นั่นคือหนึ่งในประโยคคำถามจากชาวเน็ต และแฟนกีฬาเบรคกิ้ง (หรือเบรคแดนซ์) ทั่วโลกที่ได้ชมลีลาของ Raygun บีเกิร์ลจากออสเตรเลีย ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันเบรคกิ้ง ที่จัดเป็นครั้งแรกในโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส ฝรั่งเศส วันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา
แม้ว่าจะแข่งจบไปหลายวัน จนโอลิมปิกฉบับปารีส รูดม่านไปแล้ว แต่สิ่งที่ Raygun ทำบนเวทีโอลิมปิก ก็ยังทำให้เกิดข้อถกเถียงมากมายบนโลกอินเตอร์เน็ตจนถึงตอนนี้
Raygun คือนักเต้นหญิงวัย 36 ปี หนึ่งเดียวจาก ออสเตรเลีย ที่ลงแข่งเบรคกิ้งในฐานะตัวแทนทีมชาติฝ่ายหญิง แต่ปรากฏว่าตลอดการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม เธอสวมยูนิฟอร์มสีเขียว-ทอง ขึ้นไปดวลกับคู่แข่งแบบตัวต่อตัว 3 คน แต่เธอไม่ได้คะแนนโหวตจากคณะกรรมการทั้ง 9 คน ที่ตัดสินการแข่งขันแม้แต่คนเดียว ตกรอบด้วยคะแนนโหวต 0 ทั้ง 3 รอบ
สิ่งที่ทำให้ Raygun โดนวิจารณ์อย่างหนักหน่วงก็คือลีลาการเต้นของเธอ ที่ต่อให้คนที่ดูเบรคกิ้งไม่เป็นยังดูออกว่า "ไม่ได้เรื่อง" ขณะที่นักเต้นคนอื่นออกสเต็ป โชว์ท่าทางลวดลายที่แข็งแรง แต่ Raygun งัด "ท่าเต้นจิงโจ้" ออกมาสู้ จนทำให้ชาวออสเตรเลียขำกลิ้ง ผิดหวัง และรู้สึกขายหน้าที่ตัวแทนของพวกเขาทำได้แค่นี้ สู้กับคนอื่นไม่ได้เลย
"ตกใจจริงๆ ที่ Raygun คือนักเต้นตัวท็อปของออสเตรเลีย" "ไอ้ท่าเต้นจิงโจ้นี่มันทำให้เธอมาไกลถึงขนาดนี้เลยเหรอ?" "ขอบคุณ Raygun ที่ทำให้คนนับล้านจากทั่วโลกรู้ว่า ฉันก็ไปแข่งโอลิมปิกได้นี่หว่า" นี่คือคอมเมนต์แง่ลบส่วนหนึ่งบนโลกอินเตอร์เน็ต ที่วิพากษ์การเต้นของ Raygun อย่างเผ็ดร้อน โดยเฉพาะท่าเต้นจิงโจ้อันลือลั่น
ขณะเดียวกัน โลกโซเชียลฯ ของชาวออสเตรเลีย ยังพากันตั้งข้อสังเกตุว่าเหตุผลที่ Raygun ได้ติดทีมชาติมาแข่งเบรคกิ้งในโอลิมปิก เพราะมี Samuel Free บีบอยระดับแถวหน้าของออสเตรเลีย ผู้เป็นทั้งสามีและโค้ชคอยผลักดัน เป็นติวเตอร์จนเธอสามารถเต้นชนะคู่แข่งในการรายการคัดเลือก WDSF Oceania Championship ปี 2023 ได้เหรียญทองและได้โควต้ามาแข่งเบรคกิ้งที่ PARIS 2024
อันที่จริงแล้ว Raygun หรือชื่อจริง Rachel Gunn ใช่ว่าจะเต้นไม่เป็นอย่างที่คนอื่นตั้งคำถาม เพราะเธอคือนักเต้นมืออาชีพและอยู่ในวงการเบรคกิ้งของออสเตรเลียมาตั้งแต่อายุ 20 ขณะเดียวกันยังเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแม็คควอรี่ สาขาการสื่อสาร-ศิลปะ แถมยังทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องวัฒนธรรมเบรคแดนซ์ในซิดนีย์ สลับบทบาทกับเป็นนักเต้นลงแข่งรายการต่างๆ จนได้โควต้ามาแข่งโอลิมปิก
เรียกได้ว่า Raygun มีความสามารถในการเต้นไม่แพ้ใคร เพียงแต่สิ่งที่เธอแสดงบนเวทีโอลิมปิก มันทำให้คนดูตั้งคำถามว่าทำนองว่า "มีชาวออสเตรเลีย 27.7 ล้านคน บนโลกนี้ นี่คือคนที่พวกเขาส่งมาเป็นตัวแทนลงแข่งโอลิมปิกอย่างนั้นเหรอ?"
Raygun ให้สัมภาษณ์สื่อหลังถูกถามเรื่องท่าเต้นของเธอ หลังออกไปโชว์ลีลาบนฟลอร์ Place de la Concorde โดยประเด็นสำคัญคือเธอต้องการเต้นในแบบของตัวเอง มากกว่าจะสู้เพื่อเอาชนะคู่แข่ง "ท่าเต้นของฉันล้วนเป็นท่าออริจินัล ความสร้างสรรค์คือสิ่งสำคัญสำหรับฉัน ฉันออกไปโชว์ความเป็นศิลปินให้ทุกคนดู บางครั้งมันก็ส่งเสียงไปถึงกรรมการ บางครั้งก็ไม่ ฉันทำในแบบของตัวเอง โชว์ความเป็นศิลปะออกมา จะมีสักกี่ครั้งกันที่จะได้โอกาสมาทำสิ่งนี้บนเวทีนานาชาติ"
ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่าเต้นของ Raygun มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แม้แต่ MGbility หนึ่งในกรรมการตัดสินเบรคกิ้งในวันนั้น ยังยอมรับในลีลาของ Raygun เพียงแต่พวกเขาต้องตัดสินให้คะแนนด้วย 5 เกณฑ์มาตรฐานที่พวกเขากำหนดไว้คือ เทคนิค, การสื่อสารผ่านท่าทาง, ความเป็นเอกลักษณ์, เต้นลงจังหวะเพลง และท่าจบที่สวยงาม ซึ่ง Raygun เป็นรองทุกคนในรอบแบ่งกลุ่ม
MGbility บอกว่า "คอมมูฯ เบรคแดนซ์และฮิปฮอป อยู่เคียงข้างเธอแน่นอน เธอพยายามนำเสนอสิ่งใหม่ ความสร้างสรรค์ และสิ่งที่เป็นตัวแทนจากประเทศตัวเอง เพียงแต่ระดับของเธอไม่สูงเท่าผู้แข่งขันคนอื่น เมื่อนำมาเปรียบเทียบ ผู้แข่งขันคนอื่นทำได้ดีกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอเต้นแย่ เธอทำดีที่สุดแล้ว น่าเสียดายที่บีเกิร์ลคนอื่นทำได้ดีกว่า นั่นคือเหตุผลที่เธอไม่ได้คะแนนโหวตจากการเต้นของเธอ"
กระนั้น ก็มีนักวิเคราะห์บางคนตั้งข้อสังเกตุว่า ท่าเต้นต่างๆ ที่ดูไม่เอาไหนของ Raygun ในโอลิมปิก อาจแฝงนัยยะบางอย่างในเชิง "ประท้วง" หรือ "ต่อต้าน" ไปยังคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ผู้ซึ่งอนุมัติการแข่งขันเบรคกิ้งเข้ามาแข่งในโอลิมปิกเป็นครั้งแรก ทำนองว่า IOC ไม่มีสิทธิ์ที่จะมากำหนด ตัดสิน หรือบังคับให้เหล่าบีบอย บีเกิร์ล ต้องเต้นโชว์ความสามารถเพื่อเอาคะแนนจากกรรมการ แทนที่จะใช้เวทีนี้แสดงความเป็นตัวเอง และเต้นอย่างสร้างสรรค์ให้คนทั่วโลกยอมรับ
Graeme Codrington นักวิเคราะห์สายอาชีพ แสดงความเห็นเรื่องนี้ว่า "เธอเขียนบทความลงในวารสารวิชาการเกี่ยวกับเรื่องซีนของเบรคแดนซ์ที่ออสเตรเลีย และเรื่องการเมืองในโลกกีฬา ที่แสดงความกังวลว่าหากเบรคแดนซ์เกิดขึ้นในโอลิมปิก สาระสำคัญของมันก็จะสูญหายไป หากกีฬานี้ถูกควบคุมโดยองค์กรที่ไม่เกี่ยวข้องกับกีฬานี้อย่าง IOC ซึ่งมันก็อาจไม่ใช่กีฬาเบรคกิ้งที่เธอรักอีกต่อไป"
เช่นเดียวกับ Forbes ที่ยังลงบทความชื่นชม Raygun ในการพยายามแสดงการเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างสรรค์ ไม่เหมือนใคร และต้องไม่ลืมว่า โอลิมปิก ไม่ใช่เวทีที่นักกีฬาทุกคนจะต้องทุ่มเทต่อสู้เพื่อความเป็นเลิศอย่างเดียว แต่ยังเป็นเวทีที่จะทำคนทั่วโลกมีโอกาสได้เห็นความสามารถที่หลากหลายของนักกีฬาชาติต่างๆ พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรเหมือนกันหมด ควรมีพื้นที่ให้สำหรับคนที่สร้างสรรค์และแตกต่างบ้าง
รวมถึงชาวเน็ตอีกกลุ่มหนึ่งที่คอมเมนต์ประทับใจกับท่าเต้นจิงโจ้ของ Raygun เช่นกัน ทำนองว่าต่อให้ไม่ได้เหรียญ ได้คะแนนโหวต 0 แต่คนทั่วโลกก็รู้จักเธอไปเรียบร้อย เผลอๆ ชื่อของ Raygun อาจเป็นที่รู้จักมากกว่าเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก เบรคกิ้งหญิงอย่าง Ami จากญี่ปุ่นเสียอีก แถมยังเป็นไวรัลบนอินเตอร์เน็ตด้วย ยิ่งกว่าได้เหรียญทองเสียอีก
กระนั้น ไม่ว่าใครจะคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไร แต่ Raygun รวมถึงเหล่าบีบอย-บีเกิร์ล ทั้งหลาย ก็จะไม่ได้ปรากฏตัวให้คนดูกีฬาได้เห็นอีกใน โอลิมปิก 2028 ที่ลอส แองเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อ IOC รวมถึงฝ่ายเจ้าภาพ มีแนวโน้มจะไม่บรรจุกีฬาเบรคกิ้ง ลงใน LA 2028 ทั้งที่ สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศต้นกำเนิดของเบรคกิ้ง ดังนั้นต้องไปลุ้นกันในโอลิมปิก ครั้งถัดไปที่ บริสเบน ออสเตรเลีย ปี 2032 ว่า เบรคกิ้ง จะได้กลับมาหรือไม่?