Feature

ลมใต้ปีกที่รอคอย : ลิโอเนล เมสซี่ กับนักเตะอาร์เจนตินาชุดที่ส่งถึงฝั่งฝัน | Main Stand

17 สิงหาคม 2005 ณ เฟเรนซ์ ปุสกัส สเตเดียม ในเกมระหว่าง อาร์เจนตินา กับ ฮังการี ลิโอเนล เมสซี่ ในวัย 18 ปี ลงสนามในนามนักเตะทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก โดยเป็นตัวสำรองแทนที่ ลิซานโดร โลเปซ

 


นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ 19 ปีผ่านไป เมสซี่ ในวัย 37 ปีผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านเรื่องราวที่ผิดหวังมากมายในสีเสื้อฟ้า-ขาว จนกระทั่งถึงแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกของเขา

ไม่มีฟุตบอลโลกครั้งไหนที่ เมสซี่ ไม่ได้แสดงศักยภาพของเขาออกมา เขาพีกทุกทัวร์นาเม้นต์แต่ก็ต้องผิดหวังทุกทัวร์นาเม้นต์ จนกระทั่งเจอกับเด็ก ๆ ชุดฟุตบอลโลก 2022 พวกเขาเหล่านี้คือลมใต้ปีกที่ทำให้ เมสซี่ บินมาสวมมงกุฎราชาแห่งโลกฟุตบอลโดยไร้ข้อถกเถียงใด ๆ อีกต่อไป 

หากคุณอ่านเรื่องราวของ เมสซี่ มาเยอะแล้ว Main Stand ขอนำเสนอเรื่องราวของทีมอาร์เจนตินาชุดฟุตบอลโลก 2022 ... ชุดที่นักเตะทุกคนพร้อมวิ่งสู้ตายถวายหัวเพื่อให้ราชาของพวกเขากลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของโลกฟุตบอล 

 

อะไรอะไรก็...เรา 

เราอยากให้คุณลืมภาพการชูถ้วยแชมป์โลก 2022 ของ ลิโอเนล เมสซี่ ไปก่อน เพื่อให้คุณได้เข้าใจว่าทำไมถ้วยใบนี้จึงมีความหมายกับเขามากมายนัก 

นับตั้งแต่ ลิโอเนล เมสซี่ ติดทีมชาติ อาร์เจนตินา ชุดใหญ่ในปี 2005 ... 15 ปีนับจากวันนั้น เขาไม่เคยคว้าแชมป์ร่วมกับทีมได้เลยแม้แต่รายการเดียว

เขาพา บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ ลาลีกา 10 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย, สโมสรโลก 3 สมัย, โคปา เดลเรย์ 7 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ  3 สมัย .. แต่กับ อาร์เจนตินา ตั้งแต่ปี 2005 ถึงปี 2020 ถ้วยรางวัลในนามทีมชาติของเขาเท่ากับ 0 

หากเทียบกับฝีเท้าและความสำเร็จระดับสโมสร มันจึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ อะไรกันแน่ที่นักเตะที่เก่งที่สุดในโลกถึงทำเพื่อชาติแบบที่ทำให้กับสโมสรไม่ได้ ? นั่นคือสิ่งที่แฟนอาร์เจนตินาคนสงสัย และตั้งแง่ว่าแท้จริงแล้ว เมสซี่ พร้อมจะสู้เพื่อชาติอาร์เจนตินาจริงหรือเปล่า 

จริง ๆ คำถามนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ เพราะไม่มีครั้งใดที่ เมสซี่ เล่นแบบขอไปทีกับ อาร์เจนตินา ตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2006 จนถึง 2018 รวมถึง โคปา อเมริกา 2007 ถึง 2019 เมสซี่ เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของ อาร์เจนตินา แทบทุกรายการ แต่เพราะความเก่งกาจที่ยากจะหาตัวจับได้ และผลงานกับสโมสรที่เล่นยังไงก็ได้แชมป์ ทำให้ เมสซี่ กลายเป็นแพะรับบาปเสมอ ไม่ว่าจะจากกองเชียร์หรือกองแช่ง 

ทุกคราที่ อาร์เจนตินา แพ้ โดยเฉพาะในรอบชิงชนะเลิศคือ "เก่งจริงทำไมไม่เห็นพาทีมชาติคว้าแชมป์ได้เหมือนกับสโมสร" ... นี่คือสิ่งที่เรียกว่า "ทฤษฎีสมคบคิด" กล่าวคือการหาเหตุผลมารองรับในสิ่งที่ตัวเองเชื่อนั่นเอง 

เมื่อคนเราเกิดความไม่ไว้ใจอะไรบางอย่าง พวกเขามักจะเชื่อมโยงเรื่องต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพื่อหาเหตุผลสนับสนุนว่าความคิดของตัวเองนั้นถูกต้อง ส่วนข้อเท็จจริงนั้นถูกต้องมาแค่ไหนค่อยว่ากันอีกที ... นั่นคือสิ่งที่ เมสซี่ ต้องเผชิญเมื่อเล่นให้กับ อาร์เจนตินา 

"เมสซี่ ให้อะไรกับเราบ้าง ... ไม่เห็นจะมีห่าเหวไรเลย" แฟนบอลชาวอาร์เจนตินาคนหนึ่งสัมภาษณ์ให้กับช่อง beIN Sport หลังจากที่ อาร์เจนตินา เปิดฉากฟุตบอลโลก 2018 ด้วยความพ่ายแพ้แบบสู้ไม่ได้ให้กับ โครเอเชีย ถึง 0-3  

ไม่ใช่แค่ฟุตบอลโลกเท่านั้นที่ทำให้แฟน ๆ กินแหนงแคลงใจ หลายรายการในอดีตที่ทัพฟ้า-ขาว ต้องผิดหวัง แฟนๆ ของพวกเขาเชื่อว่า เมสซี่ ไม่ทุ่มเทแบบที่ควรจะเป็น ยิ่งในยุคที่มีข่าวลือมากมาย โดยเฉพาะสำหรับ เมสซี่ กับ อาร์เจนตินา นั้นยิ่งเป็นไปในทิศทางลบมันยิ่งทำให้ภาพลักษณ์เรื่องทัศนคติของเขาดูแย่ขึ้นไปอีก 

เรื่องที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องการทำตัวใหญ่กว่าทีม มีทั้งข่าวที่ว่าเขาสามารถจัดตัวนักเตะเองได้, สั่งโค้ชให้เลือกนักเตะ 23 คนสำหรับการแข่งรายการต่าง ๆ เองได้ และแม้กระทั่งในปี 2014 ที่เขาเป็นคนบอกกับ อเลฮานโดร ซาเบย่า โค้ชของทีมในช่วงพักครึ่งว่า "เลิกเลอะเทอะ ส่งนักเตะเกมรุกที่น่ารังเกียจชุดนี้ลงสนามเสียที"  

ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน เมสซี่ ก็ถูกมองว่าไม่มีทางไล่ตามรอยเท้าของ ดิเอโก้ มาราโดน่า ตำนานเสื้อหมายเลข 10 ของชาว อาร์เจนตินา ที่คว้าแชมป์โลกในปี 1986 ได้เลย 

เรื่องนี้เกินเลยไปกว่าความจริงแบบสุดกู่ แม้กระทั่งคนที่โดนเปรียบเทียบอย่าง มาราโดน่า ก็ออกมายืนเคียงข้างเมสซี่ และเตือนสติแฟนบอลที่ฟาดงวงฟาดงาใส่นักเตะที่ดีที่สุดของประเทศแบบไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงครั้งนี้ 

 

ถอดใจไปแล้ว 

"ยิ่งใหญ่เท่าไหร่ ตอนล้มก็จะยิ่งล้มดังเท่านั้น" เมสซี่ ประสบปัญหาอย่างมากในการเล่นให้ทีมชาติ อาร์เจนตินา ... มาราโดน่า เคยออกมาพูดผ่านสื่อหลังจากที่ เมสซี่ พาทีมพลาดแชมป์ โคปา อเมริกา ในปี 2015 และ 2016 โดยเฉพาะในปี 2016 ที่ เมสซี่ เป็นคนยิงจุดโทษพลาดในเกมนัดชิงชนะเลิศกับ ชิลี นั้น เขากลายเป็นแพะรับบาปหนักที่สุดจนถึงขั้นประกาศเลิกเล่นทีมชาติแล้ว

ซึ่งกว่าจะกล่อมให้ เมสซี่ กลับมาเล่นได้ก็ต้องรอจนก่อนฟุตบอลโลก 2018 เริ่มขึ้น ... และตลกร้ายคือ อาร์เจนตินา ดันตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก 2018 ด้วยฟอร์มที่ไม่น่าพิศมัยตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม จากนั้นกระแสไล่ เมสซี่ ให้เลิกเล่นทีมชาติก็เริ่มขึ้นอีกครั้งทันที หนนี้ มาราโดน่า ทราบข่าวก็ถึงขั้นอดรนทนไม่ไหว เขาให้สัมภาษณ์อย่างร้อนแรงว่า 

"ทีมชาติชุด ยู-15 แพ้ เมสซี่ก็ผิด ฟุตบอลลีกอาร์เจนตินาจัดโปรแกรม ราซิ่ง คลับ เจอ โบคา จูเนียร์ส เมสซี่ ก็ถูกตำหนิ เขาโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง"

"ผมจะบอกเขาว่า 'ดีแล้วที่ตัดสินใจแบบนั้น อย่าเล่นอีกต่อไปเลย' มาดูกันว่าพวกเขาไม่มีเมสซี่จะเป็นอย่างไร แล้วเรามาคอยดูกันว่าชาติของเราจะใหญ่คับโลกจริงอย่างที่แฟนบอลพูดกันหรือเปล่า" 

มาราโดน่า กล่าวอย่างเผ็ดร้อนหลัง อาร์เจนตินา แพ้ให้กับ ฝรั่งเศส ในฟุตบอลโลก 2018 รอบ 16 ทีมสุดท้ายซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ฝรั่งเศส กลายเป็นแชมป์ของทัวร์นาเมนต์ ... อาร์เจนตินา แพ้แชมป์ประตูเดียว (3-4) 

"ผมอยากเห็น เมสซี่ ด่าพวกเราทุกคน เพราะเขาไม่ควรถูกตำหนิ จากการที่เราไม่ได้แชมป์โลก เราทุกคนตั้งความหวังในตัวเขา มันเหมือนกับการที่คุณวางเดิมพันแข่งม้า ม้าที่คุณหวังว่าจะชนะ ดันเข้าที่ 8 ก็เท่านั้นเอง" มาราโดน่า มองโลกอย่างเข้าใจ 

เอฟเฟ็กต์ที่ตามมาคือการถูกสื่อนำเสนอข่าวในด้านลบเรื่องเดิม ๆ คือ ใจเสาะ ไม่มีความเป็นผู้นำ ไม่ทุ่มเทให้ทีมชาติ และการนำเสนอที่เผ็ดร้อนนั้นทำให้เกิดเหตุทำลายรูปปั้นเมสซี่ที่อยู่ในเมืองโรซาริโอ บ้านเกิดของเขาทิ้งเลยทีเดียว 

เรื่องราวอันขมขื่นมาจบลงเอาตรงนี้ และเริ่มบทท้าย ๆ ของ เมสซี่ ในทีมชาติอาร์เจนตินา 

หลังฟุตบอลโลก 2018 จบลง ลิโอเนล อีกคนหนึ่งที่มีนามสกุลว่า สคาโลนี่ เข้ามารับงานแทน ฮอร์เก้ ซามเปาลี ในฟุตบอลโลกครั้งนั้น เหมือนกับว่าสายลมแห่งความหวังกลับมาพัดผ่านใต้ปีกของ เมสซี่ อีกครั้ง เพราะมันทำให้ เมสซี่ เจอทีมที่สร้างมาเพื่อเขาเหมือนสมัยที่เขาเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า จนได้ 

 

เมื่อได้พบกับลมใต้ปีก 

สคาโลนี่ เข้ามาพร้อมกับเครื่องหมายคำถาม ตอนนั้น อาร์เจนตินา ทีมแตกไปแล้ว มีการแบ่งฝ่ายกันมากมายไปหมด นักเตะแต่ละคนก็สงสัยในตัวของเขาเพราะ สคาโลนี่ ก็เป็นทีมสตาฟฟ์ของ ซามเปาลี มาก่อน ดังนั้น นักเตะอาร์เจนตินา บางกลุ่มยังไม่ยอมเปิดใจให้ สคาโลนี่ เลยด้วยซ้ำ 

จนกระทั่ง สคาโลนี่ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ทำงานหนักมากที่ เขาหาจุดอ่อนของทีมชุดฟุตบอลโลกปี 2018 คำตอบที่เขาได้คือ อาร์เจนตินา พึ่ง เมสซี่ จนเกินไป จนลืมรายละเอียดในส่วนต่าง ๆ ไปมากมาย ทั้งการไม่ไล่บอลมากเท่าที่ควร เสียบอลในจุดที่ไม่ควรเสีย และเล่นมากจังหวะไม่ทันเกมสไตล์โมเดิร์นฟุตบอล 

สคาโลนี่ อยากให้นักเตะทุกคนวิ่งให้มากกว่านี้ ซ้อมหนักให้มากกว่า เข้าใจเกมให้มากกว่านี้ ... แม้นั่นจะไม่ใช่วิธีการเล่นที่ เมสซี่ ถนัด เรื่องนี้ยืนยันได้ด้วยสถิติ เพราะ เมสซี่ วิ่งเฉลี่ยเพียงเกมละ 8.5 กิโลเมตรเท่านั้น ขณะที่นักเตะคนอื่น ๆ วิ่งอยู่ที่เกมละ 10-11 กิโลเมตรเป็นอย่างต่ำ แต่ สคาโลนี่ ก็หาทางออกแบบไม่ต้องให้ทุกคนต้องโทษ เมสซี่ ด้วยการแก้ไขปัญหาง่าย ๆ

ถ้า เมสซี่ ไม่วิ่ง ก็ให้คนอื่นวิ่งแทน ถ้า เมสซี่ เข้าปะทะไม่เก่ง เขาก็จะหาบอดี้การ์ดเพื่อลดภาระของ เมสซี่ เพื่อให้ เมสซี่ ได้ใช้เท้าซ้ายอันมหัศจรรย์ของเขาบันดาลผลลัพธ์ที่ทุกคนรอคอยนั่นคือ "ชัยชนะ" 

ดังนั้นเราจึงได้เห็นนักเตะที่ขึ้นรุ่นมาใหม่ ๆ อย่าง โรดริโก้ เดอ ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส, เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ และ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ที่เป็นกองกลางสายพลังเยอะวิ่งขึ้นลงได้ไม่มีหมด กองหน้าสายเลือดใหม่อย่าง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ที่วิ่งไล่บอลจนสุดทุกลูก 

เมื่อไหร่ก็ตามที่ เมสซี่ ได้บอล นักเตะเหล่านี้จะขยับหาช่องให้งานของ เมสซี่ ง่ายขึ้น และเมื่อไหร่ที่ทีมเสียบอลนักเตะในรายชื่อที่กล่าวมาก็จะกัดฟันวิ่งเพื่อเอาบอลมาให้ เมสซี่ ได้สร้างสรรค์เกมแบบที่เราได้เห็นกันในฟุตบอลโลก 2022 โดยเฉพาะในรายของ เดอ ปอล นั้นวิ่งมากที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ด้วยระยะทางทั้งหมดเกือบ 73 กิโลเมตร จาก 7 เกมที่ลงเล่น 

นักเตะรุ่นน้องเหล่านี้ไม่เคยสงสัยว่าทำไมพวกเขาต้องวิ่งมากขึ้น ขยันมากขึ้น เสี่ยงเจ็บมากขึ้นเพื่อ เมสซี่ เพราะพวกเขาเติบโตมากับการเห็น เมสซี่ สร้างความมหัศจรรย์มากมาย ทุกคนจึงเต็มใจอย่างมากที่มอบสิทธิพิเศษให้ เมสซี่ ด้วยการที่พวกเขาจะลงแรงให้หนักกว่าที่เคยเป็น 

นี่คือบรรยากาศที่ เมสซี่ เคยได้รับสมัยที่เขาเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า เขาวิ่งน้อยแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่นักเตะคนอื่น ๆ ในทีมช่วยทำหน้าที่ทดแทนในส่วนของเขา ชาบี เอร์นานเดซ เคยวิ่งเกมละ 12 กิโลเมตร, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ก็ไม่ต่างกัน ฟูลแบ็ก 2 ข้างที่เติมขึ้นมาเล่นร่วมกับ เมสซี่ ตลอดเวลาไม่ว่าเขาจะอยู่ฝั่งไหน สิ่งเหล่านี้ทำให้งาน เมสซี่ ง่ายขึ้น ทำให้เขามีเวลาได้อยู่กับลูกบอลมากขึ้น แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่กี่วินาที แต่สำหรับอัจฉริยะอย่าง เมสซี่ แค่ไม่กี่วินาทีก็เกินพอแล้ว 

"มีหลายคนวิเคราะห์ถึงสิ่งที่ผมได้ทำในแต่ละเกม และพวกเขาพูดว่า การวิ่งของผมนำไปสู่ความพยายามทำให้ เมสซี่ วิ่งให้น้อยลงได้ ... ผมจะไม่เถียงถึงเรื่องนั้นอย่างแน่อน" 

"เพื่อลดการสึกหรอ และมีพื้นที่เล่นมากขึ้น สิ่งนี้อยู่ในใจผมตลอดการแข่งขัน ดังนั้นบทสนทนากับเขาจึงแน่นอน เราเข้าใจกันด้วยสายตา" เดอ ปอล อธิบาย

ขณะที่ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ที่เป็นผู้รักษาประตูที่เพิ่งขึ้นรุ่นมาเล่นในทีมชาติเอาในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาก็พูดไม่ต่างกัน นักเตะอาร์เจนตินาชุดนี้ พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ เมสซี่ ได้รับการยกย่องเชิดชูแบบที่เขาควรได้รับ เพราะเขาต้องเจ็บปวดมาเยอะกับการแบก อาร์เจนตินา ไว้บนบ่า ... หนนี้เด็ก ๆ ในทีมชุดนี้จะช่วยแบกเขาเอง

"เมสซี่ คือ 99.9% ของทีม และเราที่เหลือคือ 0.1% ที่ต้องคอยช่วยเหลือเขาเมื่อสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามที่หวัง ... ผมหวังว่าจะช่วย เมสซี่ คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกให้ได้ ผมจะทำทุกอย่าง แม้ต้องสละชีวิตของผมเพื่อเขา ผมก็จะทำ" คำพูดของ เอมิ มาร์ติเนซ บอกทุกอย่างอย่างแท้จริง 

เมสซี่ เฝ้ารอทีมชุดนี้มานานตั้งแต่ปี 2005 ... ผ่านมาแล้ว 19 ปี ทีมชุดนี้ทำให้ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกฟุตบอลได้อย่างไร้ข้อโต้แย้ง ... 2 แชมป์ โคปา อเมริกา ในปี 2021 และ 2024 กับ 1 แชมป์ ฟุตบอลโลก ในปี 2022

และถ้าคุณได้ดู เมสซี่ ในวัย 30 กลาง ๆ โบยบินได้อย่างอิสระในทัวร์นาเมนต์เหล่านี้ จงอย่าแปลกใจว่าเขาทำแบบนั้นได้อย่างไร ... ลมใต้ปีกของเขาทั้ง 25 คน ช่วนกันพัดอย่างสุดแรง จนท้ายที่สุดแล้วก็ไม่เหลือแชมป์ใดบนโลกนี้ให้ เมสซี่ ต้องพิชิตเพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกต่อไป 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.espn.com.ar/futbol/reporte/_/juegoId/184000
https://www.givemesport.com/88063295-lionel-messi-rodrigo-de-paul-protected-argentine-from-honduras-players-at-full-time
https://bleacherreport.com/articles/2782408-jorge-sampaoli-says-argentina-team-mates-are-to-blame-for-lionel-messis-form
https://www.coachesvoice.com/cv/lionel-scaloni-coach-watch-lionel-messi-argentina-brazil/
https://psgtalk.com/2021/09/messi-shares-an-interesting-perspective-on-argentina-national-team-manager-scaloni/
https://www.theguardian.com/football/2021/jun/11/argentinas-rodrigo-de-paul-messi-surprised-me-he-enjoys-a-song-cards
https://sportsfinding.com/de-paul-messi-is-our-leader-and-older-brother/167231/
https://theathletic.com/3960543/2022/12/05/rodrigo-de-paul-messi-argentina/

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

อภิสิทธิ์ โชติพิบูลย์ทรัพย์

Art Director ผู้รับเหมางานภาพกราฟิกหน้าปกบทความทุกชิ้น