ขึ้นชื่อว่าเป็นการแข่งขันรถ F1 แน่นอนว่ากีฬามอเตอร์สปอร์ตระดับโลกประเภทนี้ ย่อมมีเรื่องของเทคโนโลยีทางด้านอากาศพลศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งในช่วงการทดสอบพรีซีซี่นทุก ๆ ปีเหล่าทีมแข่งต่างเก็บข้อมูลเพื่อไปพัฒนาตัวรถรวมถึงที่สนามบาห์เรน อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต วันที่ 21-23 ก.พ.ที่ผ่านมา
แอโรไดนามิก เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากทั้งการสร้างแรงกดอากาศ สร้างแสงเสียดทานที่ต่ำ เเพื่อสามารถแหวกอากาศได้ดี ซึ่งตลอดการทดสอบจะได้เห็นรถสูตรติดแผง Aero Rakes ซึ่งเป็นแผงวัดความดันอากาศขณะที่รถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วโดยจะมีเซ็นเซอร์กว่าสิบตัวคอยอ่านค่า
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยทดสอบสิ่งนี้ก็คือสี Flow-Vis ที่ใช้ทาบริเวณตัวรถและอาจมีความสำคัญมากขึ้นใน F1 ยุคปัจจุบัน
สำหรับสี Flow-Vis มีชื่อเต็มว่า Flow-Visualization เป็นสีสะท้อนแสงที่มีส่วนผสมระหว่างผงฟลูออเรสเซนต์กับน้ำมันพาราฟิน มีมวลเบาบางและแห้งได้ไว ทางทีมแข่ง F1 จะทาสี Flow-Vis หรือฉีดพ่นเอาไว้ที่ส่วนต่าง ๆ ของรถ อย่างเช่น ปีกหน้า แชสซีด้านข้างตัวรถ หรือตามส่วนต่าง ๆ ที่ต้องการเก็บข้อมูล ก่อนที่นักแข่งจะขับรถออกไปทดสอบ
ซึ่งสาเหตุที่ต้องทาสีนี้ก็เพื่อเป็นการศึกษาและเก็บข้อมูลการไหลเวียนของอากาศ โดยเมื่อทาลงตามจุดต่าง ๆ ที่ต้องการเก็บข้อมูลแล้ว สี Flow-Vis จะทำหน้าที่ไหลไปตามทิศทางของลมขณะที่รถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วในการทดสอบ และนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์แลพัฒนารถแข่งต่อไป
แต่นอกจากสี Flow-Vis แบบสะท้อนแสงที่พบเห็นได้ขณะทดสอบ ยังมีสี Flow-Vis ที่มองเห็นได้เฉพาะภายใต้แสงอัลตราไวโอเลตเท่านั้น
