“ผมได้ตำแหน่งยอดมวยปี 2555 จากผลงานการชกที่ไม่แพ้ใครที่เวทีลุมพินี จนมีโอกาสได้บินไปชกไล่ล่าแชมป์มาเกือบทั่วทุกมุมโลก”
“ขาดก็เพียงแค่แชมป์จากเวทีมวยราชดำเนิน แต่ผมเคยมีโอกาสเข้าชิงแต่พลาดไป วันนี้ผมจึงกลับมาชกที่เวทีมาตรฐานอันดับ 1 ของไทยอีกครั้งเพื่อทำความฝันให้เป็นจริง”
นี่คือความในใจของ “ยอดวิชา ภ.บุญสิทธิ์” ยอดมวยถ้วยพระราชทาน จากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย ปี 2555 ที่กวาดเข็มขัดแชมป์และไล่ล่ารางวัลความสำเร็จในการชกมวยไทยมาแล้วทั่วโลก
มีเพียงแค่แชมป์จากเวทีมวยราชดำเนินเท่านั้นที่เขายังไม่เคยได้สัมผัส จนกระทั่งยอดวิชาได้รับข้อเสนอให้กลับมาชกบนสังเวียนอันเป็นบ้านของมวยไทยอีกครั้งในรอบ 7 ปี โดยมีรางวัลสำหรับผู้ชนะคือเข็มขัดแชมป์ ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ และเงินสด 1 ล้านบาท
ยอดวิชาจึงไม่ลังเลที่จะกลับมาสานต่อภารกิจที่เขายังทำไม่สำเร็จเมื่อ 7 ปีก่อน พร้อม ๆ กับเป็นการขีดเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการเป็นขอเป็นแชมป์รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวต คนแรกของมวยรอบ RWS
ยอดมวยตั้งแต่อายุ 16
คมสัน ทันตะขบ หรือ กอล์ฟ เกิดเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2539 ที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา หัดมวยครั้งแรกเมื่ออายุ 9 ขวบกับคุณพ่อ โดยใช้ชื่อว่า “ยอดวิชา ส.สุขสันต์ยิม”
หลังผ่านสังเวียนมาได้ 50 ไฟต์ ยอดวิชาก็สามารถคว้าแชมป์เส้นแรกมาครองได้ในรุ่น 27 กิโลกรัม ที่เวทีมวยค่ายสุรนารี โคราช พอน้ำหนักตัวเต็ม 100 ปอนด์ “ลุงโทน ท.รุ่งทิพย์” จึงพาเจ้าหนูจากปักธงชัย เข้าเมืองกรุง
“ผมมาชกที่เมืองกรุงตอนอายุประมาณ 13-14 ปี อยู่ในสังกัด ประดิษฐ์ สฤษดิ์อภิรักษ์ (บู้ เมืองเพชร) โปรโมเตอร์ศึกเพชรสุภาพรรณ เวทีลุมพินี ตอนนั้นเสี่ยบู้จัดมวยทั้งที่ลุมพินีและเวทีอ้อมน้อย ผมจำได้ว่าน้ำหนักตัวเกินร้อยปอนด์นิด ๆ ตอนนั้นก็ได้ชกออกทีวีในศึกจ้าวมวยไทยแล้วครับ”
“น้องเบียร์ โชคงามวงศ์ หรือ ก้าวหน้า อ.พิมลศรี, ยอดขุนพล หมูทองอะคาเดมี่ ที่ต่อยในรายการราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ น้ำหนักเดียวกับผมแต่อยู่คนละสาย และ ธงชัย ศิษย์สองพี่น้อง, ฝนหลวง ศิษย์บุญมี, ป้อมปืน เกียรติช่องเขา สมัยเด็ก ๆ พวกเขาเคยแพ้ผมมาแล้วทั้งนั้น”
“ช่วงปี 2555-2556 ผมใช้ชื่อว่า ยอดวิชา ภ.บุญสิทธิ์ ตอนนั้นฟอร์มดีขึ้นมาก ชกชนะมากกว่าแพ้ จนเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2556 สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย ที่คัดเลือกนักมวยไทยยอดเยี่ยมถ้วยพระราชทาน ตัดสินให้ผมกับ แสงมณี ส.เทียนโพธิ์ ได้ครองตำแหน่งยอดมวยปี 2555 ร่วมกัน ตอนนั้นผมอายุ 16 ปี 11 เดือน กับ 2 วัน ส่วนแสงมณีเกิดวันที่ 20 มีนาคม 2540 มีอายุเต็ม 16 ปีพอดี”
เก่งจนต้องมาชกข้ามวิก
หลังก้าวสู่จุดสูงสุดในตำแหน่งนักมวยถ้วยพระราชทานพ่วงด้วยดีกรีนักมวยเงินแสนในวัยเพียง 16 ปี ทำให้ยอดวิชากลายเป็นนักมวยเนื้อหอม ไม่ใช่แค่เฉพาะที่เวทีมวยลุมพินีอย่างเดียว แต่ความเก่งของยอดวิชายังดึงดูดให้โปรโมเตอร์ฝั่งสนามมวยราชดำเนินอยากได้ตัว “ยอดวิชา” ข้ามศึกมาชก
“ตอนนั้นเริ่มมีโปรโมเตอร์ต่างศึกนำผมไปจัด เสี่ยบู้แกก็ยินดี เพราะนักมวยสังกัดเพชรสุภาพรรณเริ่มไม่มีตัวชก ค่าตัวก็ได้มากกว่าเดิม หัวหน้าคณะผมคือ ประภาส บุญสิทธิ์ บอกว่าไม่มีปัญหา แกคุมผมซ้อมทุกวันจนมั่นใจว่าผมสู้ได้ทุกคน”
“หลังคว้าตำแหน่งยอดมวย ผมได้แชมป์มาครองอีก 3 เส้นคือ ซูเปอร์เฟเธอร์เวต ลุมพินี, แชมป์ประเทศไทย 2 รุ่นคือ ไลท์เวต และซูเปอร์ไลท์เวต”
ยอดวิชาได้พิสูจน์ให้เห็นว่าอายุไม่ใช่อุปสรรค เพราะเขาใช้พละกำลังและเพลงเข่าเดินแทงเดินเสียบใส่คู่ชกรุ่นพี่คนแล้วคนเล่า ไม่ว่าจะเวทีไหนก็ตาม
จนทำให้ยอดวิชาถูกทาบทามมาชิงแชมป์รุ่นซูเปอร์ไลท์เวต (ที่ว่าง) ของเวทีราชดำเนิน ในศึกเพชรวิเศษ วันพุธที่ 11 มิถุนายน 2557 โดยพบกับ เพชรบุญชู เอฟ.เอ.กรุ๊ป ราชาเข็มขัด 14 เส้นของประเทศไทยที่มีสไตล์การชกเหมือนกัน นั่นคือเป็นมวยเข่าแข็งแรงดุดัน
“พูดถึงการชกกับเพชรบุญชูในวันนั้นเกมค่อนข้างสูสีนะครับ แต่ครบยกผมมั่นใจว่าตัวเองน่าจะเป็นผู้ชนะ และได้คว้าแชมป์ราชดำเนินเส้นแรกในชีวิตมาครองแน่”
“แต่พอโฆษกประกาศคะแนนแล้วผมแพ้ ผมถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงไปกับผืนผ้าใบโดยไม่รู้ตัว ยอมรับว่าเสียดายมากแต่ก็ยินดีกับเขาที่คว้าแชมป์เส้นที่ 13 จากทั้งหมด 14 เส้นที่เขาทำได้”
แม้ว่าหลังจากความปราชัยไฟต์นั้น “ยอดวิชา” จะสามารถแก้มือปราบ “เพชรบุญชู” ได้อีก 2 ไฟต์ติดต่อกันที่เวทีมวยราชดำเนิน รวมถึงเอาชนะนักชกบิ๊กเนมอย่าง สิงห์ดำ เกียรติหมู่ 9 และ แสนสะท้าน พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม มาได้ที่ สังเวียนชามอ่างยักษ์ที่นี่อีก แต่การชกทั้งหมดไม่ได้เป็นแมตช์ชิงแชมป์
จึงทำให้ “ยอดวิชา” ไม่เคยได้แชมป์ของเวทีมวยราชดำเนินมาก่อน และนั่นเป็นเรื่องเดียวที่ยังติดค้างอยู่ในใจของกำปั้นผู้ประสบความสำเร็จกวาดแชมป์มาแล้วแทบทุกสถาบัน
“ถึงผมจะแพ้เพชรบุญชูและไม่ได้แชมป์ แต่ทุกครั้งที่ได้มาต่อยบนเวทีราชดำเนิน ผมรู้สึกดีและประทับใจแทบทุกไฟต์ เพราะแต่ละนัดก็มีอะไรให้น่าจดจำแตกต่างกันไป”
“มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าไฟต์ที่เราประทับใจต้องเป็นไฟต์ที่ตัวเองชนะเสมอไป เพราะบางครั้งการแพ้รุ่นพี่ แพ้คนที่เก่งกว่า มันก็ทำให้ผมเติบโตและได้เรียนรู้อะไรมากกว่าตอนที่ตัวเองชนะเสียอีก ถ้าให้เลือก 3 ไฟต์ที่ผมประทับใจ ไฟต์แรก แพ้คะแนน เสกสรร อ.ขวัญเมือง (ศึก ส.สมหมาย 17 พฤษภาคม 2555)”
“ไฟต์สอง เสมอ ปกรณ์ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม (ศึก ต.ชัยวัฒน์ 12 กันยายน 2555) และไฟต์สามคือ แพ้คะแนน ก้องศักดิ์ ศิษย์บุญมี (ศึกวันทรงชัย 11 ตุลาคม 2555) ผมเลือก 3 ไฟต์นี้เพราะทุกนัดล้วนเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่ทำให้ผมพัฒนาฝีมือจนยืนระยะมาได้จนถึงทุกวันนี้”
ซูเปอร์สตาร์เงินล้าน
ด้วยความสามารถที่เก่งเกินวัยบวกกับชื่อเสียงและความสำเร็จที่ยอดวิชาทำได้ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปี จึงทำให้ “ยอดวิชา” ถูกทาบทามให้ไปชกมวยไทยในต่างแดนอย่างสม่ำเสมอ และเขาก็กวาดแชมป์มาได้อีกหลายเส้น ขึ้นแท่นกลายเป็นนักมวยไทยค่าตัวหลักล้านเต็มตัว
พร้อมกับทำสถิติชนะติดต่อกัน 29 ไฟต์ในห้วงเวลา 4 ปี ก่อนมาสะดุดเสมอ วูยีซิเล่ โคลอสซ่า นักชกชาวแอฟริกาใต้ ที่ฮ่องกง เมื่อ 28 พฤษภาคม 2562
“วันนั้นผมชกกับเขาในกติกาพิเศษ ชกยกเดียว 9 นาที ถ้าน็อกไม่ได้จะเสมอกัน หลังไฟต์นี้ผมเดินทางไปชกที่รัสเซียพบกับ อาร์เต็ม ปาซโปริน ซึ่งเคยชนะ จอมทอง ชูวัฒนะ และไฟต์ล่าสุดมาแพ้ บัวขาว บัญชาเมฆ ที่เมืองไทย”
“ผมสู้กับนักชกรัสเซียจนครบ 3 ยก ผมออกอาวุธเหนือกว่าเขาชัดเจน แต่กรรมการตัดสินให้ผมแพ้ จนผมต้องประท้วงขอคำชี้แจง ขณะที่แฟนมวยหลายคนก็เห็นว่าเป็นการตัดสินที่ค้านสายตา สุดท้ายเขาจึงประกาศผลเป็น No contest หรือไม่มีการแข่งขัน ผมจึงรักษาสถิติไม่แพ้ใครได้อีกจนถึงปี 2564”
ยอดวิชา กลับมาล่าแชมป์
“ช่วงนั้นผมซ้อมรอรายการไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ซีเรียสหรือกังวลอะไร จนมาวันหนึ่งผู้บริหาร GSV โทรมาชวนไปชกรายการมวยไทยรูปแบบใหม่ที่ชื่อ ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์”
“ผมเห็นว่าน่าสนใจ และทางผู้จัดก็มีความตั้งใจจะยกระดับการแข่งขันมวยไทยให้เป็นกีฬาสากลมากขึ้น ผมจึงตัดสินใจขึ้นชกในรายการนี้”
การตัดสินใจกลับมาชกที่เวทีราชดำเนินซึ่งเปรียบเสมือน “บ้านมวยไทย” ของยอดวิชาก็สามารถเรียกความสนใจและเสียงฮือฮาจากแฟนหมัดมวยในบ้านเราได้ไม่น้อย
เพราะช่วงระยะเวลาที่ยอดวิชาหายไปถึง 7 ปี เขาก็กลายเป็นนักชกที่มีความครบเครื่องมากยิ่งขึ้นที่ไม่ได้มีแค่เข่าอย่างเดียว แต่ยังมีหมัดที่หนักแรง รวมถึงเพลงแข้งที่ดุดันมากยิ่งขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้น การกลับมาหนนี้ยังถือเป็นการกลับมาสานฝันของตัวเองในการไล่ล่าแชมป์ที่เวทีมวยราชดำเนิน ผ่านรายการ ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ เป็นครั้งแรก
ซึ่งยอดวิชาก็แสดงให้ทุกคนได้เห็นในศึกประเดิมสังเวียนไฟต์แรกเมื่อ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา เขาจัดการฟันศอกขวาเฉือนเข้าหน้าครั้งแรก ส่งร่าง ไทเลอร์ ฮาร์ดคาสเซิล คู่ต่อกรชาวออสเตรเลียจนทรุดพ่ายน็อกยกแรกด้วยเวลา 31 วินาที
ทำลายสถิติน็อกเร็วของ อาเมียร์ฮอสเซน คามารี่ จากอิหร่าน ที่เตะก้านคอน็อก เมซัม อาเดลน์ย่า จากตุรกี ที่ใช้เวลาแค่ 58 วินาทีของยกแรกในการชก ศึก RWS - ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ รุ่นเฟเธอร์เวต 126 ปอนด์ เมื่อ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา
เชื่อว่ายังมีอีกหลายปรากฏการณ์ที่จะสร้างความฮือฮาในการแข่งขัน RWS - ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ จากยอดมวยเงินล้านนามว่า “ยอดวิชา ภ.บุญสิทธิ์”
"ผมมองว่า ศึกราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ ตอบโจทย์ความต้องการของผม เพราะเป็นรายการมวยที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ของนักมวยไทยให้ดูดีขึ้น รวมถึงกติกาการแข่งขันยังทำให้มวยไทยดูสนุกยิ่งขึ้น”
“ผมอดใจไม่รอไหวแล้วที่จะขึ้นชกในไฟต์ต่อ ๆ ไป เป้าหมายของผมคือแชมป์ รวมถึงอยากโชว์ศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้ทุกคนได้ประทับใจด้วยครับ”