มอเตอร์ไซค์ทางเรียบ MotoGP ตลอดหลายปีหลัง ๆ มานี้ ถูกวิจารณ์อย่างหนักในเรื่องการใช้ระบบเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยเป็นอย่างมาก ทำให้แฟนความเร็วรุ่นเก๋าหรือสายเพียว ที่อยากเห็นนักบิดต้องสู้ทั้งกับคู่แข่งและรถของตัวเองไม่ชอบใจ
หนึ่งในนั้นหนีไม่พ้น เคซี่ย์ สโตเนอร์ แชมป์โลก MotoGP 2 สมัยชาวออสเตรเลีย ที่มักออกมาวิจารณ์แบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมอยู่เนือง ๆ และเจ้าตัวก็ออกมาบ่นเรื่องระบบช่วยเหลือ เทคโนโลยีต่าง ๆ บนรถแข่งอีกครั้ง
"ผมพูดตามตรงเลยนะว่า ทุกวันนี้สิ่งเดียวที่จะสร้างความแตกต่างระหว่างนักแข่งด้วยกันได้ คือการเบรกก่อนเข้าโค้ง แต่ก็ไม่มากนักหรอก เพราะพอรถแข่งมีปีกหน้าเล็ก ๆ ที่ก็ไม่เล็กงอกขึ้นมา มันก็ไปเพิ่มแรงกดให้ล้อหน้าอย่างมหาศาลจนทำอะไรเพิ่มเติมได้ไม่มากนัก และกลายเป็นว่ามันไปเพิ่มความเสี่ยงให้นักแข่งเกินจำเป็น นี่เรายังไม่พูดถึงระบบปรับความสูงรถ และอื่น ๆ อีกนะ"
สโตเนอร์กล่าวอีกด้วยว่า รถแข่ง MotoGP ในยุคใหม่ ถึงจะขี่ง่ายกว่าเดิม แต่ก็ทำให้การแข่งขันลดความสูสีลง โดยกล่าวด้วยว่า นักแข่งของจริงยุคสุดท้าย คงต้องย้อนไปสมัยยุคที่ใช้เครื่องยนต์ 2 จังหวะ 500 cc เลยทีเดียว และสิ่งที่จะช่วยให้การแข่งขันสนุกขึ้น คือการตัดระบบช่วยเหลือออกไป
"สิ่งที่เราต้องการคือนักบิดระดับแชมป์ครับ ไม่ใช่วิศวกร คุณต้องให้อิสระกับนักแข่งในการขี่บ้าง เพราะการขี่มอเตอร์ไซค์นั้นเป็นศิลปะ ดังนั้น ผมคิดว่า ไอ้พวกระบบช่วยเหลือต่าง ๆ เทคโนโลยีต่าง ๆ เนี่ย โยนทิ้งไปให้หมดเลย ให้นักแข่งได้สู้กับรถบ้าง ให้นักแข่งมีโอกาสผิดพลาดบ้าง เพราะทุกวันนี้ ดูเหมือนวิศวกรจะกลายเป็นฝ่ายเดียวที่ได้สร้างความฝันของพวกเขาให้เป็นจริง"
ที่มา :
https://www.crash.net/.../casey-stoner-put-it-back-riders...
