News

สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬา ตั้งฉายา "มาดามแป้ง" เดอะ แบก แห่งฟุตบอลไทย

ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ สำหรับสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ที่จะตั้ง "ฉายาคนกีฬา" เป็นประจำทุกปี จุดประสงค์ก็เพื่อเป็นการสะกิด แซว หยอกเย้าคนกีฬา ซึ่งถือเป็นคนกันเองที่ใกล้ชิดกับสื่อฯ ด้านกีฬา ทำงานร่วมกันมาทั้งปี ก็ต้องมีการแซวบ้าง หยอกกันบ้าง ตามฉายาที่ตั้งมา ไม่ได้เป็นการลบหลู่หรือซ้ำเติมกัน

 

สำหรับปี 2568 หรือ ปีงูเล็ก กำลังจะเลื้อยผ่านไปแล้ว และปี 2569 ปีม้า กำลังทะยานเข้ามาอย่างคึกคักนั้น สำหรับปี2568 มีกิจกรรมกีฬามากมาย โดยเฉพาะกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพช่วงปลายปี ก็เป็นอีกทัวร์นาเมนท์หนึ่งที่เราได้ฉายาคนกีฬากันมามากมาย แต่สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาฯ ขอเลือกเอาเด็ดๆ ที่ชาวกีฬาน่าจะเห็นด้วย 12 ฉายาด้วยกัน

 

1. ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)

ฉายา "รับจบทุกดราม่า"

ดร.ก้องศักดิ์ คือผู้นำที่ต้องเผชิญพายุดราม่าตลอดการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทย เป็นเจ้าภาพในรอบ 18 ปี ปัญหามากมายทั้งข้อจำกัดงบประมาณ การเปลี่ยนผ่านรัฐบาล สนามแข่งขันที่ไม่พร้อม การเปลี่ยนผู้ออกแบบพิธีเปิด-ปิด ไปจนถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเบี้ยเลี้ยงและการจัดการแข่งขัน เขาออกมาเคลียร์ชี้แจงทุกประเด็นด้วยความอดทนและตรงไปตรงมา จึงเป็นที่มาของฉายา "รับจบทุกดราม่า" เพราะไม่เคยหลบ ไม่เคยหนีปัญหา แต่เลือกที่จะยืนหยัดแก้ไขจนจบ แม้จะถูกโจมตีหนักหน่วงในช่วงแรก แต่สุดท้ายซีเกมส์ครั้งนี้กลายเป็นมหกรรมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ ด้วยไทยคว้า 233 เหรียญทอง มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ชัยชนะนี้ไม่ใช่แค่ของนักกีฬา แต่เป็นการพิสูจน์ความมุ่งมั่นของผู้นำที่กล้าทำหน้าที่ "รับจบ" ทุกวิกฤต เพื่อให้กีฬาไทยเดินหน้าต่อไปได้อย่างสง่างาม

 

2. สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ 

ฉายา "สมาคมเดอะแบก"

จากผลงานของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในภายใต้การดูแลของ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ในปีนี้ 2568 เหมือนอะไรก็ไม่เป็นใจให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ถือเป็นปีแห่งดราม่าของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ต้องมาแบกรับภาระจ่ายหนี้ค่าลิขสิทธิ์ 360 ล้านบาท จนทำให้เกิดวิกฤติทางการเงิน รวมถึงปัญหาเรื่องของโค้ชเพื่อหวังให้ผลงานและทิศทางของฟุตบอลไทยดีขึ้นก่อนจะมาตั้ง "แอนโทนี ฮัดสัน" กุนซือชาวอังกฤษเข้ามาคุมแทน เพื่อการกอบกู้ศรัทธาของแฟนบอลไทยกลับมา

ในช่วงปลายปีซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สมาคมกีฬาฟุตบอลไทย หวังจะกู้ชื่อกลับมาในผลงานซีเกมส์ให้ได้ โดยมีเป้าหมาย 4 เหรียญทองเป็นหลักประกัน แต่สุดท้ายทำได้เพียงแค่ 2 เหรียญเงินจากฟุตบอลและฟุตซอลทีมชาย และ 2 เหรียญทองแดงจากฟุตบอลหญิง และฟุตซอลหญิง จบซีเกมส์ครั้งนี้สมาคมไร้เหรียญทอง จากตั้งเป้าไว้ 4 เหรียญทอง

แม้ผลงานในสนามไม่เป็นที่ประจักษ์แต่ก็ต้องชื่นชม "มาดามแป้ง" ที่พยายามขจัดปัญหาทุกด้านให้ดีขึ้นทั้งภาระหนีสิ้นทั้งที่ไม่ได้เป็นคนที่ก่อ ปัญหาลิขสิทธิ์ไทยลีก รวมทั้งพยายามเร่งพัฒนาในสนามให้ดีขึ้นทุกอย่าง ดูเหมือนต้อง "แบกรับภาระ" อย่างหนักหน่วงในทุกเรื่อง ซีเกมส์หนนี้ "มาดามแป้ง" พยายามที่จะสร้างความสุขให้กับคนไทยทั้งประเทศได้ฉลองเหรียญทองเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ทั้งเรื่องของสนามฝึกซ้อมความพร้อมของทีมและพยายามหยุดพักเกมไทยลีก รวมถึงเตรียมโบนัสเพื่อมอบเป็นขวัญกำลังใจให้กับนักเตะ แต่สุดท้ายไม่สามารถทำได้เพราะหลายสโมสรไม่เห็นด้วยเนื่องจากเป็นระบบลีกอาชีพ แม้วันนี้ทุกอย่างไม่เป็นตามเป้าหมาย "ปีหน้าฟ้าใหม่" ก็ขอให้กำลังให้ใจ "มาดามแป้ง" พานาวาบอลไทยได้ไปไกลกว่านี้

 

3. "น้องมินิ" จันทร์เก้า อุดมเพ็ญ สาวน้อยวัย 10 ขวบ

ฉายา "เก่งเกินตัว"

"น้องมินิ" จันทร์เก้า อุดมเพ็ญ นักสเก็ตบอร์ตตัวน้อยจากอุดรธานี สร้างผลงานโชว์ลีลาได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยวัยเพียง 10 ขวบ แต่สามารถเรียกเสียงฮือฮาทั้งสนาม และเสียงเชียร์ผ่านหน้าจอของแฟนกีฬากันอย่างสนุกตื่นเต้นในการแข่งขันของกีฬาเอ็กซ์ตรีม ลีลาสเก็ตบอร์ด ประเภทสตรีท ซีเกมส์ครั้งที่ 33 พร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาไทยอายุน้อยที่สุดที่ได้เหรียญทองซีเกมส์ของนักกีฬาไทย ทำลายสถิติของ ธีรัช โพธิ์พานิช ตำนานยิมนาสติกไทย ที่คว้าเหรียญทองแรกตอนอายุ 13 ปี

"น้องมินิ" ถือเป็น "ม้ามืด" เพราะทุกสายตามองว่า "น้องเอสที" วารีรยา สุขเกษม รุ่นพี่ทีมชาติที่เป็น "ไอดอล" ของเธอ ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการเป็นนักกีฬาไทยคนแรกคว้าโควตาไปแข่งขัน สเก็ตบอร์ด ในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส คือตัวเต็งคว้าทอง แต่กลับเป็น "น้องมินิ" ที่ไม่ใช่มินิอีกต่อไปเพราะว่า "เก่งเกินตัว" กว่าวัย แถมยังให้สัมภาษณ์ว่า ไม่คิดว่าตัวเองจะได้เหรียญทองในซีเกมส์ครั้งนี้ มาเพื่อทำผลงานให้ดีที่สุด พร้อมยอมรับว่าเหรียญทองครั้งนี้ของเธอเซอร์ไพร์สสุดๆ จนได้รับฉายา "เก่งเกินวัย" เป้าหมายต่อไปของเธอคือโอลิมปิกเกมส์

 

4. "เมย์"รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันทีมชาติไทยในวัย 30 ปี 

ฉายา "ป้าเมย์ ไฟแรงเฟร่อ"

"เมย์" รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวทีมชาติไทย ที่สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าเหรียญทองซีเกมส์ประเภทหญิงเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยเอาชนะรุ่นน้องอย่าง ศุภนิดา เกตุทอง 2-0 เซต อย่างราบคาบ ก่อนหน้านี้ เมย์ เคยได้เพียงเหรียญเงินในปี 2009 ในวัย 14 ปี และเหรียญทองแดงในปี 2011 แต่ครั้งนี้ถือเป็นการปิดฉากซีเกมส์อย่างยิ่งใหญ่ในวัย 30 ปี ก่อนอำลาเวทีซีเกมส์ชัยชนะครั้งนี้ทำให้แฟนๆ มอบฉายา "ป้าเมย์ ไฟแรงเฟร่อ" ให้ เพราะโชว์ฟอร์มเทพ ประสบการณ์แน่น และยังคงแข็งแกร่งสมชื่อ อดีตแชมป์โลกและมือ 1 โลก นอกจากนี้ยังช่วยทีมหญิงไทยคว้าเหรียญทองทีมอีกหนึ่งเหรียญ ส่งท้ายด้วย 2 ทองในซีเกมส์ครั้งสุดท้ายของเธอ ความสำเร็จนี้ยิ่งตอกย้ำว่า "เมย์ รัชนก" ยังเป็นไอดอลของวงการแบดมินตันไทยที่แรงไม่ตก แม้จะเข้าสู่วัย "ป้า" แล้ว!

 

5. รร.หมอนทองวิทยา รองแชมป์ฟุตบอล 7HD ที่สร้างไวรัลในโลกโซเซียลสนั่นไทย

ฉายา: รถขายฝัน เตะสนั่นทั่วไทย

ทีมฟุตบอลโรงเรียนหมอนทองวิทยา จากอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา โรงเรียนขนาดเล็กที่มีทรัพยากรจำกัด กลายเป็นตำนานวงการฟุตบอลไทยในปี 2025 ด้วยการเป็นม้ามืดล้มทีมยักษ์ใหญ่ในรายการแชมป์กีฬา 7HD แชมเปียน คัพ (บอล 7 สี) เช่น เทพศิรินทร์ และอัสสัมชัญศรีราชา จนทะลุเข้าชิงชนะเลิศ พบโรงเรียนอบจ.ชัยนาท สร้างปรากฏการณ์สนามศุภชลาศัยแตก คนล้นทะลักเข้าชมถึงขอบสนามหญ้า คนดูไลฟ์สดทาง TikTok ของช่อง 7HD พุ่งทะลุ 1.6 ล้านวิว ทุบสถิติสูงสุดในหมวดกีฬา แม้สุดท้ายได้รองแชมป์แต่ชนะใจคนทั้งประเทศ ภายใต้การคุมทีมของอาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ โค้ชมากประสบการณ์ที่เน้นวินัยและใจสู้ เดินทางด้วย "รถขนฝัน" คันเก่า สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยอย่างยิ่งใหญ่

 

6. "บิว" ภูริพล บุญสอน ลมกรดทีมชาติไทย

ฉายา "เทพบิว 9 วิ"

หนึ่งในนักกีฬาทีมชาติไทยที่สร้างปรากฏการณ์ฮือฮาในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 คือ "บิว" ภูริพล บุญสอน ลมกรดหนุ่มวัย 19 ปีในการแข่งขันวิ่ง 100 เมตรชาย รอบคัดเลือก "เทพบิว" สั่นสะเทือนวงการกรีฑาโลก ด้วยการทำเวลา 9.94 วินาที ซึ่งนอกจากจะเป็นการทำลายสถิติการแข่งขันแล้ว เทพบิวยังเป็นนักวิ่งจากภูมิภาคอาเซียนคนแรกที่ทำเวลาได้ต่ำกว่า 10 วินาที ซึ่งต่อมาสหพันธ์กรีฑาโลกได้รับรองสถิติดังกล่าว โดยถือว่าเขาเป็นลมกรดที่เร็วที่สุดอันดับ 3 ของเอเชีย เป็นรองเพียง ซู ปิง เทียน จากจีน ที่ทำเวลา 9.83 วินาที และเฟมี่ โอกุนโนเด้ จากกาตาร์ ที่ทำเวลา 9.91 วินาที นอกจากจะคว้าเหรียญทองวิ่ง 100 เมตร จากซีเกมส์ได้สำเร็จแล้ว บิวยังคว้าอีก 2 เหรียญทองจากวิ่ง 200 เมตร ชาย พร้อมทำลายสถิติซีเกมส์ และวิ่งผลัด 4x100 เมตรชาย ได้อีกด้วย

 

7.  "โปรจีโน่" อาฒยา ฐิติกุล

ฉายา "สวิงไร้เทียมทาน"

ปี 2025 นับเป็นอีก 1 ปีทองของ "โปรจีโน่" อาฒยา ฐิติกุล โดยเฉพาะการป้องกันแชมป์รายการส่งท้ายปี "ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ" พร้อมเงินรางวัล 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งยังเป็นปีที่โปรสาวชาวไทยคว้าแชมป์ได้มากที่สุดรวม 3 รายการอีกด้วย เท่านั้นไม่พอ โปรจีโน่ ยังกวาดรางวัลใหญ่ส่งท้ายปี 2 รางวัล นั่นคือ รางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีของแอลพีจีเอทัวร์ และรางวัล "แวร์ โทรฟี่" สำหรับนักกอล์ฟที่ทำสกอร์เฉลี่ยต่ำที่สุดในฤดูกาล ซึ่งสถิติ 68.68 ที่โปรจีโน่ทำได้นั้น นับเป็นสถิติสกอร์เฉลี่ยต่อรอบต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ทัวร์ ทำลายสถิติเดิมที่อันนิก้า โซเรนสตัม ตำนานกอล์ฟชาวสวีดิชเคยทำไว้ 68.70 เมื่อปี 2002 ลงได้ และยิ่งเป็นการตอกย้ำความยิ่งใหญ่ชนิดไร้เทียมทานในปี 2025 โปรจีโน่ยังกลับคืนบัลลังก์มือ 1 ของโลกได้สำเร็จ ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.จนถึงปัจจุบัน

 

8. สมาคมมวยไทยสมัครเล่น

ฉายา "ล็อคเพื่อเพื่อน"

มวยไทยในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ และถือเป็นต้นตำรับของไทย แม้ว่าสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่น จะทำผลงานเกินเป้าหมาย 11 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง จากที่ตั้งเป้าวางไว้ 10 เหรียญทอง ซึ่งเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม แต่กลับมีดราม่า เรื่องแบ่งเหรียญให้ชาติอื่น และล็อกผลการแข่งขัน ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นใหญ่ที่ "มงกุฎเพชร เพชรพราวฟ้า" หรือ อริศรา นุ่นเอียด นักชกสาว กับ "เขี้ยว พรัญชัย" ธงชัย หัวนาค นักชกหนุ่มไทย ให้สัมภาษณ์ หลังการชกประเด็นนี้ขึ้นมา จนมีการไปร้อง ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคไทย เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม จนคณะกรรมการโอลิมปิคต้องร่อนจดหมายเชิญสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นมาชี้แจ้งเป็นการด่วนว่าเกิดอะไรขึ้นให้เกิดความกระจ่าง และร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะประเด็นที่ให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซง และยึดไปบริหารและมีอำนาจจนทำให้โปรโมเตอร์มวยชาวไทย และนักชกไทยถูกเอาเปรียบ

 

9. ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัย

ฉายา "ซ้ายดาราช็อกโลก!"

ตะวันฉายเจ้าของฉายา "ซ้ายดารา" ถือเป็นยอดนักชกมวยไทยแถวหน้าของเมืองไทยค่าตัวแต่ละไฟล์สูงกว่า 10 ล้านในศึกวันลุมพินี ด้วยลีลาการชกที่ดุดันทำให้ชกแต่ละครั้งเรียกเสียงฮือฮาจากแฟนมวยอย่างกึกก้อง ใครจะคิดว่าปี 68 จะเป็นปีที่ชอกช้ำที่สุด หลังจากเมื่อต้นปีต้องพ่ายน็อกในยกที่ 3 ให้กับ มาซาอากิ โนอิริ นักชกชาวญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ประเทศญี่ปุ่นพลาดการคว้าแชมป์โลกคิกบ๊อกซิ่งเฉพาะกาลอย่างน่าเสียดาย จากนั้นปลายปีเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.กลายเป็นค่ำคืนที่แฟนมวยต้องช็อกอีกครั้ง เมื่อ ตะวันฉาย พ่ายทีเคโอให้กับ "หลิว เมิงหยาง" ที่เตะขาจนล้มพับเพียงยกแรกก่อนมีรายการว่าขาหัก ต้องพักยาวหลายเดือน ต้องมาลุ้นกันว่าหลังจากนี้ ตะวันฉาย จะกลับมามีสไตล์การชกที่ดุดันเหมือนเดิมหรือเปล่า

 

10. คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล

ฉายา "ฑูตกีฬาโลก"

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซีเมมเบอร์ และเป็นประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก ที่มีสมาชิกกว่า 200 ชาติเช่นกัน ยังคงทำงานในด้านกีฬาอย่างหนักอยู่ตลอด ในปีนี้ก็เช่นกัน ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจไม่มีวันหยุดพัก เวลาส่วนหนึ่งอยู่บนเครื่องบิน หมดไปกับการเดินทาง ไปหมดทั้งยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง เอเชีย แอฟริกา เพื่อประชุมในด้านต่าง ๆ เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสหพันธ์กีฬานานาชาติ กับสมาคมกีฬาของไทยเราอยู่เสมอ มีปัญหาอะไร เคลียร์ให้หมด ไม่ว่าจะเป็นของระดับโลก ระดับชาติ เข้าถึงหมด ทุกสหพันธ์กีฬารักคุณหญิงปัทมา หรือต้องการอะไร จะประสานงานกับคีย์แมนคนไหนในโลกนี้ จัดให้ในทันที นำมาซึ่งความคล่องตัวในการทำงานของหน่วยงานกีฬาของไทย

กีฬาถือว่าเป็นภาษาสากล อยู่แล้ว ยิ่งตอกย้ำด้วยความรู้ความสามารถ ร่วมด้วย อัธยาศัย รอยยิ้มแบบไทยเรา ยิ่งทำให้ คุณหญิงปัทมา ไอโอซีหญิงแกร่งของไทย โดดเด่น ได้รับการยอมรับ ไม่ใช่แค่ที่ตัวบุคคล แต่ยังรวมถึงคำว่า ไทยแลนด์ ที่ติดตัวไปทั่วทุกแห่ง ทั่วโลกพร้อมต้อนรับด้วยความเต็มใจ ในมุมของแบดมินตัน ที่ผ่านมา คุณหญิงปัทมา ยกมือไหว้นักกีฬาทักทายก่อน โดยเฉพาะช่วงมอบเหรียญรางวัลในรายการต่าง ๆ จนตอนนี้นักตบลูกขนไก่ทั่วโลก หันมายกมือไหว้ กันเป็นแถว ภาพความเป็นไทย การเผยแพร่วัฒนธรรมไทยที่ดีงาม ออกสู่สายตาชาวโลก

 

11.  สมาคมกีฬาอีสปอร์ต 

ฉายา "ดับคาไลฟ์"

แม้กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จบไปแล้ว แต่กีฬาอีสปอร์ต เป็นอีกชนิดกีฬาที่ถูกกล่าวขานกันมากโดยเฉพาะ นักกีฬาสาวทีมชาติไทย เจ้าของสมญานาม "Tokyo Gurl" นางสาวณภัทร วราสินธ์ สตรีมเมอร์หญิงชื่อดังในเกม Arena Of Valor (ROV) ในวงการต้องรู้จักเธอ เธอได้สร้างรอยด่างให้กับวงการอีสปอร์ตไทย จนนำความเสื่อมเสียไปถึงระดับชาติ ไม่มีใครคิดว่าเธอจะกล้าโกงในช่วงแข่งขันเกม ROV เกมการต่อสู้ที่เธอถนัด โดยเธอถูกจับได้โดยเจ้าหน้าที่คนไทยด้วยกัน ระหว่างการแข่งขันสดๆ ว่า Tokyo Gurl ไม่ได้บังคับโทรศัพท์ที่เธอถือเอง เป็นเพียงการสลับนิ้วกดเพื่อตบตากรรมการ แต่ไม่เนียน พออาการพิรุษของเธอออก ที่แท้เธอได้ให้เพื่อนสนิทที่นั่งอยู่นอกห้องเป็นผู้เล่นเกมบนนหน้าจอแทน จนนายกสมาคมฯ สันติ โหลทอง ประกาศยุติการแข่งขัน และขอถอนทีมหญิงออกในเวลาต่อมา ทำให้อนาคตการเล่นเกมของเธอดับลงไปในชั่วพริบตา  พร้อมบทลงโทษห้ามเล่นทีมชาติตลอดชีวิต นี่ยังไม่รวมโทษอื่นๆที่จะตามมาจากการสอบสวนเพิ่มเติม

 

12. สมาคมกีฬาตะกร้อฯ

ฉายา "ฟาดล้างบาง"

กีฬาตะกร้อเป็นที่ทราบกันทั่วโลกว่า ไทยคือเจ้าโลก ต้นตำรับ เก่งแบบหาตัวจับยาก จะมีก็แค่ "เสือเหลือง" มาเลเซียเท่านั้นที่พอฟัดพอเหวี่ยงกัน แต่ใครจะเชื่อว่า ในซีเกมส์ครั้งที่ 33 นั้น ตะกร้อชายทีมชาติไทย ทั้งทีมชุด ดีกรีเหรียญทองซีเกมส์ 19 สมัย และ ทีมเดี่ยว ไม่มีเหรียญทองติดมือเลย มีเพียงเหรียญเงินและทองแดง โดยทีมชุด พ่ายให้มาเลเซีย เป็นการพลาดเหรียญทองครั้งแรกในรอบ 38 ปี ขณะที่ทีมเดี่ยว ก็แพ้รอบรองฯ ให้เวียดนาม ได้ทองแดง พลาดเหรียญทองครั้งแรกในรอบ 32 ปี

ข่าววงในลือกันให้แซดว่า บรรดานักเตะไม่ค่อยเอาด้วยกับโค้ช-ผู้จัดการ และกรรมการบริหารสมาคมฯหลายท่าน ที่สำคัญตัวนายกสมาคมฯ เองก็ไม่มีได้บารมีมากล้น ไม่มีความเด็ดขาดอะไรเลย ว่ากันว่า เป็นโอกาสของนักเตะกร้อไทย ที่ยอมชวดเงินอัดฉีดเหรียญทอง เพื่อเป้าใหญ่ในวันข้างหน้า คือ ยอมแพ้ "เตะล้างบางสมาคม" ซะเลย

Author

วัลลภ สวัสดี

ฟังไปเรื่อย ดูไปเรื่อย เขียนไปเรื่อย