Feature

สติง VS โฮแกน : แมตช์มวยปล้ำคนดูเยอะที่สุดแห่งยุค ... แต่ตอนจบเป็นปริศนา | Main Stand

สติง และ ฮัลค์ โฮแกน คือ 2 นักมวยปล้ำตัวชูโรงของ WCW ในช่วงปลายยุค 1990s 

 

เรื่องราวของพวกเขาถูกร้อยเรียงมาอย่างตั้งใจ ฝ่ายธรรมะคือ สติง ผู้นำทัพ WCW ขณะที่ฝ่ายอธรรมคือ โฮแกน ผู้นำทัพกลุ่มดาวร้ายขวัญใจแฟน ๆ อย่าง nWo

เรื่องทั้งหมดปูมาเพื่อศึก Starrade 1997 ที่ทั้งสองจะขึ้นปล้ำกัน และแฟน ๆ ทุกคนก็ต่างรอคอย ทว่าเมื่อถึงตอนจบเรื่องทั้งหมดกลับสร้างความสงสัยไม่น้อยกว่าการได้แชมป์โลกของ WCW

มันเกิดอะไรขึ้น ? ติดตามไปพร้อมกับ Main Stand กันได้เลย

 

nWo ตัวร้ายในใจคุณ 

WCW หรือ World Championship Wrestling ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1988 หลัง เท็ด เทอร์เนอร์ มหาเศรษฐีจากธุรกิจสื่อสารมวลชน ผู้ก่อตั้งช่องโทรทัศน์ CNN ทุ่มเงิน 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อส่วนหนึ่งของสมาคม NWA ค่ายมวยปล้ำอันดับสองของโลกมาไว้ในการดูแลของตัวเอง

อย่างไรก็ตามเส้นทางการผงาดของ WCW นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกระดูกชิ้นใหญ่ที่ขวางหน้าอยู่คือค่ายมวยปล้ำอันดับ 1 ของผู้บริหารที่ขึ้นชื่อว่าปราดเปรื่องเรื่องการสร้างมูลค่าทางการตลาดมากที่สุดของวงการมวยปล้ำตลอดกาล และเขาคนนั้นก็คือ "วินซ์ แม็คแมน" 

วินซ์ แม็คแมน เข้ามาบริหารกิจการค่ายมวยปล้ำสมบัติของตระกูลอย่าง WWF (WWE ในปัจจุบัน) ในช่วงปี 1982 สิ่งที่สามารถใช้คำว่าเขาได้ปฏิวัติวงการคือการเปลี่ยนกรอบของมวยปล้ำให้ไม่ใช่แค่กีฬาแต่เป็นความบันเทิงที่ต้องควบคู่กันไปด้วย ช่วงเวลาดังกล่าวคือช่วงเวลาที่นักมวยปล้ำแต่ละคนจะถูก "สร้างคาแร็กเตอร์" ให้มีเสน่ห์และโดนใจคนดูที่สุด ถ้าเป็นเป็นตัวดีก็ต้องเป็นพระเอกขวัญใจมหาชน ถ้าจะร้ายก็ต้องกลายเป็นตัวโกงที่ทุกคนชังน้ำหน้า จนอยากจะตีตั๋วมาดูเพื่อได้เห็นพวกเขาแพ้กับตาตัวเอง 

WWF สร้างภาพจำที่ยอดเยี่ยมของมวยปล้ำยุคใหม่ตั้งแต่ยุค 1980s เป็นต้นมา นักมวยปล้ำของพวกเขาล้วนมีคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจน มีสตอรี่เบื้องหลังที่ทำให้คนดูมีอรรถรสในการรับชมมากกว่าที่เคยเป็นมา 

อย่างไรก็ตามในช่วงกลางยุค 1990s WWF ต้องการปรับผังองค์กร พวกเขาเชื่อว่าแฟนบอลมวยปล้ำเริ่มมีความต้องการในการเสพมากขึ้น จากเดิมที่ขอแค่สตอรี่ดีเรื่องสนุก ตอนนี้แฟน ๆ อยากจะเห็นการปล้ำที่สมจริง แตกเป็นแตก เลือดเป็นเลือด เถื่อน ๆ ดิบ ๆ นั่นทำให้ วินซ์ แม็คแมน มองว่าโฮแกนนั้นตกรุ่นไปแล้ว และสมควรแก่เวลาที่จะดันนักมวยปลํ้ารุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 คนต่อไปแทน 

ความคิดเห็นดังกล่าวทำให้โฮแกนที่ยังคงเชื่อว่าเขาคือเบอร์ 1 ไม่พอใจและนำมาซึ่งการแยกทางกันในปี 1993 ช่วงเวลานี้เองที่ WCW ว่องไวเหมือนกับฉลามได้กลิ่นคาวเลือด พวกเขาเข้ามาจีบโฮแกนให้กลับสู่วงการมวยปล้ำอีกครั้ง พร้อมกับเสนอบท "ตัวร้าย" ... นี่คือบทบาทฝั่งอธรรมครั้งแรกของโฮแกนในอาชีพเลยก็ว่าได้ 

โฮแกนใช้เวลายอมรับความจริงอยู่พักใหญ่ จนสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจรับบทนี้ ซึ่งบทดังกล่าวคือหัวหน้ากลุ่ม nWo (New World Order) ที่สมาชิกประกอบไปด้วยตัวร้ายขวัญใจแฟน ๆ อย่างกลุ่ม Outsider นำโดย เควิน แนช และ สก็อตต์ ฮอลล์ และด้วยขุมพลังที่พร้อมเป็นตัวร้ายขนาดนี้ ไม่นานนักโฮแกนก็ตีบทแตกได้สำเร็จ 

"ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนี้คืออนาคตของวงการมวยปล้ำ คุณสามารถเรียกพวกเราว่า New World Order และพวกเราจะไม่แค่ยึดครองวงการมวยปล้ำ แต่พวกเราจะทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าเส้นทางของพวกเรา"

บทบาทของกลุ่ม nWo คือกลุ่มนักมวยปล้ำที่ต้องการจัดระเบียบโลกมวยปล้ำใหม่ด้วยแนวคิดของพวกเขา ใครที่ขวางทางจะต้องถูกอัดกระจุย ไม่ว่าจะเป็นการไล่อัดคู่ปรับของพวกเขาทั้งบนเวทีและแม้แต่ตอนที่เดินอยู่ข้างถนน ถ้าถามว่าคู่ปรับของ nWo คือใคร ? คำตอบนั้นคือสมาคมมวยปล้ำ WCW ทั้งหมด ทุกคนที่เกี่ยวข้องจะต้องโดนเล่นงานแบบไม่มียั้ง

ด้วยความที่กลุ่ม nWo ประกอบด้วยนักมวยปล้ำฝีมือดีทั้งนั้น ทำให้นักมวยปล้ำที่เป็นตัวแทนของฝั่ง WCW ต้องรับบทโดนกระทืบเสียทุกครั้งแบบไร้แรงต้านทาน กลุ่ม nWo ไล่เก็บปลาซิวปลาสร้อยไปทีละคนทีละคน และท้ายที่สุดพวกเขาก็มาถึงบอสใหญ่ที่เปรียบเสมือนเบอร์ 1 ของฝั่ง WCW เขาคนนั้นคือบุรุษผู้มาพร้อมกับหน้ากาก ชื่อของเขาคือ "สติง" 

 

สติง อีกาเดียวดาย 

สติง คือนักมวยปล้ำที่เริ่มก้าวสู้เส้นทางของการเป็นดารานำตั้งแต่ช่วงยุค 1980s เขาเป็นหนึ่งในศิษย์เก่าของค่าย NWA (ค่ายที่ เท็ด เทอร์เนอร์ ซื้อส่วนหนึ่งมารีแบรนด์เป็น WCW) และถูกผลักดันจนก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญตลอดช่วงเวลาของ WCW 

ลีลาการปล้ำคือสิ่งที่ทุกคนจดจำสติงได้ขึ้นใจ นั่นเป็นเพราะเขาเป็นคนปล้ำมันปล้ำสนุกมีลีลาเร้าใจ เหนือสิ่งอื่นใดกับคาแร็กเตอร์การเพนต์หน้าด้วยสีต่าง ๆ ตามโอกาส ทำให้เขาถูกจดจำได้มากขึ้นก่อนที่จะค่อย ๆ ขยับสถานะมาอยู่ในระดับเดียวกับสตาร์ของ WCW อย่าง ริค แฟลร์ และ ดัสตี้ โรดส์ 

ปี 1988 สติงขึ้นปล้ำกับ ริค แฟลร์ ในศึก Clash of the Champions แม้การแข่งขันที่กินเวลานานถึง 45 นาทีจะจบลงด้วยการเสมอ แต่แมตช์นั้นได้สร้างประวัติศาสตร์ทำเรตติ้งเอาชนะศึก WrestleMania IV ของฝั่ง WWF ได้ ... สติงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากหลังจากแมตช์นั้น ก่อนเขาจะถูกผลักดันให้กลายเป็นแชมป์โลกในปี 1990 

แม้จะมีช่วงที่โดนวิจารณ์อยู่บ้าง แต่ในปี 1996 สติงก็พลิกบทบาทตัวเองมาเป็น "The Crow" แอนตี้ฮีโร่ด้านมืดแห่ง WCW กล่าวคือเขาเป็นพวกหมาป่าเดียวดาย แข็งแกร่งด้วยตัวคนเดียว และนี่คือกิมมิคที่ "ปังสุด ๆ" สติงดูเท่ขึ้นมาเป็นกองในบทบาทนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าบทบาทนี้ของสติงจะถูกสร้างมาให้กลายเป็นคนที่มาหยุดความวุ่นวายภายใน WCW ที่ถูกคุกคามจาก nWo นำโดย ฮัลค์ โฮแกน 

อยากให้คุณลองนึกภาพฮีโร่สักคนที่ไม่ค่อยสุงสิงวุ่นวายกลับใคร แต่วันหนึ่งผู้คนรอบตัวของเขากลับค่อย ๆ ล้มลงและพ่ายแพ้ให้กับฝ่ายอธรรมทีละคน ทีละคน ... จากที่เป็นฮีโร่สันโดษ สติงถูกวางคาแร็กเตอร์ให้เป็นผู้เฝ้ามองหายนะอย่างอดทน จนกระทั่งเขาทนไม่ไหวต้องลงมาจัดการ nWo ด้วยตัวเอง

สติงค่อย ๆ รวมพลังฝ่ายธรรมะ นำโดยเขาที่เปรียบเสมือนหัวหน้าทีม พร้อมดัวย เล็กซ์ ลูเกอร์ และ แรนดี้ ซาเวจ ก่อนที่ทั้ง 3 คนจะขึ้นปะทะการทำลายล้างของกลุ่ม nWo ด้วยการต่อสู้แบบ 3-3 ในศึก Bash at the Beach ซึ่งจากนั้นสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝั่งก็ดำเนินต่อไป nWo ยังไม่ยอมหยุดง่าย ๆ และแม้แต่ทีมของสติงก็ต้านเอาไว้ไม่อยู่

เมื่อเรื่องราวกำลังเข้มข้นแต่กลับทำท่าจะหาจุดจบไม่ลง ที่สุดแล้วช่วงเวลาอันแสนสุกงอมของศึกภายในก็มาถึงจุดพีก ปี 1997 WCW ประกาศคู่เอกในศึก STARRADE ว่าจะเป็นการเจอกันของคู่ที่ทุกคนรอคอย 

ตัวแทนของฝ่ายธรรมะอย่าง สติง จะต้องขึ้นเวทีแบบ 1-1 กับตัวร้ายที่ได้ใจแฟน ๆ อย่าง ฮัลค์ โฮแกน ... ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากระแสตอบรับของคู่เอกนี้จะร้อนแรงขนาดไหน 

 

The Match of the Century ?  

การร้อยเรียงเรื่องราวก่อนถึงการขึ้นปล้ำระหว่างสติงและโฮแกนนั้นเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ ต่างฝ่ายต่างก็เรียกกระแสของแฟน ๆ ได้เป็นอย่างดี และตัวของสติงก็ถูกวางเข้าไปในเส้นเรื่องที่มีการหักมุมเกิดขึ้น นั่นทำให้แมตช์นี้น่าดูขึ้นอีกเป็นกอง

เรื่องเริ่มต้นจากสติงทำท่าเหมือนจะยอมรับว่าเขาไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของกลุ่ม nWo ไหว เขาจึงต้องยอมกลืนน้ำลายคืนคำด้วยการสมัครเข้าเป็นหนึ่งในกลุ่ม nWo ด้วย ... เรื่องนี้ทำให้แฟน ๆ ช็อกกันเป็นแถบ เรียกได้ว่าสติงหลอกกันหลังหักเลยทีเดียว เพราะเบื้องหลังการเข้ากลุ่มมีขึ้นเพื่อแยก เควิน แนช และ สก็อตต์ ฮอลล์ ลูกคู่ของโฮแกนออกไปให้หมด ... ทีนี้ก็จะเหลือเพียงการต่อสู้แบบ 1-1 เท่านั้น 

ทีมวางสคริปต์ยังไม่หยุดท็อปฟอร์มง่าย ๆ เพราะนอกจากจะสร้างเรื่องให้คู่ปล้ำที่น่าดูที่สุดแล้ว พวกเขายังเติมผงชูรสที่ทำให้แมตช์นี้มีดีกรีความน่าสนใจมากกว่าทุกครั้ง เพราะก่อนขึ้นปล้ำพวกเขาจะให้กรรมการทุกคนมาจับฉลากสุ่มว่าใครจะได้ตัดสินแมตช์นี้ และบังเอิญการสุ่มจบลงที่ นิค แพทริก กรรมการสายเรียกแขก ผู้เคยสวามิภักดิ์ต่อกลุ่ม nWo ได้เป็นผู้ตัดสินคู่เอกในศึก Starrade ... แค่นี้ก็ทำให้คนดูอยากรู้แล้วว่าหากสติงจะเอาชนะโฮแกนให้ได้เขาจะต้องทำอย่างไร ? เพราะในเมื่อฝีมือไม่ได้หนีกันมาก แต่กรรมการกลับเป็นตัวแสบประจำวิกที่พร้อม "โกง" ทุกเมื่อแบบนี้ 

นับตั้งแต่ที่ระฆังดัง ทั้งสองคนใส่กันหมดแม็กแบบไม่ต้องนัดหมาย โฮแกนใช้ทุกอย่างที่มีโจมตีใส่สติงไม่ว่าจะเป็นท่า ดร็อปคิก และ ไซด์เฮดล็อก ตามด้วยการลากสติงออกนอกเวทีเหวี่ยงอัดกับเสาเวที ก่อนจะกระโดดทิ้งขาใส่สติงอีก 1 ชุด และกดสติงโดยที่กรรมการ นิค แพทริก นับด้วยความเร็วมากกว่าปกติ 2 เท่า ... หนึ่ง สอง สาม ! เสียงระฆังดัง โฮแกนเป็นฝ่ายชนะภายในเวลาราว 10 นาทีเท่านั้น 

แต่แล้วเรื่องมันยังคงหักมุมต่อไป เพราะในขณะที่ทุกคนคิดว่าชัยชนะของโฮแกนจะทำให้ nWo ผงาดขึ้นครองโลกอย่างที่หวัง เบรต ฮาร์ต ตำนานนักปล้ำก็ออกมาค้านเรื่องดังกล่าวและบอกว่าแพทริกนับเร็วเกินไปจนดูตั้งใจโกง ก่อนที่ฮาร์ตจะจัดการให้เริ่มการแข่งขันใหม่ ที่ผ่านมาเป็นโมฆะ และ เบรต ฮาร์ต จะเป็นกรรมการเอง 

พอเปลี่ยนสคริปต์คดีก็พลิกทันที สติงที่โดนหนักในยกแรกกลับมาเข้าสู่เกมได้สำเร็จ สติงใช้ท่า Stinger Splash และ Scorpion Deathlock ทำให้เขาพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นผู้ชนะ และครองแชมป์โลกของสมาคม WCW ได้สำเร็จ พร้อมกับสร้างสถิติยอดขายเพย์เพอร์วิวสูงสุดตลอดกาลของ WCW จากศึก Starrcade 1997

แต่เท่าที่อ่านการบรรยายมา คุณคิดว่าแมตช์นี้มันมีอะไรแปลก ๆ ไหม ? 

แม้แมตช์นี้ได้รับการชื่นชมว่าถูกวางบทมาได้อย่างดีมาตลอดตั้งแต่การปูเรื่องจนถึงจุดพีก แต่ความจริงที่หลายคนไม่รู้คือ Starrcade 1997 แมตช์ระหว่าง สติง และ โฮแกน เปรียบเสมือนการอิมโพรไวส์ไปพร้อม ๆ กันด้วย 

กรรมการ นิค แพทริก ผู้ฉาวโฉ่ พูดถึงแมตช์ดังกล่าวหลังจากที่เขาเกษียณอายุว่า "แมตช์นี้เกิดขึ้นเพราะคนสองคนคือสติงและโฮแกน พวกเขาคือสองแฟรนไชส์อง WCW นอกจากนี้ทั้งคู่ก็มีเรื่องบาดหมางกันเกี่ยวกับการหาผู้ชนะในแมตช์นั้นด้วย"

"คนหนึ่งมาหาผมแล้วบอกให้ผมนับไว ๆ ส่วนอีกคนมาบอกให้นับช้า ๆ และไหลไปตามเกม ทุกอย่างมันพลิกไปพลิกมา ผมไม่อยากจะเลือกฝั่งไหนเลยจริง ๆ นะ นั่นคือค่ำคืนที่ผมเองยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ผมถึงขั้นต้องถามพวกเขาว่า 'เฮ้ย สรุปพวกนายจะให้ฉันเอายังไงแน่วะ ?'" นิค แพทริก กล่าวถึงเบื้องหลังไฟต์นั้น 

ขณะที่เว็บไซต์ The Sporter ก็พูดถึงแมตช์นี้ว่า "มันเป็นแมตช์ใหญ่ที่ปล้ำสนุกมากก็จริง แต่มันก็เป็นแมตช์ที่น่าอับอายโดยเฉพาะในตอนจบของเรื่อง"

เรื่องนี้นักเขียนเว็บดังกล่าวไม่ได้คิดไปเอง เพราะหลังจากเวลาผ่านไป เอริค บิสชอฟฟ์ ซีอีโอของ WCW ได้ออกมาเปิดเผยว่าก่อนที่แมตช์นี้จะเริ่มขึ้น เขา, โฮแกน และ สติง ได้ประชุมกัน ทว่าหลังจากที่สติงออกจากห้องไปก่อน โฮแกนและบิสชอฟฟ์ กลับเห็นตรงกันว่า สติงในตอนนี้ดูจะอ่อนซ้อมและไม่มีอารมณ์ตื่นเต้นกับแมตช์เลย ดังนั้นโฮแกนจึงไม่เห็นด้วยที่จะให้สติงเป็นผู้ชนะในไฟต์นี้ตามที่กำหนดไว้ 

อย่างไรก็ตามแม้จะไม่เห็นด้วยแค่ไหนแต่บทก็ต้องเป็นบท ท้ายที่สุดแล้วแม้โฮแกนจะพยายามยึกยักแค่ไหน สติงก็ต้องเป็นฝ่ายชนะตามสคริปต์ที่วางไว้อยู่ดี  

นั่นคือต้นเหตุของความโกลาหลเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นในแมตช์ดังกล่าว แต่ที่สุดเเล้วมวยปล้ำคือกีฬาผสมความบันเทิงและมติเป็นเอกฉันท์ สติงต้องชนะ ... แม้นั่นจะทำให้ซีรีส์ระหว่าง WCW กับ nWo จบลงแบบที่แฟน ๆ หลายคนยังค้างคาใจมาจนถึงทุกวันนี้ 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

การพลิกบทบาทของโฮแกนและกำเนิด nWo กลุ่มนักมวยปล้ำที่ทรงอิทธิพลที่สุดตลอดกาล

WCW : อดีตค่ายมวยปล้ำหมายเลขหนึ่งของโลก ที่ล่มสลายด้วยมือของตัวเอง

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.thesportster.com/why-the-main-event-of-wcw-starrcade-1997-was-so-screwy-explained/
https://www.sportskeeda.com/wwe/wwe-news-wcw-referee-nick-patrick-talks-about-sting-vs-hulk-hogan-at-starrcade-1997-for-the-first-time-in-20-years
https://www.thesportster.com/wrestling/sting-vs-nwo-storyline-explained/
https://www.thesportster.com/wrestling/wcw-hulk-hogan-sting-rivalry-missed-details/
https://en.wikipedia.org/wiki/Starrcade_(1997)

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา