย หนังสือพิมพ์หลายฉบับต่างก็พาดหัวข่าวตัวโต ๆ ลงหน้าหนึ่งเล่าถึงเหตุการณ์เครื่องบินตกสุดแปลกประหลาดในใจกลางกรุงอซุนซิออน เมื่อเครื่องบินลำดังกล่าวตกลงจากฟ้าด้วยลูกฟุตบอลลูกเดียวจากฝีแข้งของนักฟุตบอลที่ชื่อว่า โรแบร์โต้ กาเบรียล ตริโก ของสโมสร เจเนอรัล เกเนส ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับแต่โดยดีว่าเขาเป็นคนทำเครื่องบินตก
แน่นอนว่าโรแบร์โต้กลายเป็นคนดังของประเทศปารากวัยไปในเวลานั้น เขาถูกสื่อเอาไมค์จ่อปากสัมภาษณ์หรือแม้กระทั่งเดินสายออกรายการทีวี อย่างไรก็ตามกระแสทุกอย่างบนโลกใบนี้ล้วนเกิดขึ้นและดับไปเหมือนคลื่นน้ำทะเลที่พัดเข้าสู่ชายฝั่งไม่รู้จบ เช่นเดียวกับชื่อของโรแบร์โต้ที่ค่อย ๆ เลื่อนหายไปจากหน้าสื่อของประเทศก่อนเรื่องเล่าของเขาจะหายไปตามกาลเวลา
ตลอดเวลาหลายทศวรรษที่เรื่องราวเครื่องบินตกด้วยลูกฟุตบอลของโรแบร์โต้ได้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ แต่แล้วในปี 2017 สำนักข่าว EFE จากประเทศสเปน ก็ได้รื้อฟื้นเรื่องราวนี้กลับมาปัดฝุ่นอีกครั้งด้วยการออกตามหาโรแบร์โต้แข้งเจ้าของเรื่องก่อนจะนำตำนานวัย 78 ปี (ในขณะนั้น) กลับมาเล่าเรื่องราวในวันวานอีกครั้ง
และแล้ว โรแบร์โต้ ก็เล่าถึงเรื่องราวในตำนานสุดเหลือเชื่อที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึงมาแสนนาน
แรงจูงใจ
คำว่ามลพิษทางเสียงในนิยามของแต่ละคนอาจจะต่างกันออกไป บ้างก็ว่าเสียงผู้คนอันอึกทึกในชุมชน บ้างก็ว่าเสียงเด็กเล็กโหวกแหวก หรือเสียงท่อมอเตอร์ไซค์เด็กแว้นอันแสนทรมาณหู แต่สำหรับนักฟุตบอลจากสโมสรเจเนอรัล เกเนส ในฤดูกาล 1956-1957 ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เครื่องบินนี่แหละคือตัวก่อความรำคาญแก่พวกเขา
เพราะทุกครั้งที่ทีมลงซ้อมและลงสนามแข่ง เครื่องบินเล็กขนาด 1 เครื่องยนต์ของ อัลเฟร์โด เลิร์ด แฟนบอลของทีมจะบินผ่านศีรษะพวกเขาตลอด เท่านั้นยังไม่พอเลิร์ดยังแกล้งนักเตะทีมรักของตนด้วยการบินลงไปต่ำ ๆ ให้เหล่านักเตะกับสตาฟโค้ชรำคาญเล่น ๆ แน่นอนว่าตัวเขาสนุกแต่นักเตะไม่สนุกด้วย
อย่างไรก็ตาม เลิร์ด ถือเป็นหนึ่งในแฟนบอลผู้โด่งดังประจำสโมสร เขาตามเชียร์ทีมรักถึงสนามแทบไม่ขาดสาย แถมยังสนิทสนมกับนักเตะในทีมหลายคนซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี โรแบร์โต้ ตริโก เป็นเพื่อนรักของเขาอีกต่างหาก และฤดูกาล 1956-1957 อันเป็นฤดูกาลแรกที่สโมสรเจเนอรัล เกเนส เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นลีกสูงสุด เลิร์ดจึงใช้ทักษะที่ตัวเองขับเครื่องบินเป็นมาเสริมสร้างความเร้าใจในการเชียร์บอลแม้ว่าตัวของนักเตะจะไม่ชอบใจนัก
"เขามักจะบินไปมาระหว่างการแข่งขันหรือตอนที่เราฝึกซ้อม เขาบินต่ำมาก และเสียงก็ดังรบกวนพวกเรามาก ๆ ผมมักตะโกนกลับไปหาเขาว่า 'อย่าทำแบบนี้อีก ไม่งั้นผมจะเตะลูกฟุตบอลอัดเครื่องบินคุณ' แต่เขาก็หัวเราะแทบตายทุกครั้งที่ผมบอกไปเพราะเขาเป็นเพื่อนของผมเอง" โรแบร์โต้ กล่าวกับ EFE อย่างจริงใจ
แม้ว่า เลิร์ด กับ โรแบร์โต้ จะรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่จากนิสัยที่ชอบบินต่ำมากเหนือสนามฟุตบอล ประกอบกับการล้อเล่นเกี่ยวกับการสอยเครื่องบินลงมา ทำให้ไม่มีใครคาดคิดว่าวันที่โรแบร์โต้จะเก็บความอดทนไว้ไม่ไหวจะมาถึง
และเขาก็ทำมันจริง ๆ !!
สอยมันลงมา !
ศึกฟุตบอล พรีเมราดิวิชั่น หรือ ลีกสูงสุดของประเทศปารากวัยฤดูกาล 1956-1957 เจเนอรัล เกเนส สโมสรเล็ก ๆ จากกรุงอซุนซิออน เมืองหลวงของประเทศ เลื่อนชั้นขึ้นมายังลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกหลังก่อตั้งสโมสรในปี 1929 แน่นอนว่าการเป็นทีมน้องใหม่ภารกิจหลักก็หนีไม่พ้นการหนีตกชั้น
ปีนั้น เจเนอรัล เกเนส ต้นสังกัดของ โรแบร์โต้ ตริโก จมบ๊วยของตารางตามสูตรเนื่องด้วยขุมกำลังที่เน้นดาวรุ่งเป็นหลัก จึงเป็นเรื่องยากในการต่อกรกับทีมยักษ์ใหญ่ ซึ่งในปี 1957 โรแบร์โต้เป็นแข้งดาวรุ่งวัย 17 ปีแต่ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมในตำแหน่งแบ็กขวาได้แล้ว โดยเขาได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องจนมาถึงเกมลีกที่เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เพรซิเดนเต ฮาเยส ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1957 ซึ่งมันจะเป็นวันที่เขาไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต
เกมวันนั้นก็เป็นเหมือนเกมวันอื่น ๆ ที่ เจเนอรัล เกเนส ต้องลงสนามแข่งขันพร้อมกับเสียงเครื่องบินของเลิร์ด แต่ไม่ทราบว่าฝั่งนักเตะทีมเยือนรู้สึกรำคาญหรือไม่ กลับกันทางฝั่งนักเตะของเจ้าบ้านรู้สึกหนวกหูสุดขีดเหมือนกับว่าพวกเขาไม่คุ้นชินกับเสียงนี้แม้ว่าเลิร์ดจะมาบินกวนประสาทเป็นประจำ
เครื่องบินเจ้าปัญหายังคงบินวนเหนือสนามแข่งตามปกติ แต่แล้ววาระสุดท้ายก็มาถึง โดยในช่วงหนึ่งของเกมขณะที่ฝั่งของ เพรซิเดนเต ฮาเยส ได้ลูกเตะมุม เลิร์ด นำเครื่องบินบินลงมาต่ำเหนือกรอบเขตโทษเพื่อก่อกวนนักเตะ แต่แล้วเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อโรแบร์โต้คว้าลูกบอลที่คู่แข่งเตะเข้ามาจากมุมธงก่อนจะเตะจุดพลุอัดขึ้นไปใส่เครื่องบินของเลิร์ดด้วยอารมณ์อันโกรธแค้น เท่ากับว่าสิ่งที่เขาเคยพูดขู่มาตลอดมันได้เกิดขึ้นจริงตามที่พูดไว้เสียที
เปรี้ยง!!
เสียงลูกฟุตบอลกระทบกับฝาครอบเครื่องยนต์ของเครื่องบินอย่างรุนแรงก่อนที่มันจะบินส่ายหนีออกไปจากสนามฟุตบอล
"ทีมคู่แข่งเตะมุมเข้ามา ผมเหลืออดแล้ว ลูกฟุตบอลลอยเข้ามาที่หน้าอกผมแล้วผมก็รีบคว้าบอลเตะอัดใส่เครื่องบินทันที ผมทำให้เขา (เลิร์ด) บินหนีออกจากสนามฟุตบอลได้ แต่ทว่าเสียงดังอึกทึกครึกโครมก็ดังต่อจากนั้นไม่นาน" โรแบร์โต้ เล่าให้สำนักข่าว EFE ฟังอย่างตั้งใจ
"สักพักการแข่งขันก็หยุดลงชั่วคราว ผมตื่นตระหนก สตาฟเข้ามาหาผมแล้วพาไปที่ม้านั่งข้างสนามก่อนให้ผมดื่มน้ำเย็น ๆ แล้วเทน้ำราดลงบนหัวของผมแล้วบอกผมว่า 'ไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นเลย นักบินสบายดี' ตอนนั้นจิตใจของผมเริ่มสงบลงบ้าง"
"ตอนที่เกมหยุดชะงัก ผู้คนในสนามต่างแห่กันออกไปดูจุดที่เครื่องบินตก มันตกที่ทุ่งหญ้าห่างจากสนามไปราว ๆ 200 เมตร ผมตกใจมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าบนเครื่องนั้นมีลูกชายของเลิร์ดโดยสารมาด้วย"
ถึงเครื่องบินจะเสียหายย่อยยับ แต่ก็เป็นเรื่องดีที่เลิร์ดกับลูกชายของเขาปลอดภัยดีและไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ
"เลิร์ดไม่ได้โกรธผมเพราะเราเป็นเพื่อนกัน และเรามักจะพูดติดตลกว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งผมจะสอยเครื่องบินเขาด้วยลูกฟุตบอล ปัญหาคือเราไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง ๆ" โรแบร์โต้ กล่าวถึงเหตุการณ์หลังจากนั้น
อย่างไรก็ตามเกมในสนามก็กลับไปแข่งกันต่อก่อนที่ เจเนอรัล เกเนส ทีมของโรแบร์โต้จะเป็นฝ่ายเปิดบ้านเอาชนะ เพรซิเดนเต ฮาเยส 2-0
ตำนานที่ถูกลืม
นักฟุตบอลระดับตำนานของประเทศปารากวัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดหลายคนคงต้องนึกถึง โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต ผู้รักษาประตูจอมยิงที่ถล่มตาข่ายคู่แข่งไปมากกว่า 67 ประตูตลอดอาชีพ หรือ ลูกัส บาร์ริออส อดีตศูนย์หน้าจอมถล่มประตูของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
แต่นอกจากที่กล่าวไปแล้ว ชื่อของ โรแบร์โต้ กาเบรียล ตริโก ก็ถูกกล่าวขานเป็นหนึ่งในตำนานนักเตะของชาติเช่นกัน แต่เป็นในฐานะแข้งผู้เคยเตะลูกฟุตบอลสอยเครื่องบินตกจากฟ้า เพราะหลังจากที่วีรกรรมนี้เผยแพร่ออกไปเขาก็กลายเป็นคนดังของประเทศทันที
อย่างไรก็ตาม โรแบร์โต้ เล่าต่อว่าหลังจากเหตุการณ์นั้น อัลเฟร์โด เลิร์ด ก็ไม่ขับเครื่องบินมาป่วนสโมสรอีกเลยโดยเปลี่ยนมาเป็นการเข้ามาเชียร์ในสนามเหมือนกับแฟนบอลคนอื่น ๆ ซึ่งตัวเขาที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ ก็เข้ามาให้กำลังใจทีมรักถึงสนามในแมตช์ต่อมาหลังวันแห่งประวัติศาสตร์นั้นทันที
"ในขณะที่ผมกำลังแข่งแมตช์ต่อมาหลังจากวันเครื่องตก มีเสียงปรบมือหนึ่งดังมาจากอัฒจันทร์ที่ชวนให้ผมต้องหันไปมอง ผมหันไปและพบว่าเป็นเลิร์ด เขาจ้องมาที่ผม ปรบมือ แล้วตะโกนว่า 'โคตรแกร่งเลยโว้ย!'" โรแบร์โต้ กล่าวปิดท้าย
หลังจบฤดูกาล 1956-1957 เจเนอรัล เกเนส จบอันดับบ๊วยของลีกจนร่วงตกชั้นไปสู่ดิวิชั่น 2 ทำให้ฤดูกาลดังกล่าวเป็นฤดูกาลแรกและฤดูกาลเดียวที่สโมสรนี้ได้เล่นในลีกสูงสุดของประเทศก่อนจะหายไปจากสารบบฟุตบอลปารากวัย
แม้ว่าปัจจุบันสโมสรจะยุบทีมไปแล้วและเหลือแค่อดีตกับความทรงจำให้กล่าวถึงเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อสำนักข่าว EFE พาตัวของ โรแบร์โต้ ตริโก กลับมายังสนามซ้อมของสโมสรเจเนอรัล เกเนส อีกครั้งเพื่อเล่าเรื่องราวอันเป็นตำนานนี้ มันก็ช่วยปลุกความทรงจำของเขาขึ้นมาอีกครั้งโดยที่โรแบร์โต้เล่าถึงเหตุการณ์ทุกอย่างออกมาเป็นฉาก ๆ ราวกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานสด ๆ ร้อน ๆ
วันเวลาล่วงเลยผ่านไป สนามซ้อมของสโมสรกลายเป็นสวนสาธารณะและลานออกกำลังกายให้กับประชาชนทั่วไป ส่วนสนามแข่งของสโมสรกลายเป็นสนามร้างที่เก่าและทรุดโทรม แต่ก็ยังหลงเหลือซากของอัฒจันทร์เล็ก ๆ พร้อมกับตราสโมสรให้โรแบร์โต้ได้คิดถึงและรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้กลับมาเยือน
แต่เชื่อเลยว่า โรแบร์โต้ ที่จะอายุ 83 ปีในปี 2022 นี้คงไม่มีวันลืมภาพที่เขาสอยเครื่องบินร่วงจากฟ้าด้วยฝีเท้าของเขาแน่ ๆ
แหล่งอ้างอิง :
https://www.abc.com.py/deportes/futbol/el-paraguayo-que-derribo-una-avioneta-de-un-pelotazo-1566738.html
https://www.odditycentral.com/news/meet-the-footballer-who-once-brought-down-a-plane-with-a-football-shot.html
https://mfeatures24.com.ng/2022/08/20/meet-roberto-gabriel-trigo-footballer-who-brought-down-a-plane-with-a-football-shot-photo/
https://en.wikipedia.org/wiki/1956_Paraguayan_Primera_Divisi%C3%B3n_season
https://www.youtube.com/watch?v=_3i3VsbBYLc