News

เพราะอะไร "ญี่ปุ่น" ถึงกลายเป็นราชาแห่งโลกสเก็ตบอร์ดยุคปัจจุบัน

การแข่งขันกีฬาสเก็ตบอร์ด ในโอลิมปิก 2024 ถือเป็นอีกครั้งที่ ญี่ปุ่น ใช้เวทีนี้เป็นสถานที่ประกาศศักดาว่าพวกเขาคือราชาแห่งวงการสเก็ตบอร์ดยุคปัจจุบัน ด้วยความสำเร็จของสองนักกีฬาชาย-หญิง ที่คว้าเหรียญทองได้ทั้งคู่

 


ในประเภทสตรีทหญิง แชมป์ตกเป็นของ โคโค่ โยชิซาวะ ดาวรุ่งสาวชาวญี่ปุ่นที่ลงแข่งกีฬาห้าห่วงครั้งแรก ขณะที่ฝ่ายชาย ยูโตะ โฮริโกเมะ คว้าเหรียญทองสองสมัยติดต่อกัน ตอกย้ำสถานะการเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการสเก็ตบอร์ดยุคใหม่

ความสำเร็จของพวกเขา ถือเป็นตัวอย่างที่ดีและเป็นแรงบันดาลใจที่จะทำให้เด็กญี่ปุ่นจำนวนมาก หันมาเล่นสเก็ตบอร์ดกันมากขึ้นกว่าเดิม ดังเช่นศึก โอลิมปิก 2020 ที่โตเกียว ญี่ปุ่น ที่เคยสร้างแรงสั่นสะเทือนขนาดใหญ่ในวงการสเก็ตบอร์ดของประเทศมาแล้ว

ย้อนไป "TOKYO 2020" การคว้าเหรียญทองสเก็ตบอร์ด ประเภทสตรีทหญิงของ โมมิจิ นิชิยะ สาวน้อยวัย 13 ปี บวกกับเหรียญทองของ ยูโตะ โฮริโกเมะ ในรุ่นสตรีทชาย และเหรียญทองของ ซากุระ โยโซซูมิ ในประเภทพาร์คหญิง รวมเป็น 3 เหรียญทองนั้น สร้างกระแสให้เด็กๆ หันมาเล่นสเก็ตบอร์ดกันเยอะมาก แม้แต่เด็ก 6 ขวบ ก็เริ่มฝึกเล่นท่าบนกระดานบอร์ดกันแล้ว

ไดสุเกะ ฮายาคาวะ นักสเก็ตบอร์ดรุ่นเก๋าที่โลดแล่นในวงการมานาน 40 ปี และเป็นหัวหน้าทีมสเก็ตบอร์ดของญี่ปุ่น ชุดลุยศึก PARIS 2024 บอกว่ามีนักสเก็ตบอร์ดรุ่นใหม่ถือกำเนิดขึ้นเป็น 3 เท่า ประกอบกับที่มีการเปิดสนามสเก็ตบอร์ดเพิ่มมากขึ้นในปี 2022 ทำให้เด็กๆ กลุ่มนี้มีโอกาสเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะให้แก่ตัวเองตั้งแต่วัยเยาว์ บ้างก็ว่าจ้างครูมาสอนแบบจริงจัง เพื่อให้เล่นท่าได้เก่งขึ้น เร็วขึ้น

"สมัยก่อนพ่อ-แม่เคยบอกลูกๆ ว่าอย่าเล่นสเก็ตบอร์ดเลย แต่ตอนนี้กลายเป็นพ่อ-แม่ที่พาลูกไปเล่นที่สนามแล้ว ถ้าเล่นจนรองเท้าสึกหรือบอร์ดพัง พวกเขาก็จะซื้ออันใหม่ให้ลูกทันที" ไดสุเกะ ฮายาคาวะ เล่าถึงกระแสกีฬาสเก็ตบอร์ด ที่เบ่งบานขึ้นอย่างมากในญี่ปุ่นช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

เช่นเดียวกับพ่อแม่ ผู้ปกครองชาวญี่ปุ่น ที่มีลูกหลานฝึกเล่นสเก็ตบอร์ด ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าความสำเร็จของทีมสเก็ตบอร์ดชุด โอลิมปิก 2020 เปลี่ยนทัศนคติพวกเขาอย่างสิ้นเชิง จากกีฬาที่พวกเขามองว่าเป็นแค่งานอดิเรกของวัยรุ่น กลายเป็นกีฬาที่มีคุณค่า ลูกหลานของพวกเขามีโอกาสประสบความสำเร็จในกีฬาชนิดนี้ และสร้างเนื้อสร้างตัว เป็นผู้เล่นระดับอาชีพได้ในอนาคต

ตัดภาพไปที่ PARIS 2024 ทีมสเก็ตบอร์ดของญี่ปุ่น นอกจากแกนหลักอย่าง ยูโตะ โฮริโกเมะ ที่มาป้องกันแชมป์รุ่นสตรีทชาย และ ซากุระ โยโซซูมิ มาป้องกันแชมป์รุ่นพาร์คหญิงแล้ว ยังพกพาผู้เล่นสเก็ตบอร์ดหน้าใหม่และอายุน้อยมาลุยกันเพียบ เช่น โคโค่ โยชิซาวะ สาวน้อยวัย 14 ที่ได้เหรียญทองสตรีทหญิงไปเรียบร้อย หรือ กินวู โอโนเดระ ดาวรุ่งชายที่ถูกยกให้เป็นอัจฉริยะคนใหม่ของวงการ วัย 14 ปี ที่บินมาเก็บประสบการณ์บนสังเวียนใหญ่ครั้งแรกที่ปารีส เช่นเดียวกับ โซระ ชิราอิ แชมป์โลกคนล่าสุด วัย 22 ปี ที่ก็ติดทีมมาแข่งด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากทักษะความสามารถที่สู้กับคู่แข่งจากอเมริกา ยุโรป แบบไม่เป็นรองใคร ไดสุเกะ ฮายาคาวะ ยังมองว่าปัจจัยสำคัญที่ส่งให้ทีมสเก็ตบอร์ดญี่ปุ่นประสบความสำเร็จ ก็เพราะนักกีฬาของพวกเขา "ไม่มีความหวาดกลัว" ที่จะลงสนามไปแสดงฝีมือให้คนทั้งโลกเห็นความสามารถของตัวเอง

"พวกเขายังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจถึงความสำคัญของ โอลิมปิก พวกเขาไม่รู้หรอกว่าเวทีนี้มันใหญ่แค่ไหน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้สึกประหม่าที่จะลงแข่งขัน" โค้ชฮายาคาวะ เผย

เช่นเดียวกับ ยูโตะ โฮริโกเมะ ที่แม้จะถูกจับตาในฐานะแชมป์เก่า แถมพอวันแข่งจริงเขาก็แสดงความผิดพลาด เล่นท่า Trick พลาดไป 3 ครั้ง จาก 4 ครั้งแรก ล้มคะมำลงมากระแทกพื้นหลายรอบ หลายคนมองว่าเขาคงหมดลุ้นไปแล้ว แต่พอถึงก๊อกสุดท้าย เขาก็ไถบอร์ดของตัวเอง กระโดดขึ้นไปโชว์ท่า nollie 270 กับราวบันไดในการเล่น Trick ครั้งสุดท้าย จนเก็บคะแนนแซงคู่แข่งขึ้นไปคว้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 2 แบบเหลือเชื่อ เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนสเก็ตบอร์ดที่ชมถ่ายทอดสดกันทั่วโลก

และความสำเร็จครั้งล่าสุด โฮริโกเมะ วัย 25 ปี บอกว่ามันเกิดขึ้นได้เพราะเขา "ไม่กลัวที่จะล้มเหลว" เพราะอย่างน้อยถึงออกไปเล่นท่าแล้วผิดพลาด ก็ไม่ใช่เรื่องน่าเสียใจ ดีกว่ากลัวพลาดจนไม่กล้าทำอะไรเลย "นี่คือการแข่งขันโอลิมปิกที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะมันมีการแข่งขันที่เข้มข้นที่สุด ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองจะคว้าเหรียญได้หรือเปล่า แต่ผมก็ไม่อยากรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ทำ ผมเชื่อแบบนั้นจนถึงวินาทีสุดท้าย"

ส่วน ไนจาห์ ฮุสตัน เจ้าของเหรียญทองแดงจากอเมริกา ก็พูดชื่นชม โฮริโกเมะ ว่า "ผมว่าเขาดูไม่รู้สึกกดดัน หรือรู้สึกกลัวสิ่งใดเลยแม้แต่น้อย"

สำหรับทีมสเก็ตบอร์ดของญี่ปุ่น ยังเหลืออีก 2 รายการให้ลุ้นคือประเภทพาร์คหญิง วันที่ 6 สิงหาคม กับพาร์คชาย วันที่ 7 สิงหาคม ซึ่ง โค้ชฮายาคาวะ ตั้งใจอยากให้ทีมของเขา ปิดจ๊อบคว้าเหรียญทองสเก็ตบอร์ดโอลิมปิกที่ปารีส กลับบ้านครบทั้ง 4 เหรียญ ซึ่งตอนนี้ได้มา 2 เหรียญใส่กระเป๋าแล้วเรียบร้อย

แต่เหนืออื่นใด โค้ชฮายาคาวะ ก็ตั้งความหวังว่าหากทีมสเก็ตบอร์ดของญี่ปุ่นได้ 4 เหรียญทองตามเป้าหมาย จะยิ่งเป็นแรงผลักดันให้เด็กรุ่นใหม่ออกมาเล่นสเก็ตบอร์ดมากขึ้นกว่าเดิม และนั่นก็เป็นผลดีสำหรับวงการด้วย เพราะอนาคตเด็กกลุ่มนี้จะพัฒนาฝีมือจนสุกงอม และก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนของชาติในการล่าแชมป์รายการต่างๆ หรือ โอลิมปิกในอีก 4 ปีข้างหน้าที่ ลอส แองลิส สหรัฐอเมริกา

และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม "ญี่ปุ่น" ถึงกลายเป็นราชาแห่งวงการสเก็ตบอร์ดโลก ในยุคปัจจุบัน

Author

วัลลภ สวัสดี

ฟังไปเรื่อย ดูไปเรื่อย เขียนไปเรื่อย

Graphic

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ