นับเป็นค่ำคืนแห่งความทรงจำของวงการแบดมินตันไทยเมื่อ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ขนไก่หนุ่มชาวไทย กลายเป็นแชมป์โลก BWF คนล่าสุด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา
รอบชิงชนะเลิศ กุลวุฒิ รองแชมป์โลกปีที่แล้ว ลงสนามเผชิญหน้า โคได นาราโอกะ จากญี่ปุ่น โดยทั้งสองออกอาวุธดวลกันสุดความสามารถตลอด 3 เกม ก่อนที่ "เจ้าวิว" จะปิดบัญชีเอาชนะไป 2-1 เกม 19–21, 21–18, 21–7 คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ
หลังสิ้นสุดการต่อสู้ที่กินเวลาถึง 1 ชั่วโมง 49 นาที กุลวุฒิ ที่ครองตำแหน่งมือ 3 ของโลกฝั่งชายเดี่ยว ขออภัยคนดูแบบติดตลกที่เขาและ นาราโอกะ ใช้เวลาแข่งนานเกินไป "ขอบคุณทุกคนที่เชียร์นะครับและขอโทษด้วยที่ทำให้เวลามันดีเลย์เพราะเล่นกันนานมาก"
ขณะเดียวกัน ขนไก่หนุ่มวัย 22 ปี ยังกล่าวกับ BWF รู้สึกภาคภูมิใจที่วันนี้ได้คว้าแชมป์โลกอย่างที่เคยใฝ่ฝัน "ผมมีความสุขมาก เพราะนี่คือสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ผมเคยสัญญากับโค้ชว่าผมจะต้องคว้าเหรียญทองนี้ให้ได้ ซึ่งเขาจากไปแล้ว และผมขอยกเหรียญทองนี้ให้กับเขา"
"ตอนเด็กผมมีเป้าหมายอยู่ 3 อย่างคือ โอลิมปิก ศึกชิงแชมป์โลก และรายการ ออล อิงแลนด์ ตอนนี้ผมทำสำเร็จไปหนึ่งรายการแล้ว เหลืออีกสองรายการเท่านั้น"
ส่วนปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาเอาชนะ นาราโอกะ ได้ในการดวลอันยาวนาน 3 เกม กุลวุฒิ ตอบว่า "ผมต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการดวลอันยาวนานกับ โคได เรารู้ดีว่าเกมของแต่ละคนเป็นอย่างไรเพราะเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก คุณต้องอดทนเวลาดวลกับเขา มันเหนื่อยมากชนิดที่ผมไม่เหลือแรงที่จะฉลองแชมป์เลย"
ทั้งนี้ กุลวุฒิ ถือเป็นนักแบดมินตันไทยคนที่ 4 ที่คว้าแชมป์โลกของ BWF ถัดจาก รัชนก อินทนนท์ แชมป์โลกหญิงเดี่ยวปี 2013 กับ เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย เจ้าของแชมป์โลกคู่ผสม ปี 2021
