
คณะรัฐบาลของเวียดนาม มีมติอนุมัติเมกะโปรเจ็กต์ สร้างสนามกีฬาระดับโลก ในชื่อ "ตรอง ดง สเตเดียม" ความจุกว่า 135,000 ที่นั่ง พร้อมหลังคาอัตโนมัติ กันแดด กันร้อน กันฝน ที่พับเก็บได้ ซึ่งใช้งบประมาณในการสร้างมากกว่า 35,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
โครงการนี้ ได้รับการรับรองจากสภาประชาชนของฮานอยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งการสร้างสนามกีฬา ตรอง ดง สเตเดียม จุดประสงค์ใหญ่คือใช้เป็นสถานที่รับรองการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ อาทิ เอเชียน เกมส์
รวมถึงเป้าหมายระยะยาวของพวกเขา คือการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ โอลิมปิก เกมส์ และ ฟุตบอลโลก ในอนาคต ด้วยสนามกีฬาระดับยักษ์ใหญ่ของพวกเขา ซึ่งสนามแห่งนี้จะสร้างให้ได้ตามมาตรฐานที่ FIFA กำหนดไว้
ตามข้อมูลจากหน่วยงานบริหารเมือง โครงการพัฒนานี้จะครอบคลุม 11 ตำบลทางตอนใต้ของเมืองฮานอย และจะรวมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาขนาดใหญ่เข้ากับเขตเมืองใหม่ ศูนย์กลางการคมนาคม และพื้นที่บริการ
สำหรับแบบแปลนของสนาม มีลักษณะคล้ายกับถ้วยทรงกลมสีทอง และ สปอร์ตคอมเพล็กซ์นี้ จะแบ่งออกเป็นสี่โซนการใช้งาน โซนหนึ่งจะเน้นการพัฒนาเมืองที่เน้นการคมนาคมขนส่ง ทำหน้าที่เป็นประตูการคมนาคมเชื่อมต่อกับศูนย์กีฬาหลัก อีกส่วนหนึ่งจะเป็นเขตกีฬาและบริการหลัก โดยมีสนามกีฬามาตรฐานระดับนานาชาติและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับกีฬาโอลิมปิกเป็นศูนย์กลาง
ขณะที่โซนที่เหลือจะผสานรวมสถานที่จัดกีฬาเพิ่มเติม พื้นที่จัดกิจกรรม และบริการเชิงพาณิชย์เข้ากับสภาพแวดล้อมเมืองที่ต่อเนื่องกัน
เจ้าหน้าที่ของเมืองคาดการณ์ว่าการก่อสร้างศูนย์กีฬาหลักและสนามกีฬาจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่สองของปี 2030 โดยการพัฒนาทั้งหมด มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2035 โดยทางการเน้นย้ำว่า ตัวเลขที่เปิดเผยออกมาในขณะนี้เป็นเพียงตัวเลขเชิงกลยุทธ์เท่านั้น ซึ่งแผนการลงทุนโดยละเอียด จะได้รับการสรุปหลังจากที่ได้คัดเลือกนักลงทุน และได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการแล้ว
ตัวแทนท้องถิ่นกล่าวว่า ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่โครงการได้แสดงการสนับสนุนอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ทรัพยากรภายในประเทศเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬาระดับโลก สนามกีฬาที่วางแผนไว้ได้รับแรงบันดาลใจจากกลองสำริด "ดง เซิน" อันเป็นสัญลักษณ์ของเวียดนาม มีจุดประสงค์เพื่อสะท้อนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาติ ขณะที่เมืองได้รับการกระตุ้นให้ดำเนินมาตรการเบื้องต้นเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนงานและการดำรงชีวิตของชุมชนที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ ทางการได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ และเริ่มดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา ท่ามกลางสายตาของประชาชนในเอเชีย และทั่วทวีปอาเซียน ที่เฝ้ารอดูการกำเนิดของสนามกีฬาระดับโลกแห่งนี้ในอนาคต